เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 600
ในขณะนี้ ออร่าบนร่างกายของบ้าบู๊ล้นหลาม เขาดูเหมือนปรมาจารย์บูโด
ฉินกวนฉีและฉินโช่ววงทั้งคู่ดูจนเหม่อ
สีหน้าของมู่ตงเฟิงก็น่าเกลียดมากเช่นกัน
ลูกบุญธรรมของเขาถูกฆ่าต่อหน้าต่อตา ซึ่งเหมือนถูกตบหน้าอย่างรุนแรง
หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป หน้าผู้พิทักษ์แดนตะวันตกของเขาจะเอาไปไว้ที่ไหนในอนาคต?
ดังนั้น เจตนาฆ่าในสายตาของมู่ตงเฟิงจึงลุกโชนอย่างมาก และเขากับบ้าบู๊จะเป็นศัตรูกัน
บ้าบู๊มองไปที่มู่ตงเฟิงอย่างตลกขบขันและพูดด้วยรอยยิ้ม”ตอนนี้ เราสองคนไม่มีใครติดใครแล้ว คุณต้องการที่จะต่อสู้อีกครั้งหรือไม่?”
“สู้อีกครั้ง ผมจะสู้กับคุณ!”
“คุณมู่!”
ข้างๆ ฉินกวนฉีกำลังอุ้มร่างกายของแนสวูตง ด้วยเจตนาฆ่าและความโกรธบนใบหน้าของเขา
ความโกรธและเจตนาฆ่าเหล่านี้ล้วนแสร้งทำออกมา
เขามีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำคนต่อไปของตระกูลฉิน และในฐานะผู้นำ จุดสำคัญประการหนึ่งคือการปกป้องผู้ด้อยกว่า
ฉินสวูตงอยู่ในตระกูลฉินมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นลูกหลานของตระกูลฉิน แต่ถูกฆ่าตายในที่สาธารณะ แม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นบ้าบู๊ ก็ยังต้องขอคำอธิบาย
อย่างไรก็ตาม มู่ตงเฟิงเหลือบมองบ้าบู๊อย่างเย็นชา แต่รัศมีของเขาก็ค่อยๆจางหายไปและเจตนาฆ่าของเขาก็ถูกระงับ
เมื่อเห็นฉากนี้ บ้าบู๊ยิ้มจางๆ “ทำไม เป็นถึงผู้พิทักษ์แดนตะวันตก ก็มีความกลัวด้วยเหรอ?”
สายตาของมู่ตงเฟิงยังคงเย็นชาอย่างยิ่ง “บ้าบู๊ คุณคิดว่าผมกลัวคุณจริงหรือ?”
“คนถูกฆ่าตายแล้ว ผมสู้กับคุณต่อไป มีประโยชน์อะไร?”
ดีนะที่ที่นี่มีคนน้อย และไม่มีใครผ่านไปมา ไม่เช่นนั้นฉากที่มู่ตงเฟิงและบ้าบู๊ต่อสู้กันในตอนนี้ จะทำให้มีการพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์อย่างแน่นอน
ทั้งคู่เป็นบุคคลสาธารณะ และเมื่อถูกขุดคุ้ยออกมาว่าทำไมทั้งสองถึงเกิดความขัดแย้ง จะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของพวกเขา
เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตของฉินสวูตงแล้ว มู่ตงเฟิงให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของเขามากกว่า
“ก็จริง งั้นเรื่องนี้ ก็จบแค่นี้”
บ้าบู๊พูดกับมู่ตงเฟิง
อย่างไรก็ตาม มู่ตงเฟิงเย้ยหยัน “จบ?จบไปได้ไหม? ความแค้นของเราได้สร้างขึ้นแล้ว เมื่อประชุมชายแดนเหนือสิ้นสุดลง ผมจะมาหาคุณ ดูว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”
บ้าบู๊ไม่ได้มีความหลัวแม้แต่น้อย เพียงแค่ยิ้มเบาๆ
“โอเค งั้นจะรอคุณมู่มานะ”
หลังจากพูดเสร็จ เขาวางแผนที่จะกลับไปที่คอร์ทเป่ยซวนอีกครั้ง
สุราของเขายังดื่มไม่เสร็จ เขาจึงต้องกลับไปดื่มต่อ
แม้ว่าคอร์ทเป่ยซวนจะเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว แต่ธุรกิจก็ยังซบเซาเนื่องจากทำเลที่ตั้งห่างไกลจากเมืองและราคาสูง
นี่กลับเป็นไปตามความปรารถนาของบ้าบู๊ เขาแค่ต้องการคุยกับถังเฉา เขาจะเลือกโรงแรม 5 ดาวใจกลางเมืองได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเหตุการณ์นี้ ชื่อเสียงของคอร์ทเป่ยซวนจะได้รับการแพร่หลายอย่างมาก
“คุณมู่!”
