เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 614
ตอนนี้ผู้คนทั้งหมดในโรงยิมต่างนั่งกับที่ มีเพียงถังเฉาคนเดียวที่ลุกขึ้นมา ทำให้เด่นต่อสายตาผู้คนทั่วบริเวณ
พิธีกรเมื่อหันไปเห็นถังเฉาแล้ว
” คุณคือเจ้ามังกรงั้นเหรอ? ”
พิธีกรชี้ไมค์ไป ก่อนจะมองถังเฉาด้วยความตกตะลึง
เพื่อที่จะรับรองในสิ่งที่เห็น เขาก็รีบวิ่งขึ้นไปยืนอยู่ข้างถังเฉา
” ถังเฉา นายทำอะไรเนี่ย? ”
หลินชิงเสว่ที่อยู่ข้างๆ หน้าซีดเผือด และมองไปที่ถังเฉาและความคาดไม่ถึง
ก่อนจะพยายามชุดให้ถังเฉานั่งลงมา แต่ดูเหมือนว่าถังเฉาจะยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง
ด้วยความที่ถังเฉางั้นยืนขึ้น ความวุ่นวายเจี๊ยวจ๊าวในโรงยิมก็กลับมานิ่งสงบอีกครั้ง
ทุกคนก็มองไปทางถังเฉาเมื่อสายตาที่คาดไม่ถึงเช่นเดียวกัน
น้ำเสียงกร่นด่านั้นหนักหนา ว่าคนที่ยืนขึ้นมาในตอนนี้ ก็คือ’ มือสังหาร ‘ผู้ที่แอบอ้างชื่อของเจ้ามังกร!
” ถ้างั้นไอ้หนุ่มลุกขึ้นมาทำอะไร? อย่าบอกนะว่าเขาคือเจ้ามังกร? ”
ทางด้านตระกูลเย่ เย่เซ่าเตี๋ยเบิกตากว้าง มองไปยังถังเฉาอย่างตกตะลึง
เย่หรูอี้ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตามองไปที่เขายังร้อนรน
” เขากำลังทำอะไรเนี่ย…. ”
เย่หรูอี้เองก็กระวนกระวายใจ หรือเขาอยากจะยอมรับว่าตอนนี้เขาคือเจ้ามังกรงั้นเหรอ?
ก่อนหน้านี้ถังเฉาก็โดนสมาคมต่อสู้แบน ไม่อนุญาตให้เข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือ
ถังเฉาจึงใส่หน้ากาก และสวมชื่อ’ เจ้ามังกร ‘ นายเข้าร่วมการต่อไป เดิมทีก็คงเป็นเพราะโชคช่วย
แต่ตอนนี้เขายอมรับ นี่มันไม่ใช่สำนวนที่ไม่มีเงินสามร้อยตำลึง ที่หมายความว่ายิ่งปกปิดยิ่งเปิดเผยไม่ใช่เหรอ?
ตระกูลหลิน ตระกูลถัง ตระกูลฉินฝั่งนั้น สายตาก็จับจ้องมายังถังเฉา
ถังเฉา จะพูดอะไรน่ะ?
พิธีกรยื่นไมค์ไปตรงหน้าของถังเฉา กล้องถ่ายทอดสดทางทีวีก็หันมาทางถังเฉาเช่นกัน
ตอนนี้เขาถูกสายตานับหมื่นจับจ้องอยู่
ถังเฉายิ้มออกมาเล็กน้อย ” ผมไม่ใช่เจ้ามังกร ผมก็เป็นคนเหมือนพวกคุณทุกคน เป็นคนที่แสนจะธรรมดา ”
” แต่ผมมีคติบางอย่างที่อยากจะพูดซักประโยค ”
” ‘ เจ้ามังกร ‘ชื่อนี้ มีผู้ใดเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์งั้นเหรอ ชื่อก็เป็นเพียงรหัสประจำตัวเท่านั้น จะมีหรือไม่มีก็ช่าง คุณสามารถชื่อเจ้ามังกร ผมก็สามารถชื่อเจ้ามังกรได้ ได้ทุกคนเองก็สามารถใช้ชื่อเจ้ามังกรได้เช่นกัน ”
” บรรทัดฐานแรกของเจ้ามังกรคือการปกปักรักษาประเทศ แต่ไม่ได้หมายถึงโชคลาภช่วยถึงพึงมี ”
