เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 640 แม่ลูกถูกจับ
บรึม!
พอคำนี้ของไวโอเล็ตพูดออกมา คนที่อยู่ในสนามกีฬาทั้งหมดฮือฮาขึ้นมาอีก
สายตาทุกคู่ ล้วนแสดงออกถึงความตื่นผวา
เจ้ามังกร ?
เจ้ามังกรไหน ?!
ถังเฉาก็ชะงัก แหงนมองไปที่ไวโอเล็ต
มู่ตงเฟิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย พูดไปว่า “ที่นี่คงไม่มีเจ้ามังกรที่เธออยากหานะ มีแต่ผู้ได้รับคัดเลือกคนหนึ่งที่ใช้เจ้ามังกรมาแทนเป็นชื่อตัวเอง”
ไวโอเล็ตหัวเราะพลางพูดว่า “ฉันต้องการหาเจ้ามังกร ไม่ใช่คนที่แอบอ้างใช้ชื่อเจ้ามังกร แต่เป็น……..เจ้ามังกรแดนเหนือ”
พอคำพูดนี้พูดออกไป สายตาทุกคนเป็นตะลึงและข้องใจ
เจ้ามังกรแดนเหนือ!
หรือ เจ้ามังกรแดนเหนือก็มาอยู่ที่นี่?
หลายคนกวาดมองไปรอบ ๆ มองหากันพักใหญ่ ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่าเจ้ามังกรเป็นใคร
เจ้ามังกร แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีปรากฏให้เห็นเป็นตัวตนในสาธารณะชน
เป็นเพียงบุคคลที่มีเพียงการกล่าวขานถึง
“เป็นไปไม่ได้ เจ้ามังกรแดนเหนือไม่มีทางที่จะมาอยู่ที่นี่!”
คำพูดนี้แทงใจดำมู่ตงเฟิง สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นอึมครึม เม็ดเหงื่อผุดไหลออกมาจากหน้าผาก
หากว่าเจ้ามังกรแดนเหนืออยู่ในที่นี่ ประธานงานประชุมแดนเหนือนี้ จะให้ตัวเขาเป็นได้ยังไง ?
ผู้พิทักษ์แดนตะวันตก กับเจ้ามังกรแดนเหนือ ไม่ว่าจะอันดับตำแหน่งหรือระดับฝีมือ ล้วนต่างกันไกล!
“ใครว่าเป็นไปไม่ได้?”
ไวโอเล็ตกลับหัวเราะคิก ๆ “เจ้ามังกรแดนเหนืออยู่ที่นี่แหละ เพียงแต่ว่าพวกท่านไม่รู้จัก”
“……”
สีหน้าถังเฉายิ่งอึมครึมลง ภายในใจเกิดมีความกังวลขึ้นมาเล็ก ๆ
ฝ่ายตรงข้ามได้เตรียมการอย่างละเอียด ทั้งหมดเจาะจงมุ่งใส่ตัวเขาทั้งนั้น
ด้วยสมรรถนะการข่าวของ ‘หว่างเหลี่ยง’ ไม่มีทางจะไม่รู้ว่าตัวเขาเป็นใคร และก็แน่นอนว่าต้องสืบเนื่องไปถึงญาติเขาเองด้วย
ต้องรีบหาหลินชิงเสว่ให้เจอ!
คลื่นฝูงชนก็หนาแน่น ใจถังเฉาก็ยิ่งร้อนรุ่ม ต้องเร่งรีบหาหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวหลี่
ไวโอเล็ตหัวเราะพลางพูดว่า “ความมุ่งหมายของข้ามีเพียงเจ้ามังกรคนเดียว ให้เวลาพวกแกหนึ่งชั่วโมง เพียงพวกแกหาพบว่าเจ้ามังกรอยู่ไหน และให้เขาออกมาได้ ข้าก็จะปล่อยพวกเจ้าที่อยู่ในนี้ทั้งหมด”
“ในทางกลับกัน เมื่อถึงหนึ่งชั่วโมงแล้ว พวกแกยังหาเจ้ามังกรไม่พบ หรือไม่มีใครยืนออกมารับ ก็ต้องเสียใจด้วย ทุกคนในที่นี้ต้องไปลงนรก!”
บรึม!
พอคำนี้พูดจบ คนทั้งหมดหน้าเปลี่ยนซีดเผือด
“รอ ๆ รอ รอ………”
ลู่เจียงไห่อดไม่ได้ออกปากถาม “พวกผมตระกูลลู่ได้สวามิภักดิ์กับคุณผู้หญิงท่านแล้ว ยังรวมอยู่ในนั้นด้วยหรือ ?”
ปัง!
คำตอบของเขา คือลูกกระสุนเย็นเยือกลูกหนึ่ง
ค้างคาวที่ยืนข้าง ๆ ไวโอเล็ตยิงไปอย่างเลือดเย็น กระสุนใส่ตรงเข้าหว่างขาของเขา
เขาอ่อนยวบไปทั้งตัวทรุดฮวบลงที่พื้น กางเกงเปียกชุ่มด้วยของเหลวสีเหลือง
ตกใจจนฉี่แตก
ท่าทางไวโอเล็ตเย็นชา “แน่นอน พวกแกสวามิภักดิ์กับข้า แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่ที่การปรากฏตัวของเจ้ามังกรเท่านั้น เจ้ามังกรไม่ปรากฏตัว พวกแกก็ไม่ได้ต่างอะไรกับตัวประกันพวกนี้ จะเก็บไว้ทำอะไรได้ ? ”
ทันทีนั้นเอง ลู่เจียงไห่และลู่โป๋หาน ตลอดทั้งบรรดาตระกูลที่ยอมแพ้ต่างเหมือนเจอศึกหนัก ร้อนตัวเหมือนมดที่ตกอยู่ในกระทะตั้งไฟ
“บัดนี้ นาฬิกานับถอยหลังสู่ความตายเริ่มได้!”
ไวโอเล็ตหยิบเอานาฬิกาทรายเบอร์ใหญ่ออกมา สายตาร้อนเดือด
บรึม!
แต่ละคนที่อยู่นั้นไม่สนไจกับอะไรอีกแล้ว ทั้งหมดเริ่มขยับตัวออกเสาะหาตัวเจ้ามังกรกัน
แต่ทว่า การเสาะหาอย่างไร้ข้อมูลเป้าหมาย ยังไงก็หาไม่ได้
“คุณผู้หญิงครับ กรุณาให้ข้อชี้แนะพวกเราบ้าง มิฉะนั้นก็คงไม่รู้จะไปหาเอาตรงไหนได้”
ลู่เจียงไห่เอ่ยถามอย่างสิ้นหวัง
ไวโอเล็ตตีสีหน้าทะเล้น “ก็ถูกนะ กับตัวประกันอย่างพวกแกนี่ คงจะพึ่งอะไรมากไม่ได้”
“งั้นก็จะบอกข้อมูลให้นะ จะหาตัวเจ้ามังกรได้ไม่ได้นั้น มีผู้หญิงชื่อหลินชิงเสว่คนหนึ่งกับลูกสาวหล่อน นั้นคือกุญแจสำคัญ”
“ถ้าในพวกแกนี่ใครสามารถจับพวกเขามาได้ ประเมินได้ค่อนข้างแน่ว่าเจ้ามังกรต้องออกมา”
พอพูดคำนี้ออกมา สายตาของคนทั้งหมดเปลี่ยนทันที มุ่งเอาเป็นเอาตายในการหาหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวหลี่
ไม่มีใครไปสังเกตว่า ถังเฉาในขณะนี้สายตาทั้งคู่เปลี่ยนดูบ้าคลั่งสุด ๆ จนเห็นใยเส้นเลือดฝอย รายเรียงเต็มจอตา
“ใครกล้า!”
ในขณะเดียวกันที่เกรี้ยวโกรธ สีหน้าของถังเฉาก็เต็มไปด้วยความร้อนรน
ตัวเขาเองก็ค้นหามาตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวหลี่
“ลูกสาว!”
หลินรั่วหวีพลันมีสีหน้าเปลี่ยนอย่างรุนแรง พุ่งโถมเข้าไปในฝูงคน
เว่ยหมิงจวินรีบคว้าแขนของเขาไว้ “รั่วหวี อย่าออกไปนะ คุณจะให้ตระกูลหลินตกเป็นเป้าอีกหรือ ?”
