เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 613
เมื่อชื่อของ’ เจ้ามังกร ‘ ได้ถูกประกาศออกมาแล้ว ผู้คนทั้งโรงยิมต่างเงียบกริบ
ดูเหมือนทุกคนจะนิ่งสงบลง สายตาราวกับไร้ซึ่งจิตวิญญาณและจ้องมองไปยังพิธีกรที่ยืนอยู่ตรงกลางสนาม
ซึ่งแม้แต่มู่ตงเฟิงเอง ก็ยังจ้องด้วยสายตางงงวย บ่งบอกได้ถึงความตกใจ
เจ้ามังกร!
หากเป็นผู้คนที่อาศัยอยู่ในต้าเซี่ยก็คงไม่เคยมีใครที่ไม่ได้ยินชื่อนี้!
เจ้ามังกรแห่งแดนเหนือ เจ้าแห่งปราณมังกร ที่ที่มีเขาอยู่จะต้องปลอดภัยที่สุด
เขาคือเทพหนุ่มแห่งสงครามที่ปกป้องประเทศตั้งแต่แรกเริ่ม
บนเขาโยวเหิงนั้น เป็นผู้พ่ายแพ้ครั้งใหญ่ต่อเก้ากษัตริย์ผู้ปรีชา แต่ยังชูความน่าเกรงขามของต้าเซี่ยออกมา
เขายอมที่จะอยู่ใต้คนผู้เดียว แต่อยู่เนื้อคนนับหมื่น
มีคนเคยเล่าต่อกันมาว่า เจ้ามังกรได้บรรลุถึงจุดสุดยอดไปนานแล้ว ถึงแม้เจ้าแห่งสามแดนใหญ่จะมาร่วมมือกัน ก็ไม่สามารถปราบเจ้ามังกรที่ใช้เพียงมือเดียวได้
คนแบบนี้ จะมาเข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือแน่เหรอ?
ถ้าอยู่ในสนามแข่งจริงคนอื่นก็คงไม่กล้าแม้แต่จะคิด!
” เจ้ามังกร…. ”
” มาแล้วเหรอ?! ”
หลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูน ลั่วเย่นหัวและคนอื่นๆ ต่างตั้งตารอ ในใจราวกับมีคลื่นกำลังซับกระหน่ำเข้ามา
นี่มันเรื่องที่คาดไม่ถึงเสียจริง!
คนนับไม่ถ้วนกำลังเริ่มกว่าตาทั่วบริเวณสนามแข่ง เพื่อที่จะตามหาเจ้ามังกรที่ว่านั้น
จากนั้น หากันอยู่ ก็ไม่มีใครเจอแม้แต่ร่องรอยเงาของเจ้ามังกร
เพราะว่า พวกเขาไม่รู้ว่าเจ้ามังกรหน้าตาเป็นเช่นไรต่างหาก!
แต่ว่า สิ่งนี้ก็ไม่สามารถขัดขวางเสียงของผู้คนในงานแข่งขันแดนเหนือที่เจี๊ยวจ๊าวได้
ไม่ว่าจะผู้ชมหรือว่าผู้เข้าแข่งขัน สีหน้าไม่ได้แสดงออกแค่ความตื่นเต้นเพียงเท่านั้น แต่สีหน้ายังแสดงราวกับ กำลังมองเห็นไอดอลของตัวเองอย่างไรอย่างนั้น
แต่ก็ยังมีบางคนที่ไม่กล้าเชื่อ
” เป็นไปไม่ได้ นี่มันเป็นไปไม่ได้จะชัดๆ ”
ราชนิกุลตระกูลเย่ตรงนี้ หญิงสาวคนหนึ่งมีสีหน้าขาวซีด ร่างกายสั่นสะท้าน ปากเอาแต่พร่ำบ่นประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมา
คนคนนั้นก็คือเย่เซ่าเตี๋ย
เธอทำตัวราวกับว่าเห็นผี ตาทั้งสองข้างเบิกโพลงและมองไปยังเย่หรูอี้ที่อยู่ข้างๆ อย่างไม่เชื่อสายตา
” เจ้ามังกร คือคำที่เธอตะโกนออกมาใช่ไหม? ”
น้ำเสียงของเย่เซ่าเตี๋ยสั่นไหว
มุมปากของเย่หรูอี้ยกขึ้นมา ก่อนจะหัวเราะเบาๆ ” แน่นอน ”
ตู้ม!
