เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 75
บทที่ 75 ผู้รับผิดชอบหลัก
หลินเจิ้นสงตื่นขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ ทันใดนั้นพบว่าถังเฉานั่งอยู่ข้างๆเขา มองเขาด้วยรอยยิ้ม
“พ่อนอนไปนานเท่าไหร่?” หลินเจิ้นสงรีบลุกขึ้นนั่งบนโซฟา
“ครึ่งวัน”
ถังเฉายื่นชาให้เขาถ้วยหนึ่ง “พ่อ เหล้ามันทำลายสุขภาพ พยายามดื่มให้น้อย”
นิ่งไปสักครู่ แล้วกล่าวต่อไปว่า “ถ้าอยากจะดื่มเหล้า อย่าดื่มคนเดียว เพราะมันจะเมาง่าย”
หลินเจิ้นสงถอนหายใจ “เสี่ยวเฉา วันนี้ขอบคุณลูกมาก”
ทันใดนั้น เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง สีหน้าหลินเจิ้นสงดูแปลก ๆ “เสี่ยวเฉา ตอนที่พ่อเมาเหล้า ได้พูดบางเรื่องที่ไม่ควรพูดหรือไม่?”
ถังเฉาก็ตกใจ จากนั้นก็ยิ้มอย่างราบเรียบว่า “คำพูดพล่อย ๆของคนเมา ถือเป็นความจริงไม่ได้”
เมื่อหลินเจิ้นสงได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าของเขาวูบวาบ ผ่านไปครู่ใหญ่ เขาจึงกล่าวว่า “เสี่ยวเฉา ลูกสัญญากับพ่อเรื่องหนึ่งได้ไหม? อย่าบอกฉ่ายเวยในเรื่องที่ลูกได้ยิน ถ้าเธอรู้ จะต้องเสียใจแน่นอน”
“เข้าใจครับ” ถังเฉาพยักหน้า
ถ้าหากหลินฉ่ายเวยรู้ว่าตนเองเป็นลูกสาวที่เกิดจากภรรยาคนหลัง คงจะรู้สึกเสียใจมาก
นิ่งไปสักครู่ ถังเฉาก็กล่าวต่อไปว่า “พ่อ ลูกสาวอีกคน พ่อไม่คิดที่จะหาเธอกลับมาหรือ?”
“ไม่สามารถหากลับมาได้แล้ว”
หลินเจิ้นสงโบกมือ สีหน้าเต็มไปด้วยความสับสนแล้วกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าจะหาเจอ พ่อก็จะไม่ไปยอมรับ ทุกคนมีชีวิตที่ดีแล้ว ทำไมจะต้องไปรบกวนด้วย?”
ถังเฉาก็ไม่พูดอะไรอีก? ขอแค่พ่อพูดคำเดียว เขาก็จะไม่ลังเลในการช่วยเขาสืบหาลูกสาวอีกคน
แต่ อย่างที่พ่อบอกว่า เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้เรื่องน้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น
เมื่อมองไปที่หลินเจิ้นสง ซึ่งคิ้วยังขมวดอยู่ ถังเฉายิ้มแล้วกล่าวว่า “พ่อ ที่จริงพ่อไม่ต้องกังวลมากเกินไป เรื่องที่พวกเขาสวามิภักดิ์ต่อตระกูลซ่ง ไม่นานพวกเขาจะได้รับผลกรรม แล้วจะทำให้พวกเขาก็จะเข้าใจเองว่า อยู่ที่ตระกูลหลินคือจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดแล้ว”
“อั้ย พ่อจะไม่กังวลได้อย่างไร?”
หลินเจิ้นสงยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า “โครงการร่วมมือกับลี่จิงกรุ๊ปทำการลงนามเรียบร้อยแล้ว และตอนนี้ก็ถึงเวลาต้องการกำลังคน พวกเขาทั้งหมดกลับถูกตระกูลซ่งชักชวนไปในช่วงเวลาสำคัญ พ่อตัวคนเดียว จะทำอะไรสำเร็จได้?”
“ใครบอกว่าไม่สามารถทำงานได้สำเร็จ?”
