เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 547
ฉากนี้ ทำให้ทุกคนที่ได้เห็นช็อคไปครู่หนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นถังเฉา หลินชิงเสว่พวกเขา หรือคนแปลกหน้าที่อยู่ข้างถนน หัวใจของพวกเขาก็เต้นแรง
คนที่รู้ว่าหลินรั่วหวีเป็นของใคร ไม่เคยคิดเลยว่า สิ่งแรกที่สามีและภรรยาเก่าคู่นี้กลับมาพบกันอีกครั้ง คือการโดนลั่วเย่นหัวตบ
ทุกคนตกตะลึง
หลินรั่วหวีคือใคร?
หัวหน้าตระกูลหลินแห่งตระกูลหลวงในเยี่ยนตู!
อาจกล่าวได้ว่าเขาเป็นคนใหญ่คนโตที่อยู่บนสุดของเมืองเยี่ยนจิง
กลับโดนตบ?
แต่เมื่อคิดได้ว่าผู้หญิงที่ตบหลินรั่วหวี เป็นภรรยาเก่าของเขา ทุกคนก็โล่งใจ
หลินรั่วหวี สามารถดูเก่งกาจ สามารถดูสูงส่งไม่อาจเอื้อม แต่ต่อหน้าคนๆนี้ เขาก็ต้อยต่ำเหมือนมด
คนๆนี้ คือลั่วเย่นหัว
ผู้คนที่เดินผ่านไปมาตกใจกับพฤติกรรมของลั่วเย่นหัว
หลินรั่วหวีออกมาจากโรลส์-รอยซ์ และนั่นคือเจ้าของโรลส์-รอยซ์
พวกเธอทุบไฟหน้าของโรลส์-รอยซ์ ไม่ขอโทษก็แล้ว ยังลงมือตบคนอื่นอีกหรือ?
นี่ยังมีความเป็นธรรมอยู่อีกไหม?
ลั่วเยนอวิ๋นจ้องมองอย่างเหม่อลอยเป็นเวลานาน และเมื่อเธอดึงสติกลับมาได้ เธอก็ร้องออกมาอย่างตื่นเต้น
“พี่สาว ตบได้ดีมาก!”
จากสายตาของลั่วเยนอวิ๋น ทุกคนเห็นความรู้สึกเหมือนเด็กผู้หญิงที่กำลังบ้าดารา
ในเมืองเยี่ยนจิง ลั่วเย่นหัว เป็นไอดอลเพียงคนเดียวเท่านั้น
ผู้ชายที่สยบต่อเธอ นับไม่ถ้วนเหมือนปลาคาร์ปที่ข้ามแม่น้ำ
หลินรั่วหวี เป็นเพียงคนเดียวที่กระโดดข้ามประตูมังกร
โชคดีกว่าคนอื่น
เว่ยหมิงจวินซ่อนตัวอยู่ในรถ ตัวสั่นไม่หยุด
ผ่านกระจกหน้ารถ เธอเห็นฉากที่ลั่วเย่นหัวตบหน้าสามีของเธออย่างชัดเจน
เธอโกรธมาก แต่เธอไม่กล้าที่จะวิ่งออกไปสู้กับลั่วเย่นหัว ให้เวลาเธออีกสิบปีเธอก็ไม่กล้า
ยังไงแล้วเธอก็เป็นคนนอก แม้ว่าเธอจะปีนขึ้นไปถึงความสูงในปัจจุบัน ต่อหน้าภรรยาเก่า เธอก็ยังเป็นได้แค่อีกา
ความโกรธ ความกลัว ความสับสนเช่นนี้เต็มหัวใจของเธอ
อย่างไรก็ตาม ถังเฉาและหลินชิงเสว่ ดูฉากนี้ราวกับว่าผ่านไปหนึ่งศตวรรษ
โดยเฉพาะหลินชิงเสว่
เธอรู้ว่า ลั่วเย่นหัวตบเพื่อเธอ
เธอรอนานเกินไปสำหรับการตบนี้
โชคดีที่เธอรอมันจนได้
หลังจากถูกลั่วเย่นหัวตบหน้า หลินรั่วหวีไม่รู้สึกโกรธใดๆ ตรงกันข้ามเขายิ้ม
“ตบได้ดี”
ผู้คนที่สัญจรไปมา สงสัยว่าหูของพวกเขาฟังผิดหรือเปล่า และใบหน้าของพวกดูงงงวย
ผู้ชายคนนี้ สมองมีปัญหาหรือเปล่า?