เมื่อคำนี้ออกมา สีหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยตกใจจนถึงขีดสุด พร้อมกัดฟันแน่น แล้วไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ก่อนหน้านี้เธอพูดอวดอ้างกับเย่หรูอี้ว่าเธอมีนักสู้ที่ฝีมือดีอย่างหงเทียนเฉิน
สรุปพอมองกลับไป เย่หรูอี้ก็ไปหาเจ้ามังกรมาจนได้
และนี่ก็คือเจ้ามังกรแดนเหนือ!
ผู้รักษาและคุ้มครองต้าเซี่ย!
ถ้าเขาเข้าร่วมการแข่งขันงานแข่งขันแดนเหนือนี้ ใครจะกล้าอะไรได้ล่ะ?
เจ้ามังกรไม่มีผู้ใดเทียบเทียมได้
เพียงหมัดเหล็กคู่ดุจป้อมปราการคู่นั้นไม่มีผู้ใดเหมือน!
เย่หรูอี้ไม่มีอะไรที่จะต้องสนใจเย่เซ่าเตี๋ย
ในสายตาของเธอ ผู้คนมากมายก็เหมือนกับตัวตลกตัวหนึ่ง แล้วยิ่งเป็นเย่เซ่าเตี๋ย ก็เป็นแค่ตัวตลกตัวหนึ่งที่ดูฉลาดขึ้นมาหน่อยแค่นั้น
ซึ่งเธอไม่ได้ใส่ใจอะไรตั้งแต่แรกแล้ว
เธอมีแผนที่ใหญ่กว่านั้น
สายตาของเย่หรูอี้ มองผ่านกลุ่มคนมากมาย และไปตกอยู่ที่ตัวของถังเฉา
ถังเฉาเองก็ส่งสายตากลับมาพอดี
สายตาที่ดูเหมือนจะพูดได้ของเย่หรูอี้แฝงไปด้วยความกังวล เธอมองไปยังถังเฉา
นี่เป็นแผนระหว่างพวกเขาสองคน แต่ที่แท้ก็ใช้ชื่อเสียงของเจ้ามังกรในการเข้าร่วมแข่งขัน
ใครจะไปรู้ว่าผลลัพธ์ที่ตามมาจะเป็นเช่นไร
ถังเฉาไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิด แถมใบหน้ายังเป็นรอยยิ้มจางๆ
ณ เวลานี้ ก็เริ่มมีคนที่จะคาดเดาว่าเพราะเหตุใดเจ้ามังกรถึงมาร่วมแข่งขันในงานแข่งขันแดนเหนือ
มู่ตงเฟิงก็อยากรู้คำตอบของปัญหานี้เช่นกัน
แต่ละคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็ไม่ใช่คนโง่ แต่กลับกัน เป็นคนที่ฉลาดและเฉียบคม
สุดท้าย พวกเขาก็ลงมติออกมา : เจ้ามังกรก็มาเพื่อรักษาเกียรติอันสูงส่งของ ‘ เจ้ามังกร ‘ เอง!
” เหตุผลที่จัดงานแข่งขันแดนเหนือนี้ ก็เป็นเพราะว่าเจ้ามังกรนักรบแดนเหนือได้จากไปแล้ว ไม่มีใครที่จะปกป้องและรักษา ดังนั้นจึงจัดงานนี้ขึ้นเพื่อคัดเลือกเจ้ามังกรคนใหม่ คงจะเป็นเพราะเจ้ามังกรรู้ถึงจุดมุ่งหมายในการจัดงานครั้งนี้ ก็เลยใช้สถานะของ ‘ เจ้ามังกร ‘ เองเข้ามาไงล่ะ! ”
มีคนพูดอธิบายออกมา
ส่วนทางตระกูลฉิน สีหน้าของฉินโช่ววงและฉินกวนฉีเปลี่ยนไปจนแทบจะดูไม่ได้
เพราะว่าหากเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็ การที่พวกเขาจะเป็นแชมป์ ก็แทบจะไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้เลยสิ
แม้แต่ตัวมู่ตงเฟิง ก็คงไม่สามารถเป็นคู่แข่งของเจ้ามังกรได้
ถ้างั้นการจัดงานงานแข่งขันแดนเหนือ จะไปมีความหมายอะไรล่ะ?
