เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 550
“จริงหรือ?”
หลังจากได้ยินสิ่งที่ถังเฉาพูด ใบหน้าของเย่หรูอี้ก็เผยรอยยิ้มทันที
เธอแบกรับภายใต้แรงกดดันมหาศาล ในที่สุดการเดิมพันของเธอก็ถูกต้อง
ถังเฉาพูด “อย่างไรก็ตาม ผมหวังว่าคุณจะชัดเจนว่า ความจริงใจของคุณไม่ควรค่าแก่การพูดถึง และผมไม่ได้ทำเพราะความจริงใจของคุณ”
ใบหน้าของเย่หรูอี้หยุดนิ่งครู่หนึ่ง กลับสู่สภาวะปกติ มองไปที่ถังเฉาและถามว่า “ที่คุณเข้าร่วมไม่ใช่เพราะกลัวตระกูลฉินได้ที่หนึ่งแล้วมาแก้แค้นคุณไม่ใช่หรอกหรือ?”
ถังเฉาหัวเราะอย่างเย็นชา “แค่ตระกูลฉิน ไม่คู่ควรกับที่จะอยู่ในสายตาของผม แม้พวกเขาจะได้แชมป์ พวกเขาจะทำอะไรกับผมได้?”
เสียงของถังเฉานั้นเรียบ และเขาไม่ได้เห็นตระกูลฉินอยุ่ในสายตาเลย ไม่ต้องพูดถึงเย่หรูอี้ หลินชิงเสว่ แม้แต่ลั่วเย่นหัวก็สะลึมสะลือเล็กน้อย
แม้แต่ลั่วเย่นหัวเมื่อ 20 ปีที่แล้วยังไม่กล้าพูดแบบนี้ ทำไมเขาถึงกล้าพูดเช่นนั้น?
“หยุดคุยโวแบบนี้เสียที เด็กจะเลียนแบบนะ”
หลินชิงเสว่ขมวดคิ้วและเตือนถังเฉา
ถังเฉายิ้มโดยไม่ให้คำอธิบายใดๆ
เขาตอบตกลงตามคำเชิญของเย่หรูอี้ เขามีเหตุผลของเขาเอง
ไม่ใช่เพราะตระกูลฉินแน่นอน
ตระกูลฉินแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรือง ในสายตาของเขา ยังคงไม่ใช่อะไร
สิ่งที่ทำให้ถังเฉาสนใจจริงๆคือตำแหน่ง ‘ผู้พิทักษ์แห่งแดงเหนือ’
ชื่อที่แท้จริงของผู้พิทักษ์ ควรมาจากการต่อสู้ในสนามรบ หลังจากประสบกับเลือดและน้ำตา
การประชุมแดนเหนือที่เหมือนของเด็กเล่น ก็สามารถกำหนดผู้พิทักษ์แห่งแดงเหนือหรือ?
มันน่าตลกสิ้นดี!
สนามรบเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ หากมีการตัดสินหลังจากการประชุมกันเพียงครั้งเดียว พรมแดนทางเหนือจะต้องสูญเสียไป
ในฐานะเจ้ามังกร แน่นอนว่าถังเฉาย่อมไม่ยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น
“ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ขอเพียงคุณตอบตกลง มันก็เป็นการประสบความสำเร็จสำหรับฉัน”
เย่หรูอี้กล่าวจากใจ
“เช่นนี้ หน้าที่ของฉันก็ถือว่าเสร็จสิ้นแล้ว”
เย่หรูอี้พูดกับถังเฉาอีกว่า “ขัดขวางตระกูลฉิน เป็นการดีกว่าสำหรับตระกูลหลวงทั้งหมด
ที่มารวมตัวกันจะดีกว่า ในพรุ่งนี้เช้า ฉันได้จัดงานขึ้น ทุกคนจากตระกูลใหญ่จะมา ฉันหวังว่าพวกคุณจะมาร่วมด้วย”
หลินชิงเสว่ลังเล แต่ถังเฉาตอบตกลงทันที”โอเค”
หลินชิงเสว่เหลือบมองเขาทันที ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกังวล
เธอไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหลวงในเยี่ยนจิง
ถังเฉาจับมือเธอและพูดด้วยการปลอบโยน “ไม่เป็นไร เชื่อผม”
“แล้วเจอกันพรุ่งนี้”
หลังจากที่เย่หรูอี้พูดจบก็ออกจากร้านอาหาร และขึ้นรถ
ภายในรถ เย่อู๋เหินยิ้มและถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง ราบรื่นไหม?”
เย่หรูอี้พยักหน้า “ราบรื่นดี เขาตอบตกลงแล้ว”
เย่อู๋เหินยิ้มอย่างเบิกบาน “ถ้าเป็นเช่นนี้ ตระกูลเย่ของเราก็มีผู้เก่งกาจไปร่วมแข่งขันแล้ว”
เย่อู๋เหินมั่นใจในตัวถังเฉามาก
ทันใดนั้น เย่อู๋เหินก็จำบางอย่างได้ก็พูดกับเย่หรูอี้ว่า “คุณหนู มีคนในตระกูลมาอีกแล้ว โดยบอกว่าไม่วางใจการดำเนินการของคุณ และต้องการมาเพื่อกระตุ้นอยู่ข้างๆ”
“มาเฝ้าจับตามากกว่ามั้ง?”
เย่หรูอี้เยาะเย้ย แต่ก็ยังถามว่า “ใคร?”
“เย่เซ่าเตี๋ย”
……
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ถังเฉาและหลินชิงเสว่ก็อำลาลั่วเย่นหัวและคนอื่นๆ
ระหว่างทางกลับ เป้าหมายของถังเฉานั้นลึกล้ำ
เดิมที เขาไม่ต้องการเข้าร่วมการประชุมแบบนี้เลย
ไม่ว่าใครจะคว้าแชมป์ไปในที่สุด เขาจะแอบใช้อำนาจของเขาเพื่อไม่ให้เขาไปแดนเหนือ
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนใจแล้ว
ตัวตนเจ้ามังกรของเขาถูกซ่อนไว้ลึกมากพอแล้ว และถึงเวลาต้องเผยสู่สาธารณะ
แน่นอน เขาไม่ได้ประกาศเรื่องนี้ด้วยตนเอง แต่ใช้ตัวตนอื่นเพื่อไปเป็น ‘ผู้พิทักษ์แดนเหนือ’
ทันทีที่เขามาถึงโรงแรม ถังเฉาก็ได้รับโทรศัพท์จากเฟิ่งหวง
“รองหัวหน้า คุณพอจะมีเวลาไหม มาหาฉันหน่อยได้ไหม ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
ถังเฉาขมวดคิ้ว มีอะไรที่คุยทางโทรศัพท์ไม่ได้หรือ?
แต่เขาก็ยังพูดว่า “โอเค คุณอยู่ที่ไหน?”
เฟิ่งหวงกล่าวทันที “รองหัวหน้า ฉันจะไปรับคุณ!”
สิบนาทีต่อมา รถของเฟิ่งหวงก็มาถึง
ถังเฉานั่งแถวหลัง”เกิดอะไรขึ้น?”
เฟิ่งหวงจับพวงมาลัยด้วยมือทั้งสองข้างแล้วไม่พูดอะไรอยู่เป็นเวลานาน
“คุณเป็นอะไร?”
ถังเฉาพบว่าอารมณ์ของเฟิ่งหวงค่อนข้างผิดปกติ เขาจึงถาม
มือของเฟิ่งหวงที่จับพวงมาลัยคลายออก ถังเฉาเห็นรอยยิ้มของเฟิ่งหวงผ่านกระจกมองหลัง
“ไม่เป็นไร ฉันแค่อยากถามรองหัวหน้าว่า ฉันติดตามรองหัวหน้ามานานแค่ไหนแล้ว?”
“ห้าปีกว่าแล้ว มีอะไรหรือเปล่า?”
ถังเฉากล่าว
“เวลาผ่านไปเร็วจัง ผ่านไปห้าปีแล้ว…”
เฟิ่งหวงเอนศีรษะลงบนเบาะที่นั่งแล้วพูดพลางมองดูท้องฟ้าสีคราม
“ตลอดห้าปีที่ผ่านมา ฉันมีเพียงความรุ้สึกขอบคุณรองหัวหน้าเท่านั้น และฉันเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อรองหัวหน้า รวมถึงการยอมตายด้วย”
“รองหัวหน้าเคยบอกว่า นี่คือความรัก”
เฟิ่งหวงนึกย้อนไปถึงอดีต “แต่ว่า รองหัวหน้า คุณยังไม่เชื่อฉัน 100% ใช่ไหม?”