เมื่อเห็นบ้าบู๊กำลังจากไป ฉินกวนฉีก็ตะโกนอย่างเร่งรีบอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม คราวนี้ มู่ตงเฟิงไม่ได้ทำอะไรอีก แต่มองดูฉินกวนฉีอย่างเย็นชา
“กวนฉี ผมชื่นชมคุณมาก แต่ผมเคยผ่านอะไรมามากกว่าที่คุณเคยผ่านมา ผมรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่”
มู่ตงเฟิงเตือน
สีหน้าของฉินกวนฉีเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปชั่วขณะหนึ่ง และในที่สุดเขาก็ปิดปากของเขา
คนที่มีความสุขที่สุดคือฉินผู่หยาง
เขาคิดไม่ถึงว่า เพียงแค่เรียกฉินสวูตงออกมา ก็จะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไป
หลังจากแยกทางกับมู่ตงเฟิง ฉินกวนฉีก็หรี่ตาลงลึกๆ และมองไปที่ฉินผู่หยาง “ผู่หยาง ทำได้สวยนิ!”
ฉินผู่หยางหัวเราะและตอบว่า “ไม่เก่งเท่าลูกพี่ลูกน้อง”
ฉินโช่ววงก็มองลึกลงไปที่ฉินผู่หยาง แสงก็ส่องประกายในดวงตาที่ขุ่นมัวของเขา แล้วกลับมาสู่ปกติ
ฉินโช่ววงไม่ได้เข้าไปแทรกแซง กับการแข่งขันระหว่างสองพี่น้อง
เขายังไม่ตาย และผู้นำของตระกูลก็ยังเป็นของเขา ไม่ว่าจะเป็นฉินผู่หยางหรือฉินกวนฉี ที่กลายมาเป็นผู้นำของตระกูล เขาก็วางใจทั้งสอง
การแข่งขันที่ดี จะทำให้ตระกูลแข็งแกร่งขึ้น
เพียงแต่ว่า ตอนนี้ฉินกวนฉีมีข้อได้เปรียบมากกว่าฉินผู่หยาง
จะพลิกสถานการณ์กลับได้หรือเปล่า รอดูกัน
“แก้ไขแล้ว?”
เมื่อบ้าบู๊ขึ้นไปชั้นบน ถังเฉาถามด้วยรอยยิ้ม
บ้าบู๊พยักหน้า แต่ยังมองดูจงฮันที่มีเลือดไหลอย่างเศร้า “น่าเสียดายที่สุดท้ายจงฮันก็กลายเป็นคนไร้ประโยชน์”
ถังเฉายิ้ม “ให้ผู้บ้าการแพทย์มาดู บางทีเขาอาจมีวิธี?”
บ้าบู๊ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที “ผู้บ้าการแพทย์ อยู่ในเจียงเฉิง?”
ถังเฉาพยักหน้า “ไม่เพียงแต่ผู้บ้าการแพทย์ บ้าดนตรีก็อยู่”
คิ้วที่ขมวดของบ้าบู๊ก็คลายออก มีผู้บ้าการแพทย์อยู่ และลูกศิษย์ของเขามีโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับมาได้มาก
ถังเฉายืนขึ้น “ดึกแล้ว เราขอตัวไปก่อน”
บ้าบู๊ยังคงต้องรั้ง แต่ถังเฉายิ้ม “ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เจอกันแล้ว มู่ตงเฟิงมาถึงเมืองเจียงเฉิงในวันนี้แล้ว ดังนั้นงานเปิดประชุมแดนเหนือจึงอยู่ไม่ไกล”
แน่นอนว่าถังเฉาเดาถูก
สองวันต่อมา สมาคมแดนซ์ได้ออกประกาศว่า ประชุมแดนเหนือจะจัดขึ้นที่สนามกีฬาเมืองเจียงเฉิงในอีกสามวันต่อมา
สาเหตุที่กำหนดเวลาไว้สามวันหลังจากนั้น เป็นเพราะจะขายตั๋ว
การแข่งขันกีฬาขนาดใหญ่ทั้งหมด มีเงินทุนไหลออกมานับไม่ถ้วน และนายทุนจำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามาลงทุน
ได้กำไรคืนอย่างไร?
นอกจากการโฆษณา ผลิตภัณฑ์พัฒนาข้างๆแล้ว วิธีโดยตรงและชัดเจนที่สุดคือการขายตั๋ว
มีมู่ตงเฟิง ผู้พิทักษ์แดนตะวันตกอยู่ และคุณบ้าบู๊ รวมไปถึงบุคคลสำคัญทุกประเภทที่ไม่สามารถพบเจอในเวลาปกติ ตั๋วราคาจะไม่ถูกอย่างแน่นอน
แค่ตั๋ว ก็อาจสามารถทำกำไรมหาศาลและนำต้นทุนกลับมาได้แล้ว
ตั๋วที่ขายในออนไลน์ จากตั๋วเริ่มต้นที่หนึ่งพันบาท กลายเป็นตั๋วหลายแสนบาทต่อใบ
“มันบ้าคลั่งจริงๆ”
หลินชิงเสว่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ เธอก็ซื้อมันมาเช่นกัน
แต่เธอซื้อตั้งแต่เริ่มขายตั๋ว
ถ้าช้าไปก็คงซื้อไม่ได้แล้ว
ถังเฉาหัวเราะ “คุณต้องการตั๋วทำไมไม่บอกผมก่อน?”
ถังเฉาโยนตั๋วออกจากอ้อมแขนของเขาโดยตรง
หลินชิงเสว่เบิกตากว้างอย่างเหลือเชื่อ “ทำไมคุณถึงได้ตั๋วมามากมายเช่นนี้?”
เธอได้ยินมาว่า วิธีเดียวที่จะซื้อตั๋วเข้าร่วมประชุมแดนเหนือ มีเพียงซื้อทางออนไลน์เท่านั้น
การขายตั๋วออนไลน์เป็นเรื่องของความเร็วของมือ แย่งตั๋วได้หนึ่งใบก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว ถังเฉาเอาตั๋วมากมายจากที่ใด?
ถังเฉากล่าวอย่างเหมือนมันควรเป็นเช่นนั้นว่า “ทุกคนที่เข้าร่วมประชุมชายแดนเหนือ จะได้รับตั๋วฟรี”
หลินชิงเสว่พยักหน้า “ฉันรู้ แต่คุณได้ขึ้นบัญชีดำในประชุมแดนเหนือไม่ใช่เหรอ? คุณไม่สามารถเข้าร่วมประชุมแดนเหนือ”
กับเรื่องนี้ ถังเฉายิ้มและไม่พูดอะไร แต่พูดว่า “เย่หรูอี้ให้ตั๋วเหล่านี้แก่ผมเพื่อแสดงความจริงใจ คุณเอาตั๋วไปแบ่งเถอะ”
มีตั๋วเหล่านี้ หลินชิงเสว่มีความสุขมาก แต่เมื่อเธอได้ยินชื่อเย่หรูอี้ ใบหน้าของเธอก็มืดลงทันที
เธอพูดอย่างไม่พอใจ “คุณยังติดต่อกับเธออยู่หรือ?”
ถังเฉายิ้มอย่างขมขื่น เขาคิดไม่ถึงว่าหลินชิงเสว่จะหึง จึงปลอบโยนว่า “การติดต่อเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว ใครให้เธอเป็นสมาชิกของตระกูลเย่ล่ะ? ในอนาคตธุรกิจของคุณจะเติบโตและขยายสู่ตลาดเยี่ยนจิง คุณก็ต้องติดต่อกับเธอ”
แน่นอนว่าหลินชิงเสว่ก็เข้าใจหลักการนี้ ส่งเสียงเย็นชาว่า “ฉันจะพาทั้งครอบครัวไปที่ประชุมแดนเหนือ ถือว่าเป็นการไปผ่อนคลาย ตั๋วที่เหลือ ถือเป็นรางวัลให้กับพนักงานที่โดดเด่นของบริษัท”
“นี่ไม่เลวนะ”
ถังเฉาเห็นด้วย
ถังเฉามองไปที่หน้าต่าง แต่สีหน้าของเขาดูเคร่งขรึมเล็กน้อย
สามารถผ่อนคลายได้ไหม?
ไม่รู้ว่าทำไม เขามีลางสังหรณ์ว่าการประชุมชายแดนเหนือครั้งนี้เป็นเพียงฉากที่กองกำลังจำนวนมากปะทะกัน
หลายคนจะจบกันในการประชุมแดนภาคเหนือครั้งนี้
บ้าบู๊และมู่ตงเฟิง
เขาและมู่ตงเฟิง
หลินชิงเสว่และเย่หรูอี้
ฉินผู่หยางและฉินกวนฉี
บ้าดนตรีและฉินกวนฉี
ฯลฯ ฯลฯ ……
และนอกจากนี้ยังมี……
เจียงไป๋เสว่และหลี่เห้า!
มีอีกหนึ่งวันก่อนการเปิดการประชุมแดนเหนือ
ค่ำคืนในเจียงเฉิงนั้นหนาวมากกว่าปกติ ยังรู้สึกหนาวเล็กน้อยก็ตาม
โรงแรมเทียนกง โรงแรมที่ดีที่สุดในเจียงเฉิง
เย่หรูอี้นั่งบนระเบียง รับลมกลางคืน ถือแก้วไวน์แดงในมือ เขย่าเบาๆ
วันนี้ มีแขกพิเศษมาที่โรงแรมของเธอ
ก็คือผู้ชายที่นั่งตรงข้าม
“ลูกพี่ลูกน้อง คิดไม่ถึงว่าเมื่อพบกันอีกครั้ง คุณจะกลายเป็นคุณหนูของตระกูลเย่แล้ว”
ซ่งหมิงเวยอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
แยกทางกันในครั้งที่แล้ว เย่หรูอั้บอกซ่งหมิงเวยเกี่ยวกับนามสกุลจริงของเธอ นามสกุลเย่
ซ่งหมิงเวยยังร้องไห้อยู่เป็นเวลานาน อยู่กันมาสิบกว่าปี จะบอกว่าไม่มีความรู้สึกอะไรนั่นเป็นเรื่องโกหก
เย่อี้หรูยิ้มจางๆ “คุณก็กลายเป็นประธานบริษัทตระกูลซ่งไม้ใช่หรือ? ถังเฉาไม่ได้โกหกคุณ”
ซ่งหมิงเวยยิ้มอย่างเขินอาย “นั่นมันเป็นพี่ต่างหากที่มอบมันให้ผม ไม่เช่นนั้นจะถึงคิวผมได้อย่าง?”
บริษัทตระกูลซ่ง ได้รับการพัฒนาจนไปถึงจุดสูงสุดในมือของเย่หรูอี้ ต่อมาเนื่องจากการกลับมาที่ตระกูลเย่ จึงส่งมอบบริษัทตระกูลซ่งให้ซ่งหมิงเวยเป็นคนดูแล
ซ่งหมิงเวยไม่ได้ทำให้เย่หรูอี้ผิดหวัง อย่างน้อยก็ไม่ได้ถดถอย
“เวลาช่างผ่านไปเร็วเหลือเกิน ชั่วพริบตา ก็ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว…”
ซ่งหมิงเวยพูดอย่างถอนหายใจ
เมื่อก่อน ถังเฉาได้เอาซ่งหมิงเวยเป็นสายลับ และบอกเขาว่า วันหนึ่งเขาจะเข้ามาแทนที่ซ่งหรูอี้
ต่อมา เขาได้เข้ามาแทนที่ซงหรูอี้และกลายเป็นผู้นำตระกูลซ่ง
ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นเรื่องของเมื่อวาน
สายตาของเย่หรูอี้อ่อนโยนลงเล็กน้อย
ในตระกูลซ่งที่ทุกคนต้องการทำร้ายเธอและกลัวเธอ มีเพียงซ่งหมิงเวยเท่านั้นที่เป็นลูกพี่ลูกน้องคนเดียวที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน
เย่หรูอี้อยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้น ก็เห็นรถสีดำจอดอยู่ชั้นล่าง
แสงเย็นวาบในดวงตาของเธอ และพูดกับซ่งหมิงเวย”คุณควรไปจากที่นี่แล้ว”
“หา?”
ซ่งหมิงเวยชะงักไปชั่วขณะ เขามาได้แค่แปปเดียว? ลูกพี่ลูกน้องก็จะไล่เขาออกไปเหรอ
แต่ พฤติกรรมแบบนี้เป็นปกติของซ่งหรูอี้
ซ่งหมิงเวยเกือบจะถูกบังคับให้ออกจากประตูโดยเย่หรูอี้ และช่วยเขากดลิฟต์
ดิงดอง!
ประตูลิฟต์เปิดออก คนในชุดคลุมสีดำหลายคนเดินเข้ามา เกือบเดินสวนกับซ่งหมิงเวย
ซ่งหมิงเวยหันศีรษะโดยไม่รู้ตัว แต่สั่นโดยไม่รู้ตัว
เขารู้สึกถึงเจตนาฆ่า
และยังคงคุ้นเคยเช่นนี้
ในความคิดของซ่งหมิงเวย จู่ๆเขาก็นึกถึงนักฆ่าหญิงที่มีตาสีแดงเป็นเลือด
เขาต้องการดูว่าพวกเขากำลังจะไปไหน แต่ประตูลิฟต์ปิด
หลินโป๋หลาย เฟิ่งหวงและชายในเสื้อคลุมเดินเข้าไปในห้องของเย่หรูอี้โดยตรง
“นั่นลูกพี่ลูกน้องคุณเหรอ?”
ชายเสื้อคลุมพูดด้วยรอยยิ้มที่เหมือนมีแต่ไม่มีบนใบหน้าของเขา
สายตาของเย่หรูอี้ก็มืดมนทันที “ถ้าคุณกล้าทำอะไรกับญาติของฉัน แม้ฉันตาย ฉันก็จะลากคุณไปตายด้วยกัน!”
ชายในชุดคลุมยิ้ม“คุณไม่มีความสามารถนี้ นอกจากนี้ ผมก็ไม่สนใจที่จะใช้สิ่งนี้เพื่อข่มขู่คุณ”
“ประชุมแดนเหนือจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ ผมแค่อยากมาตรวจสอบแผนกับคุณ”