เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 540
“คุณหนูตระกูลของคุณ?”
เฟิ่งหวงไม่หวั่นไหวเลยสักนิด ถึงขั้นที่ใบหน้าสวยงามเย็นเยียบ “คุณหนูตระกูลของคุณคือใคร?”
เธอเป็นคนที่ตามรองหัวหน้ามาที่เมืองเจียงเฉิง ตระกูลร่ำรวยทั้งหมดในเมืองเจียงเฉิงเธอล้วนคบค้ามาหมดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเซี่ย หรือว่าตระกูลลู่ หรือจะตระกูลหูก็ด้วย ล้วนแต่เป็นผู้ชายที่ดูแลในบ้าน ไม่มีผู้หญิงที่โดดเด่นเลยแม้แต่น้อย
หัวหน้าของบอดี้การ์ดชุดดำค่อย ๆ พูดชื่อหนึ่งออกมา เฟิ่งหวงก็เข้าใจในทันที
“เย่หรูอี้”
“เย่หรูอี้?”
สีหน้าของเฟิ่งหวงเปลี่ยนไปเล็กน้อย “น่าจะเป็นซ่งหรูอี้ สาวสวยที่เดิมอยู่ตระกูลซ่ง?”
บอดี้การ์ดที่เป็นหัวหน้าพยักหน้า “ใช่ครับ”
“ไม่พบ!”
เฟิ่งหวงหมุนตัวจะกลับไป
หัวหน้าบอดี้การ์ดขวางไว้ทันที “ช้าก่อนครับคุณเฟิ่งหวง”
“ไม่อยากตายก็หลบไป”
เฟิ่งหวงหยุดยืน ดวงตาทั้งคู่เปลี่ยนเป็นสีแดงจาง ๆ
ซ่งหรูอี้ผู้หญิงคนนี้ร้ายกาจมาก โหดเหี้ยมอำมหิต ทั้งยังชำนาญการมอมเมาใจคน เป็นคู่อริตัวฉกาจของรองหัวหน้า เธอจะไปพบได้อย่างไร?
หัวหน้าของบอดี้การ์ดสั่นสะท้านในทันที รีบแบไต๋ออกมาทั้งหมดทันที
“คุณหนูตระกูลเราบอกว่า ช่วงนี้คุณเฟิ่งหวงลำบากเรื่องความรัก เธอมียาดี รักษาแผลใจได้”
พูดได้อย่างลี้ลับซับซ้อน ตัวเฟิ่งหวงเองก็อึ้งไป
ลำบากเรื่องความรัก?
เธอลำบากเรื่องความรักตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ไม่เข้าใจ”
เฟิ่งหวงตั้งใจจะกลับต่อไป
ครั้งนี้หัวหน้าของบอดี้การ์ดไม่ได้ขัดขวางอีกต่อไปแล้ว
คุณหนูได้พูดไว้ ขัดขวางได้เพียงครั้งเดียว ถ้าเกิดพูดเรื่องจริงออกไปแล้วเฟิ่งหวงยังไม่ตามมาอีกก็ไม่ต้องเชิญแล้ว
คนดีไม่ต้องประกาศตัวก็ยังเป็นคนดี คนเลวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ยังเป็นคนเลว
ในตอนนี้เฟิ่งหวงก็ขึ้นรถไปแล้ว กำลังคิดจะติดเครื่องรถก็คิดถึงปฏิกิริยาที่เมื่อก่อนถังเฉาเคยมีต่อเธอ
ดูเหมือนปกติ แต่เธอกลับไม่สบายใจ
ลังเลอยู่นาน สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจจะสืบหาผลลัพธ์
“นำทาง”
เธอหมุนกระจกรถ เอ่ยตะโกนกับบอดี้การ์ดของเย่หรูอี้
รถยนต์มาถึงโรงแรมใหญ่ที่ดีที่สุดของทั้งเมืองเจียงเฉิงด้วยความรวดเร็ว
เห็นเพียงรถหรูจอดอยู่เต็ม ทั้งยังมีคุณชายจากตระกูลมั่งมีจำนวนไม่น้อยถูกสาวสวยกลุ่มหนึ่งติดตามเดินออกมาจากโรงแรม
ใบหน้าของเฟิ่งหวงก็ปรากฏสีหน้าแปลกใจ
หัวหน้าบอดี้การ์ดอธิบายทันที “คุณเฟิ่งหวงไม่ต้องกังวลครับ ที่นี่เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดจากทั้งเมืองเจียงเฉิง ตัวแทนของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูทั้งหมดล้วนแต่พักที่นี่ครับ”
