เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - ตอนที่ 98
บทที่98 บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ
เช้าวันถัดไป แสงอาทิตย์สาดส่อง
ในสวนของตระกูลหลิน ผู้ใหญ่ผู้น้อยนั่งประจันหน้ากันเล่นหมากล้อม
“แม่ทัพ”
ถังเฉาขยับตัวม้า กินแม่ทัพฝ่ายตรงข้ามไป เขาดื่มชาหนึ่งอึก ยิ้มแล้วพูดขึ้น
พอเห็นหมากของตัวเองโดนเก็บเกือบเรียบ หลินเจิ้นสงจึงถอนหายใจออกมา พร้อมเลื่อนตัวหมาก
ถังเฉาไม่ร้อนรน ขยับตัวรถ พูดขึ้น“แม่ทัพขึ้นอีก”
ด้านหน้ามีม้า ด้านหลังมีรถ ตำแหน่งไม่ปลอดภัย
หลินเจิ้นสงยอมแพ้“พ่อแพ้แล้ว”
“เอาอีกกระดาน”
ถังเฉากระปรี้กระเปร่า หลินเจิ้นสงโบกมือพัลวัน“ไม่เอาแล้ว เล่นอีก ก็แพ้อีกอยู่ดี”
เช้าตรู่ ถังเฉาก็มาบ้านสกุลหลิน เพื่อมาเล่นหมากล้อมกับหลินเจิ้นสง
หลินเจิ้นสงฝีมือไม่เลว จึงตอบรับทันที ปรากฏว่าแพ้ราบสามตา โดนถังเฉากินเรียบ
เขามองถังเฉาอย่างงุนงง ถามขึ้น“เสี่ยวเฉา ไม่เจอหลายปี ฝีมือเล่นหมากล้อมแกพัฒนาขึ้นมาก”
ถังเฉายิ้มเรียบ ไม่พูดไม่จา
พาทหารออกรบ ปกป้องบ้านเมือง สามส่วนอาศัยกำลัง อีกเจ็ดส่วนอาศัยกลยุทธ์
ในฐานะนักรบ ถังเฉาไม่เคยเผชิญกับคำว่าแพ้ นับอะไรกับหมากล้อมเล็กๆกระดานเดียว
หลินเจิ้นสงยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน พูดกับถังเฉา“เสี่ยวเฉา ขอบใจนะ ที่มาเป็นเพื่อนพ่อหลายวันมานี้”
ถังเฉายิ้มแล้วโบกมือ“พ่อครับ ถ้าพ่อชอบ ผมมาเล่นหมากล้อมเป็นเพื่อนทุกวันยังได้เลยนะครับ ดีที่พวกเขากลับบ้านเกิด ไม่อย่างนั้นผมคงถูกกวาดออกไป”
ได้ฟังดังนั้น หลินเจิ้นสงจึงทอดถอนใจออกมาอย่างอ่อนใจ“พ่ออยู่คนเดียว ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ ก็แค่บริษัทโดนพังราบ คนงานก็โดนไล่ไปหมด ในช่วงเวลาสั้นๆ คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ”
สีหน้าของถังเฉายังคงไม่เปลี่ยน เขาถึงขนาดยิ้มอ่อนบาง“พ่อครับ พ่อวางใจนะครับ เรื่องนี้ผมจัดการให้เอง”
“แกน่ะเหรอ”
หลินเจิ้นสงมองถังเฉาอย่างประหลาดใจ จากนั้นส่ายหน้า พูดขึ้น“เสี่ยวเฉา ฉันรู้ว่าเพื่อนแกแน่มาก แต่ว่า เราจะไปเพิ่งพาเขาทุกรอบก็ไม่ได้นี่นา อีกอย่างนะ ครั้งนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเงินหรอก แต่เป็นเรื่องกำลังคนต่างหาก ในช่วงเวลาสั้นๆ พ่อจะไปหาคนงานมาจากที่ไหน”
ถังเฉายิ้ม กำลังพูด ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
หลินเจิ้นสงสีหน้าประหลาดใจ ตอนนี้ยังเช้าอยู่มาก ใครกันที่โทรมา
แต่เขาก็ยังคงไปรับโทรศัพท์“ฮัลโหล ใครพูดสายครับ”
“คุณคือหลินเจิ้นสง สามีของโจวเหม่ยหยูน พ่อของหลินฉ่ายเวยใช่ไหม”เสียงชายที่อยู่ปลายสายนั้นเย็นชา
หลินเจิ้นสงรู้ได้ทันทีว่าโจวเหม่ยหยูนกับหลินฉ่ายเวยเกิดเรื่อง“ฉันเอง แกเป็นใคร”
“ผมโทรมาจากสถานีตำรวจ ตอนนี้ลูกเมียคุณ ยังมีโจวเหม่ยหลิง โจวซูหัว หลินจ้อง……โดนจับหมดแล้ว”ชายคนนั้นรายงานชื่อด้วยเสียงเรียบ
“ว่าไงนะ?!พวกเขาถูกจับเหรอ?”
