เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 96
บทที่96 สวะที่ไม่สวะ
สภาพของโจวฉวนกั๋วในตอนนี้ ทำให้โจวเฉินเหยาปวดใจนัก
บิดาผู้อ่อนโยนและปราดเปรื่อง ตอนนี้คลุ้มคลั่งราวกับคนบ้า ตะโกนโหวกเหวกอยู่ต่อหน้าเขา คนอื่นๆที่กำลังดูตระกูลโจวอยู่ รวมถึงบิดามารดาของเขาเอง ต่างก็หน้าซีดเผือด
“เฉินเหยา บอกแม่หน่อย ลูกไปล่วงเกินใครไว้”
เวลานี้เอง โจวเสว่หลินมารดาของโจวเฉินเหยาพุ่งขึ้นหน้าโอบกอดบุตรชายเอาไว้ มือทั้งสองประคองใบหน้าเขาไว้ ท่าทางราวกับล่มสลาย ตะโกนร้อง
“บริษัทตระกูลโจวไม่มีแล้ว ทั้งรถทั้งบ้านของตระกูล โดนริบไปหมดแล้ว แถมยังต้องชดใช้ค่าเสียหายมหาศาล แม้แต่คืนนี้พวกเราจะไปนอนไหน ก็ยังเป็นปัญหา ทีนี้จะทำไงกันดี!”
เธอเขย่าตัวโจวเฉินเหยาอย่างแรง ส่วนโจวเฉินเหยา กับนิ่งทื่อเป็นหุ่นไม้ ไม่ได้รักษาระยะห่างใดๆ
โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย กับโจวเหม่ยหลิงไม่กล้าพูดอะไรสักคำ ได้แต่กอดกันแน่น
แทบทุกคนยืนยันว่า ในเมืองหมิงจูมีคนที่คิดร้ายต่อตระกูลโจว แล้วได้ต้อนให้พวกเขาจนมุมเรียบร้อย แต่ใครกันล่ะเป็นผู้บงการ หาตัวไม่ได้
อำนาจทั้งสองฝ่ายต่างกันมากนัก ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำ
สิบนาทีต่อมา บริษัทขนย้ายได้ถ่ายของเรียบร้อย พนักงานธนาคารจึงได้ปิดบ้านตระกูลโจว
“ต่อไปจะทำอะไรที่เมืองหมิงจู ระวังตัวหน่อย อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ คิดให้ชัดเจน”
ตอนที่พนักงานธนาคารเดินผ่านหน้าโจวฉวนกั๋ว ได้กวาดตามองเขาอย่างเย็นชา
“เมืองหมิงจูจะว่าใหญ่ไม่ใหญ่จะว่าเล็กไม่เล็ก ตระกูลโจวเป็นเพียงตระกูลชนชั้นสูงเล็กๆตระกูลหนึ่ง คนที่จะทำลายล้างได้ มีกลาดเกลื่อน”
โจวฉวนกั๋วที่มีอายุแล้วจะทนการคุกคามแบบนี้ได้อย่างไร ชั่วขณะ เส้นเลือดหัวใจตีบ สองตาพร่ามัว เป็นลมพับไป
“คุณปู่!”
ลูกหลานตระกูลโจววิ่งกันโกลาหล สีหน้าขาวซีดถึงขีดสุด
หลายคน ตัวสั่นงันงก
“สวรรค์จะทำลายล้างตระกูลโจวของเราแล้ว!”
“ตระกูลโจวสืบทอดมาได้จนถึงทุกวันนี้ แต่ต้องมาจบลงในน้ำมือของพวกแก!”
คนแก่ตระกูลโจวคนหนึ่งตะโกนออกมาอยากเจ็บปวด ชี้ไปที่โจวเฉินเหยา โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยอย่างเดือดดาล แล้วเป็นลมไป
“คุณท่าน!”
คนอื่นๆต่างก็แห่กันเข้าไปประคองคุณท่าน
“ยังจะมัวตะลึงอะไรกันอีก เรียกรถพยาบาลสิ!”
