เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 562
ตอนที่เห็นร่างกายท่อนบนของถังเฉา ทุกคนต่างก็ตกใจ
ร่างกายของถังเฉาเต็มไปด้วยรอยบาดแผล รอยกระสุนรอยมีดดาบมากมาย
นอกจากนี้แล้ว ยังมีรอยเย็บอีกจำนวนไม่น้อย
จินตนาการได้ไม่ยากเลยว่า นี่เป็นบาดแผลที่ถูกคมดาบฟัน
จากนั้นก็ผ่านการเย็บมา
เต็มแน่นไปทั่วทั้งตัว
อย่าว่าแต่พวกลูกน้องเลย ขนาดนายพลหวางชื่อที่สูงส่งเองก็ยังตกใจ
“เอ่อ แผลพวกนี้มันมาจากไหน?”
หวางชื่อถามขึ้นด้วยเสียงที่สั่น
ถังเฉายิ้มนิ่งๆ“ได้มาตอนทำสงครามน่ะ”
เขาชี้ไปที่บาดแผลรอยกระสุนปืนตรงหน้าอกที่อยู่ใกล้กับหัวใจ พร้อมกับพูดขึ้น“แผลนี้ใกล้หัวใจที่สุด กระสุนทะลุมาตรงนี้ ยังดีที่ชะตาผมแข็ง ยมบาลไม่กล้ารับไว้ ก็เลยยังมีชีวิตอยู่ต่อได้”
ถังเฉายิ้มๆ
“ตรงนี้ล่ะ?”
ทหารอารักขาคนหนึ่งชี้ไปที่รอยไหม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงแผ่นหลังของถังเฉา พร้อมกับถามขึ้น
“ตรงนี้เหรอ? ตรงนี้ได้ตอนไปช่วยชีวิตคน ตอนนั้นศัตรูได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ จุดไฟเป็นทะเลเพลิงขนาดใหญ่ ผมวิ่งเข้าไปช่วยผู้บัญชาการออกมา ตอนนั้นเนื้อหนังก็เลยถูกไฟคลอกจนหมด”
ถังเฉายิ้มพลางพูดขึ้น
“แล้ว ตรงนี้ล่ะ?”
ทหารอารักขาอีกคนหนึ่งสายตามองไปยังรอยดาบจุดหนึ่ง พร้อมกับถามขึ้น
“นี่เป็นผู้ที่แข็งแกร่งของฝั่งศัตรูเข้าร่วมในสนามรบ คนนั้นเป็นราชดาบ เขาฟันผมหนึ่งที ผมก็จัดการหักดาบของเขา แล้วฆ่าเขา”
“แล้วตรงนี้……”
ต่อมาอีกนานสองนาน ถังเฉาก็อธิบายที่มาของรอยแผลให้กับเหล่าบรรดาทหารอารักขาอย่างใจเย็น
แม้แต่นายพลหวางชื่อเองก็ฟังอย่างใจจดใจจ่อ ดื่มด่ำไปราวกับตัวเองโดนซะเองเหมือนกัน
น่าเหลือเชื่อ
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
ที่ตัวของถังเฉา มีรอยแผลมากมายขนาดนี้
นี่มันเป็นร่างกายที่เต็มไปด้วยเกียรติภูมิอย่างแท้จริง!
หวางชื่อก็อยากฟังถังเฉาเล่าต่อ แต่เขาก็ตอบสนองกลับมากะทันหัน นี่เขามาตรวจสอบถังเฉา ไม่ใช่มาฟังเรื่องราวของเขา!
ดังนั้นหวางชื่อก็รีบพูดตัดบทขึ้นมาทันที“พอแล้วๆ ตรวจสอบก่อน เสร็จแล้วค่อยคุยกัน!”