ถังเฉาถือไมค์ขึ้นมา แล้วพูดเนิบๆ ทั่วทั้งโรงยิมต่างตอบรับเสียงของเขา ไม่ได้แยกกันไปไหน
เสียงด่าที่บ้าระห่ำจากผู้คนค่อยๆ เบาลง
จริงอย่างที่ว่า เจ้ามังกรไม่ได้เป็นของใครเพียงผู้เดียว มันเป็นเพียงแค่ชื่อเรียกเท่านั้น
แต่ว่า พวกเขาก็คงทนไม่ได้ที่มีคนเอาชื่อเจ้ามังกรไปแอบอ้าง
” พวกคุณจะด่าก็ได้ แต่เพียงแค่เพราะว่ารูปลักษณ์วีรบุรุษของเจ้ามังกรได้ฝังรากลึกลงไปในหัวพวกคุณแล้ว ไม่มีใครที่สามารถทำลายกฎพวกนี้ได้ ”
” พวกคุณอาจจะรู้สึกเหนื่อยล้า เมื่อถึงตอนนั้นก็จะมีคนทำลายกฎนี้เอง ทำลายพันธนาการทางความคิด เดี๋ยวสักพักพวกคุณก็คงจะรับได้กันเอง ”
ถังเฉายังคงพูดต่อไป แล้วพูดออกไปเนิบๆ
ในที่สุด ผู้คนก็เริ่มที่จะรับได้แล้ว
พวกเขาเริ่มที่จะมองว่า ‘ เจ้ามังกร ‘งั้นมีความเป็นมาอย่างไร
เมื่อพูดจบ ถังเฉาก็นั่งลง
ถังเฉาไม่ใช่เจ้ามังกร สีหน้าท่าทางของพิธีกรดูผิดหวัง
แต่ว่าเมื่อมองอย่างละเอียดอีกที สิ่งที่ถังเฉาพูดมานั้นก็มีเหตุผล เจ้ามังกรที่แท้จริงจะมาเข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือได้อย่างไร?
เย่หรูอี้ถอนให้ใจยกใหญ่ ถ้าเป็นเพราะชื่อเรียกเจ้ามังกรแล้วโดนต่อต้านตระกูลเย่ของเธอแล้วล่ะก็ จากที่เธอต้องการสร้างชื่อกลับกลายเป็นปล่อยไก่คนดูเสียอย่างนั้น
โชคยังดี ถังเฉาได้แก้ปัญหาทั้งหมดไปแล้ว
ในขนาดนั้นเอง เสียงของเย่เซ่าเตี๋ยก็ดังเข้าหู
” ให้ฉันแนะนำนะ ก็ให้ตระกูลเย่แบ่งออกเป็นสองทีมเพื่อต่อสู้กันสิ! ”
เย่หรูอี้หันขวับทันที และมองไปที่เธออย่างหน้าตาย ” เย่เซ่าเตี๋ย พูดอะไรของเธอน่ะ? ”
” เธอหุบปากเดี๋ยวนี้เลยนะ! ”
เย่เซ่าเตี๋ยตะคอกออกมา จากนั้นก็หันไปพูดกับพิธีกร ” ทุกคนก็เห็น ว่าจำนวนคนที่เข้าร่วมจากตระกูลเย่มันมากเกินไป มันจะไม่ค่อยยุติธรรมกับตระกูลอื่นเท่าไหร่ ดังนั้นฉันก็เลยแนะนำว่าอยากให้ตระกูลเย่แบ่งออกเป็นสองกลุ่มแล้วสู้กันเอง แบบนี้ก็น่าจะยุติธรรมดีนะ ”
เมื่อคำพูดหลุดออกไปแล้ว ตระกูลอื่นที่เข้าร่วมงานแข่งขันแดนเหนือก็ยิ้มกันราวกับดอกไม้บานสะพรั่ง
ผู้เข้าแข่งขันจากตระกูลต่างๆ ก็กังวลเกี่ยวกับคู่ต่อสู้ของตระกูลเย่ที่มีจำนวนไม่น้อย หากไม่รู้ความสามารถที่แท้จริง แต่เมื่อพูดถึงตัวเลขและจำนวนทำให้รู้ว่าได้เปรียบเป็นอย่างมาก
ซึ่งแม้แต่ตระกูลฉิน ตระกูลถังราชนิกุลเยี่ยนตู ก็เป็นกังวลเช่นกัน
แต่เย่เซ่าเตี๋ยกลับเป็นคนเรียกร้องให้คนของตระกูลเย่แยกออกเป็นสองกลุ่มเสียงเอง และสู้กัน
คนที่ได้กำไรก็คือพวกเขาน่ะสิ!