“ก่อนที่ประชุมแดนเหนือจะเริ่มต้นขึ้น พอตกกลางคืนพวกเขาก็จะมาเที่ยวหาความสุขกันที่นี่ครับ”
ใบหน้าของเฟิ่งหวงปรากฏความรังเกียจขึ้นมาทันที สำหรับลูกคนรวยของตระกูลในเยี่ยนจิงพวกนี้ที่มากัน เธอหาความรู้สึกพอใจออกมาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ลิฟต์ขึ้นข้างบนมาตลอดจนถึงชั้นบนสุด
เฟิ่งหวงเดินเข้ามาในห้อง Presidential Suite ห้องหนึ่งภายใต้การนำพาของบอดี้การ์ดพวกนี้
และเป็นเพราะเธอมีฝีมือสูงจึงมีความกล้า เฟิ่งหวงไม่กลัวการลอบโจมตีแม้แต่น้อย เดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ทว่าที่เธอประหลาดใจก็คือ เย่หรูอี้ไม่ได้อยู่ด้านในโดยสิ้นเชิง มีเพียงคนแก่ผมหงอกขาวคนหนึ่ง
“ซ่งหรูอี้ล่ะ?”
เฟิ่งหวงรู้สึกไม่ชอบมาพากลทันที สายตาเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที เอ่ยถามขึ้น
“คุณหนูกำลังอาบน้ำเปลี่ยนชุดอยู่ครับ คุณเฟิ่งหวงใจเย็นสักครู่ อย่ารีบร้อน”
เย่อู๋เหินค่อย ๆ ลุกขึ้น ยิ้มแล้วเอ่ยกับเฟิ่งหวงว่า “นอกจากนี้แล้ว คุณหนูแซ่เย่ อย่าเรียกแซ่เก่าของคุณหนูอีกเลยครับ”
ในนาทีที่เย่อู๋เหินลุกขึ้นยืนนั้นเอง เฟิ่งหวงก็เหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจทันที
เพราะว่าเธอสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งถึงขีดสุดได้จากบนร่างกายของคนแก่คนนี้
“รอนานเลยนะ”
ทันใดนั้นด้านหลังก็มีเสียงสงบนิ่งน่าฟังของผู้หญิงเสียงหนึ่งส่งออกมา
เฟิ่งหวงหันหลังกลับทันที
เห็นเพียงประตูห้องน้ำเปิดออก เห็นเพียงผู้หญิงที่มีเสน่ห์แบบโบราณสวมชุดหรูหราสีม่วงแบบในวังคนหนึ่งเดินออกมาอย่างช้า ๆ
ไม่ใช่เย่หรูอี้หรอกหรือ?
“เย่หรูอี้ เธอเรียกฉันมาทำไม?” เฟิ่งหวงตะโกนเสียงดัง
เย่หรูอี้ยิ้มอย่างเย็นชา “คุณเฟิ่งหวงลำบากเรื่องความรัก ฉันก็เป็นยาสารพัดโรคที่รักษาได้ผลดีของคุณไง”
“…”
เฟิ่งหวงมองเย่หรูอี้อย่างระมัดระวัง
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ยิ่งเธอพูดคำพูดที่ดูลึกลับพวกนี้ ในใจของเฟิ่งหวงก็ยิ่งไม่มีความมั่นใจ
กริ๊ก!
ด้านหลังมีเสียงล็อกประตูส่งมา เห็นเพียงเย่อู๋เหินล็อกประตูห้องสวีทไปไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เฟิ่งหวงเอ่ยถามด้วยใบหน้าเย็นเยียบ “เธอต้องการอะไร?”
เย่หรูอี้ยิ้ม “คุณเฟิ่งหวงไม่ต้องเครียดไป ฉันไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ทำแบบนี้ก็เพียงแค่ไม่ให้คนอื่นรบกวนพวกเราเท่านั้นเอง”
เย่หรูอี้ดึงแขนเสื้อยาว ๆ ขึ้นมา ชงชาให้กับเฟิ่งหวงหนึ่งถ้วย
เฟิ่งหวงกลับไม่ได้สนใจจะดื่มเลยแม้แต่น้อย
ด้วยเป็นนักฆ่า เธอรู้อย่างแน่นอนว่าของเหลวพวกนี้ดื่มไม่ได้
เย่หรูอี้ก็ไม่ได้ถือสา รินให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง ค่อย ๆ ลิ้มรส
“ช่วงนี้ถังเฉายังสบายดีอยู่ไหม?”
เย่หรูอี้ถามโดยไม่คิด
“รองหัวหน้าสบายดีค่ะ คุณอย่าไปรบกวนเขาอีกเลย”
เฟิ่งหวงเอ่ยอย่างเข้มงวด
เย่หรูอี้หัวเราะคิกคิกอย่างน่ารัก “ฉันไม่ไปรบกวนเขาอยู่แล้วล่ะ หลินชิงเสว่ก็มาสร้างรากฐานที่เมืองเจียงเฉิงแล้ว ฉันจะกล้าไปหาเขาได้อย่างไร?”
คำพูดนี้ฟังดูเหมือนว่าหลินชิงเสว่กลัวว่าเธอเองก็อยู่เมืองเจียงเฉิงแล้วจะแย่งตัวถังเฉาไป ดังนั้นถึงได้มาที่เมืองเจียงเฉิง
เฟิ่งหวงสีหน้าเข้มครึ้มทันที “คุณเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ที่คุณหลินมาที่เมืองเจียงเฉิงก็เพื่อเหตุผลเรื่องงานเพียงอย่างเดียว”
เย่หรูอี้ยิ้ม ไม่ได้โต้แย้ง
สายตาของเธอตกอยู่บนร่างของเฟิ่งหวงในทันที “ถังเฉาอยู่อย่างดี แล้วคุณล่ะคะ?”
“ฉัน?”
เฟิ่งหวงตกตะลึง จากนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยความระมัดระวัง “ฉันจะอยู่ดีหรือไม่เกี่ยวอะไรกับคุณคะ?”
เฟิ่งหวงคาดเดาความหมายของคำพูดนี้ของเย่หรูอี้อย่างสุดกำลัง และยังคิดไตร่ตรองอย่างลึกซึ้งว่ามีรูรั่วตรงไหนหรือเปล่า
อย่างไรก็ตามคำพูดของเย่หรูอี้เพียงแค่ถามเรื่องทั่วไป ทั้งยังผสมไปด้วยประโยคเหน็บแนมที่เหมาะกับศัตรูหัวใจไปหลายประโยค ไม่ได้มีความหมายอื่น
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ ความกดดันในใจของเฟิ่งหวงก็ยิ่งมีมาก
เรื่องพละกำลังหมื่นพันเย่หรูอี้ก็ล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธอ
แต่ถ้าเทียบกันด้วยสติปัญญาแล้วเฟิ่งหวงก็เสียเปรียบอยู่เยอะ
เธอเดาไม่ออกเลยสักนิดว่าเย่หรูอี้คิดจะทำอะไร จุดประสงค์คืออะไร!
“ไม่เกี่ยวข้องอะไร แต่ว่าเป็นผู้หญิง ฉันทนไม่ได้ที่จะมองดูคุณตกหลุมรักอย่างลึกซึ้งแต่กลับไม่รู้ตัว”
เย่หรูอี้หัวเราะหึหึพลางเอ่ย
เฟิ่งหวงปฏิเสธทันที “ตกหลุมรักลึกซึ้งอะไร ฉันไม่มีแม้แต่คนที่ชอบ!”
“ไม่มีจริง ๆ หรือ?”
เย่หรูอี้ยิ้มพลางเอ่ยว่า “ถังเฉาไม่ใช่หรือ?”
ฟึ่บ!
พอคำนี้ลั่นออกมา บนใบหน้าของเฟิ่งหวงก็เต็มไปด้วยความลุกลี้ลุกลนทันที
ที่มากยิ่งกว่าก็คือความไม่พอใจ
“ถ้าหากคุณยังพูดเหลวไหลอยู่อีก เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าคุณซะ?”
บนใบหน้าของเฟิ่งหวงเต็มไปด้วยรังสีสังหาร ถึงขึ้นควักมีดออกมาแล้ว ชนบนต้นคอระหงเย่อหยิ่งของเย่หรูอี้แล้ว
ในตอนนี้เย่อู๋เหินก็มาอยู่ด้านหลังของเฟิ่งหวงแล้ว มือข้างหนึ่งชนอยู่บนใจกลางสันหลังของเฟิ่งหวง เอ่ยเสียงเย็นว่า “ปล่อยคุณหนู!”
เฟิ่งหวงสามารถตัดเส้นเสียงของเย่หรูอี้ขาดได้ภายในชั่วพริบตา เย่อู๋เหินเองก็สามารถสั่นสะเทือนอวัยวะภายในของเฟิ่งหวงให้แหลกละเอียดภายในพริบตาได้เช่นเดียวกัน
เพียงแต่เขาปลงกับวิธีการของคุณหนู
พูดเพียงสั้น ๆ ก็ทำให้จิตใจของผู้มีฝีมือสูงคนหนึ่งที่ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าเขาสับสนวุ่นวายได้
ผู้มีฝีมือสูงคนหนึ่งจิตใจสับสนแล้วก็ไม่ไกลจากความพ่ายแพ้แล้ว
อีกทั้งเฟิ่งหวงยังเป็นผู้หญิง ผู้หญิงเข้าใจผู้หญิงที่สุด
ตอนนี้เฟิ่งหวงมีความคิดอย่างไรล้วนแต่อยู่ภายใต้การควบคุมของคุณหนู
นี่ถึงจะเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดของคุณหนู!
แม้แต่เย่เซ่าเตี๋ยคุณหนูที่อัจฉริยะที่สุดของตระกูลเย่ก็ล้วนหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง!
“ลุงเย่ หยุดมือ”
เย่หรูอี้ไม่ได้กังวลว่าเฟิ่งหวงจะฆ่าเธอเลยสักนิด
ต่อให้บนลำคอจะมีมีดจ่ออยู่ แต่บนใบหน้าก็ยังคงมีรอยยิ้มสบาย ๆ
“คุณออกไปก่อนเถอะ ฉันจะคุยกับคุณเฟิ่งหวงตามลำพัง”
“แต่ว่าคุณหนู… เธออาจจะทำอะไรไม่ดีกับคุณ…”
“ออกไป”
สายตาของเย่หรูอี้เยือกเย็นลง
แม้ว่าจะเป็นเย่อู๋เหินก็รู้สึกกดดันเป็นอย่างหนัก เก็บมือกลับไป เดินออกจากห้อง
ในตอนนี้ในห้องก็มีเฟิ่งหวงกับเย่หรูอี้เพียงสองคนแล้ว
เย่หรูอี้ยิ้มให้เธอ “ลุงเย่เป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดที่อยู่ข้างฉัน ฉันให้เขาออกไปแล้ว คุณเฟิ่งหวง ควรจะเก็บมีดกลับไปได้แล้วหรือเปล่า?”
จนกระทั่งตอนนี้เฟิ่งหวงก็ยังไม่เข้าใจว่าเป้าหมายของเย่หรูอี้คืออะไร!
แต่ว่าตอนนี้ในห้องก็มีแค่เธอกับเย่หรูอี้สองคน ถ้าหากผู้หญิงคนนี้กล้าวางแผนทำร้ายตน การจะฆ่าเธอนั้นง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ
พอคิดถึงตรงนี้แล้ว เฟิ่งหวงก็เก็บมีดกลับไป
สายตาของเธอเย็นเยียบลงไปไม่น้อย “คุณจะพูดอะไรกันแน่ รีบพูดให้ชัดเจนเร็ว ๆ ฉันไม่มีเวลามาอยู่กับเพื่อนคุณมากขนาดนั้น”
“ได้ ฉันจะพูดตรง ๆ แล้ว”
เย่หรูอี้ยิ้ม “คุณรู้ไหมว่าความรักคืออะไร?”
“ความรัก?”
เฟิ่งหวงถูกคำถามนั้นถามจนงง ดวงตาทั้งสองข้างล้วนงุนงง
“ถูกต้อง ความรัก”
เย่หรูอี้ลุกขึ้นยืน มองดูดวงดาวนอกหน้าต่างแล้วเอ่ยว่า “เป็นห่วงเพราะคิดถึงมาโดยตลอด ยินดีที่จะทำเรื่องใดใดก็ตามเพื่อเขา แม้แต่ไปตาย”
“รักเขา เกลียดเขา เหมือนเดิมมาโดยตลอด”
“ในโลกนี้มีคนมากมายคิดว่าเข้าใจความรักแล้ว ที่จริงแล้วพวกเขาไม่เข้าใจเลยสักนิด”
เย่หรูอี้พูดด้วยน้ำเสียงเบาบาง ราวกับปลงในโชคชะตาที่ไม่ดีของตนเอง
คำพูดข้างหน้าที่เย่หรูอี้พูดออกมาเฟิ่งหวงไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่เฟิ่งหวงรู้ว่าในตอนนี้ คำพูดพวกนี้เธอพูดออกมาจากใจ
แต่ว่าสายตาของเฟิ่งหวงยิ่งงุนงงยิ่งขึ้นแล้ว
เมื่อก่อนเธอเป็นนักฆ่า เติบโตขึ้นมาบนกองซากศพ
ยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่เลวแล้ว ไหนเลยจะกล้าหวังเรื่องความรักมากเกินไป?