บรรดาผู้คนตรงนั้นก็ดึงสติกลับมา
แต่ว่า ท่าทีของพวกเขาที่มีต่อถังเฉาก็เปลี่ยนไปตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง
ไม่มีความหวาดกลัวและระมัดระวังตัวแบบก่อนหน้านี้แล้ว ในแววตาแฝงไปด้วยความเคารพนับถือ
“คุณผู้ชาย เชิญคุณมายืนตรงกลางเครื่องสแกนด้วยครับ”
ทหารอารักขาคนหนึ่งโบกมือทำท่าทางเชิญ พร้อมกับพูดบอกถังเฉา
ถังเฉาพยักหน้า มายืนอยู่ตรงหน้าเครื่องสแกนอย่างให้ความร่วมมือ
มีแสงส่องผ่านมาทันที แสงอินฟาเรด ส่องมาทั่วทุกจุดของร่างกายถังเฉา
ตรงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าของหวางชื่อ ไม่ช้าก็แสดงให้เห็นถึงภาพแสกนร่างกายของถังเฉา
พอเห็นแล้ว พวกหวางชื่อ ก็พากันตกใจขึ้นมา ตกใจจนเหงื่อไหล
ในร่างกายของถังเฉา มีเศษกระสุนและใบมีดหลายชิ้นฝังเอาไว้
พวกเศษกระสุนเศษใบมีดพวกนี้อยู่ในร่างกายของถังเฉา แทบจะไม่สามารถผ่าออกมาได้เลย
ถึงขนาดที่มีหลายชิ้นที่อยู่ใกล้กับหัวใจ ปอด อวัยวะสำคัญมากๆ แค่อีกนิดเดียว ก็ถึงชีวิตได้เลย!
ถ้าเป็นคนธรรมดาได้รับบาดแผลมากมายขนาดนี้ อย่าว่าแต่กระสุนและใบมีดจำนวนมากมายขนาดนี้เลย แค่อันเดียวก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว
ถังเฉา มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ได้ยังไง?
แถมยังมีชีวิตชีวา กระฉับกระเฉงอีกด้วย?
“คุณ คุณ คุณลงมาได้แล้ว”
พอดึงสติกลับมา หวางชื่อก็น้ำเสียงหวาดกลัวสุดๆ หน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อ
“หาสาเหตุที่สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเจอไหม?”
ถังเฉายิ้มพลางพูดถามขึ้น
“ตรวจ ตรวจเจอแล้วครับ เป็นวัสดุโลหะพวกเศษกระสุน ใบมีด เลยทำให้สัญญาณเตือนภัยร้อง”
สายตาของหวางชื่อเปลี่ยนเป็นเคารพนับถือ จู่ๆก็ก้มตัวลง โค้งคำนับเก้าสิบองศาให้กับถังเฉา
“ขอโทษด้วยครับ คุณผู้ชาย คุณไม่ใช่บุคคลอันตราย แต่เป็นฮีโร่ของต้าเซี่ย!พวกเราต้องขอโทษคุณคุณด้วยครับ!”
พรึ่บๆๆ!
ข้างหลังของหวางชื่อ ทหารอารักขาทุกคนต่างโค้งคำนับให้กับถังเฉาด้วยความเคารพอย่างพร้อมเพรียงกัน
เป็นภาพที่ดูดีน่าทึ่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ถังเฉายิ้มพร้อมกับส่ายหัว“นี่กำลังทำอะไรกัน? พวกคุณก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ทำไมต้องขอโทษด้วย?”
“เพราะว่า เพราะว่าคุณคือนักรบ คือฮีโร่ยังไงล่ะครับ สู้รบสงครามมานับไม่ถ้วน รอยแผลที่ร่างกาย ก็คือหลักฐานที่ดีที่สุด เป็นความรุ่งโรจน์อันสูงสุด!”
หวางชื่อสองตาเริ่มแดง น้ำเสียงตื้นตันเหมือนจะร้องไห้
คนอื่นๆก็ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
ที่สัญญาณเตือนภัยส่งเสียงเตือนเป็นเพราะว่าเศษกระสุนและใบมีดที่อยู่ภายในร่างกายของถังเฉา แต่พวกเขากลับมองว่าถังเฉาเป็นบุคคลอันตราย
พวกเขาทำผิดไปแล้วยังไงล่ะ!
“ลุกขึ้นมาได้แล้ว”
ถังเฉายิ้มอย่างอิ่มเอม“ตอนนี้ผมเป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้นเอง อีกอย่าง ที่พวกคุณทำแบบนี้ก็ถูกแล้ว ไม่ว่าใครจะเข้ามา ก็จะละเว้นเป็นกรณีพิเศษไม่ได้ เข้าใจไหม?”
“เข้าใจครับ!”
หวางชื่อนำ ทุกคนก็ตะโกนตามขึ้นมาเสียงดัง
ถังเฉากะที่จะออกจากที่นี่
จู่ๆหวางชื่อก็พูดขึ้นมาข้างหลังถังเฉา“ผมขอทราบชื่อเสียงเรียงนามของคุณได้ไหมครับ?”
ถังเฉาไม่ได้หันหน้ากลับมา แต่โบกมือ
“ผมก็แค่สามัญชนคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ต้องเอ่ยชื่อหรอก”
เสียงของถังเฉาดังขึ้นมา
“แต่พวกคุณต้องจดจำความภาคภูมิใจของตัวเองเอาไว้ ทหารทุกคน ล้วนแต่เป็นตัวอย่างที่ดีทั้งนั้น!”
“ครับ!!!”
หวางชื่อเปล่งเสียงออกมาดังก้อง
คำพูดของถังเฉาไม่หนักแน่นมาก แต่กลับซ่อนเร้นเวทย์มนตร์บางอย่างเอาไว้ ทำให้พวกเขารู้สึกตกใจไม่น้อย
เกิดมาเป็นคน ไม่ควรทำผิดต่อผู้คน
ใช้ร่างกายที่เป็นเลือดเนื้อ หล่อหลอมให้เป็นกำแพงเมืองที่ไม่มีที่สิ้นสุด
“คำนับ!”
หวางชื่อเปล่งเสียงออกมาเสียงดัง
พรึ่บๆๆ!
บรรดาทุกคนต่างพากันคารวะเคารพให้กับเงาหลังของถังเฉา อยู่นานสองนาน
ธงแดงใหญ่โบกสะบัดตามสายลม พระอาทิตย์สาดแสงลงมา ใบหน้าทุกคนถูกเคลือบจนเป็นสีทองอร่าม
……
วาเลียนท์ วิลล่า พวกหลินชิงเสว่รออยู่นานแล้ว ถังเฉาก็ยังไม่กลับมาสักที
เว่ยหมิงจวินยิ้ม“พวกเราไม่ต้องรอแล้ว เขาจะต้องถูกจับไปในฐานะบุคคลอันตรายแน่ๆ พวกเรากินกันก่อนเถอะ”
หลินรั่วหวีพยักหน้า“ถ้าอย่างนั้นก็กินก่อนแล้วกัน คนมากมายขนาดนี้ต้องมารอเขาคนเดียว มันไม่ใช่เรื่อง”
หลินรั่วหวีบอกให้ทุกคนทานอาหาร
แม้ว่าหลินชิงเสว่จะรู้สึกโกรธอยู่ภายในใจ แต่ก็หมดหนทางเหมือนกัน เอาแต่มองไปข้างนอกประตูอยู่ตลอดเวลา
เวลาผ่านไปนานมากแล้ว แม้แต่เธอเองก็หมดหวังแล้วเหมือนกัน
ถังเฉาจะไม่กลับมาแล้วเหรอ?
“คุณบอกว่าใครถูกจับไปในฐานะบุคคลอันตรายนะ?”
ทันใดนั้น ก็มีเสียงนิ่งๆของผู้ชายดังขึ้นมาจากนอกประตู
ทุกคนต่างสะดุ้งตกใจขึ้นมาทันที หันหน้าไป
เห็นถังเฉายืนอยู่ตรงประตูอย่างปกติดีไม่ได้เสียหายตรงไหน มองพวกเขาอย่างนิ่งๆ
“ถัง ถังเฉา?”
เว่ยหมิงจวินสีหน้าตกใจไม่น้อย พูดขึ้นด้วยความตกใจ“ทำไมนายถึงกลับมาเร็วขนาดนี้? เป็นบุคคลอันตรายไม่ใช่หรือไง?”
หลินรั่วหวีก็ตกใจเช่นเดียวกัน
แต่เขาไม่ได้แสดงท่าทีออกมา
“การที่ผมกลับมาคุณตกใจมากเลยเหรอ?”
ถังเฉารู้ดีว่าเว่ยหมิงจวินมีนิสัยใจคอยังไง จึงพูดถามไปอย่างเย้ยหยัน
เว่ยหมิงจวินก็ยังไม่เชื่อ หยิกตัวเองอย่างแรง
รู้สึกว่าเจ็บ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ถังเฉากลับมาแล้วจริงๆ
ถูกพาตัวไปแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ครึ่งชั่วโมงมันจะทำอะไรได้
แค่จับโจร ทำบันทึกประจำวัน อย่างน้อยก็สองสามชั่วโมงแล้ว
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้วจริงๆ
“นายออกมาได้ยังไง? คงไม่ได้แอบหนีออกมาใช่ไหม?”
เว่ยหมิงจวินพูดเดาขึ้น
เมื่อตะกี้เธอได้ยินเสียงสัญญาณเตือนภัยของวาเลียนท์ วิลล่าดังอยู่แท้ๆ เป็นเสียงที่มาจากถังเฉา
เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถังเฉาจะต้องถูกจับตัวไปในฐานะของบุคคลอันตรายแน่ๆ!
ถังเฉาพูดยิ้มอย่างนิ่งๆ“ทำให้คุณผิดหวังซะแล้ว ตอนแรกพวกเขาก็มองว่าผมเป็นบุคคลอันตรายนั่นแหละ แต่พอได้ยินมาว่าผมเคยเป็นทหารมาก่อน ก็เลยปล่อยผมออกมา”
ถังเฉาไม่ได้บอกเรื่องที่เศษกระสุนใบมีดภายในร่างกายทำให้สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นออกไป ถึงยังไงก็น่ากลัวมากเกินที่จะฟังแล้ว
ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง!
คนตรงนั้นเข้าใจขึ้นมาทันที
แต่ก็ยังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่ดี
แม้ว่าคนที่เคยเป็นทหารมา รัฐจะให้สิทธิพิเศษอยู่บ้างไม่มากก็น้อย
แต่ก็ไม่ได้มากเกินจริงขนาดนี้นะ!
ที่พอได้ยินว่าเคยเป็นทหารมาก่อน ก็ปล่อยตัวออกมาแล้ว
เว้นแต่ว่าเมื่อก่อนเคยเป็นคนใหญ่คนโตในกองทัพมาก่อน
แต่ถังเฉาใช่เหรอ?
เว่ยหมิงจวินสีหน้าดูถูกดูแคลนไม่น้อย
แค่ดูก็รู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร
“สามี!”
น้ำเสียงที่ตื่นเต้นเรียกดังขึ้นมา หลินชิงเสว่เข้ามากอดถังเฉาเอาไว้ด้วยความตื่นเต้น
พวกหลินฉ่ายเวย หลินจ้าวหยูนก็ตื่นเต้นเช่นเดียวกัน
ถึงยังไงเธอก็รู้สึกไปแล้วว่าอีกหลายปีข้างหน้าจะไม่ได้เจอถังเฉาแล้ว
“พ่อ แม่ ทำให้พวกท่านเป็นห่วงซะแล้ว”
ถังเฉายิ้มทักทายให้กับหลินเจิ้นสงและเหวินเฉี่ยวหรู
แล้วก็ไม่ลืมที่จะพยักหน้าให้กับลั่วเย่นหัว เป็นการทักทายด้วยเช่นกัน
แม่ยายก็พออกพอใจมาก ยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร
“ในเมื่อไม่มีอะไรแล้ว ก็นั่งลงสิ งานเลี้ยงขออภัยในวันนี้ หลักๆแล้วก็คือจัดขึ้นมาให้กับพวกนายนั่นแหละ”
หลินรั่วหวีเรียกให้ถังเฉามานั่งลง
คนมากมายขนาดนี้อยู่ด้วย หลินรั่วหวีก็ไม่กล้าที่จะเปิดเผยเจตนาที่ไม่ดีของตัวเองออกมา
แม้ว่าหลินรั่วหวีกับถังเฉาจะถือว่าเป็นศัตรูกัน แต่จุดเริ่มต้นของพวกเขาทั้งสองคนก็ไม่ได้ผิดกันทั้งคู่ บางครั้งก็เข้าใจซึ่งกันและกัน ชื่นชมซึ่งกันและกัน
ทั้งสองคนเงียบไม่พูดคุย สมานฉันท์ปรองดองกัน นั่นก็เพราะว่าอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย ไม่ว่าจะมีความโกรธเกลียดเคียดแค้นมากมายขนาดไหน ก็ต้องปล่อยวางลง เสแสร้งแกล้งทำเป็นลูกเขยและพ่อตากัน
อาหารดูหน้าตาน่าทานมาก แต่ทุกคนล้วนแต่จับจ้องไปที่เหล้า
หลินรั่วหวีตั้งใจใช้เหล้าขาวเหมาไถที่หลินชิงเสว่ให้มาโดยเฉพาะ สั่งให้เว่ยหมิงจวินรินให้กับทุกคน คนละแก้ว
ให้หลินชิงเสว่ก่อน แล้วถังเฉา
จากนั้นก็ก็หลินเจิ้นสง หลินฉ่ายเวยและเหวินเฉี่ยวหรู
จากนั้นก็ลั่วเย่นหัว
สุดท้ายถึงจะเป็นเว่ยหมิงจวิน
การเรียงลำดับรินเหล้านี้ แสดงถึงความจริงใจในการขอโทษของหลินรั่วหวี
แต่เว่ยหมิงจวินรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก
ถึงยังไงสามีของเธอก็เป็นหัวหน้าตระกูลหลิน แต่กลับวางไว้ซะต่ำขนาดนี้
โกรธก็โกรธ แต่เว่ยหมิงจวินก็ทำตามอยู่ดี
ตอนที่รินเหล้าใบหน้ายิ้มแย้ม“คนครอบครัวเดียวกันทั้งนั้น ทุกคนไม่ต้องเกรงใจ”
คำพูดนี้พูดให้กับหลินเจิ้นสง หลินฉ่ายเวยและเหวินเฉี่ยวหรูที่สถานภาพไม่เทียบเท่ากับพวกเขา
ความหมายก็คือ กำลังบอกว่างานเลี้ยงงานนี้แม้ว่าจะเป็นงานเลี้ยงขออภัยของหลินรั่วหวี แต่ก็อย่ามากเกินไป
หลินเจิ้นสงกับหลินฉ่ายเวยก็รู้สึกประหลาดใจที่ตัวเองได้รับความสำคัญมากขนาดนี้ จึงรีบพูดขึ้นมาทันที“ไม่เป็นไรหรอกครับ พวกเรารินเองได้”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพวกคุณดื่มได้เท่าไร รินเอาเองก็แล้วกัน”
เว่ยหมิงจวินหัวเราะเหอะๆก่อนจะพูดขึ้น ไม่อยากจะรินเหล้าให้จริงๆ
ตึ้ง!
ถังเฉาตบโต๊ะหนึ่งที ทำให้เว่ยหมิงจวินสะดุ้งตกใจ
“ทำไม?”
เว่ยหมิงจวินมองถังเฉาด้วยสีหน้าดำมืด
ถังเฉาพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน“น้าเว่ย คุณไม่ได้ยินเหรอที่พ่อตาของผมพูดเหรอ รินให้กับทุกคน เรียงตามลำดับ ไม่รู้ว่าดื่มเท่าไรก็ไม่เป็นไร รินให้เต็มก็พอแล้ว”
พอคำพูดนี้ออกมา หลินชิงเสว่ก็รู้ว่าถังเฉาจะพูดตบหน้าให้เธอรู้สึกอับอาย ก็นิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร
เว่ยหมิงจวินสีหน้าดูไม่ได้แล้ว
“ควรรินให้เต็ม”
หลินรั่วหวีพูดขึ้น เว่ยหมิงจวินจึงฝืนรินเหล้าต่อไป
แต่เธอรินเหล้าเป็นที่ไหนกันล่ะ?
รินให้เต็มพอเป็นพิธีก็พอแล้ว
ถังเฉาหยุดเธออีกครั้ง“พวกเรามีวัฒนธรรมการดื่มเหล้าของพวกเรา ถ้าจะขอโทษอย่างจริงใจ ก็ต้องรินให้เต็ม น้าเว่ยคุณยังรินไม่เต็มเลย!”
เว่ยหมิงจวินแทบอยากจะตบถังเฉาสักฉาก แต่ก็ยังยิ้มแย้ม รินเหล้าอย่างระมัดระวังต่อไป
สักพัก เธอกะกำลังของตัวเองไม่ถูก ทำให้เหล้าล้นออกมา
ถังเฉาหัวเราะเหอะๆ พูดขึ้น“น้าเว่ย จะรินเหล้า มันต้องรู้จักนิ่ง จะรินจนล้นออกมาไม่ได้นะครับ รินล้นออกมาถือเป็นการไม่เคารพแขกนะครับ แบบนี้คุณต้องดื่มลงโทษตัวเองสามแก้ว”