“อีกทั้งในขณะนี้ที่นี่ก็วุ่นวายเอามาก จะไปหายังไงได้ หล่อนคงต้องปล่อยให้ขึ้นกับบุญโชคตัวเองแล้วแหละ”
ขณะที่พูดนี้ ภายในแววตาเว่ยหมิงจวินแฝงอยู่ด้วยความเย็นชา
ถ้าหากว่าหลินชิงเสว่ตกเป็นเป้า นั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ หล่อนย่อมไม่อยากให้หลินรั่วหวีออกไปปกป้องลูกสาวของเขา
ผัวะ!
เสียงพูดเพียงจบ ใบหน้าของเว่ยหมิงจวินโดนตบเข้าไปฉาดใหญ่
ฝ่ามือของลั่วเย่นหัวตบใส่ลงบนหน้าของหล่อนอย่างโหด ใช้แรงหนักขนาด เล่นเอาเลือดกลบปาก
ในเวลาขณะนี้ แววตาของลั่วเย่นหัวส่องประกายคลั่งในการฆ่า “ถ้าลูกสาวข้าเป็นอะไรไป ไม่เพียงแค่ชีวิตแก คนทั้งบ้านแก ข้าจะไม่ละเว้นแม้คนเดียว!”
พูดจบ หล่อนหันขวับมองไปที่หลินรั่วหวีอย่างเย็นเยือก “พวกเราก็ได้ปล่อยหล่อนไปครั้งหนึ่งแล้ว ยังจะมีปล่อยให้อีกครั้งเหรอ ?”
สีหน้าหลินรั่วหวีเปลี่ยนสลับไปมา สุดท้ายคงเป็นความแน่วแน่
“เธอเป็นลูกสาวผม!”
“หลินรั่วหวี………”
เว่ยหมิงจวินคลานอยู่กับพื้น สายตาเต็มด้วยความเคียดแค้น
“รีบไปคุ้มครองคุณหลิน”
เซี่ยสิงจู๋ หูอีซาน รวมทั้งตระกูลบ้านต่าง ๆ ที่สวามิภักดิ์อยู่กับตระกูลถัง ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียดแยกย้ายกันออกตามหา
……
ในเวลาเดียวกันนั้น บริเวณซากกำแพงที่ล้มพัง
รอบ ๆ บริเวณล้วนมีแต่แผ่นแท่งคอนกรีตแตกหักระเกะระกะ บรรยากาศเต็มไปด้วยกลิ่นฝุ่นฟุ้งกระจาย
มีคนสามคนแอบซ่อนอยู่หลังก้อนแผ่นหิน
ก็คือหลินชิงเสว่ หลินฉ่ายเวย ถังเสี่ยวหลี่สามคน
ขณะที่เกิดการระเบิดตอนครั้งแรก ไม่เบี่ยงไม่เบน เป็นเหตุเกิดขึ้นตรงอัฒจันทร์ที่พวกเขาอยู่นั่นเอง
เพียงแต่ว่าโชคดี ช่วงที่เกิดการถล่ม มีคานขนาดใหญ่ขวางอยู่พอดี ทำให้ไม่ถูกกลบฝัง
พวกเขาก็ได้ยินคำพูดของไวโอเล็ต คือชื่อหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวหลี่
หลินฉ่ายเวยมองไปที่สองแม่ลูกทำท่าจุ๊ปากให้เงียบเสียง “ซวี่….”
