เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 513
มองเห็นภาพฉากนี้ พ่อแม่ของฉินซวน และพ่อแม่ของหลินจื่อหาน แสดงสีหน้าไม่เชื่อกับตาตนเอง
และแม้แต่ฉินซวน หลินจื่อหานเอง มองดูถังเสี่ยวลี้ที่พุ่งเข้ามาหาพวกเขาด้วยสีหน้าตกตะลึง
พวกเขามีจำนวนคนมากกว่า อีกทั้ง อายุแต่ละคนก็มากกว่าเธอ รูปร่างก็สูงใหญ่กว่า กล้าที่จะบุกเข้ามาชกต่อยก่อน?
ฉินซวน หลินจื่อหานและพวก ตั้งสติได้ ยิ้มด้วยสีหน้าเย็นชา
ไม่รู้จักที่ตายแท้ ๆ!
เด็กทั้งสองสบสายตา จากนั้นก็ออกหมัดพร้อมกัน
ถังเสี่ยวลี้จู่ ๆก็หยุดฝีเท้า ถอยหลังไปหนึ่งก้าวด้วยท่าทางว่องไว
ฉินซวนกับหลินจื่อหานไม่เพียงแต่ชกลมวืดไป ยังเกือบที่จะหกล้มด้วยแรงผลักของตนเอง
“อะไรกัน?”
พ่อแม่ของฉินซวนและ พ่อแม่ของหลินจื่อหานต่างก็ประหลาดใจ
แม้แต่หูจิ้งซูเองก็ตกใจจนตาค้าง
เด็กสาวที่อายุจะย่างเข้าหกขวบ ทำไมถึงว่องไวขนาดนี้?
ถังเฉาเห็นภาพนี้ มุมปากสูงขึ้น เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มเล็กน้อย
ถังเสี่ยวลี้เป็นลูกสาวของเขา พรสวรรค์ย่อมดีกว่าเขามาก
หากฝึกฝนตั้งแต่เด็ก ต่อไปเมื่อโตขึ้น อาจจะเป็นเทพสงครามหญิงอันดับหนึ่งในต้าเซี่ยแน่ ๆ
ซึ่งถังเสี่ยวลี้เองก็ฝึกฝนด้วยความมุมานะพยายาม ดังนั้นถังเฉาจึงมั่นใจในตัวลูกสาวคนนี้มาก
“จับแขนของเขาไว้”
ถังเฉาที่ยืนอยู่ด้านหลัง พูดขึ้นเบา ๆ
ถังเสี่ยวลี้ได้ยินแล้ว ยกมือขึ้น จับแขนของฉินซวนและหลินจื่อหานไว้แน่น
“นี่……”
“เป็นไปได้ยังไง?”
ภาพนี้ ทำให้กลุ่มผู้ปกครองถึงกับช็อคหนัก
ฉินซวนกับหลินจื่อหานที่ถูกจับมือไว้แน่นตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
ถังเฉาพูดขึ้นอีกครั้ง: “ต่อยพวกเขา”
เพียะ!
กำปั้นเล็ก ๆของถังเสี่ยวลี้ ชกไปที่บนใบหน้าของฉินซวนกับหลินจื่อหาน คนละหมัด
มีเลือดกำเดาไหลออกมาในทันที
แต่ว่า ความเจ็บปวดกระตุ้นความฮึกเหิมของพวกเขา
“กล้าชกฉันเหรอ?”
สีหน้าฉินซวนกับหลินจื่อหานเต็มไปด้วยความโมโห พุ่งเข้าใส่ถังเสี่ยวลี้อีกครั้ง
“หมอบลง ใช้เท้าเตะตัดขาพวกเขา”
ถังเฉาพูดขึ้นเบา ๆ
ฟู่ว!
ถังเสี่ยวลี้หมอบลงด้วยท่าทางว่องไว ยื่นขาออกไป
ตุบ!
ฉินซวนกับหลินจื่อหาน หกล้มเหมือนกับสุนัขกินอึ เกลือกกลิ้งจนบาดเจ็บไปทั้งตัว
“ฮื่อ……”
“คุณแม่!”
ฉินซวนกับหลินจื่อหานเจ็บปวดจนร้องไห้ออกมาเสียงดัง
เด็กคนอื่นแสดงสีหน้าหวาดกลัวมองดูถังเสี่ยวลี้ แม้แต่ฉินซวนกับหลินจื่อหานยังถูกต่อยจนเป็นสภาพอย่างนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกเขา
“เสี่ยวซวน!”
“จื่อหาน!”
แม่ของฉินซวนละแม่ของหลินจื่อหาน หน้าถอดสี รีบเข้าไปกอดลูกของพวกเขา
ในขณะนั้นเอง พวกเธอจ้องหน้าถังเสี่ยวลี้ด้วยสีหน้าถมึงทึง
“แกไอ้เด็กป่าเถื่อน กล้าดียังไงชกหน้าลูกของฉัน ฉันจะตีแกให้ตาย!”
พวกเธอทั้งสองคนเดือดดาลสุดขีด ยกมือขึ้นหมายที่จะตบหน้าถังเสี่ยวลี้
เพียะ!
แต่ยังไม่ทันถึงใบหน้าของถังเสี่ยวลี้ ก็โดนสองมือตบไปที่ใบหน้า
ร่างกายของคนทั้งสองเหมือนกับว่าวที่ไม่มีสายป่าน ล้มกลิ้งไปนอนบนพื้น เลือดกบปาก
ถังเฉา ได้มายืนอยู่ข้างกายถังเสี่ยวลี้ ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ยืนจ้องหน้าพวกเธอ
“พวกคุณพูดเองไม่ใช่เหรอ? เรื่องทะเลาะเบาะแว้งของเด็ก ก็ให้เด็กเป็นคนแก้ปัญหา พวกคุณเป็นผู้ใหญ่กล้ายื่นมือเข้ามาแทรก งั้นผมก็ไม่รังเกียจที่จะขอสั่งสอนระหว่างผู้ปกครองด้วยกันบ้าง?”
แม้น้ำเสียงของถังเฉาจะฟังดูเรียบเฉย แต่ผู้ปกครองทุกคนสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่ออกมาจากตัวเขา พวกเขาตกใจตัวสั่นโดยไม่มีรู้ตัว
ฟู่ว!
ทั่วทั้งเหตุการณ์เงียบสนิท ได้ยินแต่เสียงหายใจของคนที่ยืนมุงดูรอบ ๆเท่านั้น
ถังเฉาลงมืออย่างดุดัน
คนของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ถูกตบจนกระเด็นลอยไปไกล
ฉินซวนกับหลินจื่อหานเห็นแม่ของเขาถูกตบจนกระเด็น ยิ่งตกใจมาก ไม่กล้าขยับเขยื้อน
ถังเสี่ยวลี้ จึงฉวยโอกาสนี้ เตะไปที่เขา และมองพวกเขาด้วยสีหน้าเดือดดาล
“พวกแก ยังจะนินทาพ่อแม่ของฉันอีกไหม และยังกล้าพูดไม่ดีกับฉันอีกไหม?”
ฉินซวนกับหลินจื่อหานตกใจกลัวร้องขอชีวิต
“ ไม่กล้าแล้ว พวกเราไม่กล้าแล้ว……”
หูจิ้งซูยืนตะลึง
ลูกสาวของถังเฉา ทำไมถึงเก่งกาจอย่างนี้
แม้จะมีถังเฉาคอยสั่งสอนมาบ้าง แต่ถ้าไม่มีทักษะพื้นฐานแล้ว ก็ไม่มีทางที่จะสู้ชนะเด็กผู้ชายพวกนี้
ในเวลานี้ ถังเฉาเข้าไปอุ้มถังเสี่ยวลี้ กวาดสายตามองทุกคนในเหตุการณ์
“ในเมื่อเรื่องของเด็ก ๆได้แก้ปัญหาแล้ว ต่อไปพวกเรามาจัดการเรื่องของผู้ใหญ่กันดีกว่า”
ถังเฉา มองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงยิ่งดุดัน
“ลูกไม่กตัญญู ความผิดของพ่อแม่ ในเมื่อลูกของพวกคุณปากพร่ำด่า แต่พวกต่ำต้อย ป่าเถื่อน ซึ่งยืนยันได้ว่าพวกคุณเคยด่าว่าพวกเรา”
“ผมต้องการให้พวกคุณทั้งหมดคุกเข่าลงสาบาน ตั้งแต่นี้ต่อไป จะไม่ ดูถูกด่าทอ ผมภรรยาและลูกสาว แม้แต่คิดก็ไม่ได้!”
เสียงของถังเฉาดังกังวาน ดังก้องเหมือนระฆัง
ผู้ปกครองตระกูลหลวงในเยี่ยนตูทั้งหมดนอกจากตกตะลึงแล้ว และยังเก็บความคับแค้นไว้ในใจ
พวกเขามาจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู จะไปที่ไหนก็ได้รับความเคารพนบนอบ
เขยแต่งเข้าบ้านที่ตระกูลหลินไม่ยอมรับ กล้าดียังไงให้พวกเขาคุกเข่า?
“คนที่กล้าให้พวกเราตระกูลหลวงในเยี่ยนตูคุกเข่า แกคือคนแรก!”