ถังเฉารินชาให้ตนเองถ้วยหนึ่ง กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พ่อ มีปัญหาอะไร คุยกับผมได้ ไม่แน่ผมอาจจะมีหนทาง”
หลินเจิ้นสงมองถังเฉาแวบหนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเฉา พ่อรู้ว่าลูกเป็นคนจิตใจดี และก็เป็นคนที่น้ำใจที่สุดในครอบครัว แต่เรื่องนี้ลูกช่วยไม่ได้จริง ๆ”
“พ่อ มีครั้งไหนบ้างที่ผมทำให้พ่อผิดหวัง?”
ถังเฉาไม่ได้ชี้แจง เพียงแค่นั่งตัวตรง มองไปที่หลินเจิ้นสงด้วยดวงตาที่สดใส
เมื่อมองถังเฉาที่ยิ้มแย้มตั้งแต่ต้นจนจบ หลินเจิ้นสงก็ตกตะลึงเช่นกัน
ทันใดนั้นก็จำได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา เสี่ยวเฉาไม่เคยพลาดพลั้ง
เรื่องที่ดูเหมือนว่าเขาไม่น่าจะทำสำเร็จได้ ไม่มีใครสนใจเขาและคิดว่าเขาคงทำไม่สำเร็จ แต่เขาก็ทำสำเร็จได้อย่างงดงาม
เช่นเรื่องการประมูล เรื่องตระกูลหวางและเรื่องของจ้าวลิ่วก็เหมือนกัน ไม่มีใครกล้ารับประกัน ว่าคราวต่อไปถังเฉาจะสามารถทำได้สำเร็จอีก?
“เอาล่ะ!”
หลินเจิ้นสงตัดสินใจและกล่าวว่า “คืนพรุ่งนี้ลี่จิงกรุ๊ปจะมีงานเลี้ยงอาหารค่ำให้สปอนเซอร์ เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จะมีสื่อและดารานับร้อยคนมาร่วมงาน ก่อนที่จะมีการประชุม พ่อจำเป็นต้องหาสปอนเซอร์สนับสนุนให้ลี่จิงกรุ๊ปให้ได้มากกว่า 50 ล้าน”
“ถ้าหากพ่อไม่สามารถหาสปอนเซอร์ได้ตามเป้า มันจะทำให้ตระกูลหลินของเราต้องอับอายขายหน้า ในอนาคตก็คงจะไม่มีบริษัทไหนอยากมาร่วมมือกับพวกเรา”
“อึ่ม ให้เวลาครึ่งวันในการหาสปอนเซอร์สนับสนุนให้ได้ 50 ล้าน มันค่อนข้างยากอยู่………”
เหนือความคาดหมาย ถังเฉาลูบคางของตนเอง แล้วครุ่นคิด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินเจิ้นสงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เขาถอนหายใจและกล่าวว่า “เดิมมีกำลังคนเพียงพอ ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง แต่เมื่อวานนี้เหม่ยหยูนและคนอื่น ๆ ไปที่สวามิภักดิ์ตระกูลซ่ง เหลือพ่ออยู่เพียงคนเดียว พ่อมีใจเหลือแต่แรงไม่พอ อยากทำแต่ทำไม่ได้”
ถังเฉารู้ถึงความยากลำบากของหลินเจิ้นสง กำลังจะพูด แต่เฟิ่งหวงโทรศัพท์มาเสียก่อน
เนื้อหาสั้นมาก มีเพียง 5 คำ
“เขาถึงหมิงจูแล้ว”
ถังเฉาพยักหน้า แล้วกล่าวว่า “รู้แล้ว”
ก็กดวางสาย
จากนั้น เขาลุกขึ้นยืน แล้วกล่าวกับหลินเจิ้นสงว่า “พ่อ เรื่องนี้ปล่อยให้ผมจัดการเอง พรุ่งนี้ก่อนงานเลี้ยงอาหารค่ำของสปอนเซอร์จะเริ่ม ผมจะหาสปอนเซอร์ให้ได้ถึง 50 ล้าน ตอนนี้ผมกำลังจะไปพบใครบางคน”
พูดจบ ถังเฉาก็เดินออกไปจากตระกูลหลิน
จากนั้น ยังไม่ทันที่จะเดินออกจากห้องรับแขกของตระกูลหลิน หลินฉ่ายเวยกับโจวเหม่ยหยูนและคนอื่น ๆของตระกูลหลินกลับมาถึงบ้านด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม
นอกจากใบหน้าเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองแล้ว ใบหน้าของทุกคนยังเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก
เมื่อเห็นถังเฉา หลินฉ่ายเวยก็ยิ่งโกรธมากขึ้น มองเขาด้วยใบหน้าที่โกรธเคืองว่า “คุณมาทำอะไรที่นี่?”