น้ำเสียงของหลินเจิ้นสงสูงขึ้นแปดระดับ
ถังเฉายิ้มบาง ไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อย
“พวกเธอทำผิดอะไร”
“พวกเราสงสัยว่าพวกเธอจะเป็นแก๊งส์เดียวกัน และมีส่วนในคดีพังบริษัทของผู้อื่นเสียหาย คุณเป็นเจ้าทุหข์ ต้องรู้เรื่องสินะ”
ได้ยินดังนั้น หลินเจิ้นสงจึงหน้าเปลี่ยนสี“คุณตำรวจครับ คุณสงสัยว่าพวกเขาเป็นคนบงการหรือครับ?!”
“ใช่แล้ว เมื่อคืนสอบปากคำ พวกเธอได้รับสารภาพแล้ว คุณรีบมาด่วน”
พอวางโทรศัพท์ สีหน้าหลินเจิ้นสงดูน่าเกลียดมาก หันไปถามถังเฉา“ฉ่ายเวยกับเหม่ยหยูนเกิดเรื่อง”
ถังเฉารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ยังคงถาม“เกิดอะไรครับ”
หลินเจิ้นสงถอนหายใจ พูดขึ้น“ส่งคนไปพังบริษัทโอ้ชิน คือพวกเธอเอง”
ถังเฉามองหลินเจิ้นสงอย่างลุ่มลึก“พ่อครับ พ่อหมายความว่า”
เขาเคารพการตัดสินใจของหลินเจิ้นสง
เงียบเป็นนาน หลินเจิ้นสงพูดขึ้น“พ่อว่าพวกเขาคงโกรธมาก ถึงได้ทำแบบนี้ จะยังไงพวกเขาก็เป็นลูกเมีย……”
ถังเฉายิ้มพยักหน้า“ในเมื่อพ่อตัดสินใจแล้ว ผมจะไปเป็นเพื่อนพ่อครับ”
“ตกลง”
หลินเจิ้นสงมองถังเฉาอย่างขอบคุณ ทั้งคู่รีบมุ่งหน้าไปสถานีตำรวจ
ครึ่งชั่วโมงให้หลัง เขาพวกได้พบโจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวยที่ไม่ได้พบมาสามวันห้าวัน
พวกเธอนั่งผมสยายอยู่หลังกระจก แววตาเหม่อลอย สีหน้าซีดขาว แต่ละคนมีรอยฟกช้ำตามตัว เหนือจินตนาการ จะต้องเป็นรอยจากการสอบปากคำแน่นอน
เฟิ่งหวงกำชับลูกน้อง ถ้าจำเป็นก็ต้อง‘รับออเดอร์’
‘รับออเดอร์’เป็นภาษาวงใน หมายถึงมีเมนูหลากหลาย ซึ่งก็คือ การทรมานที่หลากหลายนี่เอง
“เหม่ยหยูน ฉ่ายเวย”
หลินเจิ้นสงเห็นพวกเธอจึงอดร้องออกมาไม่ได้
โจวเหม่ยหยูนกับหลินฉ่ายเวยรีบเงยหน้าขึ้น พอเห็นหลินเจิ้นสง สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นโกรธแค้น