” เย่เซ่าเตี๋ย นี่เธอบ้าไปแล้วหรือไง? ”
เย่หรูอี้โกรธเป็นฟืนเป็นไฟจนแทบจะระเบิด ใช้สายตาเย็นยะเยือกมองไปที่เย่เซ่าเตี๋ย และพูดออกมาอย่างโกรธเคือง
” งานแข่งขันแดนเหนือไม่ได้จำกัดจำนวนตัวแทนของแต่ละตระกูลเพื่อออกไปต่อสู้ จำนวนคนยิ่งมาก ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อตัวเรา แล้วเธอจะทำเรื่องไร้สาระพวกนี้ไปทำไม! ”
เย่เซ่าเตี๋ยยิ้มเย็น เธอก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ” แล้วจะทำยังไงล่ะ เพราะคนที่เป็นตัวแทนออกรบของตระกูลเย่ในครั้งนี้ก็คือเธอ ไม่ใช่ฉัน ถึงสุดท้ายแล้วตระกูลเย่จะแพ้ คนที่รับผิดชอบก็ควรจะเป็นเธอสิ แล้วก็ไม่ใช่ฉัน ”
พอพูดถึงสุดท้าย ใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยก็แสดงรอยยิ้มที่ดูดุร้ายออกมา
ตอนแรกก็คิดว่าตัวปลอมที่เย่หรูอี้เอามาอ้างชื่อเจ้ามังกรเพื่อร่วมงานแข่งขันแดนเหนือ จะต้องทำให้ผู้คนไม่พอใจแน่ ไม่นึกเลยว่าจะรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
ผลลัพธ์ที่ออกมาแบบนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เย่เซ่าเตี๋ยพอใจนัก ไม่ว่าวิธีไหนที่สามารถทำลายเย่หรูอี้ได้ เธอก็จะใช้มันทั้งหมด
สีหน้าของเย่หรูอี้ดูนิ่งสงบราวกับน้ำ ” เธอที่คิดวิธีให้มาสู้กันเอง ถ้าคนในตระกูลรู้แล้วก็ คนที่จะถูกลงโทษว่าคงจะเป็นเธอน่ะสิ ”
เย่เซ่าเตี๋ยพยักหน้า ” ก็ไม่ผิดซะทีเดียว ฉันจะรับบทลงโทษอยู่แล้ว แต่เธอยังหวังว่าจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเลย! ”
” ถึงฉันจะทำผิดใหญ่กว่านี้ การรับโทษก็เห็นแค่เรื่องชั่วคราวเท่านั้น แต่ไม่เหมือนกับเธอหรอกนะ นี่เป็นครั้งแรกของเธอ แถมยังโคงเคลงแบบนี้ ถ้าทำผิดขึ้นมาแล้วก็ เธอเตรียมตัวไสหัวไปได้เลย ฮ่าฮ่าฮ่า….. ”
เย่เซ่าเตี๋ยเปิดเผยรอยยิ้มที่บ้าคลั่งออกมา
” มันคงไม่เป็นตามที่เธอหวังหรอก ”
เย่หรูอี้ตอกกลับอย่างเย็นชา
ต่อมา เธอก็รีบคัดค้านมู่ตงเฟิงว่าที่พิธีกรอย่างไว ” ฉันไม่เห็นด้วย ฉันเป็นตัวแทนของตระกูลเย่ นโยบายทั้งหมดควรจะเป็นฉันที่ตัดสินใจสิ! ”
ส่วนทางสมาคมต่อสู้ หงเทียนหยาแค่ยิ้มมองมาอย่างเยือกเย็น แล้วหันไปมองทางมู่ตงเฟิง
” คุณมู่ คุณคิดยังไงครับ? ”
มู่ตงเฟิงไตร่ตรองสักพัก ก่อนจะพยักหน้าตาม ” ไม่เลว งานแข่งขันแดนเหนือให้ความสำคัญกับความยุติธรรม คนตระกูลเย่ของคุณเยอะแบบนี้ ดูไม่ค่อยจะยุติธรรมกับคนอื่นเท่าไหร่นะ ”
” แยกเป็นสองกลุ่มนั่นแหละ ลดจำนวนคนหน่อยนึง ”
เมื่อคำพูดออกมาแล้ว สีหน้าของเย่หรูอี้ก็เปลี่ยนไปทันใด
” คุณมู่! ”
เธอยืนขึ้นแล้วตะโกนออกมา แต่ก็ไม่มีใครสนใจเธอเลยสักคนเดียว
สุดท้ายแล้วผู้ลงสมัครของตระกูลเย่ ก็จำใจต้องแบ่งเป็นสองกลุ่ม
เย่หรูอี้นั่งหน้าบูด โกรธจนตัวสั่น
” ฮ่าฮ่าฮ่า…….เย่หรูอี้ เธอจบเห่แล้ว! ”
เย่เซ่าเตี๋ยที่อยู่ข้างๆ นั่งขำจะยกใหญ่ ราวกับเห็นจุดจบเย่หรูอี้มันน่ารันทดเพียงใด
” ฉันทางนี้มีผู้ชนะอันดับสองของเมืองเจียงเฉิงสมาคมต่อสู้ คุณหง ส่งของเธอทั้งนั้นใครจะสามารถสู้กับคุณหงได้ล่ะ? ”
” หากตระกูลเย่ไม่ได้คลองแชมป์งานแข่งขันแดนเหนือในครั้งนี้ เธอก็ต้องไสหัวไปจากตระกูลเย่ซะ! ”
กริ๊ง กริ๊ง!
