เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 551
แน่นอนว่าเจียงไป๋เสว่เข้าใจความหมายของถังเฉา
ถังเฉาเป็นคนบอกกับเธอเองว่าเฟิ่งหวงมาจาก ‘หว่างเหลี่ยง’
ในสมองของนักฆ่าทุกคนของหว่างเหลี่ยงล้วนมีชิประเบิดขนาดจิ๋วฝังเอาไว้หนึ่งชิ้น
เมื่อตายไปหรือเปิดเผยความลับขององค์กรก็จะออกคำสั่งให้ระเบิด ชิประเบิดก็จะระเบิดขึ้น
ในสมองของเฟิ่งหวงก็น่าจะมีฝังอยู่ชิ้นหนึ่ง
สำหรับเรื่องนี้แล้ว ถังเฉาทำอะไรไม่ได้เลย เกรงว่าแม้แต่ผู้บ้าการแพทย์ก็จนด้วยปัญญา
ทำลายกฎเดิมแล้วถึงจะสร้างกฎใหม่ขึ้นมาได้ นี่คือภารกิจที่ถังเฉามอบให้กับเฟิ่งหวง
สายลับสองหน้า เข้าไปถึงส่วนใน ไม่ใช่เพียงเพื่อเขา ยิ่งไปกว่านั้นคือเพื่อตัวของเฟิ่งหวงเอง
ถึงแม้ว่าจะเข้าใจเจตนาของถังเฉา แต่เจียงไป๋เสว่ก็ยังรู้สึกว่าวิธีนี้มันบ้ามาก
เธอมองถังเฉาอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง “คุณทำแบบนี้จะทำให้เธอตายนะ”
“ยังมีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกไหม?”
ถังเฉาถามกลับอย่างเย็นชาว่า “ศัตรูอยู่ในที่มืด ผมอยู่ในที่สว่าง พวกเราจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นก็จะต้องถูกอีกฝ่ายตัดหน้าทุกครั้งเหมือนกับคุณ”
เจียงไป๋เสว่ตกอยู่ในความเงียบทันที
เธอรู้ว่าที่ถังเฉาพูดคือที่เธอสืบร่องรอยของหลี่เห้าโดยพลการในคราวที่แล้ว
ถ้าหากว่าถังเฉาเร่งมาไม่ทันเวลา เธอก็จะสูญเสียเลือดเยอะจนตายไป
“แต่ว่าคุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าพวกเขาจับตามองเฟิ่งหวงแล้ว?” เจียงไป๋เสว่เอ่ยถามอย่างไม่ยอม
“จับตามองมาตั้งนานแล้ว”
ถังเฉาเอ่ยอย่างเย็นชา “ก่อนหน้านี้มีหงโฝ นักสังหารคนหนึ่งที่ใช้แมลงมีพิษในการสังหารที่มาจากองค์กรนักฆ่าภายใต้การบังคับบัญชาของ ‘หว่างเหลี่ยง’ มาหาถึงบ้าน บอกความตั้งใจมาตั้งแต่แรกแล้วว่าพวกเขาจะจับเฟิ่งหวงกลับไป”
“แสดงให้เห็นว่าคนของพวกเขาได้แทรกซึมเข้ามาแล้ว ระหว่างที่หงโฝไม่ระมัดระวังตัวก็ถูกพวกเขาใช้ประโยชน์ ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดก็คือหวังว่าผมกับเฟิ่งหวงจะกลาการป้องกันจากผม ลำพังเฟิ่งหวงตัวคนเดียว จะต้องถูกพวกมันจับตัยเป็นศัตรูกัน สูญเสียวไปแน่”
“อีกฝ่ายจะต้องเคยติดต่อกับเฟิ่งหวงอย่างแน่นอน ถึงได้ทำให้เฟิ่งหวงปั่นป่วนได้ขนาดนี้ แล้วทำไมผมถึงจะไม่ตกกระไดพลอยโจน ให้เฟิ่งหวงเป็นกระบี่ของผม เสียบเข้าไปฝ่ายในนั่นล่ะ?”
“แต่ว่า…”
เจียงไป๋เสว่ก็ยังคงเป็นกังวลว่าต่อไปเฟิ่งหวงจะตกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย
ถังเฉากลับโบกไม้โบกมือ “ไม่ต้องพูดแล้ว นี่เป็นสนามรบ ผมคือเจ้ามังกร คำสั่งทหารห้ามฝ่าฝืน!”
