เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 655 ไม่ได้หนึ่งก็เอาสอง
สถานการณ์ของหลินจ้าวหยูน มีความเหมือนกับหลินฉ่ายเวยสมัยก่อน
พวกเธอมีแม่ที่เห็นแก่ตัว ทำทุกวิถีทางเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่ตนเองต้องการเหมือนกัน
สิ่งที่โจวเหม่ยหยูนทำมันมากกว่าเว่ยหมิงจวินอีก แต่พอถึงตอนที่โจวเหม่ยหยูนถูกจับตัวไป หลินฉ่ายเวยก็เป็นคนที่เจ็บปวดทรมานที่สุดเหมือนกัน
หัวใจของคนก็มีเลือดมีเนื้อ ต่อให้แม่แท้ๆจะทำร้ายตนเองยังไง ก็ไม่ยอมที่จะเห็นแม่ของตัวเองตายไปอยู่ดี
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เว่ยหมิงจวินทำทั้งหมด ก็เพื่อหลินจ้าวหยูนทั้งนั้น
สุดท้ายถังเฉาก็ปล่อยเว่ยหมิงจวินไป
เขาหวังว่านับแต่นี้ไปเว่ยหมิงจวินจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ จะไม่มีการทะเลาะขัดแย้งที่ไร้ความหมายอะไรอีกแล้ว
“แม่ แม่รับปากกับพี่และพี่เขย ว่าต่อไปจะไม่มองพวกเขาเป็นศัตรูอีกแล้ว พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะไม่ทะเลาะกันภายในอีก ได้ไหม?”
หลินจ้าวหยูนกอดเว่ยหมิงจวินไว้แน่น พูดพลางน้ำตาไหลรินออกมา
เว่ยหมิงจวินใบหน้ายังคงรู้สึกหวาดผวา แต่ลึกๆในตายังคงแฝงไปด้วยความโกรธเกลียดอยู่
ความโกรธเกลียดนี้ เป็นเพราะว่าความหวาดกลัวก่อนหน้านี้ จึงค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นความโกรธเกลียดขึ้นมา
“แม่สัญญาได้ แต่พี่ของลูก ต้องสัญญาด้วยว่า ต่อไปจะไม่แย่งสมบัติแล้วก็ตำแหน่งผู้นำตระกูลของตระกูลหลินไปจากลูก!”
เว่ยหมิงจวินพูดกับหลินจ้าวหยูน แต่สายตาของเธอ ยังคงจ้องเขม็งอยู่ที่หลินชิงเสว่ ในตาแฝงไปด้วยความโกรธเกลียดเคียดแค้นอยู่ลึกๆ
แล้วก็หวาดกลัวด้วย
หลินชิงเสว่ยอดเยี่ยม แล้วก็สวยมากด้วย เหมือนกับรวมข้อดีมากมายไว้ที่ตัวคนเดียว
ผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมและหน้าตาสวยแค่ไหน พอมาอยู่ต่อหน้าเธอแล้วก็จะดูด้อยกว่าอย่างชัดเจน
ทั้งหมดนี้ได้รับการสืบทอดมาจากสาวงามอันดับหนึ่งของเยี่ยนจิงเมื่อยี่สิบปีก่อน ลั่วเย่นหัว
แต่เธอเป็นเพียงแค่เมียน้อยที่ได้รับความเห็นอกเห็นใจจากเทพีแห่งโชคเท่านั้น ไม่มีทางเทียบกับผู้หญิงที่โดดเด่นท่ามกลางคนทั่วไปแบบหลินชิงเสว่และลั่วเย่นหัวได้เลย
การที่จะโกรธเกลียดเคียดแค้นคนคนหนึ่งไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล
แค่คุณสวยกว่าเธอ ยอดเยี่ยมกว่าเธอ คุณก็กลายเป็นคนที่ถูกโกรธเกลียดเคียดแค้นแล้ว
เว่ยหมิงจวินหวาดกลัวลั่วเย่นหัวมากๆ ดังนั้น จึงรู้สึกหวาดกลัวหลินชิงเสว่ด้วยเหมือนกัน
เธอต้องให้หลินชิงเสว่รับปาก!
“เป็นไปไม่ได้!”