ขนาดนั้นเอง โทรศัพท์ของเย่หรูอี้ก็ดังขึ้น
เมื่อเย่หรูอี้รับสาย ก็ได้ยินเสียงถังเฉาพูดออกมานิ่งๆ
” แบ่งเป็นสองกลุ่มตามที่เขาบอกนั่นแหละ ความเจ้าเล่เพทุบายทั้งหมด ในความเป็นจริงนั้นมันจะต้องอ่อนแออยู่แล้ว ”
เย่หรูอี้สูดหายใจเข้า แล้วพูดกับเย่เซ่าเตี๋ย ” ฉันเย่หรูอี้ พูดคำไหนคำนั้น! ”
” ดี! เธอพูดเองนะ! ”
สีหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยเต็มไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้น เธอรอคำนี้ของเย่หรูอี้มานานแล้ว
เหมือนกลัวว่าเธอจะกลับคำพูด เย่เซ่าเตี๋ยก็หันไปพูดกับเย่อู๋เหินที่อยู่ข้างหลังเธอว่า ” ลุงเย่ได้ยินมั้ยคะ? สิ่งที่เย่หรูอี้พูดเมื่อกี้ ถ้าไม่ได้แชมป์ของงานแข่งขันแดนเหนือ ตัวเองก็จะออกจากตระกูลเย่! ”
เย่อู๋เหินฉันไปมองเย่หรูอี้หนึ่งที แล้วก็ถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้ารับ
เย่หรูอี้ก็หันหน้ากลับมามองเย่อู๋เหิน
เฟิ่งหวงเคยเตือนเธอว่า ต้องระวังเย่อู๋เหินเอาไว้ให้ดี เธอจึงจำแต่ประโยคนั้น
ในตอนนี้ มู่ตงเฟิงค่อยๆ ลุกขึ้นมา มองเราไปยังผู้คนแล้วพูดว่า ” ตอนนี้ผมจะประกาศ งานแข่งขันแดนเหนือ เปิดพิธีอย่างเป็นทางการ แล้วตอนนี้ขอให้ผู้เข้าแข่งขันกลุ่มแรกออกมาแสดงได้ ” ผู้เข้าแข่งของแต่ละตระกูลที่แข็งแกร่งค่อยๆ ทยอยกันไปรอหลังเวที
ขนาดนั้น ถังเฉาก็ลุกขึ้นมา
หลินชิงเสว่ก็คว้ามือของเขาเอาไว้: ” จะไปไหน? ”
ถังเฉายิ้มๆ : ” พอดีมีงานเข้ามานิดหน่อย ผมจะไปจัดการ ”
หลินชิงเสว่ทำทีกึ่งเชื่อกึ่งสงสัยก่อนจะปล่อยมือ
ถังเฉาลุกออกไปจากที่นั่ง จากนั้นก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสีดำ แล้วยังใส่หน้ากากเล็กสะท้อนแสงอีกต่างหาก
ถ้าหากมีคนแดนเหนืออยู่ที่นี่แล้วล่ะก็ ต้องถูกจำได้แน่ๆ เพราะนี่คือสัญลักษณ์ของกองทัพปราณมังกรแดนเหนือ
…….