” อะฮึ่ม อะฮึ่ม! ”
ตอนนี้ เหมือนว่าพิธีกรจะสังเกตได้ถึงความผิดปกติของงาน จึงกระแอมออกมาสองครั้ง
พร้อมอธิบายต่อ ” แขกทุกท่านอย่าเข้าใจผิดไป ‘ เจ้ามังกร ‘ ในที่นี้น่ะ ไม่ใช่’ เจ้ามังกรแดนเหนือ ‘อย่างที่ทุกคนคิดถึงหรอกครับ ”
” นี่เป็นเพียงรหัสประจำตัวชื่อหนึ่งเท่านั้น ”
” ผู้ที่เข้าร่วมการประลอง มีหลายคนไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยชื่อจริง ดังนั้นจึงใช้ชื่อเรียกแทนชื่อของตนเอง คุณ ‘ เจ้ามังกร ‘ ท่านนี้ ก็ใช้วิธีนั้นเช่นเดียวกัน ”
ตู้ม!
หลังจากที่พิธีกรได้แนะนำเสร็จสิ้น คนในโรงยิมต่างฝ่ายต่างเก็บอาการกระสับกระส่ายนั้นไว้ได้
ไม่ความหมายของพิธีกรก็คือ ‘ เจ้ามังกร ‘ ที่ไม่ใช่ ‘ เจ้ามังกร ‘
เพียงแค่มีคนใช้ชื่อของเจ้ามังกรแอบอ้าง เพื่อหวังที่จะทำให้ยกระดับชื่อเสียงและตำแหน่งของตัวเองขึ้นมา
ตระกูลฉินกับ ตระกูลถังและ ตระกูลใหญ่ที่ร่วมแข่งขันงานแข่งขันแดนเหนือนี้ ต่างนิ่งสงบราวกับได้กินยาระงับอารมณ์ยังไงยังงั้น
เพียงแค่ไม่ใช่เจ้ามังกรที่มาด้วยตัวเอง ก็คงไม่มีใครมีปัญหาอะไร
เย่เซ่าเตี๋ยเองก็ถอนหายใจ เช็ดเหงื่อที่หน้าผากของตน ก่อนจะหันไปมองเย่หรูอี้อย่างเอาเป็นเอาตาย
เพียงแค่นึกถึงตอนที่เย่หรูอี้ทำให้ตัวเองตกใจจนน่าเกลียดออกมา ก็ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความอัปยศอดสูอย่างใหญ่หลวงมากเท่านั้น!
” เย่หรูอี้ เธอรู้มั้ยว่าตัวเองทำอะไรผิด? ในราชนิกุลของตระกูลเย่ตั้งโดนเธอทำลายหมดแล้ว ”
เย่เซ่าเตี๋ยเหวี่ยงใส่เย่หรูอี้อย่างเย็นชา
เย่หรูอี้หันหน้ามาด้วยท่าทีสูงส่ง ก่อนจะกวาดสายตามองเธอ แล้วตอบกลับไปว่า ” ฉันทำอะไรงั้นเหรอ? ”
” นี่เธอกล้าที่จะหาคนมาสวมรอยเจ้ามังกร แล้วยังเป็นตัวแทนของตระกูลเย่เข้าร่วมการแข่งขันงานแข่งขันแดนเหนือ เธอไม่รู้หรอกว่าผลกระทบมันจะเร็วร้ายมากแค่ไหน? ”
เย่เซ่าเตี๋ยด่ากราดเย่หรูอี้ยกใหญ่ ก่อนจะมอบฉายาให้เธอ
” เจ้ามังกรคือเทพเจ้าที่คอยปกปักรักษาประเทศนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม ใครกล้าเอาชื่อของเจ้ามังกรไปแอบอ้าง ถ้าถูกเจ้ามังกรตัวจริงรู้เข้า เธอไม่ได้จบเห่แค่คนเดียวเท่านั้น แต่ทั้งตระกูลเย่จะพากันซวยไปด้วยทั้งหมด! ”
” เรื่องนี้ฉันต้องถูกเรียนให้แม่เฒ่าทราบอยู่แล้ว! ก็ให้หล่อนช่วยปลดเปลื้องความผิดให้เธอสิ! ”
เย่เซ่าเตี๋ยกดเสียงพูดออกมา
ตอนแรกก็คิดว่าเย่หรูอี้จะรู้สึกกลัว แต่ไม่นึกเลยว่าสายตาของเย่หรูอี้จะยังคงดูนิ่งสงบ แม้แต่ความรู้สึกอื่นก็ไม่มีเผยออกมา
” ก็ตามใจเธอ ”
” นี่เธอ……. ”
เย่เซ่าเตี๋ยถลึงตายกใหญ่ มองเย่หรูอี้ด้วยสายตาที่คาดไม่ถึง
ถ้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่า ยังมีอะไรถึงได้ทำตัวกำเริบเสิบสานเช่นนี้ได้อีก
แต่ว่ายิ่งเย่หรูอี้เป็นเช่นนี้ เย่เซ่าเตี๋ยก็ยิ่งรู้สึกดีใจ
เพราะเธอไม่ได้ช่วยเหลืออะไรตระกูลเย่เลยนี่นะ ทั้งยังสร้างความเดือดร้อนให้กับตระกูลเย่อีกต่างหาก!
นี่มันแมงดาชัดๆ ใช่ไหมล่ะ!
ในขณะเดียวกัน ทั่วทั้งโรงยิมเริ่มจะเละเทะขึ้นเรื่อยๆ
คนในงานต่างเริ่มเสวนาเกี่ยวกับ ‘ เจ้ามังกร ‘ ผู้นี้เป็นใคร ถึงได้ห้าวหาญขนาดนี้ กล้าเสี่ยงที่จะสวมรอยชื่อเป็นเจ้ามังกร!
” กล้าดีเด่จริงๆ นี่เขาไม่กลัวคนทั้งประเทศประณามกันหรือยังไง? ”
” เจ้ามังกรเป็นใคร ยืนขึ้นมา! ให้คำอธิบายกับทุกคนเดี๋ยวนี้ทำไมถึงแอบอ้างชื่อ ‘ เจ้ามังกร ‘เป็นรหัสชื่อ ”
” ถ้าอธิบายไม่เข้าใจ นายก็อย่าริอ่านเข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือ! ตระกูลเย่ก็จะไม่ได้เข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือเช่นกัน และยังต้องถามหาความรับผิดชอบด้วย! ”
ตรงมุมโรงยิม
คนที่สวมผ้าคลุมมองเฟิ่งหวงด้วยสายตานิ่งๆ
เมื่อเห็นในตาของเฟิ่งหวงมีความเลิ่กลั่กออกมา แต่สุดท้ายก็เก็บอาการไว้ได้
เธอยังลืมช่วงเวลาที่ได้ติดตามนายน้อยในตอนนั้นไม่ได้
ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาอันแต่มันช่างสวยงามเหลือเกิน
” เฟิ่งหวง เธอพูดมา ว่าใครคือเจ้ามังกร ก็จะยืนขึ้นมาไหม? ”
เฟิ่งหวงเงียบไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้า ” ไม่รู้สิ ”
เสียงกร่นดาเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกคนตรงนั้นแทบจะหลับไม่ได้ ไอ้คนไร้ชื่อที่แอบใช้นามของเจ้ามังกร
เย่เซ่าเตี๋ยยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็นแล้วหันไปมองเย่หรูอี้ ” เธอเป็นคนทำพังทุกอย่าง หากตระกูลเย่ของเราไม่ได้เข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือ เผื่อจะต้องชดใช้! ”
เย่หรูอี้ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น
ในขณะที่มีเสียงกร่นด่านั้น ถังเฉาก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมา