เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 633 ทางการเข้าตรวจสอบ
“อะไรนะ ?”
เสียงถังเฉาพูดเพิ่งจบ เจี่ยงหยูเหลียง ซุนหงเจี๋ย หวางเฉียนเซ่อไปเลย
ด้วยสีหน้าที่ตื่นกลัว หัวใจพวกเขาเต้นรัวตูมตาม
ทำธุรกิจเรื่องลอตเตอรี หากดำเนินกิจการด้วยสุจริตคงไม่เป็นไร แต่หากว่าลักลอบเล่นแบบเลี่ยงกฏหมาย ก็จะเข้าข่ายการ ‘ฟอกเงิน’ ถ้ามีคนยื่นเรื่องแจ้งความ โทษลงจำคุกเป็นต้องโดนแบบย้ำตะปูปิดฝาโลงแน่นอน
แต่พออีกทีเห็นคนที่พูดเป็นถังเฉา ซุนหงเจี๋ยพลันขึ้งโกรธเกรี้ยวกราดขึ้นเต็มหน้า “มึงแม๋งพูดอะไรก็ต้องเป็นไปงั้นรึไง ? พวกข้าแต่ไหนแต่ไรทำแต่เรื่องในกรอบกฎหมาย ทางส่วนงานฝ่ายไหนจะเอาเรื่องอะไรกับพวกข้าได้”
ถังเฉาส่ายหน้า “ไม่ ไม่ ไม่ ครั้งนี้ที่จะจัดการกับพวกคุณไม่ใช่คนในส่วนงานฝ่ายไหน แต่เป็นหน่วยงานที่พวกคุณต้องมองหน้าก่อนจะทำมาหากิน”
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ?”
ได้ยินที่ถังเฉาพูด เจี่ยงหยูเหลียงกับซุนหงเจี๋ยหันหน้าสบตากัน ต่างมีสายตาที่หวาดวิตก
ส่วนหวางเฉียน ยิ่งฟังยิ่งไม่รู้เรื่องว่าเรื่องเป็นอะไร !
“แก….แกอย่ามาพูดชุ่ย ๆ การกรุข่าวลวง จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายนะ!”
เจี่ยงหยูเหลียงขมวดคิ้วย่นมองหน้าถังเฉา ออกอาการโกรธ
ถังเฉาเอายิ้มจืด ๆ แขวนไว้บนใบหน้า “ผมไม่ได้พูดชุ่ย ๆหรอก อีกประเดี๋ยวก็ได้รู้กัน”
เห็นสีหน้าอาการสงบนิ่งแน่วแน่ของถังเฉาขนาดนี้ เจี่ยงหยูเหลียงหันไปถลึงตามองซุนหงเจี๋ย คล้ายว่ากำลังตำหนิว่าเขาไปนิมนต์เอาพระใหญ่อะไรที่ไหนมาทำไม
ก่อนหน้านี้ ซุนหงเจี๋ยจัดตั๋วแพคเกจ ครอบรวมเอาประธานหลี่จิงกรุ๊ปเข้ามาด้วย ผลเลยได้เป็นว่าสามีเขาก็ติดมาด้วยกัน
ทว่าตอนนี้ที่สำคัญคือต้องหาตัว ‘เจ้ามังกร’ นั้น เพราะคือช่องทางเดียวเพื่อการอยู่รอด
ถังเฉาก็ไม่ได้ไปขวาง เพียงแต่ไปนั่งลงบริเวณข้าง ๆ กับหลินชิงเสว่
“คุณทำไมรู้ว่าหน่วยงานตรวจสอบของกรมพาณิชย์จะมา ?”
หลินชิงเสว่ลังเลอยู่พักใหญ่ คงตัดสินใจถามเรื่องสงสัยคาใจอยู่ออกมา
คำถามนี้ ถังเฉาไม่มีอะไรต้องปิดบัง ยิ้ม ๆ แล้วตอบไปว่า “อัตราต่อรองของบริษัทลอตเตอรีอินหวงนั้น เลขฐานมาจากการจัดการกับกล่องลับกันเอง ผมได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับท่านบ้าบู๊ ท่านบ้าบู๊คงได้ลงมือจัดการเอง”
“อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง”
หลินชิงเสว่เข้าใจแจ่มแจ้ง ถ้าหากเป็นท่านบ้าบู๊ละก้อ เรื่องก็คงจัดการได้เป็นผลแน่
คนของบริษัทลอตเตอรีอินหวงคงยังเฝ้ารอกันอย่างร้อนรุ่ม และต้องคอยปลอบใจพวกเพื่อนนักเรียนเก่าที่ทุ่มเงินกันลงมา
แต่ทว่า ที่ทำให้พวกเขาแทบสิ้นหวังคือ พวกเขารอกันมาเป็นเวลาอันยาวนาน ‘เจ้ามังกร’ ก็ยังไม่เห็นเข้ามา
“ เจ้ามังกรทำไมยังไม่เห็นกลับมานะ การแข่งขันก็ใกล้จะเริ่มแล้ว”
หลินชิงเสว่มองข้ามไปสุดทางเดิน เปรยขึ้นมาด้วยความฉงน
ว่ากันตามจริงแล้ว หล่อนก็อยากจะดูให้เห็นชัด ๆ ว่า ‘เจ้ามังกร’ รูปร่างหน้าตาเป็นยังไง
ถังเฉาหัวเราะ “การแข่งขันก็จะเริ่มในทันทีนี้แล้ว เจ้ามังกรไม่มาไม่ได้หรอก ว่าไปก็ไม่แน่นะ ตอนนี้เขาอาจจะอยู่ในพื้นที่กำลังส่องเหตุการณ์ที่นี่อยู่ก็เป็นได้นะ”
หลินชิงเสว่ชะเง้อมองไปรอบ ๆ เห็นมีแต่คนเต็มไปหมด มองแล้วน่าเวียนหัว
“ไม่เข้าใจ ทำไมเค้าต้องใส่หน้ากากด้วย ?”
หลินชิงเสว่ถอนใจแล้วพูด
ถังเฉาก็พูดทีเล่นทีจริงว่า “อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่อยากให้มีคนห่วงกังวลในตัวเค้ามั้ง”
“อะไรนะ ?”
หลินชิงเสว่ไม่ทันได้ฟังชัดในรายละเอียดที่พูด
ตึง ตึง ตึง !
ขณะหลินชิงเสว่กำลังจะถามรายละเอียด เสียงฝีเท้าที่รีบเร่งดังมาจากปลายสุดของทางเดิน
เจียงหยูเหลียงกับซุนหงเจี๋ยดีใจกันออกนอกหน้า “ เจ้ามังกรมาแล้ว!”
แต่แล้วไม่ทันไร สีหน้าพวกเขากลับเปลี่ยนไป
ตึง ตึง ตึง ตึง ตึง………………
ฝีเท้าที่ดังมาเสียงรัวยังกับสายฝน เป็นที่ชัดเจนว่าไม่ใช่คนเดียว
เจี่ยงหยูเหลียงกับซุนหงเจี๋ยสีหน้าเริ่มเปลี่ยน ตื่นเต้นจนหัวใจรัวปึงปัง
ภายใต้สายตาของคนทั้งหมด คนผู้ชายในเครื่องแบบเดินตรงเข้าไปหาเจี่ยงหยูเหลียงกับพวก
“พวกเราได้รับการแจ้งความจากผู้กล่าวหานิรนาม แจ้งว่าที่นี่มีกิจกรรมการพนันเพื่อฟอกเงินกันอย่างมโหฬาร”
“รายชื่อต่อไปนี้ ขอให้ให้ความร่วมมือไปกับเราเพื่อรับการสอบสวนด้วย”
ผู้ชายที่เดินนำหน้ามาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก ฟังจากน้ำเสียง ไม่มีเปิดช่องให้มีการโต้แย้งได้แม้แต่นิดเดียว
ตูม!
ในชั่วเวลาที่ชายในเครื่องแบบเหล่านี้ปรากฏตัวมา เจี่ยงหยูเหลียง ซุนหงเจี๋ย หวางเฉียน ต่างตื่นกลัวกันยืนมึน
โดยเฉพาะเจี่ยงหยูเหลียงกับซุนหงเจี๋ย พอได้ยินว่าจะต้องกลับไปพร้อมกันเพื่อรับการสอบสวน พวกเขาตกใจกันหน้ามืดเกือบล้มเป็นลม
ในฐานะผู้บริหารระดับสูงของบริษัทลอตเตอรีอินหวง ประธานและรองประธานคนระดับมือหนึ่งกับมือรอง โดยอัตภาพแล้วพวกเขาจะรับการโดนตรวจสอบไม่ได้เลย
อย่าว่าแต่พวกเขาเลย แม้เพียงเปิดดูบัญชีของบริษัท ก็จะพบว่า ทุกรายการเบิกจ่ายและผลกำไร ล้วนไม่มีทางที่จะให้วางสรุปงบดุลได้
ถังเฉาออกเสียงหัวเราะยืนมอง ดูเหตุการณ์แต่ละฉากล้วนไม่มีเหนือคาดคิด
เขามองดูเวลา มาเร็วกว่าที่เขาคิดเสียอีก
ชื่อเสียงท่านบ้าบู๊ ใช้ได้ไม่ธรรมดาทีเดียว
“พี่ พี่ท่าน พวกเราล้วนเป็นคนทำมาหากินสุจริต ทำไมต้องไปรบกวนถึงพวกท่านขนาดนี้ ?”
เจี่ยงหยูเหลียงตีหน้ายิ้มแย้ม ประเคนบุหรี่ให้ในอาการสั่นงก ๆ
กลุ่มคนเหล่านั้นปฏิเสธไปตรง ๆ หน้าตาเคร่งขรึม “ในเมื่อเป็นนักธุรกิจสุจริต ทำไมพวกเราถึงได้รับการแจ้งความว่าบริษัทล๊อตตารีของพวกคุณ มีการเจาะจงเข้าไปควบคุมแนวโน้มของการแข่งขัน เพื่อให้รายได้เข้าสู่กระเป๋าพวกคุณกันเอง ?”
“เข้าใจผิดครับ นี่มันเป็นการเข้าใจผิด………”
ซุนหงเจี๋ยพูดเสริม
ทันใดนั้นเอง เหมือนฉุกนึกอะไรขึ้นมาได้ หันกลับไปมองถังเฉาด้วยความรู้สึกแบบไม่อยากเชื่อ
ในขณะนี้ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ถังเฉาได้พูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามา ไม่คิดเลยว่าจะมาจริง ๆ
“เรื่องที่จะพูด เก็บไว้เดี๋ยวค่อยพูดดีกว่าครับ”
คนผู้ชายนั้นไม่สนใจกับการรับสินบน ควักเอาสมุดบัญชีรายชื่อออกมา เริ่มไล่เรียงขานเรียก
“เจี่ยงหยูเหลียง、ซุนหงเจี๋ย、หวางเฉียน……… ”
ทั้งสามคนนี้มีในรายชื่อชัดเจน กับอีกหลายรายชื่อ ล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทล๊อตเตอรี
“ในขณะนี้ บัญชีส่วนบุคคลในธนาคารของพวกคุณได้ถูกอายัดไว้แล้ว อีกทั้งรถยนต์ อาคารบ้าน หุ้นพัธบัตรที่เป็นชื่อของพวกคุณล้วนถูกอายัด ริบไว้เป็นของทางการ”
“ถ้าหากผลการสอบสวนออกมาแล้วไม่ปรากฏว่าพวกคุณมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ก็จะทำการส่งมอบคืนพวกคุณ ตอนนี้เชิญตามพวกเราไปกันได้แล้ว”
แครช..แครช..!
เจี่ยงหยูเหลียง ซุนหงเจี๋ย หวางเฉียน ทั้งสามคนถูกใส่กุญแจมือ
มองกุญแจมือที่ใส่อยู่อย่างงง ๆ ทันใดนั้นเองหวางเฉียนระเบิดเสียงร่ำไห้ออกมา “ฉันไม่ให้จับ!”
“ฉันขอร้องละ ขอร้องเถอะ พวกคุณปล่อยฉันเถอะ ฉันไม่รู้เรื่องด้วยเลย ฉันไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย!”
หวางเฉียนร้องไห้เสียงระงม “เพราะพวกเขาทั้งนั้นที่ทำ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ฉันก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันด้วย !”
มองดูสภาพการร้องห่มร้องไห้ของหวางเฉียน บรรดาพวกเพื่อนนักเรียนเก่าเหล่านั้น ต่างก็รู้สึกหนาวระทึกไปด้วยกับความรู้สึกหมดหวัง
คนผู้ชายที่เป็นหัวหน้าพูดเยือก ๆ ว่า “ไม่เป็นไรครับ เท่าที่ผมทราบมา คุณเป็นคนที่คอยกีดกันการล้างสมองในสายแนวร่วม ถือว่าเป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิด ยังมีหน้าจะมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องด้วยอีก”
ปัง!
หวางเฉียนเหมือนเข้าใจอะไรได้บางอย่าง วิ่งเข้าไปเบื้องหน้าหลินชิงเสว่อย่างฉับพลัน แล้วคุกเข่าลงไปทันที
“ชิงเสว่ ฉันผิดไปแล้ว ฉันรู้แล้วจริง ๆ ว่าผิดไปแล้ว ขอร้องเธอนะช่วยฉันด้วย ฉันไม่อยากติดคุก!”
มาถึงตอนนี้แล้ว หล่อนถึงได้เข้าใจแล้วว่า ตัวเองก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
เพราะว่าสมาคมนักเรียนนี้ หล่อนเป็นคนก่อตั้ง ณ.ขณะนี้ คงมีแต่หลินชิงเสว่ที่จะช่วยเธอได้
“ช่วยฉันด้วยเถอะ ฉันกราบเธอละ……”
ปึง ปึง ปึง ปึง !
หวางเฉียนก้มโขลกหัวกราบหลินชิงเสว่ โขลกจนหน้าผากเลือดออกไม่หยุด
หลินชิงเสว่ออกอาการสงสารทางแววตา แต่หล่อนมองเห็นสายตาชาเย็นของถังเฉา ก็ได้แต่ทอดถอนใจ
“ขอโทษนะ หวางเฉียน ฉันก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้ และก็ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะช่วยเธอได้เลย”
การตรวจสอบด้านเศรษฐกิจ หล่อนก็หมดปัญญา