เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 653 ในงานศพ
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไร แค่กำใบรายชื่อคนตายไว้แน่นเท่านั้น
กระดาษใบนั้น ถูกกำจนยับยู่ยี่ทันที
ทันใดนั้น หลินชิงเสว่ก็เงยหน้าขึ้น ทิ้งกระดาษใบนั้นลงไปในถังขยะ
“ฉันต้องการให้สมาชิกทางฝั่งรัฐบาลบอกฉันกับปากของพวกเขาเอง ใครจะรับประกันได้ว่ารายชื่อคนตายนี้ ไม่ใช่ของที่พวกคุณปลอมแปลงขึ้นมา?”
เว่ยหมิงจวินสีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ จากนั้นก็พูดขึ้นอย่างเย้ยหยัน“จนป่านนี้แล้ว เธอยังไม่เชื่ออีกเหรอ? รายชื่อคนตายนี้ ทางรัฐบาลเป็นคนส่งมาเองนะ!”
หลินจ้าวหยูนดึงเสื้อของเว่ยหมิงจวินเอาไว้ ร้องไห้พร้อมกับพูดขึ้น“แม่ แม่พูดความจริงเถอะ สรุปพี่เขยตายแล้วหรือยัง?”
พอเห็นลูกสาวของตัวเอง เว่ยหมิงจวินก็แสดงความโหดเหี้ยมไร้ความเมตตาแบบนี้ไม่ลง
เธอถอนหายใจออกมา พูดกับหลินจ้าวหยูน“แน่นอนน่ะสิ หรือว่าแม่จะหลอกลูกหรือไง? ถังเฉา ตายแล้วจริงๆ!”
“ถ้าไม่เชื่อ แม่จะพาสมาชิกทางฝั่งรัฐบาลมาเอง เชื่อว่าพวกเขาจะไว้หน้าพวกเรา!”
พูดจบ เว่ยหมิงจวินก็ออกไป
ไม่นาน ก็พาชายวัยกลางคนที่เป็นคนภายในองค์กรเข้ามาหนึ่งคน
“ท่านนี้คือจางส้งเป็นคนที่จัดทำสำมะโนประชากร คุณจาง ฉันจะให้เขามาบอกพวกเธอกับปากของเขาเองแล้วกัน”
พอแนะนำเสร็จ เว่ยหมิงจวินก็ไปยืนอยู่ริมๆ
จางส้งแสดงความเสียใจก่อน จากนั้นก็พูดอธิบายความจริงให้กับสองพี่น้องหลินชิงเสว่
“สามีของคุณ ตายแล้วจริงๆ แม้ว่าที่เกิดเหตุจะไม่พบซากศพของเขา แต่ว่าเจอกองเลือดจำนวนมาก ผ่านการตรวจDNAแล้ว เป็นสามีของคุณจริงๆ”
พูดจบ จางส้งก็หยิบรายงานตัวอย่างของเลือดและรูปที่เกิดเหตุอีกสองสามใบออกมา
เลือดที่หยดไหลนอง สีดำสนิท ดูแล้วน่าสยดสยองสุดๆ
ตอนนี้ หลินชิงเสว่ไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว
เธอร้องไห้โฮออกมา ปลุกถังเสี่ยวลี้ตื่นขึ้นมา
“แม่ พ่อล่ะคะ?”
เด็กน้อยขยี้ตาอย่างสะลึมสะลือ พร้อมกับพูดถามขึ้น
ไม่ได้พูดอะไร หลินชิงเสว่แค่กอดถังเสี่ยวลี้พลางร้องไห้ออกมาตลอดเวลา
เธอก็รู้สึกได้ถึงอะไรเหมือนกัน เหม่อไปสักพัก ก็ร้องไห้ตามออกมา
ที่ตรงนี้เต็มไปด้วยความเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
เว่ยหมิงจวินเปิดประเด็นเรื่องแต่งงานใหม่ขึ้นมา
“ชิงเสว่เอ๋ย เธอยังเด็ก ไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่กับถังเฉาหรอก เธอมีสิทธิ์ที่จะตามหาความสุขของตัวเอง”
พูดอะไรหลินชิงเสว่ก็ไม่ฟันทั้งนั้น หลินจ้าวหยูนก็รู้สึกว่าแม่ของตัวเองทำเกินไปแล้ว
พี่เขยเพิ่งจะตายไป ก็ให้พี่แต่งงานใหม่เลยทันทีแบบนี้ มันมีที่ไหนกัน?
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาเถอะ เรื่องแต่งงานใหม่เอาไว้ก่อนก็ได้ งานศพของถังเฉา ต้องจัดให้เขาก่อน!”