โดนตบยังจะมาบอกว่าตบได้ดี
มีเพียงหลินรั่วหวีและลั่วเย่นหัวเท่านั้นที่รู้ว่า ในสามคำนี้มีอารมณ์ความรู้สึกอะไรอยู่ในนั้น
หลินรั่วหวีมีรอยยิ้มที่โล่งใจบนใบหน้าของเขา
การตบครั้งนี้ เขาสมควรได้รับมันเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
“ลาสึกแล้วหรือ?”
หลินรั่วหวีมองไปที่ลั่วเย่นหัวด้วยรอยยิ้มและถาม
ลั่วเย่นหัวพยักหน้าจางๆ “ลาสึกเพื่อลูกสาวของฉัน”
หลินรั่วหวีส่ายหัว “เธอไม่ใช่ลูกสาวของคุณ เป็นลูกสาวที่เราแย่งมา”
“…”
ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ ลั่วเย่นหัวก็เงียบไปในทันใด
แน่นอนว่าเธอไม่ลืมว่าเธอไม่สามารถมีลูก และหลินชิงเสว่เป็นเพียงลูกสาวที่เธอ ‘ปล้น’มา
“ด้วยเหตุนี้ ดังนั้นจึงต้องพยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อชดเชยให้เธอ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ลั่วเย่นหัวยังคงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “คุณไม่สามารถบังคับให้เธอทำในสิ่งที่เธอไม่ต้องการทำ”
“โดยเฉพาะ เธอท้องอีกแล้ว ฉันมีหลานที่เป็นผู้หญิงแล้ว และฉันต้องการหลานที่เป็นผู้ชาย มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง”
เมื่อพูดถึงตอนหลังๆ รอยยิ้มอันเงียบสงบบนใบหน้าของลั่วเย่นหัวก็หายไป แทนที่ด้วยความเคร่งขรึม
เธอยอมรับถังเสี่ยวลี้ ซึ่งหมายความว่าเธอยืนข้างถังเฉาและหลินชิงเสว่
หลินรั่วหวีขมวดคิ้วและพูดว่า “คุณควรเข้าใจว่า ผมเป็นหัวหน้าตระกูลหลิน ผมต้องรับผิดชอบต่อตระกูลของผม”
คิดไม่ถึงว่า มุมปากของลั่วเย่นหัวเผยรอยยิ้มประชดประชัน
“นั่นคือสิ่งที่ฉันประทานให้คุณ”
ตูม!
ทันทีที่เธอพูดเช่นนี้ การแสดงออกบนใบหน้าของหลินรั่วหวีก็หายไป
ทุกคนรู้สึกได้ว่า บรรยากาศโดยรอบเยือกแข็งทีละนิด
หลินรั่วหวีโกรธแล้ว
ถังเฉาจะก้าวไปข้างหน้า เพราะกลัวว่าหลินรั่วหวีจะทำร้ายลั่วเย่นหัว
หลินชิงเสว่ดึงเขาไว้แล้วส่ายหัว
“คุณลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเป็นใคร?”
ในใจถังเฉาตกตะลึง และทันใดนั้นก็จำได้ว่า ลั่วเย่นหัวเคยเป็นสาวงามอันดับหนึ่งมาก่อน!