ไม่รอให้หลินชิงเสว่พูดออกมา ก็มีเสียงที่น่าเกรงขามดังขึ้นจากตรงนั้น
ลั่วเย่นหัวพาลั่วเยนอวิ๋น และเหล่าบรรดาคนของตระกูลหลินเดินเข้ามา
บรรดาผู้คนตรงนั้นต่างแหวกทางให้
ลั่วเย่นหัวในตอนนี้สีหน้ามืดมนสุดๆ โดยเฉพาะสายตาที่หันมองไปยังเว่ยหมิงจวิน มันเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ยี่สิบปีก่อน ที่เธอถูกแย่งสามีไป ไม่เคยมีความรู้สึกอาฆาตต่อเว่ยหมิงจวินเลย แต่ตอนนี้ ลั่วเย่นหัวกลับอยากจะฆ่าเธอแทบใจจะขาด
“ลูกเขยของฉันยังไม่ตาย เธอก็รีบร้อนจะจัดงานศพให้เขา แถมยังพาคนมาทำมิดีมิร้ายกับลูกสาวของฉันอีก เว่ยหมิงจวิน เธอนึกว่ามีหลินรั่วหวีคอยปกป้องคุ้มกันอยู่แล้วฉันจะไม่กล้าแตะต้องเธออย่างนั้นเหรอ?”
ลั่วเย่นหัวน้ำเสียงเย็นชา ที่ตัวมีรังสีอำมหิตที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา
เธอได้ฟังเรื่องราวมาหมดแล้ว ปฏิกิริยาแรกหลังจากที่ได้ยินแล้ว ก็คือฆ่าเว่ยหมิงจวินนังผู้หญิงคนนี้ซะ!
พอเห็นว่าลั่วเย่นหัวมาแล้ว เว่ยหมิงจวินก็ตกใจจนอกสั่นขวัญแขวน
แม้ว่าหลินจ้าวหยูนก็รู้สึกกลัวมากเหมือนกัน แต่เธอยังคงรั้งลั่วเย่นหัวเอาไว้
“น้าลั่ว ฉันรู้ว่าแม่ทำไม่ถูก แต่พี่กับพี่เขยของฉันให้อภัยพวกเราแล้ว ได้โปรดคุณให้อภัยแม่ของฉันด้วยเถอะนะคะ!”
ลั่วเย่นหัวสายตาอ่อนโยนลงไม่น้อย“เด็กดี นี่ไม่ใช่เรื่องของเธอ”
ในขณะเดียวกัน เธอมองไปยังถังเฉากับหลินชิงเสว่ พอเห็นทั้งสองคนต่างพากันส่ายหัว เธอก็ไม่ถือโทษโกรธเคืองอะไรต่อ
แต่ว่า มีเรื่องหนึ่งที่เธอยอมไม่ได้
“แต่จะให้ลูกสาวของฉันออกจากตระกูลหลิน ไม่รับมรดกทรัพย์สินใดๆ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!”
“คนบนโลกนี้ จะยอมแพ้ไม่ได้ นี่คือเส้นตาย”
ลั่วเย่นหัวท่าทีชัดเจนมาก ว่าจะไม่ยอมถอย
ผู้หญิงสองคนจ้องมองหน้ากัน คนหนึ่งน่าเกรงขาม คนหนึ่งโกรธเคืองและหวาดกลัว
หลินจ้าวหยูนถอยไปหลบอยู่ข้างหลังของหลินชิงเสว่อย่างอดไม่ได้
ไม่รู้ว่าทำไมด้วยเหตุผลบางอย่าง ผู้หญิงทั้งสองคนล้วนแต่มีภาพลงตา
ความแค้นที่ไม่ได้สะสางจากรุ่นก่อน จะส่งทอดต่อมาถึงพวกเธอในรุ่นนี้
“พี่ พวกเราจะเป็นพี่น้องกันตลอดไปใช่ไหม?”
หลินจ้าวหยูนมือเย็น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นกระส่าย
หลินชิงเสว่พยักหน้าเงียบๆ แค่กุมมือของเธอเอาไว้เบาๆเท่านั้น
ตั้งแต่ต้นจนจบ ถังเฉายังไม่ส่งเสียงพูดอะไรออกมา
ปัญหาในประวัติศาสตร์ของตระกูลที่ไม่ได้รับการแก้ไข ลำพังเขาคนเดียว ไม่สามารถแก้ไขได้
เขาทำได้แค่ใช้ความสามารถของเขาทั้งหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเกิดขึ้นเท่านั้น
ช่วงค่ำ เป็นเวลาดึกแล้ว
แต่ห้องของเว่ยหมิงจวินยังคงสว่างอยู่ ตรงหน้าของเธอ มีหลินจ้าวหยูนนั่งอยู่ด้วยสีหน้าอารมณ์ตกต่ำ
“จ้าวหยูน อย่าโทษที่แม่ใจเหี้ยมเลย ที่แม่ทำไปก็เพื่อลูกนะ!”