โจวเฉินเหยาได้สติเป็นคนแรก ตะโกนขึ้น
หนังหน้าเขากระตุกขึ้น เดือดดาลจนขีดสุด และหวาดกลัวถึงขีดสุดเช่นกัน
ลูกหลานตระกูลโจวเห็นสถานการณ์ ต่างก็ควักโทรศัพท์ออกมาโทร120
ในขณะที่กำลังรอรถพยาบาล พวกเขาต่างก็ได้เห็นความศิวิไลต์ของเมืองหมิงจู ต่างก็มองด้วยความหลงใหล
……
ในขณะเดียวกัน
ชั้นดาดฟ้าของอาคาร ถังเฉากำลังพยุงตัวยืนขึ้น แววตาเย็นเฉียบ ราวกับเจ้าศักดินา ผู้ที่ครอบครองเมืองหมิงจูทั้งเมือง
วันนี้ เขาไม่ได้กลับบ้านเป็นเพื่อนหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวลี้ แต่กลับรอคอยอยู่ข่าวคราวอยู่บนดาดฟ้า
ดูเหมือนสงบ หากเต็มไปด้วยรอยสังหาร
ดีที่หลินเจิ้นสงโดนซ้อม ไม่งั้นคงจะเกิดผลที่คาดไม่ถึงตามมามากมาย ไม่มีใครคาดเดาได้ว่าถังเฉา จะทำเรื่องร้ายแรงอะไรอีกบ้าง
หากต้อนถังเฉาจนจนมุม เพียงแค่เขาเอ่ยคำสั่ง กองกำลังนับร้ายพันของเขา พร้อมจะทำให้เมืองหมิงจูราบเป็นหน้ากลอง!
กริ๊งๆๆ……
ในเวลานี้ เฟิ่งหวงได้โทรมา รายงานสถานการณ์ตระกูลโจว
“คุณชาย ทุกอย่างทำตามคำสั่งคุณชายเรียบร้อยค่ะ กิจการทุกอย่างของตระกูลโจวถูกปิดหมด ทุกบัญชีธนาคารถูกระงับหมดเช่นกัน ในขณะเดียวกัน ต้องจ่ายเงินชดเชยห้าพันล้าน”
“ตอนนี้ ทรัพย์สินตระกูลโจวถูกนำไปจำนองหมด โจวฉวนกั๋วประมุขตระกูลโจวตกใจจนหัวใจวาย เป็นลมล้มพับไป ตอนนี้กำลังเรียกรถพยาบาล”
พอรู้ผลลัพธ์ ถังเฉายังคงหน้านิ่ง พยักหน้าพูดเสียงเรียบ“ทำได้ไม่เลว แล้วอีกสองเรื่องล่ะ”
“เย่เทียนหลงส่งคนไปเผาบ้านหยางซาน พร้อมกับเผาบ้าน!”
“ตำรวจ ยังอยู่ระหว่างทาง ในครึ่งชั่วโมง ก็ได้พาตัวโจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยไป”
“ดีมาก”
แววตาถังเฉาเป็นประกายร้ายกาจ“ผมจะต้องให้พวกเขาเข้าใจ นี่คือจุดจบที่ทรยศผม!”
ฉับพลัน เฟิ่งหวงราวนึกอะไรออก พูดขึ้น“คุณชาย ทรัพย์สินตระกูลโจวจัดการอย่างไรดี”
ถังเฉาพูดเสียงเรียบ“สติปัญญาโจวฉวนกั๋ว จะต้องได้สติกลับมา งามรับผิดเมื่อไหร่ ปลดล๊อคเมื่อนั้น!”
“ค่ะ คุณชาย”
พอวางหูโทรศัพท์ ถังเฉามองไปยังบรรยากาศโดยรอบ สีหน้าเยียบเย็น
เมืองหมิงจูในค่ำคืนนี้ เป็นเมืองแห่งการอนิทรา
ในห้องไอซียู ของโรงพยาบาลอันดับหนึ่งของเมืองหมิงจู
โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย โจวเฉินเหยา โจวเสว่หลินยืนรออยู่หน้าประตู จนกระทั่งไฟแดงเปลี่ยนเป็นไฟเขียว จึงได้พุ่งกันเข้าไป
“คุณหมอ คุณปู่เป็นไงบ้างครับ”
โจวเฉินเหยาจับมือหมอ ถามอย่างร้อนใจ
“คนไข้ปลอดภัยย้ายไปที่ห้องธรรมดาแล้วครับ ถ้าหากมาช้าอีกนิด คงช่วยไว้ไม่ทัน”
คุณหมอบอกว่า“ตอนนี้เข้าไปเยี่ยมได้แล้วครับ”
“ขอบคุณคุณหมอครับ!”
