เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 639 เป้าหมายที่แท้จริง
จะเปิดสงครามไหม………….
จะเปิดสงครามไหม ?
จะเปิดสงครามไหม!
คนบ้าบู๊ มู่ตงเฟิง หลินรั่วหวี ทั้งสามคนคำรามลั่นกังวานไปทั่วทั้งสนามกีฬา ตามมาติดเป็นเสียงก้องสะท้อนต่อเนื่องยาว
บรรยากาศฆ่าสังหาร บังเกิดขึ้นมาตามวิสัย
ภายนอกสนามกีฬา ยังมีเสียงครืดคราดของรถหุ้มเกราะ
กลิ่นควันไฟสงครามคละคลุ้ง เสียงร้องโห่ลั่นสะท้านฟ้า
ในสภาพการณ์แบบนี้ คนในสนามกีฬาได้ชนะความตื่นกลัว แต่ละคนหมดสิ้นความหวาดหวั่น
ความฮึกเหิม สามารถระบาดไปสู่คนอื่นได้
สถานการณ์ตอนนี้ ได้พลิกกลับอย่างเบ็ดเสร็จ
ไม่มีใครกลัวอีกแล้ว ไม่มีใครหวั่นไหวอีกแล้ว
ที่มีอยู่นั้น ก็คือเพียงปวงชนรวมเป็นหนึ่งใจ ทำศึกเอาชนะศัตรู
เซี่ยสิงจู๋หัวร่อเสียงลั่น มองหน้าเปลี่ยนสีอย่างทุเรศของลู่เจียงไห่พูดว่า “ลู่เจียงไห่ ตอนนี้คิดกลับใจแล้วใช่ไหม ?”
“สนามรบแห่งเมืองเจียงเฉิงเริ่มแสดงศักยภาพแล้ว ได้จัดส่งทีมผู้เชี่ยวชาญงานกู้ระเบิดออกทำการเก็บกู้ระเบิด”
“แกดูถูกเจียงเฉิงมากไปแล้ว และก็ดูถูกต้าเซี่ย ต้าเซี่ยไม่เคยทิ้งประชาชนโดยไม่เหลียวแล พวกแกไอ้พวกตระกูลขี้แพ้ หลังงานนี้แล้วก็รอล่มสลายได้เลย”
หูอีซานก็ว่าไปตามบ้าง ความรู้สึกสาแก่ใจเกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ตระกูลลู่ ตระกูลถังตลอดจนเหล่าตระกูลที่ทรยศ พวกเขาไม่เชื่อในต้าเซี่ย พวกเขาไม่เชื่อกำลังรบของเจียงเฉิง
พวกตระกูลเหล่านี้ เก็บไว้เพื่อประโยชน์อะไร ?
พวกที่ไม่เชื่อมั่นตระกูลของต้าเซี่ย ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหน ล้วนจะต้องล่มสลาย!
ลู่เจียงไห่กับพวกตระกูลที่ได้ยอมแพ้ไปแล้วต่างมีสีหน้าที่ดูไม่ได้อย่างที่สุด เหงื่อผุดไหลออกบนหน้าผากขนาดเม็ดถั่ว
ในเวลานั้น พวกเขามีแต่อารมณ์นึกเสียใจกับสิ่งที่บังเกิดขึ้นอยู่ในใจ
ทำไมจะต้องยอมแพ้ด้วยหนอ ?
แค่ยืนหยัดอีกเดี๋ยวเดียว ก็มีคนมาช่วยพวกเขาแล้ว
ในยุคการสื่อสารก้าวพัฒนาไกลอย่างทุกวันนี้ เรื่องเพียงนิดยังถูกเผยแพร่กันเป็นการใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าเรื่องฝูงชนทั้งหมดในสนามกีฬาเจียงเฉิงถูกขังแบบนี้
ผ่านเวลามาป่านนี้ น่ากลัวว่าเรื่องคงแพร่จนรู้ทั่วกันหมดแล้ว
ลู่โป๋หานล้วงเอามือถือออกมา เปิดดูส่ง ๆ ก็ไปเห็นหลากล้นของข่าวเกี่ยวกับการระเบิดสนามกีฬาเจียงเฉิง
สังคมออนไลน์ก็ระเบิดไปด้วย!
ที่ยิ่งไปกว่าคือได้ทำให้ทั้งต้าเซี่ยเห็นความสำคัญ
หนึ่งด้านมีภัย รอบด้านเข้าช่วย
ไม่เพียงองค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านกู้ระเบิดระดับชาติเข้ามา ยังมีหน่วยงานพิเศษของต้าเซี่ย ก็ส่งคนเข้าไป
กองกำลังสำรองกองทัพปราณมังกร ก็กำลังเร่งรีบมาจากวาเลียนท์วิลล่า
พอเซิร์ทเจอข่าวสารนี้ เหล่าบรรดาตระกูลที่ยอมแพ้ล้วนใจแหลกสลาย
แต่ฝ่ายตระกูลที่ไม่ยอมแพ้ ไม่ว่าตระกูลเซี่ย ตระกูลหู ตระกูลซ่ง ตระกูลต่ง ต่างล้วนตื่นใจชื่นมื่น
กองทัพปราณมังกรมาแล้ว
ถึงแม้จะเป็นกองกำลังสำรอง แต่ก็เชื่อได้เลยว่าด้วยฐานกำลังและความเป็นมืออาชีพ จะต้องประสบความสำเร็จในการแก้ไขสถานะการณ์จากร้ายให้เป็นดีได้อย่างแน่นอน
ท่ามกลางฝูงชน ถังเฉาเก็บมือถือลงเงียบ ๆ
เขานั่นเอง ประสานไปที่ปราณมังกร ให้เร่งรุดมาแก้ภาวะฉุกเฉิน
จำนวนคนที่ถูกกักในสนามกีฬาไม่น้อยกว่าสองสามหมื่นคน คนจำนวนมากขนาดนี้ คงเกินกำลังตัวคนเดียวของเขาที่จะชวยได้
อีกทั้ง เขายังต้องค้นหาคนบ้านเขาเอง
ไม่มีอะไรต้องทำให้ลังเลแล้ว ถังเฉามุ่งตามหากลุ่มหลินชิงเสว่ ถังเสี่ยวหลี่ต่อ
“ผู้ที่อยู่ข้างในโปรดฟัง ปืน ค.ในขณะนี้เล็งเป้าที่พวกคุณ วางอาวุธ รีบยอมจำนน”
“ขอย้ำอีกครั้ง ปืน ค.ได้เล็งเป้าที่พวกคุณแล้วในขณะนี้ ขอให้วางอาวุธ และยอมแพ้”
ภายในสนามกีฬาเสียงหนักแน่นของประกาศจากหัวหน้าหลี่หงกังถูกส่งเข้ามาอีก
ได้ยินประกาศนี้ หลินโป๋หลายตื่นตระหนกจนหน้าซีดเผือด ปวกเปียกอ่อนไปทั้งตัวยืนไม่ติด
“คุณผู้หญิงครับ พวกเราจะทำยังไงกันดี ปืน ค.มันจ้องเราอยู่แล้ว……..”
“พวกเราทำเกินเหตุเกินไปแล้วไหม กรณีระเบิดสนามกีฬาเจียงเฉิง เป็นเรื่องทำให้ทั้งประเทศมุ่งเป้าสนใจเข้ามาแล้ว……”
สีหน้าไวโอเล็ตก็ได้เปลี่ยนอึ้งจมหนักลง
สถานะการณ์ในขณะนี้พลิกผันเปลี่ยนกลับ หล่อนก็ให้รู้สึกเกิดเป็นความกดดัน
แต่ทว่า ตามรูปการณ์ก็ยังไม่เกินจากการควบคุมของหล่อน
“ค้างคาว”
ไวโอเล็ตหันไปมองชายในชุดคลุม ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ครับ คุณผู้หญิง”
ค้างคาวตอบรับคำ ตามด้วยรับอุปกรณ์ควบคุมระเบิดมา แล้วทำกด
ตี๊ด…….
บรึม ตูม!
อีกครั้งของเสียงระเบิดดังสะเทือนแก้วหูดับ ในสนามกีฬาเกิดเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
เสียงแผดร้องของความเจ็บปวด เสียงร่ำไห้ เสียงเหยียบย่ำ ดังระงมประสานเป็นทำนองเพลงเศร้าสิ้นหวัง
ด้านบริเวณที่ถังเฉาอยู่ ก็ได้รู้สึกถึงผลสะเทือน
ร่างของเขาไหวยวบอยู่พักหนึ่ง แล้วได้แหงนหน้าขึ้น มองไปที่ไวโอเล็ตด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
สภาพแบบนี้ หล่อนก็ยังกล้ากดระเบิดได้
น้ำเสียงไวโอเล็ตเปลี่ยนเยือกเหี้ยมอีกระดับหนึ่ง
“ไม่ให้พวกแกรู้สึกบ้าง คงจะลืมตัวไปไม่รู้ว่าแต่ละคนทั้งหมดเป็นตัวประกันของข้าอยู่”
“ข้านี่สิ จึงเป็นคนที่กุมชะตาของคนที่นี่ ชีวิตพวกแก ขึ้นอยู่ที่ข้าสั่ง มันใช่เวลาที่ไหน ที่ให้พวกแกมาเหิมเกริม”
เสียงไวโอเล็ตบ่งถึงความโกรธเกรี้ยว และต่อมา หล่อนเร่งเสียงสูงขึ้นถึงระดับแปด
คนที่อยู่ข้างนอกฟังไว้ ให้ปืน ค. รถหุ้มเกราะ และเจ้าหน้าที่คณะกู้ระเบิด ถอยห่างออกไปหนึ่งพันเมตร
“หากยังทำให้ข้าได้ยินเสียงปืนแม้แต่นิดเดียว ข้าก็จะจุดระเบิดที่มีอยู่ทั้งหมดในบริเวณ ระเบิดทิ้งคนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมด”
“……”
ภายนอกสนามกีฬา หลี่หงกังตกอยู่ในภวังค์เงียบ
ภารกิจสำคัญของเขาคือช่วยคน ไม่ใช่มาจับผู้ร้าย
“พวกเราจะทำตามที่เรียกร้องได้ แต่คุณห้ามทำร้ายตัวประกัน”
น้ำเสียงหลี่หงกังอ่อนลงมาหลายส่วน
ไวโอเล็ตพูดเสียงเครียด “พวกแกไม่มีคุณสมบัติพอที่จะมาต่อรองอะไรกับข้า”
“ยังมีอีก คนที่อยู่ในสนามกีฬายกเว้นคนตระกูลที่ยอมแพ้แล้ว นอกนั้นทั้งหมด ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือ มิฉะนั้น ตาย”
ปัง!