ในขณะนั้นสีหน้าของหลินชิงเสว่กับถังเสี่ยวหลี่ยังอยู่ในความตื่นกลัว ผงกหัวรับรู้
หลินชิงเสว่ยังเอามืออุดปากถังเสี่ยวหลี่ไว้ เด็ก ๆ มักจะตกใจเอะอะง่าย เกิดหลุดร้องเสียงหลงออกไปเป็นจบกัน
สภาพตอนนี้ของทั้งสามคนมอมแมมทั้งหน้าตา หลินชิงเสว่กับหลินฉ่ายเวยมีบาดแผลถลอกเต็มทั้งแขนขา
ตอนเกิดการพังถล่ม หลินชิงเสว่โอบกอดถังเสี่ยวหลี่ไว้ทั้งตัวอย่างแน่นหนา จึงไม่ทำให้มีบาดเจ็บกับหนูน้อย
แต่มาถึงเวลานี้ หนูน้อยน้ำตาไหลพราก ถึงหลินชิงเสว่จะเอามือปิดปากไว้แน่น ก็ยังคงได้ยินเสียงอู้อี้อยู่
“คุณพ่อ หนูจะหาคุณพ่อ…….คุณพ่ออยู่ไหน………”
จิตใจหลินชิงเสว่ก็รู้สึกอัดอั้นพูดไม่ถูก ตอนนี้ หล่อนก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถังเฉาอยู่ตรงจุดไหน
แต่ก็แน่ใจได้ว่า ถังเฉาก็กำลังตามหาตนอย่างใจจะคลั่งเช่นกัน
หล่อนกอดถังเสี่ยวหลี่ไว้แน่น พูดปลอบเบา ๆ ว่า “เสี่ยวหลี่ อย่าร้องไห้ คุณพ่อกำลังรีบมาหาพวกเราอยู่ พวกเราต้องปลอดภัยแน่……..”
“แต่ตอนนี้คนข้างนอกดูน่ากลัวจังเลย จะมาจับแม่ จะมาจับหนู หนูกับคุณแม่ไม่ได้ทำอะไรผิด พวกเขาจะจับพวกเราทำไม ฮือ ๆ ๆ ๆ……..”
เจ้าตัวเล็กยังไม่รู้เรื่อง เธอรู้แต่ว่าคนข้างนอกกำลังค้นหาพวกเธออย่างบ้าคลั่ง
ถ้าหากหาพบแล้ว ที่กำลังรอพวกเขาอยู่จะเป็นอย่างไร ใครก็ยังไม่รู้ได้
ถังเสี่ยวหลี่ก็เพียงหวาดกลัวตามสัญชาติญาณ
หลินชิงเสว่กอดเธอให้แน่นยิ่งขึ้น “เสี่ยวหลี่ไม่กลัว แม่อยู่นะ แม่ดูแลปกป้องหนูอยู่!”
โครม!
ทันใดนั้น โครงสร้างคอนกรีตข้างบนร่วงลงมา ดินฝุ่นกระจายฟุ้งร่วงตามลงมา
ถังเสี่ยวหลี่ตกใจจนร้องไห้ลั่นออกมา “แม่ หนูกลัว!”
เสียงร้องนี้ดังมาก ทำเอาหลินชิงเสว่กับหลินฉ่ายเวยหวาดผวาหน้าเปลี่ยนสี
“ซวี่!”
หลินฉ่ายเวยพยายามทำท่ามือห้ามออกเสียง
แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ความเคลื่อนไหวนี้ ถูกคนข้างนอกรับรู้เสียแล้ว
“ข้างในมีคนแอบซ่อนอยู่”
สวบ ๆ ๆ ๆ…!
ข้างนอกส่งเสียงสาวเท้าของคนเข้ามา ฟังจากเสียง น่าจะมีราวยี่สิบสามสิบคน
หลินชิงเสว่กอดถังเสี่ยวหลี่แน่น ใช้มือปิดปากไว้ ไม่ให้เธอออกเสียง
ลู่เจียงไห่ ลู่โป๋หานนำลูกน้องรี่เข้ามา มองดูคนที่หลบซ่อนอยู่ทั้งสามคน ตอนแรกก็ชะงัก แต่แล้วก็ตามด้วยหัวเราะอย่างกวนอารมณ์
“ว้าว นั้นมันท่านประธานหลินของพวกเราไม่ใช่หรือ ? เล่นเอาพวกเราหากันแทบแย่!”
“……”
หลินชิงเสว่บึ้งหน้าไม่พูดอะไร ดึงเอาถังเสี่ยวหลี่ไปไว้ข้างหลัง เอาร่างของตัวเองบังไว้
“พวกแกจะทำอะไร ?”
หลินฉ่ายเวยตกตระหนื่นเป็นอย่างมาก เสียงพูดก็ออกสั่น
ลู่โป๋หานฉายแววเหี้ยมจากสายตา
เผียะ!
ใบหน้าหลินฉ่ายเวยถูกตบเข้าทีหนึ่ง ทั้งตัวล้มลงไปตามแรง
“ทีนี่ไม่มีเรื่องของแก ถอยไปให้พ้น!”
พูดเสร็จ หันไปมองหลินชิงเสว่ หัวเราะแบบไม่หัวเราะว่า “ท่านประธานหลิน คุณจะตามพวกผมไปดี ๆ หรือจะให้พวกผมบังคับให้ไป”
“ขอพูดไว้ก่อนนะ ลูกน้องของผมสันดานไม่ค่อยดี หากไปทำพวกเขาโกรธ พวกมันจะทำอะไรให้เกิดขึ้นก็ได้ทั้งนั้น”
หลินชิงเสว่ไม่ปริปาก เพียงหยิบเหล็กเส้นที่อยู่ข้างตัว กำอยู่ในมือที่สั่นอยู่
“ฉันไปกับพวกแกก็ได้ แต่พวกแกต้องปล่อยลูกสาวฉัน”
ยิ้มบนหน้าลู่โป๋หานเข้มขึ้น แล้วแสยะออกเสียงออกมา “เธอคิดว่ามันเป็นไปได้หรือ เธอไปกับพวกเรา เจ้าเด็กเวรคนนี้ก็ต้องไปกับพวกเราด้วย!”
“แง………”
ถังเสี่ยวหลี่ที่หลบอยู่ข้างหลังหลินชิงเสว่ตกใจกลัวร้องไห้จ้า “พวกแกอย่ามารังแกคุณแม่หนูนะ คุณพ่อหนูเก่งมากนะ ระวังเขาจะมาไล่พวกแก!”
“คุณพ่อหนูเหรอ?”
ลู่โป๋หานเหมือนได้ยินเรื่องตลกขำขัน หัวเราะเหยียด ๆ “คุณพ่อหนูไม่มาช่วยพวกหนูแล้ว!วันนี้แกแม่ลูกสองคน ต้องตายแน่ ๆ”
นาทีต่อมานั้นเอง เขาตะคอกด้วยเสียงอันดัง “เข้ามาทั้งหมดเลย จัดการจับแม่ลูกคู่นี้ไป!”
“พวกเราหาหลินชิงเสว่เจอทั้งแม่ลูกแล้ว คุณผู้หญิงก็จะได้ปล่อยพวกเราแล้ว ถึงเวลานั้นตระกูลลู่ของพวกเรา ก็คือตระกูลยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในเจียงเฉิง”
บรึม!
กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังถูกปลุกเร้า แต่ละคนเหมือนได้รับยากระตุ้น มุ่งตรงเข้าหาหลินชิงเสว่
“หยุดนะพวกแก!”
เสียงดังปึง ลู่โป๋หานโดนอะไรเข้าไปล้มคว่ำลงกับพื้น
เงยหน้าขึ้นดู เห็นหลินฉ่ายเวยยืนมองอย่างบ้าคลั่ง และร้องตะโกนไปว่า “พี่หลิน รีบพาเสี่ยวหลี่วิ่งหนีไป!”
“อีนังแพศยา……….”
แววตาลู่โป๋หานฉายความโหดเหี้ยมออกมา สะบัดขาเตะหลินเวยกระเด็นไปด้านข้าง ตามเข้าไปตบใส่
จนกระทั่งหล่อนหลบเสมือด ผมเผ้ากระเจิงกองอยู่กับพื้น จึงหยุดมือ
ถ่มน้ำลายใส่ สั่งไปที่ลูกน้องว่า “อีผู้หญิงคนนี้ ยกเป็นรางวัลให้พวกแก จะเอาไปเล่นยังไงก็ได้”
“ขอบคุณคุณชายลู่。”
เหล่ามือปืนบ้านตระกูลลู่แต่ละคนกระเหี้ยนกระหือ หน้าตาระดับหลินฉ่ายเวยนี่ พวกเขาก็ไม่เคยลิ้มลองมาก่อน
ลู่เจียงไห่มองไปที่เหล็กเส้นที่ถือ กับมือที่สั่นของหลินชิงเสว่ พูดเสียงหัวเราะว่า “คุณหลิน อย่าดิ้นรนอย่างไร้สาระเลย ตามพวกเราไปดี ๆ”
แต่แล้ว ไม่ว่าเขาจะพูดยังไง หลินชิงเสว่ก็ไม่โต้ตอบใด ๆ
ลู่เจียงไห่ผลุบตาลง “เห็นแก่หน้าแล้วยังไม่ให้หน้ากัน จัดการสั่งสอนหล่อนเสียหน่อยซิ!”
“อย่าเข้ามานะ ฉันบอกว่าอย่าเข้ามา!”
หลินชิงเสว่ขณะนี้หลุดโลกไปแล้ว ความบ้าคลั่งเต็มใบหน้า แต่ลึก ๆ ในแววตา กลับมองเห็นถึงความรู้สึกสิ้นหวัง
ที่หล่อนหวังมากเป็นที่สุด คือมีถังเฉาอยู่ข้าง ๆ หล่อนในขณะนี้
ปัง!
หลินชิงเสว่ถูกจับออกไป
“คุณแม่!”
ตาแป๋ว ๆ มองแม่ที่ถูกจับไป ถังเสี่ยวหลี่ปล่อยเสียงโฮลั่น
“พวกแกอย่าตีคุณแม่ ปล่อยแม่นะ พวกแกเป็นคนเลวที่สุด……..”
ดวงตาของถังเสี่ยวหลี่เอ่อท่วมด้วยน้ำตา อีกทั้งยังเกิดมีความแค้น วิ่งมุ่งหน้าไปทางหลินชิงเสว่
“อย่าเข้ามา!”
หลินชิงเสว่ร้องเสียงหลง น้ำตาท่วมหน้า
และแล้วหล่อนเริ่มร้องวิงวอน “พวกคุณปล่อยลูกสาวฉันไปเถอะ เธออายุเพียงแค่ห้าขวบเท่านั้น ฉันขอร้องละ! ”
หลินชิงเสว่คุกเข่าโขลกหัวให้ตระกูลลู่ บนใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดไหลนอง เล็บนิ้วจิกแน่นกับพื้น ขูดลากเห็นเป็นรอยน่าสยอง
แต่ ลู่โป๋หานไม่มีทีท่าจะปล่อยถังเสี่ยวหลี่
“ไม่มีทาง พวกแกทั้งสองคนหนีพ้นไปไม่ได้!”
“โอ๊ย!”
เพียงพูดจบ ลู่โป๋หานร้องเสียงหลง
ถังเสี่ยวหลี่วิ่งถลาเข้ามากัดเขาเข้าไปอย่างแรง กัดเอาเนื้อหลุดออกมาชิ้นหนึ่ง
บนพื้นมีโทรศัพท์ตกอยู่เครื่องหนึ่ง ถังเสี่ยวหลี่เก็บขึ้นมาได้ก็วิ่งหนี
“จับไอ้เด็กเวรนั่นมา!”
ตามหลังมาด้วยเสียงคำรามอย่างโกรธแค้นของลู่โป๋หาน
ถังเสี่ยวหลี่วิ่งไปพลางร้องไห้พลางกดสัญญานต่อโทรศัพท์ถึงถังเฉา
“ฮัลโหล?”
ในโทรศัพท์ เป็นเสียงถังเฉาทักมาอย่างระแวง เพราะเป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ไม่คุ้น
“คุณพ่อ คุณพ่ออยู่ไหน รีบมาช่วยเสี่ยวหลี่กับคุณแม่เร็ว พวกเขาตีเสี่ยวหสี่กับตีคุณแม่ แม่ถูกพวกเขาจับไป …….ฮือ ๆ ๆ ๆ ๆ!”
ทันทีที่ต่อโทรศัพท์ติด ถังเสี่ยวหลี่กลั้นอารมณ์ไม่อยู่ปล่อยเสียงร้องไห้เต็มที่อย่างสุดอั้น