สุดท้ายเจียงไป๋เสว่ก็ไม่ได้พูดอะไร ถอนหายใจเบา ๆ ภาวนาให้กับเฟิ่งหวงในใจ
สมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง
ประธานหงเทียนหยาเรียกหลัวเฉิงที่มีรายชื่อเป็นอันดับที่เก้าของผู้แข็งแกร่งทั้งสิบมาที่ห้องทำงาน
“แก…”
ดูเหมือนหงเทียนหยาอยากจะด่าหลัวเฉิง แต่คำพูดมาอยู่ตรงริมฝีปากแล้วก็อดกลั้นไว้อย่างดื้อดึง ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“หลัวจวินหลานชายของแกโดนเจ้าถังเฉานั่นฆ่าตาย ทำไมแกถึงไม่ฆ่าเขาเสียล่ะ? หรือว่าแกจะอ่อนข้อให้?”
พูดมาถึงตอนสุดท้ายใบหน้าของหงเทียนหยาก็เข้มงวดขึ้นมา
ถ้าหากเป็นเช่นนี้เขาก็จะไม่ยกโทษให้หลัวเฉิง
หลัวเฉิงส่ายศีรษะ “ผมไม่ได้อ่อนข้อให้ แต่ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของถังเฉาจริง ๆ ครับ”
สีหน้าของหงเทียนหยาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากในทันที “เป็นไปได้ยังไง แกเป็นถึงลำดับที่เก้าของสมาคมภายใน นึกไม่ถึงว่าจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา?”
“ไม่ผิดครับ”
หลัวเฉิงเอ่ยอย่างจริงจัง “ดังนั้นผมคิดว่าการตายของหลานผมมีลับลมคมในอะไรหรือเปล่า ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งไม่ลงมือกับผู้อ่อนแอแน่ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการฆ่าเลย”
สีหน้าของหงเทียนหยาไม่น่ามองเป็นอย่างมาก “แกกำลังสงสัยแผนการของฉันเหรอ?”
หลัวเฉิงรีบยกมือคารวะทันที “ข้าน้อยมิกล้า”
“พอแล้ว ๆ แกไปก่อนเถอะ”
หงเทียนหยาโบกไม้โบกมือด้วยใจที่ร้อนรุ่ม ไล่หลัวเฉิงออกไป
ในตอนนี้ก็มีลูกน้องอีกคนเดินเข้ามา ส่งใบรายชื่อมาให้หนึ่งแผ่น
“ประธานครับ นี่เป็นรายชื่อตระกูลบูโดตัวแทนของทุก ๆ ตระกูลใหญ่ที่เข้าร่วมประชุมแดนเหนือครับ เชิญท่านอ่านดู”
ประชุมแดนเหนือจัดขึ้นที่เมืองเจียงเฉิง แน่นอนว่ามีสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิงเป็นเจ้าภาพแล้ว
รายชื่อผู้แข็งแกร่งใด ๆ ก็ตามที่เป็นตัวแทนตระกูลใหญ่ทุกตระกูลที่เข้าร่วมประชุมจำเป็นจะต้องผ่านการตรวจสอบครั้งแล้วครั้งเล่าจากสมาคมการต่อสู้เสียก่อน
ฐานะทางสังคม ประสบการณ์ในอดีต ยิ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในบรรดาเรื่องสำคัญใด ๆ
เมื่อมีผู้ที่มีประวัติต้องโทษที่น่ารังเกียจ ก็ล้วนต้องถูกตัดคุณสมบัติ
“อื้ม ดูหน่อยซิ”
หงเทียนหยารับใบรายชื่อมาดูอย่างละเอียด
“ชาวประมงมวยทั้งเหนือและใต้จากตระกูลเซี่ย”
“ท่านวงจากตระกูลลู่”
“ตระกูลหูสละสิทธิ์… สละสิทธิ์?”
ตอนที่มองเห็นรายชื่อของตระกูลหู สีหน้าของหงเทียนหยาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยทันที “ทำไมตระกูลหูถึงได้สละสิทธิ์ไปซะล่ะ? เมื่อก่อนไม่ใช่พูดไว้เสียดิบดีว่าเป็นคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือขึ้นต่อสู้หรอกหรือ?
ผู้ใต้บังคับบัญชาเช็ดเหงื่อเย็น “นั่นน่ะ… ท่านประธาน เมื่อไม่กี่วันก่อนคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือถูกสังหารตายในงานวันเกิดเจ็ดสิบปีของท่านหูไปแล้วครับ”
“อะไรนะ? ถูกฆ่าตายไปแล้ว? ใครเป็นคนฆ่า?”
ชั่วประเดี๋ยวเดียวหงเทียนหยาก็ลุกขึ้นมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโหอย่างรุนแรง
“เป็นถังเฉาครับ”
บึ้ม!
พอชื่อนี้ลั่นออกมา หงเทียนหยาก็โมโหเป็นอย่างยิ่งทันที
ไม่กี่วันมานี้เขาได้ยินชื่อนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว
“เป็นถังเฉาอีกแล้ว เขาศักดิ์สิทธิ์มาจากไหนกันแน่ แม้แต่ศิษย์น้องร่วมสำนักของฉันก็ฆ่าเสียได้!”