ตามติดด้วยไซบอร์กที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ ใช้ความแม่นยำที่แม่นยำมาก ยิงใส่ไปที่โทรศัพท์มือถือในมือของตัวประกันคนหนึ่ง
“โอ๊ะ……..”
คน ๆ นั้นตกใจจนขวัญหาย อ่อนระทวยทรุดลงกับพื้น
“ฮา ๆ ๆ ๆ ๆ………..”
เห็นภาพนี้เข้า ลู่เจียงไห่อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่น
“เมื่อตะกี้ยังทำให้ข้าตกใจอยู่หน่อย ไม่คิดว่ามันแค่ทำเป็นส่งเสียงขู่ คนอยู่ใต้การควบคุมก็ต้องทำตัวอยู่ใต้การควบคุม ทำตัวให้ดี ๆ หน่อย”
ลู่เจียงไห่วางมาดอย่างเต็มด่าใส่ออกไป
ไวโอเล็ตมองไปยังมู่ตงเฟิง คนบ้าบู๊ หลินรั่วหวีสามคนอีกครั้ง “พวกท่านสามคนแข็งกล้ามาก ถ้าต่อสู้กันจริง ๆ ฝ่ายพวกเรานี้คงเสียเปรียบแน่ แต่ว่า ดิฉันเรื่องอะไรต้องไปตบตีกับพวกท่าน ?”
“ท่านผู้พิทักษ์แดนตะวันตก ท่านคนบ้าบู๊ ท่านผู้นำตระกูลหลิน ต่อให้พวกท่านแข็งแกร่งแค่ไหน ก็เป็นเพียงคน ๆ เดียว ยังจะสามารถช่วยคนจำนวนมากในนี้ทั้งหมดได้หรือ ?”
คำพูดของไวโอเล็ตเหมือนเอาน้ำเย็นสาดใส่คนที่อยู่ทั้งหมด คนส่วนมากหน้าซีดเผือด
ใช่เลย พวกเขาจะเก่งกาจแค่ไหน ก็เป็นตัวเขาคนเดียว จะมาช่วยให้ทุกคนรอดชีวิตได้หรือ ?
มู่ตงเฟิงพูดกับไวโอเล็ตด้วยสีหน้าเครียด “สรุปว่าเธอคิดอะไรของเธออยู่ ?”
คนบ้าบู๊ก็เอ่ยปากพูดบ้าง “เธอฝังระเบิดไว้ สั่งคนของเธอควบคุมสนามกีฬานี้ไว้ทั้งหมด แต่ยังไม่กดระเบิด และก็ยังไม่สั่งให้ใครฆ่าคน เป้าหมายก็เพียงต้องการเอาคนที่อยู่ในสนามกีฬาสองสามหมื่นคนนี้ไว้เป็นตัวประกันเท่านั้นหรือ ?”
“ไม่ผิด สมแล้วที่เป็นคนบ้าบู๊!”
ไวโอเล็ตหัวเราะคิก ๆ “ท่านพูดถูกแล้ว ที่ดิฉันทำไปทั้งหมดนี้ เพียงเพื่อต้องการให้คนพวกนี้เป็นตัวประกัน”
“ตั้งแต่เริ่มต้น ดิฉันก็บอกแล้วไม่ใช่หรือ ? เพียงขอให้ท่านร่วมมือ ดิฉันก็คือพระเจ้าผู้ไถ่บาปช่วยพวกคุณ”
“บอกเงื่อนไขเธอมา”
คนบ้าบู๊พูดเสียงเย็นชา
“ถ้างั้นดิฉันก็จะบอกนะ……..”
ไวโอเล็ตหยุดพักหนึ่ง แล้วพูดต่อมาอย่างแกมหยอกว่า:
“เป้าหมายที่แท้จริงของดิฉัน คือเจ้ามังกร”