เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 1051 การเปลี่ยนแปลงที่ท้องน้อย
ก่อนหน้านี้ถังเฉาเคยได้อ่านหนังสือมาเล่มหนึ่ง ในนั้นก็มีบันทึกเกี่ยวกับยาลูกกลอนตัวนี้
แต่ก็เป็นแต่เรื่องเขาเล่าว่า ไม่มีข้อมูลพิสูจน์ได้
หากจะทดลองไปส่งเดช อาจจะมีอันตรายอย่างคิดไม่ถึงได้
ถังเฉานิ่งขรึมลงพักหนึ่ง ก็ยังคิดว่ายาลูกกลอนนี้วางไว้ก็เสียเปล่า ไม่สู้ลองดูสักครา
ความเสี่ยงกับโอกาสมักจะอยู่ด้วยกัน
ร่างกายของเขาเองก้มีความพิเศษอยู่ หากแม้นได้ผลจริง กับตัวเขาแล้ว ก็เป็นการก้าวกระโดดอย่างมาก
“เอาเป็นว่าลองมันสักครั้งเถอะ”
ในใจคิดอยู่ดังนั้น ถังเฉาก็โยนยาลูกกลอนเผมปาก จัดการกลืนมันลงไป
ทว่า สิ่งที่น่าแปลกคือ เมื่อกลืนลงไปแล้ว ถังเฉากลับไม่เห็นมีอะไรให้รู้สึกเลย
“ไม่เห็นมีอะไรให้รู้สึกเลย พลังก็ไม่ได้เพิ่มขึ้น และก็ไม่มีอาการว่าโดนยาพิษ โดนหลอกแล้วมั้ง?”
พลังแท้จริงของเขานั้นอยู่ในระดับสามมานานแล้ว ที่เล่ากันมาว่าจะให้ถึงระดับสี่ก็ห่างแค่เพียงก้าว
ว่ากันตามหลักแล้วร่างกายของตัวเองจะไวต่อความรู้สึกของการเปลี่ยนแปลงได้มากอยู่ แต่นี่ เขากลับไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงให้รู้สึกได้เลย
น่าจะมีข้ออธิบายได้อย่างเดียว ยาลูกกลอนนี้เป็นของปลอม
ถังเฉาสีหน้าเครียดขรึมขึ้นมาทันที
ในมือของเขากุมเส้นชีวิตของสององค์ชายอยู่ แม้นหากสององค์ชายนี้คิดไม่ซื่อ เขาแค่เพียงขยับลงมือ ก็สามารถปลิดชีวิตพวกเขาได้ทันที
“ไม่มีทาง พวกเขาไม่มีทางกล้าทำแบบนี้จึงจะถูก”
ถังเฉาพูดอยู่กับตัวเอง
ชั่วครู่เดียวต่อมา ท้องน้อยเกิดมีอาการกระตุกขึ้นมาหน่อย ๆ ในทันใด
“อื๋อ?”
ถังเฉาตาถลึง “มีปฏิกิริยาแล้ว!”
มาพร้อมกับอาการกระตุกน้อย ๆ ปฏิกิริยาทางกายภาพของถังเฉาเริ่มมากขึ้นมากขึ้น
ความรู้สึกที่เร้นลับน่าพิศวง เหมือนจะเป็นครั้งแรกที่ถังเฉารู้จักกับการเจ็บปวดอย่างแท้จริง
หน้าผากของถังเฉาผุดเห็นได้เป็นเม็ดเหงื่อ เกิดอาการสั่นจนฟันกระทบกันอย่างระห่ำ
“ฤทธิ์ของยานี้ แรงจริง ๆ!”