จนถึงตอนนี้เฟิ่งหวงก็ยังไม่พบผู้ชายที่สามารถทำให้เธอใจเต้นได้สักคน
หรือบางทีทั้งชาติเธอก็อาจจะยังไม่เจอ?
ดังนั้นเธอไม่เข้าใจความรัก
แต่เมื่อนานมาแล้วก่อนหน้านี้ เธอเคยถามคำถามทำนองเดียวกันนี้กับถังเฉา
ความรักคืออะไร?
ทำไมจะต้องมีความรัก?
ในตอนนี้ถังเฉาพูดว่า
“ความรักประกอบด้วยหลายสิ่ง คือสิ่งจำเป็นในชีวิต คือการประคับประคองซึ่งกันและกัน”
“ไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่หรือตายพวกเราก็จะอยู่ด้วยกัน นี่เป็นคำสัญญาในตอนแรกของเรา”
ดูเหมือนเฟิ่งหวงจะเข้าใจแล้ว
แต่ก็เหมือนจะงงยิ่งกว่าเดิม
สุดท้ายเธอก็ส่ายศีรษะ “ไม่เข้าใจ ฉันไม่จำเป็นจะต้องเข้าใจ!”
ในความคิดของเธอ ขอเพียงสามารถอยู่ข้างกายรองหัวหน้าได้ตลอด แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว!
เย่หรูอี้หัวเราะ
ยิ้มอย่างเหยียดหยาม ยิ้มอย่างจองหอง
เฟิ่งหวงรู้สึกโมโหร้ายขึ้นมาในชั่วพริบตา รู้สึกว่าตัวเองถูกดูถูกแล้ว
“คุณหัวเราะอะไร?”
“ฉันหัวเราะที่คุณโง่ไง”
เย่หรูอี้ส่ายศีรษะ หัวเราะหึหึพลางเอ่ยว่า “ระหว่างคุณกับถังเฉาได้แตกหักแล้วใช่ไหม?”
พอคำนี้พูดออกมา สีหน้าของเฟิ่งหวงก็เปลี่ยนไปในทันที มองเย่หรูอี้ด้วยสายตานิ่ง ๆ
แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังไม่รู้ ว่าตัวเองกำลังค่อย ๆ ตกลงไปในกับดักของเย่หรูอี้
ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ตอนที่ถังเฉารู้ว่าเธอเคยเป็นนักฆ่ามาจากหว่างเหลี่ยง ระหว่างทั้งสองคนก็แตกหักขึ้นมานานแล้ว
ภายนอกคุยกันอย่างชัดเจนแล้ว แต่เฟิ่งหวงก็ยังคงสัมผัสได้ว่ารองหัวหน้าไม่ได้ให้ความสำคัญกับตนเหมือนกับก่อนหน้านั้นแล้ว
“ไม่ได้แตกหัก”
เฟิ่งหวงจะให้เย่หรูอี้รู้เรื่องนี้ไม่ได้
แต่เย่หรูอี้ก็เดาได้แล้ว ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเอ่ยว่า “ไม่ว่าระหว่างพวกคุณได้แตกหักกันหรือไม่ ในใจของคุณคิดถึงถังเฉาไหม? ยินดีที่จะอยู่ข้างเขาตลอดไปหรือเปล่า? แม้กระทั่งยอมตายเพื่อเขาได้ไหม?”
“ถ้าหากใช่คุณก็ตกหลุมรักเขาไปแล้ว หรือบางทีก็รักจนหยั่งรากลึกเกินจะถอนได้”
เฟิ่งหวงตกตะลึงไปแล้ว พูดพึมพำกับตัวเอง
“นี่ฉันมีความรักเหรอ?”
“แน่นอนสิ”
มุมปากของเย่หรูอี้ยกรอยยิ้มที่แผนชั่วสำเร็จ ยิ้มพลางเอ่ยว่า “คุณชอบถังเฉา อยากจะคบกับเขา ฉันช่วยเธอได้”