คนสกุลโจวขอบอกขอบใจเป็นการใหญ่ จากนั้นพุ่งเข้าห้องผู้ป่วย มองไปที่โจวฉวนกั๋วที่กำลังป่วย
เพิ่งได้รับการกู้ชีวิต สีหน้าจึงขาวซีดอย่างบอกไม่ถูก แต่ว่าดีที่ช่วยกลับมาแล้ว
“คุณปู่ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ!”
โจวเฉินเหยาหมอบอยู่ตรงหน้าโจวฉวนกั๋ว พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น“ถ้าคุณปู่เป็นอะไรไป สกุลโจวคงต้องจบเห่แน่……”
ผัวะ—-
โจวฉวนกั๋วฟาดผัวะลงบนใบหน้าโจวเฉินเหยา ตะคอก“ฉันจะบ้าตายเพราะหลานบังเกิดเกล้าอย่างแก ที่สกุลโจวต้องเป็นแบบนี้ เพราะแกไปล่วงเกินผู้ใหญ่สักคนไว้แน่ๆ!”
“คุณปู่ครับ ผมป่าว……”
โดนตบอีกฉาดหนึ่ง ใบหน้าโจวเฉินเหยาบวมก่ำขึ้นมาทันที เขาร้องโอดโอย
“คุณพ่อคะ หนูเป็นพยานได้ โจวเฉินเหยาไม่ได้ไปก่อเรื่องไว้จริงๆ”
โจวเหม่ยหยูนทนดูไม่ได้อีกต่อไป ขมุนคิ้วพูดกับโจวเฉินเหยา“เขาก็แค่ช่วยสั่งสอนผัวเฮงซวยของหนูเท่านั้น ไม่ได้ไปล่วงเกินใครที่ไหน”
“แกว่าไงนะ?!”
แววตาโจวฉวนกั๋วเปลี่ยนไป ดูตื่นเต้นพลัน ตบฉาดลงบนหน้าโจวเหม่ยหยูน “เล่าเรื่องทั้งหมดมาให้พ่อฟังเดี๋ยวนี้!”
โจวเหม่ยหยูนโดนตบหน้าหัน แต่เมื่อเห็นสีหน้าบูดเบี้ยวของบิดา ก็ไม่กล้าขัด จึงเล่าทุกอย่างออกมาตามจริง
“เพราะไอ้บ้าหลินเจิ้นสงรู้จักกับผู้หลักผู้ใหญ่ที่ไหนป่าว”โจวฉวนกั๋วตะคอกโจวเหม่ยหยูน
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีปัญญาหรอก”
โจวเหม่ยหยูนตะลึงงันไป พูดขึ้นลอยๆ“หนูรู้เรื่องเขาทุกซอกทุกมุม ไม่งั้นหลายปีมานี้ ตระกูลหลินก็คงไม่หลักลอยอยู่แบบนี้หรอก”
“เหลวไหล!”
โจวฉวนกั๋วตะคอกตัดบท อดไม่ได้ที่จะเข้าไปตีลูกคนนี้ให้ตาย“ถ้าไม่มีปัญญามันจะหาเงินทุนแปดพันกว่าล้านมาจากไหน เงินสนับสนุนตระกูลโจวยังมีไม่ถึงพันกว่าล้าน”
พูดได้ตรงประเด็น ชั่วขณะ โจวเหม่ยหยูนชะงักไป
ไม่ใช่แค่โจวเหม่ยหยูนที่ชะงัก หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหลิงต่างก็ชะงักตาม
ในหัวมีชื่อนึงผุดมา พวกหล่อนหวาดผวาขั้นสุด
หรือว่าจะเป็นสวะนั่น?!