ให้ว่าร่างกายนั้นจะแกร่งดั่งหินผา ความเจ็บปวดนี้ ทำเอาถังเฉาอดกลั้นไม่ไหวไปชั่ววูบ
เห็นผมงหน้าดำมืด แล้วก็ล้มลง
จนตื่นมาในอีกครา ถังเฉาได้เห็นน้องน้อยโจวมาอยู่ผมง ๆ ตัว กำลังใช้ผ้าเช็ดตัวเช็ดหน้าผากให้อยู่
“ถังเฉา คุณตื่นแล้ว?ตอนฉันเผมมาเห็นคุณนอนอยู่กับพื้น เกิดอะไรขึ้นหรือ? ”
น้องน้อยโจวสีหน้ากังวล
เพราะว่ากำลังฝีมือของถังเฉา เธอก็รู้ดีอยู่ แต่ที่ต้องหมดสติล้มลงไป จะไม่ให้ต้องห่วงคงไม่ใช่
“พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันการแข่งขันของสมาคมบูโดแล้ว คุณหมดสติไปแบบนี้ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
น้องน้อยโจวพูดด้วยสีหน้าห่วงใย
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไร เอามือประคองหัวตัวเอง ค่อย ๆ โยกไปมาเล็กน้อย
“ไม่เป็นไร คนที่มาในงานแข่งขันสมาคมบูโดไม่มีใครที่จะเป็นความกดดันกับผม ผมไม่ห่วง ผมแค่ยังสงสัยอยู่ว่าทำไมผมถึงได้หมดสติไป”
น้องน้อยโจวได้ยินพูดก็ผงกหัวรับรู้ “ถ้าเป็นอย่างนั้น คุณก็คงต้องพักผ่อนให้มาก ๆ ”
หลังจากนั้น ก็ได้ถอยยืนเผมไปด้านผมง
ถังเฉาย้อนคิดกลับไปที่ตัวเองกินยาลูกกลอนนั้นลงไปแล้วเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น
การหมดสติไปของเขา คงหลุดไม่พ้นการเกี่ยวข้องด้วยกับยาลูกกลอนเม็ดนั้น
ถังเฉาให้สงสัยว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงในร่างกายของตัวเอง ใช้มือคลำท้องน้อยตัวเองอย่างเบา ๆ จำได้ว่าความเจ็บปวดเมื่อครู่ที่ผ่านมานั้นมาจากบริเวณนี้
ไม่สัมผัสก็คงไม่รู้ แต่เมื่อได้สัมผัสแล้วถังเฉาจึงได้พบว่า ตอนนี้บริเวณท้องน้อยของตัวเองนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
“เป็นไปได้ยังไง เปลี่ยนแปลงกันถึงขนาดนี้?”
ถังเฉาสูดหายใจเผมลึก ๆ
ตัวเขาก่อนหน้านี้ สมรรถนะทางกายภาพอยู่ในระดับสุดยอด เพียงนึกจะรวมพลัง บริเวณท้องน้อยก็จะเบ่งแน่นและหดยุบได้ดั่งใจ แต่ตอนนี้ท้องน้อยกลายสภาพแข็งเป็นหินเพชร เอามือกดยังไม่ยุบขยับ
พลังภายในร่างกาย เหมือนหินหนักทั้งก้อนจมลงไปในทะเลลึก หายไปหาไม่เจอได้อีก
ในดวงตาถังเฉาปรากฏให้เห็นถึงความกังวล กำลังภายในของตัวเองหายไปแบบนี้เลยหรือ?
เขารีบลองเดินลมปราณ
บรึม!
พลังปราณที่หนักหน่วงทะลักออกไป ทำเอาน้องน้อยโจวที่ยืนผมง ๆ สะดุ้งผงะถอยไปหลายก้าว
“เป็นอะไรไปหรือ?ทำไมต้องเดินลมปราณกะทันหันอย่างนี้ ทำเอาสะดุ้งเลย! ”
ถังเฉารู้สึกได้ว่าลมปราณยังไล่เดินขึ้นมาได้เหมือนเดิม ก็จึงโล่งอกไปได้ในทันที
แต่ที่ทำให้เขาต้องตื่นใจคือ ความเสถียรของพลังกำลังภายในนี้แข็งแกร่งขึ้นมาอีกในบัดดลนั้น นี่เป็นเรื่องทำให้ดีใจมากเหนือกว่าที่คาดคิด
“หรือยาสมุนไพรนั้นเป็นของจริง?”
