เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 1037 พี่น้องคนสนิทของผม
หลังจากที่เย่ไป๋พูดจบ คนที่อยู่ข้างๆเย่ไป๋ทั้งหมดก็มองถังเยว่หวากับถังเฉาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
ส่วนเย่ไป๋กลับวิ่งกระโจนตรงไปยังถังเฉา
“พี่น้อง ไม่ได้เจอกันนานเลย ช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง? ท่านนี้ก็คือแม่ของนายสินะ”
เย่ไป๋เป็นคนที่แข็งแกร่งทรงพลังมาตั้งแต่สมัยแรก แน่นอนว่าก็ต้องจำพระอริยมารดรใหญ่ของตระกูลถังตรงหน้านี้ได้อยู่แล้ว
แต่หลังจากที่ถังเยว่หวาเห็นเย่ไป๋แล้ว สีหน้าก็เหลือเชื่ออยู่ไม่น้อย
เพราะว่าเธอยังคงจำได้ หลายปีก่อน ก็เป็นคนคนนี้นี่แหละที่เป็นคนฆ่าผู้อาวุโสของตระกูลถัง เธอเป็นคนสอบสวนเย่ไป๋กับตัวเธอเอง
“เย่ไป๋ไม่ได้เจอกันนาน ช่วงนี้อาการบาดเจ็บบรรเทาลงแล้วสินะ?”
เย่ไป๋นึกถึงเหตุการณ์ตอนที่ถูกจ้าวไท่โจมตีเมื่อครั้งที่แล้ว ก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
แต่ก็สู้เขาไม่ได้จริงๆ เย่ไป๋ก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากมาย แต่แค่พยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกับพูดขึ้น
“ดีขึ้นเยอะแล้ว พลังฟื้นฟูกลับมาใช้ได้แล้ว แต่ต่อให้ฟื้นฟูกลับมาแล้ว พลังก็สู้กับนายไม่ได้อยู่ดี ฉันได้ยินมาว่า ตอนที่นายสู้กับโจวหลี่ที่ตรอกซอยเมื่อครั้งที่แล้ว เรียกได้ว่าดุเดือดเลือดพล่านมากๆ ไม่คิดว่านายจะได้เปรียบอยู่เล็กน้อย ช่างทำให้คนคิดไม่ถึงจริงๆเลยนะ”
โจวหลี่ที่เย่ไป๋พูดถึง แน่นอนว่าไม่ใช่โจวหลี่ที่อยู่ในสถานการณ์ปกติธรรมดา แต่เป็นโจวหลี่ที่ปลดปล่อยพลังของตัวเองออกมาจนหมดหลังจากที่สูญเสียการควบคุมในครั้งนั้น
สำหรับเรื่องนี้ ถังเฉาแค่ยิ้มอย่างเปิดเผย
“เปล่า แค่หมอนั่นสูญเสียปัญญาไป ฉันก็จำเป็นต้องลงมือเท่านั้น อีกอย่าง เขาก็ไม่ได้เปลี่ยนไปแข็งแกร่งมากมายอะไรด้วย ฉันแค่สู้ไปอย่างไม่ได้ตั้งใจอะไรเท่านั้นเอง ยังดีที่เบื้องหลังมีการช่วยเหลือจากท่านนายพลเฉิน ไม่อย่างนั้นเขาก็จะเป็นคนที่สุดยอดที่ยากต่อกรรับมือด้วยแน่ๆ”
ทั้งสองคนพูดทักทายกัน ส่วนถังเหยียนแล้วก็ถังเยว่หวาที่อยู่ข้างๆ มองคนตรงหน้านี้ จากนั้นก็หันมองหน้ากัน
“ลูกชายของพวกเราไม่มีทางรู้จักสนิทกับคนแบบนี้หรอกใช่ไหม? เมื่อก่อนเขาสร้างปัญหาไปทั่วทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ย ฉันจำได้ตอนที่ตัดสินพิพากษาเขาในตอนนั้น พวกเราสองคนก็อยู่ด้วย ตอนนี้ไม่คิดว่าจะมารู้จักพูดคุยกับลูกของพวกเราซะอย่างนั้น”
เย่ไป๋พอได้ยินพ่อแม่ของถังเฉากำลังพูดคุยซุบซิบกันอยู่ ก็รู้ดีว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ
ยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะพูดขึ้น“คุณลุงถัง คุณป้าถัง ผมรู้ว่าสิ่งที่คนรุ่นหลังทำก่อนหน้านี้ ทำให้ตอนนี้ในใจของทั้งสองท่านรู้สึกคับข้องใจอยู่ไม่น้อย แต่หวังว่าท่านจะไม่ตำหนิกล่าวโทษอะไร ผมไม่ใช่เด็กคนนั้นเหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ทั้งสองท่านก็ออกมาแล้ว ผมรู้แล้วว่าในตอนนั้นตัวเองได้ก่ออาชญากรรมทำผิดร้ายแรงเอาไว้”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนี้ พ่อแม่ของถังเฉาก็เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มอึดอัด จากนั้นถังเฉาก็มองไปยังพ่อแม่พร้อมกับพูดขึ้น
“วางใจได้ เหมือนกับที่เย่ไป๋พูด ตอนนี้เขาไม่เหมือนกับเมื่อก่อนแล้ว แถมเขาก็ยังเคยช่วยผมในเรื่องของบูโดครั้งหนึ่งด้วย ตอนนี้เขาเป็นพี่น้องคนสนิทของผม”
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนี้ ใจของเย่ไป๋ก็อบอุ่นขึ้นมา การที่ได้เป็นพี่น้องคนสนิทกับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้ เป็นความปรารถนาในช่วงหลายปีมานี้ของตัวเอง
“ไม่มีอะไรสักหน่อย ลูก ลูกคิดเยอะเกินไปแล้ว เพื่อนที่ลูกคบหา พวกเราจะไม่ไว้วางใจได้ยังไงล่ะ อีกอย่าง เพื่อนของลูกก็เป็นเรื่องของลูก ไม่ใช่เรื่องของพวกเราสักหน่อย พวกเราไม่มีทางเข้าไปยุ่งอะไรกับเรื่องพวกนี้หรอก”
ถังเหยียนพูดขึ้นอย่างขี้เล่น ถังเยว่หวาที่อยู่ข้างๆก็ตบลงที่ไหล่ของถังเฉาด้วยท่าทางใจกว้าง
“พ่อของลูกพูดถูก แถมแม่ดูเย่ไป๋ ท่าทางในตอนนี้ ไม่ได้เหมือนกับเด็กที่วิกลจริตเหมือนกับเมื่อก่อนแล้วด้วย”
หลังจากที่เย่ไป๋ได้ฟังแล้ว ก็ยิ้มอย่างอึดอัด แม้ว่าคำพูดของถังเยว่หวาจะฟังไม่ค่อยเข้าหู แต่สิ่งที่พูดก็เป็นเรื่องจริง ดีที่ตอนนี้ถังเยว่หวาก็ยอมรับเย่ไป๋แล้ว ในใจของเย่ไป๋รู้สึกปลอบโยนขึ้นมาสุดๆ
“พวกคุณทั้งสองคนจะไปป่าวประกาศว่าพวกคุณเป็นพ่อแม่แท้ๆของพี่น้องถังเฉาในราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่ได้นะ”
ถังเฉาเองลืมไปแล้ว ว่านี่คือราชวงศ์ต้าเซี่ย ทุกคนต่างก็ไม่รู้ว่าตัวเองชื่อถังเฉา
แต่เย่ไป๋ที่อยู่ตรงหน้ากลับพูดออกมาแบบนี้ ก็เตือนสติถังเฉาขึ้นมาได้
“เดี๋ยวนะ พี่น้องเย่ไป๋ นายรู้ชื่อที่แท้จริงของฉันได้ยังไง? ฉันจำได้ว่าฉันไม่เคยบอกนายมาก่อนนะ”พูดจบ เย่ไป๋ก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
“พี่น้องถัง นายนี่ช่างประเมินฉันต่ำเกินไปจริงๆนะ แม้ว่าฉันจะถูกขังเอาไว้ที่ตระกูลเย่หลายปีขนาดนี้ แต่ฉันก็ยังสามารถรู้เรื่องพวกนี้ได้อยู่นะ ถึงยังไงเมื่อก่อนตอนที่อยู่ที่ราชวงศ์ก็พอจะรู้จักกับเพื่อนที่ค่อนข้างเก่งเรื่องการสอดแนมข้อมูลของคนอื่นอยู่เหมือนกันนะ”
“แต่ฉันต้องขอเตือนพี่น้องถังสักหน่อย คนของราชวงศ์รู้ว่านายกลับมาแล้ว แถมยังรู้สถานภาพที่แท้จริงของนายอีกด้วย แต่แค่พวกเขาไม่ได้ลงมือเท่านั้น ถ้าในราชวงศ์ต้าเซี่ย มีคนจงใจพูดยุเรื่องนี้ขึ้นมา สถานการณ์ของนายก็จะอันตรายทันที ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางยืนดูอยู่เฉยๆโดยที่ไม่ทำอะไรแน่นอน”
แม้ว่าถังเยว่หวากับถังเหยียนออกมาแล้ว แต่ในฐานะที่ถังเฉาเป็นลูกชายของนักโทษทั้งสองคน โทษฐานก็ยังคงอยู่ตลอด ถึงยังไงช่วงหลายปีมานี้ไม่เคยกลับมารับโทษเลย ราชวงศ์ต้าเซี่ยไม่มีทางปล่อยถังเฉาไปง่ายๆแน่นอน
หลังจากที่ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว ทั้งสองคนของตระกูลถังก็เผยให้เห็นถึงท่าทางเหลือเชื่อ
“ไม่ต้องรู้สึกตกใจหรอก แต่เดิมราชวงศ์นี้ก็ชอบมายุ่งเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว แต่เพราะว่าภายในราชวงศ์ต้าเซี่ยมีผู้คนมากมาย คอยคุ้มกันดูแลเรื่องเล็กๆน้อยๆของราชวงศ์ต้าเซี่ยอยู่ ราชวงศ์จึงจำเป็นต้องดูอยู่เฉยๆไม่แยแสสนใจ”
“ถ้าในราชวงศ์ต้าเซี่ย ไม่มีใครสนใจเรื่องพวกนี้ล่ะก็ ราชวงศ์จะยื่นมือเข้าแทรกได้ยังไงล่ะ?”
พอพูดแบบนี้ ทั้งสามคนของตระกูลถังก็ตอบสนองกลับมา ตั้งแต่ต้นจนจบดูเหมือนว่าราชวงศ์นี้จะแสดงจุดยืนของตัวเองอย่างชัดเจนมาโดยตลอด ถ้าไม่ก่อปัญหาไม่เกิดการทะเลาะขัดแย้งกัน ก็จะไม่สอดมือเข้ามายุ่ง
หลังจากถังเยว่เหมยที่อยู่ข้างๆพูดจบแล้ว สายตาของถังเฉาก็เปลี่ยนไปหนักอึ้งขึ้นมา
ในเมื่อถังเยว่เหมยพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าภายในราชวงศ์ต้าเซี่ยนี้ มีผู้คนมากมายที่รู้ถึงสถานภาพของตัวเองแล้ว ถ้าหากสถานการณ์รุนแรงเกินไป เกรงว่าคนพวกนี้ก็จะไปรายงานกับคนของราชวงศ์ แล้วจากนั้นราชวงศ์ก็จะจำกัดการกระทำของถังเฉาแน่นอน
แต่ในตอนนี้เอง จู่ๆเทือกเขาก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นมา
พวกเขาต่างเค้นพลังต่อสู้ของตัวเองออกมาทันที มองไปยังสถานที่ที่ระเบิดกลางเทือกเขา
“เกิดอะไรขึ้น? ภูเขาลูกนี้ไม่ใช่ภูเขาไฟสักหน่อย จู่ๆจะเกิดเสียงที่ดังขนาดนี้ได้ยังไง?”
ถังเยว่หวาสีหน้าท่าทางไม่เข้าใจ มองไปยังสถานที่ที่เพิ่งจะระเบิด ถังเหยียนกลับสีหน้าหนักอึ้ง เหมือนกับกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่
“ถังเฉา ลูกพาแม่กับน้าของลูกไปก่อน เดี๋ยวพ่อจะขึ้นไปดูบนเขาสักหน่อย”
พูดจบ ถังเหยียนก็หายวับไปจากตรงหน้าของผู้คน แล้วก็พุ่งขึ้นตรงไปยังเทือกเขาอย่างรวดเร็ว
“เย่ไป๋ น้า ฝากแม่ของผมด้วยนะ ผมจะขึ้นไปดูข้างบนกับพ่อสักหน่อย”
สำหรับถังเหยียนที่เพิ่งจะออกจากคุกมา ถังเฉารู้สึกไม่วางใจอยู่ไม่น้อย รีบตามขึ้นไปทันที
สีหน้าอารมณ์ตลอดทางของถังเหยียนไม่มีทีท่าที่จะผ่อนคลายลงเลยแม้แต่น้อย รังสีอำมหิตที่ตัวค่อยๆแผ่ซ่านออกมา ทำให้คนรอบข้างต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน