เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 652 รายชื่อคนตาย
พอพูดจบ ค้างคาวก็อึ้งตะลึงไป
จากนั้นก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความไม่เชื่อ“เป็นไปไม่ได้ ฉันเป็นคนติดตั้งระเบิดรอบๆสนามกีฬาเอง ต่อให้เป็นทีมกู้ระเบิดมืออาชีพ กู้จนหมดก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยหลายชั่วโมง จะเสร็จภายในเวลาอันสั้นแบบนี้ได้ยังไง?”
ตอนนี้ ตั้งแต่ที่พวกคนดูหนีออกไปจากสนามกีฬา ก็เพิ่งจะสองชั่วโมงเท่านั้น ถ้าคิดจะกู้ระเบิดล่ะก็ เป็นไปไม่ได้แน่นอน
ถังเฉายิ้มๆ“บนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ แกเป็นมืออาชีพ แต่ก็มีคนที่เป็นมืออาชีพมากกว่าแก”
“หมายความว่าไง?”
ค้างคาวมองถังเฉาด้วยสายตาระแวง
ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ มีสองตากำลังจ้องมองเขาอย่างสั่นไหวไม่มั่นคง
“ตอนที่แกกำลังลงมืออัดฉันอยู่นั้น เพื่อนของฉันก็ไปกู้ระเบิดเรียบร้อยแล้ว เธอเป็นมืออาชีพซะยิ่งกว่ามืออาชีพซะอีก”
ถังเฉาพูดยิ้มๆ“กู้ระเบิดพวกนี้ สำหรับเธอแล้วเป็นแค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกินความสามารถอะไร”
พอได้ฟังถึงตรงนี้ ค้างคาวจะไม่เชื่อเขาก็ไม่ได้แล้ว ซัดรีโมทออกไปทันที
ตอนนี้รีโมทกลายเป็นแค่เศษเหล็กที่แตกยับเยินไปแล้ว
“ดังนั้น ตอนที่เพื่อนของแกกู้ระเบิด แกก็เลยแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ยอมให้ถูกอัดอย่างนั้นสินะ?”
ค้างคาวกัดฟันพูดถามขึ้น
“ใช่”
ถังเฉายอมรับแล้ว“แบบนี้ก็จะสามารถทำให้แกประมาทไม่ระแวดระวังยังไงล่ะ กว่าแกจะแกดึงสติกลับมา ก็สายไปแล้ว”
ค้างคาวจ้องเขม็งถังเฉา ในเวลานี้ เขารู้แล้วว่าสถานการณ์กำลังเสียเปรียบ
ถังเฉาก็ไม่ให้โอกาสพูดคุยกับเขาแล้ว สีหน้าเย็นชา
“เอาล่ะ ให้ฉันดูหน้าภายใต้หน้ากากของแกหน่อย”
แควก ถังเฉาฉีกกระชากเสื้อคลุมของเขา
เขาสนใจค้างคาวคนนี้มานานมากแล้ว ตอนที่อยู่ที่หมิงจูเขาก็เคยได้ยินชื่อค้างคาวคนนี้มาก่อน
ค้างคาวที่แท้จริงได้สร้างตัวตนปลอมมามากมาย
ในตอนแรกสุด ก็เป็นเซียกางที่ลักพาตัวถังเสี่ยวลี้ลูกสาวของเขาไปด้วยความโกรธที่อัดอั้นเอาไว้
จากนั้น ก็เป็นพ่อบ้านของตระกูลเสิ่น ได้รับคำสั่งมาจากค้างคาว ว่าให้มาซุ่มอยู่ในตระกูลเสิ่นเป็นเวลาสามสิบปีเต็มๆ
สุดท้าย ก่อนที่หลินโป๋หลายจะตายไป ภายใต้การแทรกแซงของเฟิ่งหวง ก็เข้าไปช่วยชีวิตหลินโป๋หลายออกมา
สมาชิกที่เหลือจากการถูกโค่นล้มของตระกูลเหวิน ก็มีเงาของค้างคาวเหมือนกัน ตอนนี้ สามารถถอดเสื้อคลุมที่หัวของเขาออกได้แล้ว
แต่ สิ่งที่ถังเฉาเห็น เป็นเพียงแค่ใบหน้าที่มีรอยบาดแผลเต็มไปหมด
บนใบหน้ามีรอยแผลจากมีดดาบอยู่เต็มไปหมด อย่างน้อยๆก็มีนับร้อยนับพันได้
ผิวหนังถูกฟันเป็นชิ้นๆ เหมือนรอยตาข่าย แถมกลายเป็นรอยแผลเป็นที่ดูน่าตกใจไปแล้วด้วย
ถังเฉาสีหน้าจริงจังน่าเกรงขาม ใบหน้าถูกทำลายจนเละแบบนี้ ต่อให้เป็นเครื่องมืออุปกรณ์ที่แม่นยำแค่ไหน ก็ไม่สามารถระบุตัวตนที่แท้จริงของเขาได้แน่ๆ
ต้องมีจิตใจที่เหี้ยมโหดขนาดไหน ถึงลงมือกับตัวเองได้อย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้?
ค้างคาวนิ่งเงียบไม่พูดอะไร หลายคนเคยพูดเอาไว้ ว่าค้างคาวที่แท้จริง เขาเคยเห็นมาก่อนแล้ว
แต่ใบหน้าแบบนี้ เขาไม่เคยเห็นมาก่อนเลย!
ตอนนี้มีแต่ต้องเก็บตัวอย่างเลือดของเขาแล้วเอาไปตรวจDNAเท่านั้น ถึงจะระบุตัวตนที่แท้จริงของเขาได้
“ในเมื่อดูหน้าของแกไม่ออก แต่แกก็ต้องไปกับพวกเรา”
ถังเฉาเตรียมที่จะจับตัวของค้างคาว
บูม!
คิดไม่ถึงว่าค้างคาวจะสวมเสื้อคลุมอีกครั้ง แล้วลอยขึ้นไปในอากาศ
“ถังเฉา ถึงฉันจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของแก แต่แกก็จับฉันไม่ได้!”
พอพูดประโยคนี้จบอย่างยิ้มๆ ค้างคาวก็ทิ้งระเบิดควันลงมาจากอ้อมแขน
ปึ้ง!
ระเบิดควันระเบิดออกมา รอบข้างๆก็เต็มไปด้วยควันตลบอบอวลไปหมด
หลังจากที่ควันจางหายไป เงาของค้างคาวก็ไม่มีแล้วเช่นกัน
ถังเฉายืนตรงนั้นอยู่นานสองนาน ก่อนจะออกจากสนามกีฬาไป
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะไปไล่ตามค้างคาว เขาสนใจหลินชิงเสว่ ภรรยาของเขามากกว่า
……
ข้างนอกสนามกีฬา
ยังคงมีรถหุ้มเกราะอยู่จำนวนมาก คนที่สนามรบไม่เพียงแต่ยังไม่จากไปไหนแล้ว กลับยิ่งเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำ
เพราะว่าคดีวางระเบิดที่สนามกีฬาของเมืองเจียงเฉิงดึงดูดความสนใจจากทั้งประเทศแล้ว
ในฐานะที่อยู่ในสนามรบ หลี่หงกังรับผิดชอบเป็นหนังหน้าไฟ
จากข่าวข้อมูลที่เขาได้รับมา ก็คือภายในสนามกีฬามียอดฝีมืออยู่หนึ่งคน บวกกับอาวุธสงครามที่ยังไม่เคยเปิดเผยสู่สายตาของผู้คนก็กำลังทำงานอยู่
พวกเขาไม่สนใจยอดฝีมือสนามรบ ที่พวกเขาสนใจคืออาวุธสงครามพวกนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้องกับอาวุธสงคราม ถูกแบนจากฝ่ายรัฐบาลจนหมด
แถมถ้าใครยังกล้าปล่อยข่าวอีก ก็ต้องรับผิดกันตามกฎหมาย!
รายงานเกี่ยวกับอาวุธสงครามในอินเทอร์เน็ต ตอนนี้ก็ถูกสั่งระงับไปแล้ว
นี่มันก็บ่งชี้แล้วว่าพวกเขาจะต้องจัดการเรื่องที่สนามกีฬาแล้ว ไม่อย่างนั้นก็จะยากต่อการอธิบายกับทางฝั่งของเหล่ามวลชน
ดังนั้นทางฝั่งของหลี่หงกังก็เลยรู้สึกตึงเครียดกดดันอย่างมาก
ปึ้ง!
