เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 521
“น้องสาว หยุดทำตัวไร้สาระได้แล้ว!”
หูจิ้งจู๋ตะโกนเสียงดังทันที
แม้ว่าเขาจะวางแผนต่อหูจิ้งซู แต่ไม่ว่าอย่างไร หูจิ้งซูก็เป็นน้องสาวฝาแฝดของเขาอยู่ดี เขาไม่สามารถที่จะยืมมองดูหูจิ้งจู๋ยืมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลได้
“เธอเป็นแค่ลูกสาวของถังเฉา สู้สุดชีวิตเพื่อเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง คุ้มค่ามั้ย?”
หูจิ้งจู๋พูดอย่างเย็นชาว่า: “จะว่าไป นี่เป็นคำสั่งของคุณปู่ ขัดคำสั่งไม่ได้”
“จิ้งซู! แม้แต่ฉันแกก็ไม่ฟังเหรอ?”
หูเซียวก็ตะคอกด้วยความโกรธ: “รีบทิ้งเด็กน้อยคนนั้น แล้วกลับมาหาฉัน!”
หูจิ้งซูเช็ดรอยเลือดที่มุมปาก กัดฟันอย่างดื้อรั้น และส่ายหน้าพูดว่า: “หนูรับปากกับเขาไว้แล้วว่า จะปกป้องลูกสาวของเขา จนกว่าเขาจะมา หนูพูดได้ต้องทำให้ได้!”
“หูจิ้งซู!”
หูจิ้งจู๋บันดาลโทสะอย่างมาก จ้องมองเธอด้วยความโกรธ
หูเข่อเฟิงกับหูเย่าหยางและคนอื่นๆต่างก็รอจนทนไม่ไหวแล้ว: “คุณปู่ ในเมื่อเธอไม่ยอมส่งมอบเด็กน้อยคนนั้นออกมา บีบคั้นพวกเธอแยกออกจากกัน ก็เรียบร้อยไม่ใช่เหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หูเซียวก็พยักหน้า ตะโกนเรียกบอดี้การ์ดในทันที
“แยกพวกเธอสองออกจากกัน!”
ตึกตัก!
ในทันที บอดี้การ์ดของหูก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว และรายล้อมหูจิ้งซูและถังเสี่ยวลี้ไว้
เฉิงเพ่ยถอยไปอีกด้านหนึ่งในทันที เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บโดยไม่จำเป็น
แววตาของหูจิ้งซูจับจ้องมองไปที่หูเซียว: “คุณปู่ หรือว่าแม้ว่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆก็ไม่เว้น นี่ก็คือบารมีในฐานะผู้นำ จากนี้ไปเผยแพร่ออกไป คุณปู่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?”
“ยังกล้าข่มขู่ฉันเหรอ?”
หูเซียวโกรธจนหน้าอกขึ้นและลงอย่างรุนแรง และตะโกนในทันที: “ยังไม่รีบลงมืออีก!”
บอดี้การ์ดทั้งหมดเดินไปทางหูจิ้งซู เตรียมตัวใช้พละกำลังที่รุนแรงแยกเธอและถังเสี่ยวลี้ออกจากกัน
“อย่าเข้ามานะ!”
หูจิ้งซูกรีดร้องอย่างกะทันหัน ไม่รู้ว่าหยิบกรรไกรออกมาจากไหนเล่มหนึ่ง และกดลงไปที่บนคอเรียวยาวของตัวเอง
เนื่องจากตื่นเต้นมากเกินไป เส้นเลือดดำค่อยๆโผล่ขึ้นมาที่บนคอ เหมือนราวกับงูเขียวเล็กๆที่ดิ้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะถูกกรรไกรตัดขาดเมื่อใดก็ได้
หูจิ้งจู๋ตะคอก: “หยุดเดี๋ยวนี้!”
บอดี้การ์ดของตระกูลหูก็ตกใจมาก
ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้าอีก
สีหน้าของหูเซียวไม่พอใจอย่างมาก และถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง: “จิ้งซู เพื่อเด็กน้อยคนนี้ แกยินยอมสละแม้แต่ชีวิตของตัวเองเลยเหรอ?”
หูจิ้งซูอุ้มถังเสี่ยวลี้ไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง จับกรรไกรกดไว้บนคอด้วยอีกข้างหนึ่ง ถอยหลังอย่างต่อเนื่อง และกรีดร้องว่า: “อย่าบีบบังคับหนูนะ! หนูเพียงแค่ต้องการออกจากที่นี่!”
“คุณปู่ ถ้าหากปู่ยังเรียกคนลงมืออีก หนูก็ตายอยู่ตรงหน้าของปู่”
“หนูเป็นวีไอพีของสมาคมการค้าเจียงผิง ยังได้รับเชิญจากประธานด้วยตัวเอง บีบคั้นหนูจนตาย ตระกูลหูก็จะหายไป ปู่แน่ใจว่าจะทำแบบนี้เหรอ?”
ในเวลานี้ หูจิ้งซูยังสามารถรักษาความสงบไว้ได้ ใช้ชีวิตของตัวเองมาเดิมพันมาข่มขู่ มีความกล้าหาญมากจริงๆ
ในเวลานี้หูเซียวก็ลังเล จับจ้องมองไปที่หูจิ้งซู ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ
แม้ว่าตระกูลหูจะเป็นหนึ่งในสามตระกูลยักษ์ใหญ่ แต่เทียบกับสมาคมการค้าเจียงผิง ก็เป็นสิ่งเล็กน้อยจนไม่ควรค่าที่จะนำมาใส่ใจ และไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง
วีไอพีชั้นกลางเสียชีวิตไปหนึ่งคน การสูญเสียนั้นก็ยิ่งใหญ่มาก เมื่อเริ่นจวินตงโมโห อายัดบริษัททั้งหมดของตระกูลหู ตระกูลก็จบเห่แล้ว
น้ำเสียงของหูเซียวผ่อนคลายลงเล็กน้อย: “จิ้งซู แกอย่าได้หุนหันพลันแล่น วางกรรไกรลงมาก่อน มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆคุยกัน!”
“ปู่ปล่อยพวกเราไปก่อน!”
ท่าทีของหูจิ้งซูแข็งกร้าว
หูจิ้งจู๋กลับก้าวไปข้างหน้าอย่างกะทันหัน และมองไปที่เธอแล้วยิ้ม
“น้องสาว เธอคิดจริงๆเหรอว่า อาศัยข่มขู่ด้วยชีวิตของตัวเอง ก็สามารถคุ้มครองพวกเธอได้เหรอ?”
ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน หูจิ้งจู๋ค่อยๆเดินไปที่หูจิ้งซู
“ถ้าหากจะฆ่าตัวตาย งั้นก็ลงมือเถอะ แต่ว่าลูกสาวของถังเฉาก็น่าสังเวชแล้ว”
“แกรู้มั้ยว่าเธอจะมีจุดจบอะไร? เธอไม่เพียงจะเผชิญกับการทุบตีอย่างรุนแรง พวกเรายังจะติดต่อกับพวกค้ามนุษย์ ลักพาตัวเธอไปขาย บางทีครั้งต่อไปที่ได้พบกันอีก เธออาจจะแขนขาดขาขาดเป็นขอทานอยู่บนถนน”
หูจิ้งจู๋พูดหนึ่งประโยค หูจิ้งซูก็จะสั่นเทาหนึ่งครั้ง
ถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ในอ้อมกอดก็ยิ่งร้องไห้ได้อย่างงดงาม
“หนูไม่อยากถูกขาย หนูไม่อยากเป็นของทาน หนูจะหาคุณพ่อ หนูจะหาคุณแม่!”
หูจิ้งจู๋หัวเราะเหอะๆพูดว่า: “เป็นยังไงบ้าง ยังจะฆ่าตัวตายอยู่มั้ย?”
“หยุดพูดได้แล้ว หุบปากของนายซะ!”
สีหน้าของหูจิ้งซูซีดมาก โยนกรรไกรในมือทิ้งเสียงดังแกร๊งทันที และกอดถังเสี่ยวลี้ไว้แน่นๆ
“ไม่เป็นไรนะ เสี่ยวลี้ เดี๋ยวพ่อของเธอก็จะมารับเธอแล้ว…..”
เพียงแค่พูดประโยคนี้ หูจิ้งซูก็พูดต่อไปไม่ไหวแล้ว
เธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ตอนนี้ยืมอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลหู เธอไม่มีโอกาสชนะด้วยซ้ำ
ชั่วพริบตาเดียวที่หูจิ้งจู๋โยนกรรไกรทิ้ง รอยยิ้มบนใบหน้าของหูจิ้งจู๋ก็หายไป และโบกมือ
“ลงมือซะ”
ในเวลาต่อมา บอดี้การ์ดทั้งหมดก็ก้าวไปอย่างพร้อมเพรียงกัน และแยกถังเสี่ยวลี้และหูจิ้งซูออกจากกัน
ถังเสี่ยวลี้ร้องไห้เสียงดังในทันที
“ไม่นะ เสี่ยวลี้! พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้นะ!”
หูจิ้งซูก็บ้าคลั่ง และรีบวิ่งไปที่ถังเสี่ยวลี้ด้วยความโกรธ
เพียงแต่บอดี้การ์ดของตระกูลหูจับมือทั้งสองข้างไว้ และด้วยวิธีการที่น่าอับอาย กดเธอลงกับบนพื้น
“พี่สาว! พวกคนชั่ว อย่ารังแกพี่สาวนะ!”
ถังเสี่ยวลี้ร้องไห้เสียงดัง
บอดี้การ์ดส่งตัวของถังเสี่ยวลี้ให้กับเฉิงเพ่ย
ขณะที่เฉิงเพ่ยรับมา ก็บีบใบหน้าของถังเสี่ยวลี้อย่างรุนแรง เจ็บจนเธอตะโกนร้องเสียงดัง
เมื่อเหตุการณ์นี้ หัวของหูจิ้งซูโดนกดลงบนพื้น ในที่สุดน้ำตาก็ไหลออกมาจากในดวงตา
เธอมองไปทางหูจิ้งจู๋: “พี่ชาย ฉันขอร้องพี่ ปล่อยเธอไปเถอะ เธอยังเป็นเด็กอยู่เลยนะ!”
หูจิ้งจู๋ไม่หวั่นไหว โบกมือ: “พาคุณหนูออกไป พักผ่อน!”
“ครับ!”
หูจิ้งซูขัดขืนอย่างรุนแรง แต่ว่ายังคงไม่สามารถขัดขวางไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเกิดขึ้นได้
ในท้ายที่สุดดวงตาของเธอก็แดงทันที และกรีดร้องใส่หูเซียวและหูจิ้งจู๋พวกเขาจากระยะไกล
“พ่อของเธอเป็นเจ้ามังกรแดนเหนือ ดูแลต้าเซี่ยกั๋ว พวกคุณทำแบบนี้กับลูกสาวของเขา เขาไม่มีทางปล่อยพวกคุณไว้แน่!”
เสียงตะโกนค่อยๆหายไป หูจิ้งจู๋ไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำ แล้วก็มองไปทางเฉิงเพ่ย: “งานเลี้ยงวันเกิดครบรอบของคุณปู่กำลังจะจัดขึ้นแล้ว เธอพาเด็กน้อยนี้ไปที่ห้องมืดใต้ดินซะ”
“ค่ะ คุณชายหู”
เฉิงเพ่ยอุ้มถังเสี่ยวลี้เดินไปที่ห้องใต้ดินของบ้านใหญ่ตระกูลหู
ถังเสี่ยวลี้ร้องไห้หนักมาก
“หนูไม่ไปที่ห้องมืด ขอโทษด้วยค่ะ ยกโทษให้หนูด้วยนะคะ!”
เฉิงเพ่ยตบลงไปที่หน้าของถังเสี่ยวลี้หนึ่งครั้ง ถังเสี่ยวลี้ก็ว่าง่ายในทันที
ในใจของเฉิงเพ่ยเกิดความรู้สึกถึงความสำเร็จในการแก้แค้น แสยะยิ้มพูดว่า: “แกไม่ผิด จะโทษก็โทษพ่อแม่ของแก หนี้ของพวกเขา แกมาชดใช้!”
“พ่อค่ะ…..”
ถังเสี่ยวลี้ร้องไห้แล้วตะโกนเสียงดัง และถูกเฉิงเพ่ยพาเข้าไปในห้องใต้ดิน
บ้านใหญ่ตระกูลหู บรรยากาศสังสรรค์ที่ครึกครื้น และเป็นสิริมงคล
……
ในอีกด้านหนึ่ง รถยนต์ของถังเฉามาถึงที่ชานเมืองแล้ว
เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ตระกูลหูอยู่ที่ไหน ทำได้เพียงโทรศัพท์หาหูจิ้งซู
อย่างไรก็ตาม ไม่มีคนรับสาย
ถังเฉาไม่รู้ว่า ในเวลานี้หูจิ้งซูถูกตระกูลหูควบคุมแล้ว ไม่เพียงถูกขังอยู่ในห้องเท่านั้น ร่างกายคนก็ยังถูกกักขัง และแม้แต่โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารอื่นๆ ก็ยังถูกยึดทั้งหมด
ถังเฉาโทรหาหลายครั้งติดต่อกัน แต่ไม่มีใครรับสาย และในที่สุดก็ปิดเครื่องไปแล้ว
เขาก็รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว
ลังเลสักพัก ถังเฉาก็โทรศัพท์หาหูอีซาน