ฟ้าได้ให้พรสวรรค์และความงามแก่เธอ แต่ก็ได้เล่นตลกกับเธอ
ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้
ผู้หญิงที่ไม่มีความสามารถในการตั้งครรภ์ เป็นเรื่องยากที่จะเป็นที่ยอมรับ
แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคที่จะมีคนยำเกรงเธอ ชื่นชมและเคารพในตัวเธอ
รวมทั้งหลินรั่วหวี
ถ้าไม่ใช่เพราะลั่วเย่นหัวออกจากเมืองเยี่ยนจิง ก็ไม่มีโอกาสใดที่หลินรั่วหวีจะเจริญรุ่งเรืองขึ้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สิ่งนี้ลั่วเย่นหัวได้ประทานให้หลินรั่วหวี
หลินรั่วหวีไม่ได้สนใจกับเรื่องนี้มากนัก แต่มองไปที่ลั่วเย่นหัวแล้วพูดว่า”ผมไม่ต้องการให้การพบกันของเราเต็มไปด้วยความอาฆาต”
“งั้นก็ปล่อยลูกสาวไปซะ แล้วก็ปล่อยตัวเองด้วย”
ลั่วเย่นหัวพูดจางๆ “คุณเคยเป็นคนร้ายเพื่อตระกูลของคุณเมื่อ 20 ปีที่แล้ว อย่าทำแบบนี้อีกเลย”
“ครั้งแรก ฉันเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด แต่ครั้งที่สอง ฉันต้องการไถ่บาป”
หลินรั่วหวีเงียบไปครู่หนึ่งและในที่สุดก็ส่ายหัว ถอนหายใจเบาๆ
“เย่นหัว ในที่สุดเราก็กลายเป็นศัตรูกัน”
เมื่อการเจรจาไม่สามารถเป็นไปตามข้อตกลง สายตาของลั่วเย่นหัวก็เฉียบคม “ฉันพร้อมแล้ว”
“ว่าแต่ คุณเอาอะไรมาห้ามผม”
หลินรั่วหวีมองดูเธออย่างเฉยเมยและถาม “เมืองเยี่ยนจิงในวันนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว คุณเพิ่งลาสึกกลับมา แม้ว่าคุณจะกลับไปที่ตระกูลลั่วผู้ที่ดูแลตระกูลลั่วในตอนนี้ จะไม่เต็มใจที่จะมอบอำนาจให้กับคุณแน่นอน คุณไม่มีโอกาสแม้แต่น้อย”
น้ำเสียงของหลินรั่วหวีเต็มไปด้วยความมั่นใจ
สีหน้าของถังเฉาและหลินชิงเสว่ก็เคร่งขรึม
แท้จริงแล้ว ลั่วเย่นหัวมีเพียงชื่อเท่านั้นและไม่มีอำนาจที่แท้จริง
แม้ว่าจะมาที่เมืองเจียงเฉิงในนามของตระกูลลั่วก็ต้องพึ่งพาสถานะของน้องสาวของเธอ
คงคิดว่าลั่วเย่นหัวกลายเป็น ‘แจกัน’ ดอกไม้ที่ใช้สำหรับประดับแล้ว
อย่างไรก็ตาม ลั่วเย่นหัวหัวเราะ
รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยเสน่ห์ ราวกับว่าได้หวนกลับไปในเมืองเยี่ยนจิงเมื่อยี่สิบหรือสามสิบปีที่แล้ว
ในเวลานั้น เธอยังคงเป็นสาวงามอันดับต้นๆที่อยู่สูงส่ง
แม้แต่เว่ยหมิงจวินที่อยู่ในรถ ก็ต้องยอมรับว่าด้านความงาม เธอไม่ได้อยู่ในเลเวลเดียวกันกับลั่วเย่นหัวเลย
“คุณหัวเราะทำไม?”
หลินรั่วหวีขมวดคิ้ว
“หัวเราะเยาะความเย่อหยิ่งของคุณ”
ลั่วเย่นหัวหัวเราะและพูด “ใครบอกว่าฉันจะแข่งกับคุณ?”
“ฉันเป็นแค่สามัญชนที่เพิ่งลาสึกกลับมา ฉันไม่ต้องการเงินหรืออำนาจ ฉันแค่ต้องการความสุขของครอบครัว จะมีคนต่อสู้กับคุณ นอกจากนี้ คุณอาจสู้เขาไม่ได้”
ลั่วเย่นหัวพูดชัดเจนมากแล้ว และดวงตาของลั่วเย่นหัวก็เฉียบแหลมมากขึ้น และเธอหันไปมองถังเฉาและหลินชิงเสว่ที่อยู่ข้างๆ
“คุณหมายถึงเขา?”
หลินรั่วหวีชี้ไปที่ถังเฉาและถาม
“หรือยังไม่พออีกเหรอ?”
น้ำเสียงของลั่วเย่นหัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน เต็มไปด้วยความเคร่งขรึมที่ดูถูก
เธอจ้องไปที่หลินรั่วหวีด้วยสายตาที่แหลมคม “เขาเป็นลูกเขยของเรา แต่ว่า ในตอนนั้นคุณทำอะไรกับเขา? ซักผ้าและทำอาหาร? ถูพื้นเป็นพี่เลี้ยง?”
คำพูดของลั่วเย่นหัวนั้นเฉียบคม และออร่าของเธอก็กดหลินรั่วหวีลงไปทันที
ทั้งลั่วเย่นหัว ถังเฉาและหลินชิงเสว่ก็มีความรู้สึกหนึ่ง
แม้ว่าลั่วเย่นหัวจะเพิ่งลาสึกกลับมา หลินรั่วหวีก็เป็นหัวหน้าตระกูลหลินอยู่แล้ว แต่ลั่วเย่นหัวก็ยังสามารถควบคุมหลินรั่วหวีได้
ภายใต้การซักถามของลั่วเย่นหัว หลินรั่วหวีก็เงียบไปทันที
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เหลือบมองถังเฉา และพูดจางๆ
“บางทีคุณพูดถูก ในวัยของเขา ผมด้อยกว่าเขามาก แต่มีเพียงหลินรั่วหวีคนเดียวในโลก”
นี่กำลังบอกว่าถังเฉาไม่มีวันบรรลุความสำเร็จของเขาได้
หลินชิงเสว่กล่าวว่าไม่พอใจ”ต่อไปถังเฉาจะเหนือกว่าคุณอย่างแน่นอน บริษัทของฉันจะแซงหน้าตระกูลหลิน”
กับสิ่งนี้ หลินรั่วหวีแค่ยิ้ม
บริษัทของหลินชิงเสว่เริ่มใหญ่โตมากแล้ว และได้เปิดสาขาแล้ว แต่เมื่อเทียบกับนอร์เทล กรุ๊ป ความต่างนั้นยังอีกมาก
“คุณไม่เชื่อ?”
ถังเฉาถามขึ้นทันใด
หลินรั่วหวีไม่ได้ตอบคำพูดของถังเฉาโดยตรง แต่กล่าวว่า”รอให้บริษัทของพวกคุณได้เป็นที่ 1 ในเจียงเจ้อ แล้วค่อยมาพัฒนาที่เมืองเยี่ยนจิง”
ถังเฉายิ้มและส่ายหัว
ไม่ว่าจะเป็นที่หนึ่งในเจียงเจ้อ หรือที่หนึ่งในเมืองเยี่ยนจิง เป็นเพียงคำเดียวสำหรับเขา
เพียงแต่เขาไม่ต้องการที่จะทำให้มันสำเร็จเร็วขนาดนี้ หลินชิงเสว่จะไม่ยอมรับผลดังกล่าว
ดังนั้นจึงทำได้เพียงทีละขั้น
“คุณคอยดูเถอะ บริษัทลี่จิงกรุ๊ปในอนาคต จะก้าวไปสู่ต่างประเทศ และชื่อของมันจะดังไปทั่วโลก”
ถังเฉากล่าวเบาๆ
ลั่วเย่นหัวกล่าวอย่างเคร่งขรึม “หลินรั่วหวี เห็นแก่ที่เราเคยเป็นสามีภรรยากันมาก่อน ฉันขอเตือนคุณนะ อย่าประเมินเขาต่ำเกินไป”
“ก่อนหน้านี้ ฉันเคยดูถูกคุณ ทำให้ฉันต้องได้รับบทเรียนราคาแพง ตอนนี้ชายหนุ่มคนนี้มีความสามารถมากกว่าคุณ”
หลินรั่วหวีโบกมือของเขา“ไปไกลละ เธอเป็นลูกสาวของผม ลูกในท้อง ต้องเอาออก!”