“หลินเจิ้นสง คนแล้งน้ำใจ ยังไม่รีบช่วยฉันกับฉ่ายเวยออกไปอีก รู้มั้ยเมื่อวานพวกเราต้องทนทุกข์ทรมานแค่ไหน”
หลินฉ่ายเวยปล่อยโฮเสียงดัง“พวกเธอตีหนู ตีเจ็บมากเลย พ่อ รีบช่วยหนูออกไป หนูไม่อยากอยู่ที่นี่……”
เธอผู้ออดอ้อนบอบบางแต่เด็ก ไหนเลยจะทนได้
โจวเหม่ยหลิง หลินจ้อง โจวซูหัวร้องโอดครวญ แต่พอมองไปยังแววตาหลินเจิ้นสง ก็ยังคงเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ราวกับสิ่งที่พวกเธอเผชิญมีหลินเจิ้นสงเป็นเหตุ
“ถังเฉา แกอีกแล้ว!”
ฉับพลัน หลินฉ่ายเวยเห็นถังเฉา น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นแหลมเล็ก“ทำไมต้องมีแกอยู่ทุกๆที่ ไสหัวออกไปนะ!”
คนอื่นๆพอได้ฟัง สีหน้าเปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวขึ้นมาทันที พวกเขาอยู่ในคุก ต้องให้ถังเฉามาเห็นสภาพที่ทุลักทุเลแบบนี้ ยอมโดนฆ่าให้ตายดีกว่า
ถังเฉามองพวกเขาเย็นชา ในแววตาไม่เหลือความเห็นใจแม้แต่น้อย
หลินเจิ้นสงมองเจ้าหน้าที่เหล่านั้น“ผมจะช่วยพวกเขาออกมาได้ไงครับ”
ไม่นาน มีสมุดเล่มหนึ่งยื่นออกมา“เซ็นชื่อตรงนี้ก็พอ”
“ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ”
หลินเจิ้นสงรีบขอบคุณ หลังจากเซ็นชื่อ โจวเหม่ยหยูน หลินฉ่ายเวย โจวเหม่ยหลิงก็ถูกปล่อยออกมา
อีกอย่าง พวกเธอไม่ได้รู้สึกตื้นตันอะไรเลย แถมยังด่าต่ออีก
“ทำไมถึงมาช่วยช้าขนาดนี้นะ มาเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ ปล่อยให้เราทนทรมานกันอยู่ได้”
“อย่าคิดว่ามาช่วยพวกเรา แล้วพวกเราจะยกโทษให้นะ เงินที่ต้องแบ่ง สลึงเดียวก็ห้ามหาย!”
เมื่อพูดจบ ทำราวกับว่า การที่หลินเจิ้นสงมาช่วยพวกเขา เป็นเรื่องสมควร
ถังเฉายืนดูอยู่ข้างหลัง แววตาเย็นชา
พูดถึงเรื่องเงิน โจวเหม่ยหยูนราวคิดอะไรได้ ดึงหลินเจิ้นสงไว้ พูดขึ้น“เอาแปดพันแปดร้อยล้านที่บริษัทลี่จิงให้คุณมาให้ฉัน”
ได้ฟัง หลินเจิ้นสงสีหน้าเปลี่ยน ถามขึ้น“จะทำอะไร?”
“ใช้หนี้สิ”โจวเหม่ยหยูนพูดราวกับเป็นสิ่งสมควร
“ใช้หนี้อะไร”
ในเวลานี้ ตำรวจข้างๆพูดขึ้น“เรื่องที่คนตระกูลโจวฟอกเงิน คนทั้งตระกูลโจว ต้องชดใช้ธนาคารห้าพันล้าน”
“ว่าไงนะ?!ห้าพันล้าน?”
หลินเจิ้นสงแทบล้มทั้งยืน หลังจากที่ได้สติคืน มองโจวเหม่ยหยูนด้วยสีหน้าเขียวคล้ำ ปฏิเสธ“ไม่ได้”
“ไม่ให้เหรอ”
โจวเหม่ยหยูนหน้าง้ำขึ้นมาทันที ตะคอก“คุณมีน้ำใจบ้างมั้ย บ้านฉันเกิดเรื่อง ให้คุณช่วยเรื่องเงินหน่อยไม่ช่วย จะบอกให้ เงินนี่คุณไม่อยากควัก ก็ต้องควัก”
“คุณเป็นสามีฉัน และก็นับเป็นคนตระกูลโจว หนี้นี้ คุณต้องมีส่วนด้วย!”
หลินเจิ้นสงตัวสั่นสะเทิ้ม สีหน้าบูดเบี้ยว โมโหจนพูดไม่ออก
ในเวลานี้เอง น้ำเสียงเย็นชาดังแทรกขึ้นกลางอากาศ
“ไหนบอกอยากจะเข้าหาพ่อไง แล้วจะกลับบ้านเกิดอีก ตอนนี้ทำไมมาเป็นคนบ้านเดียวกันล่ะ”
ถังเฉาค่อยๆเดินเข้ามา มองโจวเหม่ยหยูนด้วยสายตาเย็นชา พูดขึ้น“ในเมื่อจะกลับบ้านเกิด หนี้ของตระกูงโจว ไม่เกี่ยวกับคุณพ่อ!”
“ห้าพันล้านนี่ไปคืนเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา!”
โจวเหม่ยหยูนหันไปดู ยิ่งโกรธจัด
“ที่แท้แกเองหรือ ไอ้สวะ แกโดนไล่ออกจากบ้านแล้วไม่ใช่เหรอ มีสิทธิอะไรมาเหยียบที่นี่……”
พูดพลาง โจวเหม่ยหยูนตบฉาดใหญ่
ผัวะ—-
แววตาถังเฉาเย็นชา คว้าข้อมือโจวเหม่ยหยูนพลัน เขาค่อยๆออกแรง เจ็บจนโจวเหม่ยหยูนร้อง ครวญคราง
“โอ๊ย——เจ็บ เจ็บ ไอ้สวะ ฉันจะบอกแกให้ รีบปล่อยฉันนะ……”
“หยุดนะ!”
เวลานี้เอง มีเสียงตะคอกใหญ่ดังมา
ทุกคนหันไปมอง ด้านนอกมีรถแท็กซี่สองสามคันจอดอยู่
ประตูรถเปิด โจวฉวนกั๋วพาคนตระกูลโจวเดินลงมา
เห็นดังนี้ โจวเหม่ยหลิง โจวซูหัวจึงสงบใจลง รีบทำหน้าสมน้ำหน้า
โจวเหม่ยหยูนยิ่งได้ใจ พูดกับถังเฉาด้วยสีหน้าลำพอง“ถังเฉา ทางที่ดีรีบปล่อยฉันดีกว่า แล้วตบหน้าตัวเองสองทีด้วย ไม่งั้น คอยดูว่าพ่อฉันจะจัดการแกยังไง……”
“ฉันหมายถึงแก!”
จากนั้น โจวฉวนกั๋วคำรามด้วยสีหน้าบูดเบี้ยว เดินมาตรงหน้าโจวเหม่ยหยูน ตบหน้าหล่อนฉาดใหญ่
“ฉันไม่มีลูกสาวอกตัญญูแบบแก!”