หน้าห้องพักของโรงยิม ผู้เข้าแข่งขันมากมายก็พักผ่อนและรอการแข่งขันอยู่ตรงนั้น
ถังเฉายืนอยู่มุมหนึ่งเพียงคนเดียว ปลีกวิเวกคนเดียว ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็คงไม่เห็นว่าเขายืนอยู่ตรงนั้น
เย่เทียนหลงก็อยู่ข้างๆ เขา
เบาเป็นจำนวนน้อยที่รู้สถานะปิดบังของถังเฉา
ในขณะนั้นเอง ใช่ที่รูปร่างสูงและดูแข็งแกร่งราวกับเสาเหล็ก ก็เดินตรงมายังถังเฉา
” นายก็คือคนที่ใช้ชื่อ ‘ เจ้ามังกร ‘ เป็นรหัสประจำตัวยังงั้นน่ะเหรอ ”
ชายหนุ่มที่ดูเหมือนเสาเหล็ก นั่นก็คือน้องชายแท้ๆ ของหงเทียนหยา หงเทียนเฉิน
เขายิ้มกริ่มและมองไปยังถังเฉา
” คุณจะทำอะไร? ”
เย่เทียนหลงทำหน้านิ่ง แล้วก็มีใครบางคนสาวเท้าพุ่งปราดไปข้างหน้าอย่างเร็วเพื่อดิ่งไปยังถังเฉากับหงเทียนเฉิน
” เทียนหลงไม่ต้องเข้ามา ”
ถังเฉาก็โพล่งขึ้นมา
เย่เทียนหลงสงสัยได้เพียงไม่กี่อึดใจ สุดท้ายก็ถอยไปฝั่ง
” มีปัญหาเหรอ? ”
ถังเฉาตอบโต้นิดๆ
ภายใต้หน้ากากเหล็กนั่น มีเพียงดวงตาที่เย็นยะเยือก จ้องมองไปยังหงเทียนเฉิน
” ไม่มีปัญหาอะไร ”
หงเทียนเฉินยิ้มเย็น : ” ฉันแค่อยากจะถามอะไรนายสักหน่อย นายกล้าเรียก ‘ เจ้ามังกร ‘ ชื่อนี้ แท้ที่จริงแล้วความสามารถของนายได้สักเสี้ยวของเจ้ามังกรจริงหรือเปล่านะ? ”
ตู้ม!
วินาทีต่อมา เขาชักมือออกมาอย่างโหดเหี้ยม กำปั้นนั้นพุ่งไปยังถังเฉาเพื่อที่จะต่อย
” หยุดก่อน! ”
ไม่เห็นภาพนั้นแล้ว เย่เทียนหลงก็รีบร้องตะโกน สีหน้าเหยเก
ระยะที่ใกล้ขนาดนี้ บวกกับหมัดที่บ้าระห่ำของหงเทียนเฉินจะหลบทันได้อย่างไร?
การเคลื่อนไหวของตรงนี้ ทำให้ดึงความสนใจจากผู้เข้าสมัคร เพียงชั่วขณะก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
” นี่ไม่ใช่แชมป์อันดับสองของเมืองเจียงเฉิงสมาคมต่อสู้ ที่ชื่อหงเทียนเฉินเหรอ? ”
” ตอนนี้ยังไม่ทันจะเริ่ม เขาก็จะลงมือตรงนี้ไปแล้ว ไม่กลัวจะโดนตัดสิทธิ์หรือไง? ”
” ……. ”
ในขณะที่ผู้คนกำลังวิพากษ์วิจารณ์อยู่นั้น ทุกคนต่างก็ต้องตกใจ
พวกเขามองชายสวมหน้ากากเหล็กคนนั้นอย่างเห็นอกเห็นใจ ไม่มีใครสามารถหลบหมัดระยะประชิดขนาดนั้นได้หรอก
ตู้ม!
เพียงเสี้ยววินั้น ก็มีเสียงดังตึกก้อง
กำแพงที่อยู่ด้านหลังของถังเฉา แทบจะระเบิดออก
แต่ว่าศีรษะของถังเฉา ยังคงอยู่ในสภาพเดิม
เพราะว่า กำปั้นหงเทียนเฉินไม่ได้พุ่งไปที่หัวของถังเฉา แต่ทุบเข้าไปที่กำแพงด้านหลังศีรษะของถังเฉา
แต่ถังเฉาไม่ได้มีท่าทีแม้แต่ตลก ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ สายตาและสีหน้าดูนิ่งเฉยและมองไปยังหงเทียนเฉิน
ผู้คนที่อยู่รอบข้างอึ้งกิมกี่
ถ้าระยะใกล้ขนาดนั้น ถ้าต้องเผชิญกับหมัดที่บ้าระห่ำเช่นนี้ จะหลบก็คงไม่ทัน
หรือเขาจะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าหงเทียนเฉินคงไม่ลงมือหรอก?
ผู้ที่มีความสามารถปราดเปรื่อง จึงจะสามารถองอาจและห้าวหาญได้