ในตอนนี้ ประตูของสนามกีฬาถูกเปิดออก
ทุกคนต่างรู้สึกตึงเครียดทันที แต่ละคนพากันยกปืนขึ้นมา
แม้แต่ปืนครกก็ยกหันเล็งไปยังประตู
พวกปืนแก็ตลิงที่อยู่บนรถหุ้มเกราะ ก็เล็งเตรียมยิงเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
ดินปืนอัดเต็ม เขม่าฝุ่นควันฟุ้งตลบอบอวล กลุ่มคนค่อยๆเดินตรงไปช้าๆ
ตึกๆ!
กลุ่มชายกำยำในขบวนแฟแลงซ์ก็รู้สึกตึงเครียดกดดันจนเหงื่อไหลออกจากฝ่ามือ
ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่ง หรือว่าอาวุธสงคราม ก็ล้วนแต่น่ากลัวทั้งนั้น
แต่ เจียงไป๋เสว่กลับโบกมือ“หยุดให้หมด!”
เถี่ยนิ้วก็ตะโกนตามออกมา“หยุดให้หมด!”
เจียงไป๋เสว่จ้องเขม็งเงาคนตรงนั้น
ควันจางหายไป ถังเฉาก้าวขาเดินตรงเข้ามา
ตอนนี้ทุกคนถึงได้วางปืนลงด้วยความโล่งใจ เจียงไป๋เสว่ใบหน้าเผยให้เห็นถึงรอยยิ้ม
“ครูผู้ฝึก!”
“คุณถัง!”
เถี่ยนิ้วกับหลี่หงกังต่างก็พากันวิ่งมาด้วยความตื่นเต้น
“ศัตรูล่ะ?”
เจียงไป๋เสว่ถามขึ้น
“หนีไปแล้ว”
ถังเฉาพูดขึ้นอย่างนิ่งเฉย
พอคำพูดนี้ออกมา พวกหลี่หงกังและคนอื่นๆก็สูดหายใจเข้าหนึ่งที
ศัตรูที่ทำให้ทั่วทั้งประเทศต่างพากันตึงเครียด ถังเฉาคนเดียวกลับจัดการจนหนีไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?
หลี่หงกังรีบรายงานสถานการณ์กับถังเฉาทันที ว่าจะมีนักข่าวมาสัมภาษณ์
ถังเฉากลับปฏิเสธ“ถ้านักข่าวถาม ก็บอกว่าเป็นเครดิตของนายก็แล้วกัน ภรรยาของฉันอยู่ไหน?”
หลี่หงกังเฝ้าอยู่ด้านหน้าตลอดเวลา จะต้องรู้แน่นอน
“เอ่อ……”
หลี่หงกังกลับสีหน้ากลับดูอึดอัด กำลังจะพูดแต่ก็หยุดลง
ถังเฉาก็รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คว้าไหล่ของหลี่หงกังไว้ทันที พร้อมกับพูดถามขึ้น“บอกมา!ภรรยาของฉันเป็นอะไร?”
ลังเลอยู่สักพัก หลี่หงกังก็พูดออกมาตามความจริง
“คุณหลินหลังจากที่รู้ว่าคุณถูกซัดจนตายแล้ว ก็รับไม่ได้ เป็นลมหมดสติไป ทางโรงพยาบาลวินิจฉัยว่า อาจจะเป็นเพราะปัญหาทางด้านจิตใจ”
“อะไรนะ?!”
พอคำพูดนี้ออกมา ถังเฉาก็สีหน้าเปลี่ยนไปไม่น้อย
“ตอนนี้คุณถูกบันทึกเข้าไปในรายชื่อของคนที่หายสาบสูญไปเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างก็นึกว่าคุณตายไปแล้ว ก่อนถูกส่งไปที่โรงพยาบาล ผมได้ยินว่าคุณนายของตระกูลหลินจะให้คุณหลินวางแผนที่จะแต่งงานใหม่”
บูม!
พอพูดจบ ที่ตัวของถังเฉาก็มีรังสีอำมหิตที่น่าสะพรึงแผ่ซ่านออกมา
ลมกรรโชกแรงพัดผ่านไป ราวกับใบมีด ทุกคนต่างพากันตัวสั่นทันที
“เตรียมรถ ฉันจะไปหาเธอ”
ถังเฉาสายตาน่าสะพรึงกลัว น้ำเสียงเย็นยะเยือก
“รอเดี๋ยว ตอนนี้คุณยังไปไม่ได้”
เจียงไป๋เสว่กลับตะโกนรั้งเขาเอาไว้
ถังเฉาหันกลับมา มองเธอด้วยสายตาเยือกเย็น
ต่อให้เป็นเจียงไป๋เสว่ ตอนที่เผชิญหน้ากลับจิตสังหารของถังเฉา ก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันมหาศาลเช่นกัน
แต่ว่า เธอยังคงพูดออกมา
“เพราะว่าเรื่องนี้ เบื้องบนให้ความสนใจมาก ส่งคนมามาสอบถามท่าทีทัศนคติของสมาชิกกองทัพปราณมังกรทุกคน สรุปง่ายๆก็คือ ถ้ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง กองทัพปราณมังกรก็จะถูกยุบแน่นอน”
เจียงไป๋เสว่สีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง“เขาเจาะจงเลยว่าอยากเจอตัวคุณ”
จิตสังหารในแววตาของถังเฉาสว่างวูบวาบ“ไม่เจอ!”
“ถังเฉา!”
เจียงไป๋เสว่คว้าแขนของถังเฉาเอาไว้“คุณก็น่าจะเข้าใจ ว่าชื่อเรียก‘เจ้ามังกร’นี้ของคุณมาได้ยังไง ถ้าไม่มีท่านราชามังกรรุ่นก่อนช่วยแนะนำคุณอย่างสุดแรงล่ะก็ ต่อให้คุณมีพลังอำนาจบาตรใหญ่แค่ไหน ตำแหน่งนี้ก็ไม่มีทางตกมาถึงคุณแน่นอน”
“เริ่มตั้งแต่ยุคนั้นของท่านเจ้ามังกร ความขัดแย้งของสำนักเมี่ยวถังก็อยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมาโดยตลอด เนื่องจากคุณกลายเป็นเจ้ามังกรที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ทางด้านของกองทัพปราณมังกรได้เปรียบ แต่ท่านเจ้ามังกรก็เกษียณไปเรียบร้อยแล้ว ท่านถึงช่วงอายุที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย พวกเราก็ไม่สามารถไปรบกวนท่านได้อีกแล้ว ต่อให้คุณจะเกษียณไปแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบเหมือนกัน!”
ถังเฉาอยู่ในสภาวะเงียบสงบ ภาพในอดีตผุดขึ้นมาตรงหน้าที่ละฉากๆ สายตาของเขาดูยุ่งยากซับซ้อนเรียบร้อยแล้ว
จริงๆแล้วเขาเข้าใจ เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ความขัดแย้งของสำนักเมี่ยวถังจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน
เมื่อก่อนมีท่านเจ้ามังกรคอยคุ้มกะลาหัวอยู่ ตอนนี้ท่านเจ้ามังกรมาถึงช่วงชีวิตที่สงบเรียบง่ายแล้ว มีแค่คนรุ่นใหม่แบบเขาเท่านั้นที่ต้องเข้าไปประคับประคองเอาไว้
ท่านเจ้ามังกร มีบุญคุณอันใหญ่หลวงต่อเขา
แล้วเขาก็เป็นคนช่วยชีวิตตนเองด้วย
เขายังทำให้ถังเฉากลายเป็นเจ้ามังกรอีก
เรียกได้ว่า ถ้าไม่มีท่านเจ้ามังกร ก็จะไม่มีถังเฉาเหมือนทุกวันนี้
“ได้ ฉันจะไป”
ในตอนนี้ถังเฉาสงบลงแล้ว
เรื่องส่วนตัวกับเรื่องของประเทศชาติ สุดท้ายเขาก็เลือกอย่างหลัง
เจียงไป๋เสว่ถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดกับถังเฉา“เดินการตามกระบวนการนี้ จะไม่ยืดเยื้อเวลามากเกินไป ทางฝั่งของท่านเจ้ามังกรบอกว่า หลังจากที่เรื่องเสร็จสิ้นแล้ว ถ้าพวกเรามีเวลาก็ไปเยี่ยมท่านที่เยี่ยนจิงสักหน่อย”
ท่านเจ้ามังกรสกุลหลง ชื่อไป่ชวน ตระกูลที่เขาอยู่ ก็คือตระกูลหลงหนึ่งในเก้าตระกูลใหญ่ของเยี่ยนตู
ตระกูลหลงธรรมดาทั่วไป มีแค่หลงไป่ชวนคนเดียวเท่านั้น!