เว่ยหมิงจวินพูดเสนอขึ้นมา
คนอื่นๆก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย
ตายก่อนวัยอันควร ต้องมีงานศพ
หลินชิงเสว่ก็รู้สึกว่าต้องส่งถังเฉาให้ดีๆ
เว่ยหมิงจวินส่งคนไปจัดการเรียบร้อยแล้ว
ทุกบ้านทุกตระกูล ต่างก็เปลี่ยนเป็นชุดงานศพสีดำกันหมด
ผู้ชายก็สวมชุดสูทสีดำ รองเท้าหนังสีดำ ผู้หญิงเป็นชุดกระโปรงสีดำ ถุงเท้ารองเท้าดำ
ไม่นาน ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
หลินชิงเสว่ก็ออกจากโรงพยาบาล เข้าร่วมงานศพของถังเฉา
แต่ในงานยังมีพวกเด็กหนุ่มที่โดดเด่นที่หลินชิงเสว่ไม่เคยเจอมาก่อนอยู่เยอะแยะมากมาย
ในงานตกแต่งเหมือนกับงานเลี้ยง พวกเขาพูดคุยยิ้มแย้มกัน ไม่สนใจสักนิดเลยว่าที่นี่คืองานศพ
หลินชิงเสว่น้ำตาแห้ง แห้งแล้วก็ร้องออกมาต่อ ไหลออกมาจนหมดแล้ว
เธอไม่เพียงแต่สูญเสียความรักไปเท่านั้น แต่ลูกสาวก็สูญเสียพ่อไปตลอดกาลเช่นกัน
นี่มันโหดร้ายกับเด็กเกินไปแล้ว
ตอนที่หลินชิงเสว่คุกเข่าหน้ารูปศพ เว่ยหมิงจวินพาหนุ่มวัยรุ่นสวมชุดสูทสีดำเดินตรงเข้ามา
“ชิงเสว่ จะแนะนำให้เธอรู้จักสักหน่อย คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่นของตระกูลยักษ์ใหญ่ที่มาจากแต่ละตระกูลของเจียงเจ้อ เธอไม่ต้องคุกเข่าแล้ว ลุกขึ้นมาทักทายพูดคุยกับพวกเขาสักหน่อยสิ”
หลินชิงเสว่ไม่ขยับเขยื้อน ไม่สนใจเลยสักนิด
เธอรู้เจตนาของเว่ยหมิงจวินดี
เว่ยหมิงจวินเริ่มคิดจะให้เธอแต่งงานใหม่ออกเรือนไปตั้งนานแล้ว
แบบนี้เธอก็จะไม่ใช่คนของตระกูลหลินแล้ว แบบนี้จะได้ไม่ต้องมาคุกคามตำแหน่งของหลินจ้าวหยูนลูกสาวของเธอแล้วเหมือนกัน
เว่ยหมิงจวินทำเรื่องพวกนี้ ล้วนแต่เพื่อหลินจ้าวหยูน ลูกสาวแท้ๆของเธอทั้งนั้น
พวกเด็กหนุ่มที่ไม่รู้จักพวกนี้ ก็เป็นคนที่เธอเรียกมาทั้งเพ
เว่ยหมิงจวินก็ไม่ได้สนใจ พูดกับเด็กหนุ่มพวกนั้นอย่างยิ้มแย้ม“ถ้าอย่างนั้นพวกคุณคุยกันเลยนะ ข้างนอกจะจัดงานเลี้ยงแล้ว”พูดจบ ก็เดินออกไป
“ขอบคุณทุกท่านที่อุส่ามาเข้าร่วมงานศพนี้ของตระกูลพวกเรามากครับ วันนี้ มีเรื่องหลายเรื่องที่อยากจะประกาศให้ทุกท่านทราบสักหน่อย”
หลินรั่วหวีไม่ได้จัดงานเอง เว่ยหมิงจวินเป็นคนจัดแจงเองทั้งหมด
เธอยกแก้วเหล้าขึ้นมาพร้อมกับเปิดปากพูดยิ้มๆ“แก้วเหล้านี้ เพื่อรำลึกถึงชีวิตที่จากไป ฮีโร่ที่เสียสละตัวเอง เพื่อช่วยเหลือชีวิตของพวกเราทุกคน ถังเฉา!พวกเราจะจดจำเขาตลอดไป!”
“ขอให้เขาไปสู่สุขคติ”
“ขอให้เขาไปสู่สุขคติ”
“ขอให้เขาไปสู่สุขคติ”
“……”
พวกแขกทุกคนที่อยู่ตรงนั้นพากันยกแก้วเหล้าขึ้น แสงสีแดงเต็มใบหน้า แทบจะไม่มีเจตนาที่รำลึกอะไรเลยสักนิด
จริงๆแล้วพวกเขาไม่รู้จักถังเฉา ถึงขนาดที่ไม่เคยได้ยินชื่อถังเฉามาก่อนเลยด้วยซ้ำ ก็แค่มาร่วมสนุกเท่านั้น
ที่นี่มีแค่ไม่กี่คนที่ไว้ทุกข์ให้กับถังเฉาจริงๆ เช่น พวกเซี่ยสิงจู๋ หูอีซาน ต่งวี่ซู่
พอเห็นภาพตรงหน้านี้ ก็ระงับความโกรธที่อยู่ในใจเอาไว้
“เรื่องที่สอง ก็คือเพื่อเฉลิมฉลองให้กับเจ้าหญิงของตระกูลหลินของผม ชิงเสว่ ที่กลับมาโสดอีกครั้ง”
เว่ยหมิงจวินยกแก้วขึ้นมาอีกครั้ง ยิ้มพร้อมกับพูดขึ้น“แม้ว่าชิงเสว่จะเคยแต่งงานมาแล้ว แต่เธอก็ยังเด็ก ยังสวย เชื่อว่าจากนี้ไปจะหาที่พึ่งพิงสุดท้ายดีๆได้”
แปะๆ……
ข้างล่างเวทีมีเสียงปรบมือดังขึ้นมากระหึ่ม
ผู้ชายทุกคนต่างมีสีหน้าตื่นเต้น ไม่ใช่มีเพียงแค่เด็กหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานเท่านั้น แต่พวกผู้ชายแก่ๆก็กระเหี้ยนกระหือรือเตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน
หลินชิงเสว่ในตอนนี้ก็เป็นแม่ม่ายไปเรียบร้อยแล้ว
แม่ม่ายจะได้รับความสนใจจากสังคมเป็นพิเศษ
โดนเฉพาะหลินชิงเสว่หน้าตาสวยงาม รูปร่างก็สูง ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ ใครๆต่างก็มีโอกาสได้แต่งงานด้วย
ข้างนอกมีเสียงกระทบแก้ว เสียงเฮฮาสังสรรค์ดังไปทั่ว
นี่มันงานศพที่ไหนกัน?
นี่มันงานเลี้ยงสังสรรค์ชัดๆ!
หลินชิงเสว่โกรธจนน้ำตาไหลออกมา คุกเข่าลงต่อหน้ารูปของถังเฉาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
เธอรู้สึกโมโหมาก เธอรู้สึกโมโหแทนเขา!
ไม่มีสิ่งใดในโลก ที่เย็นชาและเฉยเมยไปกว่านี้แล้ว
ในตอนนี้เอง พวกเด็กหนุ่มโดดเด่นที่เว่ยหมิงจวินพามาก็เดินเข้ามา
“คุณหลิน ไม่ต้องคุกเข่าแล้วครับ ทุกคนฉลองให้กับความโสดของคุณแล้ว คุณไม่ออกหน้าออกตามาสักหน่อย แบบนี้มันไม่ได้นะครับ”
“ใช่ คุณหลิน คุณไม่ต้องเสียใจแล้วครับ จากสถานภาพและความงดงามของคุณ การที่ไปแต่งงานกับสามีของคุณ มันก็ไม่ยุติธรรมมากพอแล้ว คุณสามารถหาได้ดีกว่านี้”
“ไปกันเถอะครับ ไม่มีใครจำเขาได้หรอก!”
พวกเด็กหนุ่มต่างพากันส่งเสียงพูดออกมา เดินเข้าไปใกล้หลินชิงเสว่ทีละนิดๆ
ก่อนหน้านี้พวกเขาดื่มไปแล้วนิดหน่อย ในตอนนี้ประตูภายในห้องไว้ทุกข์ปิดสนิท มีเพียงแค่พวกเขาไม่กี่คนกับหลินชิงเสว่ที่เป็นกลายเป็นแม่ม่ายไปแล้วแค่คนเดียว
ตั้งแต่เข้ามา สายตาของพวกเขาก็จับจ้องไปยังเรือนร่างของหลินชิงเสว่ตลอดเวลา
ชุดกระโปรงสีดำ ถุงเท้าเปล่าสีดำ แล้วก็รอยคราบน้ำตาที่เปื้อนบนใบหน้าเล็กน้อย รังสีความเยือกเย็นแผ่ออกมาจากตัวของเธออย่างไม่มีที่สิ้นสุด
พวกเขายับยั้งชั่งใจไม่อยู่แล้ว
“มามะ คุณหลิน!”
“ที่นี่ไม่มีใครแล้ว”
พวกเขายื่นมือออกมาจะโอบร่างของหลินชิงเสว่เอาไว้
หลินชิงเสว่สะดุ้งตะใจ ตบไปที่หน้าของผู้ชายหนึ่งในนั้นอย่างแรงหนึ่งที
“พวกคุณจะทำอะไร?”
หลินชิงเสว่สีหน้าเต็มไปด้วยความโมโห มองพวกเขาด้วยความตกใจกลัวไม่น้อย
กุมหน้าที่ถูกตบ เด็กหนุ่มพวกนั้นก็เข้ามาล้อมเธอเอาไว้
“ทำอะไร? ฉันถามว่าจะทำอะไร?”