ถังเฉาตอบอย่างราบเรียบว่า “พ่อดื่มเหล้าจนเมา ผมเลยมาดูแลพ่อ”
“คุณไม่ใช่คนของตระกูลหลิน มีสิทธิ์อะไรมาบ้านนี้ ไสหัวออกไปซะ!”
โจวเหม่ยหยูนถึงกับหยิบไม้กวาดไปขับไล่
“พอได้แล้ว!”
หลินเจิ้นสงตะคอกเสียงดัง ทำให้สถานการณ์สงบในชั่วพริบตาเดียว แล้วกล่าวว่า “ทุกคนหุบปาก เป็นคนตระกูลหลิน แต่สวามิภักดิ์ต่อตระกูลซ่ง เรื่องการหาสปอนเซอร์สนับสนุน พวกคุณมีใจคิดจะช่วยสักนิดไหม แต่ยังโชคดีที่มีเสี่ยวเฉาช่วย!”
“พ่อ พ่อบ้าไปแล้วหรือ?”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเจิ้นสง สีหน้าหลินฉ่ายเวยเปลี่ยนทันที แล้วกล่าวว่า “หวังพึ่งเขา จะสามารถหาสปอนเซอร์สนับสนุนอะไรได้?แค่ไม่สร้างปัญญาให้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
หลินเจิ้นสงตะคอกและพูดว่า “ยังไงก็ดีกว่าพวกคุณ”
“เจิ้นสง คุณพูดแบบนี้ได้อย่างไร?”
โจวเหม่ยหยูนรู้สึกไม่พอใจ แล้วกล่าวว่า “พวกเราสวามิภักดิ์ต่อตระกูลซ่ง ก็เพื่อครอบครัวนี้ ทำงานที่หลงเถิง ยังดีกว่าทุกวันต้องมองสีหน้าพวกคนของลี่จิงกรุ๊ป”
“อ้อ? อย่างนั้นผมขอถามหนึ่งคำ ทำงานวันนี้เป็นวันแรก รู้สึกยังไงบ้าง?”
เมื่อได้ยินคำพูดของโจวเหม่ยหยูน ถังเฉาก็ถามหนึ่งประโยคด้วยรอยยิ้ม
ซ่า—-
เมื่อได้ยินประโยคนี้ หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหยูนและคนอื่นทุกคนมีสีหน้าไม่สู้ดี
ตำแหน่งที่ซ่งเทียนซานสัญญาว่าจะให้ ไม่มีใครได้นั่งตำแหน่งนั้นสักคน กลับถูกลดตำแหน่งไปตำแหน่งระดับล่างสุด ทำงานที่สกปรกและเหนื่อย
เมื่อได้สติ หลินฉ่ายเวยถามถังเฉาด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “คุณรู้เรื่องราววันนี้ได้ยัง?”
ถังเฉากล่าวอย่างช้า ๆว่า “คุณลืมไปหรือเปล่าว่า ผมทำงานอยู่ในอาคารกั๋วจี้ด้วย ผมได้ยินมาว่าวันนี้หัวหน้าหลายคนถูกลดตำแหน่งไปเป็นตำแหน่งระดับล่างสุด ไม่จำเป็นต้องเดา ผมก็รู้ว่าเป็นพวกคุณ”
“คุณ”
ใบหน้าหลินฉ่ายเวยเต็มไปด้วยความโกรธ และอยากจะข่วนหน้าถังเฉาให้ตาบอด
สักพัก เธอก็กล่าวออกมาหนึ่งประโยคว่า “ถ้าพวกเราไม่มีความสุข คุณก็อย่าหวังว่าจะมีความสุข เรื่องสปอนเซอร์สนับสนุน 50 ล้าน ฉันจะคอยดูว่าคุณจะหามาอย่างไร ครั้งที่แล้วตระกูลหวางกับตระกูลจ้าวถือว่าโชคดี รอบนี้ฉันไม่เชื่อว่าคุณจะโชคดีเช่นนั้นอีก!”
“งั้นก็ไม่รบกวนให้คุณต้องกังวล”
ถังเฉาก้าวเดินออกไปจากตระกูลหลิน
ที่ประตู เฟิ่งหวงรอเขาอยู่ในรถแล้ว
ถังเฉาเปิดประตู แล้วขึ้นไปนั่งบนรถ รถถูกสตาร์ท แล่นออกไปข้างหน้าทันที
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ณ.สนามบินหมิงจู
ชายวัยกลางคนในชุดสูทหรูหรา และสวมแว่นตาขอบทอง ที่ดูอ่อนโยนก้าวลงจากเครื่องบิน และรออย่างอดทน
มีเลขาสาวสวยยืนอยู่ข้างๆ กำลังรายงานเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางถัดไป
“เถ้าแก่หลัว สมาชิกทุกคนในสมาคมรู้ว่าคุณมาที่เมืองหมิงจูเพื่อตรวจสอบ ได้ร่วมกันจัดงานเลี้ยงที่หรูหราสำหรับต้อนรับคุณ ขณะนี้ฉางหงเทียนประธานบริษัทบริษัทผลิตยาหงเทียนมารับคุณแล้ว………”
หลังจากนั้นหลัวปู้ไม่ได้ยินเนื้อหาที่เหลืออีกต่อไป เพราะว่าเขามองนาฬิกาบนข้อมืออยู่ตลอดเวลา
ทันใดนั้น เขาเห็นชายและหญิงในฝูงชน เขาดีใจทันที และรีบเดินไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เอี๊ยด ๆ—-
แต่ว่า ขณะนี้ รถธุรกิจหงฉีที่แสดงฐานะของเจ้าของรถได้จอดลง
ฉางหงเทียนเดินออกมาจากรถ วิ่งเหยาะๆมาถึงข้างหลัวปู้ แล้วกล่าวว่า “ประธานหลัว ผมมารับคุณครับ”
เพื่อถูกคนขวางทางเดิน หลัวปู้ขมวดคิ้ว ใช้สายตาเยือกเย็นมองฉางหงเทียนแวบหนึ่ง แล้วถามว่า “คุณเป็นใคร? ”
“ประธานหลัว ผมเอง เสี่ยวฉาง เพิ่งเข้าร่วมสมาคมการค้าหงยิงเมื่อสองปีก่อน…….” ฉางหงเทียนแนะนำตัวด้วยสีหน้าประหม่า
“จำไม่ได้”
ฉางหงเทียนยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกหลัวปู้พูดขัดจังหวะ แล้วก็เร่งฝีเท้าในเวลาเดียวกัน
“ประธานหลัว โปรดรอก่อน สมาชิกสมาคมการค้าทุกคนกำลังรอคุณอยู่ …….” ฉางหงเทียนรีบไล่ตามขึ้นมาอีกครั้ง
“……..”
หลัวปู้รู้สึกโกรธจัด ผลักฉางหงเทียนออก และข่มขู่ว่า “ถ้าคุณยังปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีกครั้ง เชื่อหรือไม่ว่าฉันจะเตะคุณออกจากสมาคมการค้า?”
ทันใดนั้น ฉางหงเทียนตกใจจนหน้าซีดเผือด ไม่เข้าใจว่าตนเองทำผิดอะไร
แต่ภาพที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของเขาในช่วงเวลาต่อมา ทำให้ฉางหงเทียนอึ้งไปหมด
เห็นหลัวปู้รีบก้าวเดินไปอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาโค้งคำนับเก้าสิบองศาแล้วพูดว่า “สวัสดีครับ เถ้าแก่ใหญ่!”