ถังเฉาหัวเราะ “คุณไปจากที่นี่ได้ไหม?”
“อืม?”
ทันใดนั้น หลินรั่วหวีมองไป เห็นกลุ่มชายในชุดเครื่องแบบเข้ามาใกล้และพวกเขาก็ปิดผนึกที่นี่อย่างรวดเร็ว
“ดูอะไร ไปให้พ้น!”
ไล่ผู้ชมที่สัญจรไปมาทั้งหมดทันที
ได้ตั้งสิ่งกีดขวางบนถนนในที่เกิดเหตุ
ชายหนุ่มที่เป็นผู้นำเข้ามาพร้อมกับบุหรี่หนึ่งซองในกระเป๋าเสื้อแจ็คเก็ตของเขา
มีรูปทหารซุ่มยิงบนกล่องบุหรี่ ซึ่งแค่ดูก็รู้ว่าไม่ใช่บุหรี่ธรรมดา
เป็นบุหรี่พิเศษสำหรับเขตสงคราม ซึ่งมีเงินเท่าใดก็ไม่สามารถซื้อได้
อย่างไรก็ตาม บรรจุภัณฑ์ไม่ได้เปิดออก เห็นได้ชัดว่าเจ้าของไม่สูบ แต่เขาต้องการบอกให้คนอื่นรู้ว่านี่เป็นบุหรี่พิเศษสำหรับเขตสงครามและใส่ไว้ในกระเป๋าของเขาเพื่ออวดคนอื่น
ชายหนุ่มมีสีหน้าจริงจัง แต่เมื่อเห็นถังเฉา เขาก็ตกใจและเกือบจะตะโกนว่า “สวัสดีคุณถัง”
มันคือโจวข่าย’ผู้มีชื่อเสียงในระบบ’ ที่สนิทกับหลินจ้าวหยูนในงานเลี้ยงเพื่อนร่วมเรียนเก่า
ถังเฉาหยุดเขาด้วยสายตา
“เกิดอะไรขึ้น?”
โจวข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยยุติธรรม
ถังเฉาจุดบุหรี่ “ก็ไม่มีอะไร นี่คือน้าของผม…”
เมื่อสัมผัสถึงสายตาอาฆาตของลั่วเยนอวิ๋น ถังเฉาก็เปลี่ยนคำพูดอย่างรวดเร็ว”พี่สาวของผมไม่ได้ตั้งใจทุบไฟของรถโรลส์-รอยซ์ คุณคิดว่าจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ต้องจ่ายเท่าไหร่?”
โจวข่ายพูดทันที “เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของเรา แต่ว่า เป็นเรื่องเล็กมาก พวกคุณสามารถเลือกที่จะเคลียร์กันเอง หรือไปที่บริษัทขนส่งเพื่อลงทะเบียน”
“ชดใช้เงิน?ชดใช้อะไร?”
ลั่วเยนอวิ๋นไม่ยอม “พวกเขาลักพาตัวหลานสาวคนโตของฉันไป ฉันให้พวกเขาหยุดรถไม่ได้เหรอ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ โจวข่ายก็ขมวดคิ้ว “มีเรื่องแบบนี้หรือ?”
ลักพาตัวคนในเวลากลางวันแสดๆแบบนี้ เป็นเรื่องใหญ่มากนะ
เว่ยหมิงจวินกลัวปัญหาจะลามปามหรือกลายเป็นเรื่องใหญ่ แอบเอาเงินจำนวนหนึ่งไปให้โจวข่าย”เราเป็นคนของตระกูลหลินจากเมืองเยี่ยนจิง และเธอเป็นลูกสาวของเรา … ”
โจวข่ายปฏิเสธอย่างเคร่งขรึม “ขอโทษนะ วิธีนี้ใช้กับเราไม่ได้ ไม่ว่าคุณจะมาจากไหน คุณก็ต้องไปสถานีตำรวจกับเรา!”