พ่อของฉินซวนตอบกลับด้วยความโมโห ชี้หน้าท้าท้ายถังเฉา
เขาชื่อว่าฉินอวี้เหิง สถานะของเขาสาขาตระกูลฉินในเยี่ยนตูพอจะสูงอยู่บ้าง ครั้งนี้โชคดีเดินทางมาเมืองเจียงเฉิงพร้อมกับฉินกวนฉี และฉินผู่หยาง
สีหน้าถังเฉาก็ยังคงเรียบเฉย ต่อคำพูดนี้
“ขอโทษด้วย คนอย่างผมอะไรก็ไม่ให้ความสำคัญ มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่จะต้องให้ความสำคัญก็คือภรรยาและลูกสาวของผม”
พวกคุณไม่เพียงแต่ต้องคุกเข่า ยังต้องด่าลูกของพวกคุณเองว่า เด็กป่าเถื่อน เด็กต่ำต้อย และพวกคุณโขกศีรษะอีกหลายครั้ง!”
ได้ยินคำพูดนี้ ฉินอวี้เหิง ในฐานะที่เป็นผู้ปกครองตระกูลหลวงที่อาวุโสที่สุดในที่นี้ เดือดดาลจนควบคุมสติไม่อยู่
“เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”
“แม้หลินชิงเสว่อยู่ที่นี่ ก็ไม่กล้าที่จะพูดกับพวกเราอย่างนี้!”
“ช่างไร้เหตุผลสิ้นดี แกเห็นตระกูลหลวงในเยี่ยนตูอย่างพวกเราเป็นอะไร?”
ความขัดแย้งที่นี่ ได้ดึงผู้คนเข้ามามุงดูมากยิ่งขึ้น
แต่หลังจากที่รู้ว่าพวกเขามาจากตระกูลหลวงในเยี่ยนตู ไม่มีใครสักคนที่ไม่หวั่นเกรงในอำนาจ ต่างคิดว่าพ่อหนุ่มคนนี้ต้องบ้าไปแล้ว
ถังเฉาไม่นำมาใส่ใจ สายตายังคงจับจ้องไปที่ผู้ปกครองเหล่านั้น
“ในเมื่อพวกคุณ ไม่อยากที่จะคุกเข่า งั้นผมจะทำให้พวกคุณคุกเข่าเอง!”
“มาจากตระกูลหลินเหมือนกับชิงเสว่ พูดจาว่าร้ายคนอื่น งั้นเริ่มต้นจากตระกูลหลินพวกคุณก่อนแล้วกัน!”
จู่ ๆสายตาถังเฉาหันไปมองพ่อแม่ของหลินจื่อหาน
สีหน้าปกติธรรมดา พวกเขาตกใจจนตัวสะดุ้ง
ถังเฉาใช้สายตาจับจ้อง พวกเขามีความรู้สึกบางอย่างที่เหมือนกับ ถูกสัตว์ป่าใช้สายตาจับจ้อง จนขนลุกซู่
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
อำนาจบนตัวของถังเฉาเพิ่มขึ้นถึงขีดสูงสุด ภายในระยะสิบเมตร ล้วนสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่ทรงพลัง
“โปรดออมมือด้วย!”
แต่ในขณะนั้นเอง เหตุการณ์ได้เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
ด้านหลังไม่ไกลนัก มีเสียงที่เหมือนดั่งผู้สูงอายุ ที่กำลังระงับความโกรธอยู่ดังขึ้นมา
เสียงที่เดือดดาลนี้ ทำให้คนทั้งหมด ถึงกับตกตะลึง
แก้วหูของคนธรรมดาที่อยู่ในเหตุการณ์ มีเลือดไหลออกมา
ถังเฉา ใช่มือปิดใบหูของถังเสี่ยวลี้ไว้
ร่างกายของเด็กน้อยยังไม่โตเต็มวัย จึงไม่สามารถทนต่อ เสียงคำรามนี้ได้
ถังเฉาหรี่ตาเล็กน้อย สัมผัสได้ถึงเจตนาสังหาร
หันหลังกลับไปมอง เห็นเพียงชายชราผมสีขาวโพลนสวมชุดสีขาวโบกสะบัด ยืนอยู่บนหลังคา
อายุราวเจ็ดสิบ กลับดูมีพลังอำนาจ แผ่รังสีความแข็งแกร่ง
ถังเฉาแสดงสีหน้าประหลาดใจ เมืองเจียงเฉิงเล็ก ๆ มีผู้แข็งแกร่งขนาดนี้เชียวหรือ
“เขาก็คือ หัวหน้าหลัวเฉิงของสมาคมการต่อสู้สำนักใน!”
ทันใดนั้น มีคนในฝูงชน ส่งเสียงประหลาดใจ รู้จักคน ๆนี้