รังสีสังหารทั้งร่างของหงเทียนหยาหมุนวนเป็นเกลียวขึ้นไป สีหน้าเกรี้ยวกราดอย่างถึงที่สุด
ถ้าหากถังเฉาอยู่ที่นี่จะต้องแปลกใจมากเป็นแน่
เขารู้ว่าคู่นักมีดทั้งใต้และเหนือเกี่ยวข้องกันกับหงเทียนหยา แต่นึกไม่ถึงว่าจะเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องร่วมสำนักกัน
“ท่านประธานครับ ใจเย็น ๆ อย่ารีบร้อน ด้านล่างล้วนแต่เป็นรายชื่อของตระกูลหลวงในเยี่ยนตูครับ”
ลูกน้องเตือนขึ้นทันที หงเทียนหยาทำได้เพียงบีบบังคับความโกรธอย่างรุนแรงภายในใจ แล้วดูต่อไป
ตระกูลหลิน ตระกูลถัง ตระกูลฉิน ตระกูลลั่วดูไปหมดแล้ว
ตอนที่เห็นตระกูลเย่ หงเทียนหยาก็อึ้งในทันที
เห็นเพียงในรายชื่อผู้แข็งแกร่งที่เข้าร่วมเป็นตัวแทนของตระกูลเย่เขียนเป็นชื่อของถังเฉา
“ถังเฉาอีกแล้ว กับเย่หรูอี้คนนั้น ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาจริง ๆ!”
ใบหน้าของหงเทียนหยาเต็มไปด้วยความโมโหร้าย
นาทีต่อมาเขาก็เอ่ยกับลูกน้องว่า “ไป ไปตรวจสอบเอกสารข้อมูลของถังเฉานั่น ฉันอยากจะดูซิว่าเขาจะยอดเยี่ยมสักแค่ไหน”
“ครับ!”
ผู้ใต้บังคับบัญชากลับไปตรวจสอบเอกสารทันที
ความโมโหของหงเทียนหยาถึงได้คลายลงไปบ้าง
เขาต้องการค้นดูประสบการณ์ที่ผ่านมาของถังเฉา มีอดีตที่ไม่ดีจะดีที่สุด จากนั้นถึงจะสามารถไม่ให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันได้
ด้วยเป็นประธานของสมาคมการต่อสู้แห่งเมืองเจียงเฉิง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถแทรกแซงขั้นตอนของประชุมแดนเหนือได้ แต่เย่หรูอี้ที่น่ารังเกียจยังสามารถทำได้อยู่
ทว่าในตอนที่เขากำลังหลงระเริงใจนั้นเอง ทันใดนั้นประตูก็เปิดออก
ยังคงเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เขาถลันเข้ามาอย่างรีบร้อน
บนใบหน้ายังมีความตื่นตระหนกอยู่
“ท่านประธาน แย่แล้วครับ คอมพิวเตอร์ติดไวรัสแล้วครับ!”
“อะไรนะ? คอมพิวเตอร์จะติดไวรัสได้อย่างไร?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหงเทียนหยาหายไปในทันที หางตากระตุกอย่างรุนแรงทันที
“ผมเองก็ไม่ทราบครับ พอผมค้นข้อมูลของถังเฉานั่น หน้าจอก็แสดงเป็นเครื่องหมายคำถามทั้งหมด หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จอฟ้าไปเลย!”
หงเทียนหยาพรวดพราดออกไปดูทันที แล้วก็ได้เห็นคอมพิวเตอร์จอฟ้าเครื่องหนึ่งจริง ๆ
รีสตาร์ทอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
หงเทียนหยาที่โมโหเป็นอย่างยิ่งเอ่ยขึ้นว่า “แกแน่ใจนะว่าเอกสารข้อมูลอะไรของเจ้าถังเฉานั่นล้วนค้นหาไม่เจอ?”
“ใช่ครับ มีแต่เครื่องหมายคำถามเป็นไปหมด”
“นั่นมันแปลกแล้ว หรือว่าจะบังเอิญเหรอ?”
แอ๊ด!
ในตอนนี้เอง ประตูของสมาคมการต่อสู้ถูกถีบจนเปิดออก ผู้ชายสวมชุดสูทรองเท้าหนังคนหนึ่งเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
เขาล้วงใบรับรองออกมา
“ผมเป็นคนของสถาบันจดหมายเหตุ เมื่อครู่มีสัญญาณเตือนมาว่าพวกคุณที่นี่มีคนพยายามที่จะบุกรุกทะเบียนข้อมูลของบุคคลระดับ SSS!”