ถังเฉาได้ลองเดินลมปราณอีกครั้ง
ปรากฏการณ์ความเป็นจริงเกิดขึ้นเฉกเดียวอย่างที่คิด เขาให้รู้สึกตื่นเต้นลึก ๆ ในใจ
เขาไม่เคยประสบปรากฏการณ์แบบพลิกฟ้ากลับแผ่นดินแบบนี้มานานแล้ว ลมปราณกำลังภายในได้เกิดความเสถียรเช่นนี้ขึ้นมาได้ในฉับพลันนั้น กลับเป็นเรื่องทำให้ถังเฉาสนองรับทำใจเอาไม่ทัน
หัวเราะลั่นออกมาในบัดเดี๋ยวนั้น
น้องน้อยโจวที่อยู่ผมง ๆ ถูกเล่นเอางงงวย
“ถังเฉา คุณ…..ที่หมดสติไปคงไม่ถึงถึงขนาดไข้ขึ้นสมองไปนะ?”
ถังเฉาหัวเราะ “คุณวางใจเถอะ น้องน้อยโจว ผมไม่ได้บ้า แต่ผมมีพลังที่ก้าวหน้าอย่างโจนทะยานเลย!”
พรุ่งนี้เป็นวันการแข่งขันสมาคมบูโด ได้จังหวะพลังที่มีสมรรถนะก้าวกระโดดขนาดนี้ มองไปทั่วราชวงศ์ต้าเซี่ย ยังจะมีใครเป็นคู่ต่อสู้เขาได้?
ในขณะเดียวกันนั้น
ที่จวนนายพล
“ท่านนายพลเฉิน เห็นว่าครั้งที่แล้วคุณไม่ได้ลงมือกับไอ้เด็กน้อยคนนั้น คุณกลัวที่จะต้องฆ่าไอ้เด็กน้อยคนนั้นหรือ?”
เฉินเหมิ่งนั่งอยู่บนตำแหน่งประธาน สองผู้เฒ่ายังคงถามเรื่องราวเกี่ยวกับถังเฉาไม่ยอมหยุด
“มันเรื่องอะไรของผมหละ?ก็พวกเขาพูดกันไม่รู้เรื่องชิงลงมือกันก่อน ตัวเองฝีมือสู้เขาไม่ได้ ถูกเขาฆ่าตาย ผมจะไปทำอะไรได้?”
เฉินเหมิ่งเผยอตาขึ้น พูดไปตามเรื่อง
ว่ากันตามจริงแล้ว ทางราชวงศ์มีคำสั่งให้เขาจัดการกับถังเฉา เขาก็ให้รู้สึกเดือดดาลเต็มไส้พุงอยู่แล้ว
ตาเฒ่าน้อยที่อยู่ผมง ๆ หัวเราะอย่างมากเล่ห์ขึ้นมาพลัน มองไปที่เฉินเหมิ่ง
“คงไม่เป็นไร ในเมื่อท่านนายพลเฉินฆ่าคุณเด็กคนนั้นไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ผมฆ่ามันเองที่ในงานแข่งขันสมาคมบูโดในวันพรุ่งนี้เอง”
“คุณ?”
ได้ยินดังนั้น เฉินเหมิ่งหัวเราะเหยียด ๆ “สภาพกระดูกแก่ ๆ ของคุณนี่นะ อย่าไปขยับตัวมากดีกว่า ก็เห็นว่าคุณได้ใช้ไอ้คน ๆ นั้นไปเผมประลองยุทธที่งานแข่งขันสมาคมบูโดแล้วไม่ใช่หรือ?คุณยังคิดว่าถังเฉายังจะรอดชีวิตมาได้อีกหรือ?”
ตาเฒ่าน้อยได้ยินแล้วก็หัวเราะเอิ๊กอ๊ากขึ้นมา พึงพอใจในสิ่งที่เฉินเหมิ่งพูดด้วยอย่างยิ่ง
“ยังไงก็คุณนี่แหละที่เผมใจผมจริง ผมยังไม่ทันบอก คุณก็รู้แล้วว่าผมได้ส่งคนคนนั้นไปแล้ว”
กับเรื่องนี้ เฉินเหมิ่งได้แต่ถลึงตาใส่เขาไป ยิ้มเยาะอยู่ในใจ
เหยื่อที่จะตายเป็นใคร ยังไม่มีใครรู้แน่