เมื่อเสียงลดลง เฟิ่งหวงก็อดไม่ได้ที่จะหันศีรษะ มองไปที่ถังเฉา
ถังเฉาตกตะลึงครู่หนึ่ง เขาเห็นน้ำตาในดวงตาสีแดงเลือดของเฟิ่งหวง
เฟิ่งหวงร้องไห้
ถังเฉาก็เข้าใจสิ่งที่เฟิ่งหวงพยายามจะพูด และเขาก็เงียบไป
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ขอโทษ”ขอโทษ”
“ทำไม? เพียงเพราะฉันมาจาก’หว่างเหลี่ยง’?”
เสียงถามของเฟิ่งหวงสั่น เลือดและน้ำตาก็ตกลงมาทีละหยด
“รองหัวหน้า คุณอาจจะเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันชอบในโลกนี้ ฉันไม่ขออะไรทั้งนั้น ฉันแค่หวังว่าจะเป็นเงาของคุณตลอดไป แม้แต่ความปรารถนาเล็กๆ น้อยๆนี้ก็ทำให้ฉันไม่ได้อีกหรือ?”
“เฟิ่งหวง”
ตอนที่เฟิ่งหวงอารมณ์ร้อน ถังเฉาก็ตะโกนเพื่อหยุดเธอในทันใด
จากนั้น เขาก็หยิบหยกสีเขียวชิ้นหนึ่งจากกระเป๋าของเขาแล้วใส่ไว้ในมือของเฟิ่งหวง
“หยกชิ้นนี้ มอบให้คุณ ที่คุณเคยช่วยชีวิตผมในสนามรบ”
เฟิ่งหวงหยิบมันขึ้นมาอย่างสั่นคลอน และถังเฉาก็ลงจากรถ
หยกมีเนื้อสัมผัสที่ดีมากและมีความอบอุ่นเล็กน้อย แต่มีปล่องอยู่ตรงกลางหยก
ครั้งหนึ่งในสนามรบ กระสุนจากมือปืนของศัตรูได้เจาะทะลุหน้าอกของถังเฉา
แต่บังเอิญถูกยิงที่หยกนี้และช่วยชีวิตถังเฉาไว้
ตั้งแต่นั้นมา ถังเฉาก็ถือว่าหยกนี้เป็นเครื่องราง แต่ตอนนี้ได้มอบให้เธอ
อย่างไรก็ตาม หยาดน้ำตาของเฟิ่งหวงก็หลั่งออกมามากกว่าเดิม
เธอเข้าใจความหมายของถังเฉาแล้ว เหยียบคันเร่งและจากไป
เมื่อมองดูรถของเฟิ่งหวงจากไป ดวงตาของถังเฉาก็ลึกมาก
ผู้หญิงในแจ็คเก็ตหนังสีดำปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบๆข้างหลังเขา มันคือ เจียงไป๋เสว่
เธอก็มองไปยังรถของเฟิ่งหวงที่กำลังขับไปจากที่นี่ และถามว่า “ทำแบบนี้ดีจริงหรือ เธออยู่กับคุณมาห้าปีแล้ว คุณทำแบบนี้กำลังทำร้ายเธออยู่นะ”
ถังเฉาไม่ได้เหลือบมอง เสียงของเขาทุ้มต่ำ
“เพราะเธออยู่กับผมมาห้าปีแล้ว ผมจึงยอมเชื่อในความภักดีของเธอ แต่เธอยากที่จะผ่านไปเอง”
“ผมมอบหยกนี้กับเธอ ซึ่งเท่ากับว่าผมมอบงานให้เธอ และเธอต้องทำให้สำเร็จ”
“เมื่อเธอเสร็จสิ้นภารกิจและกลับมา ผมจะต้อนรับเธออย่างดีเอง”
เจียงไป๋เสว่ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ดวงตาที่สวยงามรู้สึกประหลาดใจ”คุณต้องการให้เธอเป็นสายลับหรือ? มันอันตรายเกินไป!”
“นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเธอในการเอาชนะปีศาจใจของเธอเอง”
ถังเฉากล่าวอย่างเฉยเมย “เธอเกิดจากที่นั่นและเติบโตขึ้นจากที่นั่น ชิประเบิดในหัวของเธอเป็นปมตายที่แก้ยาก มีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถก้าวออกจากที่นั่นได้ด้วยตัวเอง”
“เธอไม่ใช่แค่เงาของผม แต่ยังเป็นดาบที่คมที่สุดของผมด้วย”