เจ้ามังกรรุ่นที่แล้ว พละกำลังน่าสะพรึงกลัว คุ้มครองทั้งตระกูลด้วยตัวคนเดียว ไม่มีใครกล้ามายุแหย่!
ถังเฉายิ้มตอบสนองกลับมา“ได้”
ถังเฉาไม่ได้ไปหาหลินชิงเสว่ แต่ไปยังสนามรบที่เมืองเจียงเฉิง
บทสนทนาในครั้งนี้ดำเนินไปเป็นเวลานาน แค่ชั่วพริบตา หนึ่งวันก็ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว
วันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ลอยขึ้นมา
รถจิ๊บสีเขียวทหารคันหนึ่งแล่นอยู่บนถนนด้วยความเร็วถึงขีดสุด
“เร็วเข้า เร่งความเร็วอีก ไปโรงพยาบาลอันดับสามของเมืองเจียงเฉิง!”
ถังเฉานั่งอยู่ในรถ พูดตะโกนขึ้น
ในตอนนี้เอง ณ โรงพยาบาล
ภายในห้องผู้ป่วยห้องหนึ่ง
หลินชิงเสว่ข่มตานอนไม่หลับตลอดทั้งคืน สีหน้าซีดเซียว
ถังเสี่ยวลี้ที่อยู่ในอ้อมกอดก็ไม่ได้นอนเหมือนกัน ในที่สุดเช้าตรู่ของวันต่อมา ก็นอนหลับลึกไปอย่างอดกลั้นไม่ไหวแล้ว
เธอไม่เชื่อว่าถังเฉาตายไปแล้ว เฝ้ารอคอยอยู่ตลอด
หลินจ้าวหยูนที่อยู่ข้างๆมองอย่างเจ็บปวดใจ พูดขึ้นมาอย่างอดไม่ได้“พี่ พี่พักผ่อนสักหน่อยเถอะนะ ถ้าพี่เขยกลับมาแล้ว ฉันจะปลุกพี่เอง”
หลินชิงเสว่ส่ายหัวด้วยความดื้อรั้น“ฉันไม่นอน ฉันจะรอเขา”
ปึ้ง!
ในตอนนี้เอง ประตูห้องผู้ป่วยก็ถูกเปิดออก
เว่ยหมิงจวินในมือถือรายชื่อเดินเข้ามา อารมณ์ตื่นเต้น“รายชื่อคนตายออกมาแล้ว ข้างในมีชื่อของถังเฉา!”
พอคำพูดนี้ออกมา หลินชิงเสว่สายตาถลึงโตทันที
เธอแย่งรายชื่อในมือนั้นมา มองดูอย่างละเอียด
ตอนที่เธอเห็นชื่อ‘ถังเฉา’ที่ประทับอยู่ในรายชื่อแล้ว หลินชิงเสว่รูม่านตาก็เปิดกว้างทันที
สองตาราวกับสูญเสียการโฟกัส รู้สึกสับสนไม่เข้าใจ
จากนั้น น้ำตาก็ค่อยๆไหลออกมาช้าๆ
“พี่เขย……”
หลินจ้าวหยูนที่อยู่ข้างๆก็ร้องไห้ออกมาอย่างอดไม่ได้
เว่ยหมิงจวินเดินมาข้างๆหลินชิงเสว่ ตบลงที่ไหล่ของเธอเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้น“คนตายไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ เสียใจด้วยนะ ตอนค่ำฉันจะจัดการให้เธอได้เจอมีปฏิสัมพันธ์กับเหล่าบรรดาคุณชายที่มีฐานะชาติตระกูลสักหน่อย เตรียมที่จะแต่งงานใหม่ทันที!