เว่ยหมิงจวินระบายความในใจออกมา“ลูกมาได้ยังไง ไม่ต้องให้แม่พูดเยอะแล้ว แต่ในสายตาของพ่อของลูก เขาเอาพี่ของลูกมาก่อนเสมอ เธอเก่งกว่าลูก มีอิทธิพลมากกว่าลูกขนาดนี้ ต่อไปคนที่มาสืบทอดธุรกิจของตระกูล จะเป็นเธอหรือว่าลูกกันล่ะ!”
หลินจ้าวหยูนส่ายหัวอย่างไม่หยุดไม่หย่อน พูดพลางร้องไห้ออกมา“แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย? ไม่ว่าจะเป็นหนูหรือว่าพี่ ความสัมพันธ์ของพวกเราก็ดีมากเหมือนเดิม!”
“โง่!”
เว่ยหมิงจวินสีหน้าไม่ได้ดั่งใจ“ที่ลูกกับพี่ของลูกมีความสัมพันธ์ที่ดี นั่นก็เพราะว่าตอนนี้เธอยังไม่เข้าใจอะไรมากพอ พวกลูกทั้งสองคนล้วนแต่เป็นเจ้าหญิงของตระกูลหลิน ถ้าเธอมีอำนาจแล้ว เธอยังจะมองว่าลูกเป็นน้องสาวอีกไหม?”
“ลูกเป็นไข่ในหิน แม่ล้มลุกคลุกคลานอยู่ข้างนอกมาตั้งหลายปีขนาดนี้ จะหลอกลูกไปทำไม? ในตระกูลยักษ์ใหญ่ของตระกูลหลวง ความรักและความรู้สึกระหว่างคนในครอบครัวเป็นสิ่งที่เชื่อถือไม่ได้ที่สุด!”
“นอกจากแม่ของลูกแล้ว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามไปเชื่อเด็ดขาด เข้าใจไหม?”
คำพูดนี้ทำร้ายหัวใจของหลินจ้าวหยูนอย่างลึกซึ้ง เธอตัวสั่น น้ำตาไหลรินออกมา
“ต้องมีสักวัน ที่ลูกจะเข้าใจความตั้งใจจริงของแม่ ลูกต้องรีบเข้าใจให้โดยเร็ว ไม่อย่างนั้นต่อไปตระกูลหลิน จะไม่มีที่สำหรับพวกเราสองแม่ลูกแล้ว”
ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ หลินชิงเสว่ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน
พวกเธอกลัวว่าสักวันหนึ่ง พวกเธอจะกลายมาเป็นศัตรูกัน
กลางดึก ณ ริมระเบียงของตึกสูงแห่งหนึ่งในเมืองเจียงเฉิง
เงาคนสีดำร่วงตกลงมาบนระเบียงราวกับค้างคาว
ข้างๆตัวมีผู้หญิงตะวันตกสวมเครื่องแต่งกายของราชวงศ์สวยแปลกตาสีม่วงยืนอยู่ด้วยหนึ่งคน
เธอมองค้างคาวด้วยสีหน้าท่าทีเย็นชา“จัดการแล้วยัง?”
ค้างคาวส่ายหัว พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“เขาแข็งแกร่งมาก ระเบิดก็ถูกกู้ไปแล้วด้วย ถ้าไม่ใช่เพราะผมหนีออกมาเร็ว ป่านนี้คงตายอยู่ที่นั่นแล้ว”
“ขยะ!”
ไวโอเล็ตระเบิดโมโหออกมา สีหน้าอารมณ์ดุร้าย
แต่ไม่นาน เธอก็สงบลง พูดขึ้นนิ่งๆ“ดูเหมือนฉันจะรีบร้อนเกินไป บางทีพวกเราควรจะเปลี่ยนเป้าหมายใหม่”
“เปลี่ยนเป้าหมาย?”
ค้างคาวอึ้งตะลึงไป
“ใช่ สามปีก่อน ถังเฉาเป็นเป้าหมายของพวกเรา แต่กลับไปจับหลี่เห้ามาได้โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ความจริงได้รับการพิสูจน์แล้วว่า ถ้ากษัตริย์ไม่มาลงมือเอง ก็ไม่มีทางจับถังเฉาได้แน่นอน พวกเราต้องเปลี่ยนกลยุทธ์”
ไวโอเล็ตคิดวิเคราะห์อย่างนิ่งเงียบ“ถ้าพวกเราไม่ได้หนึ่งก็เปลี่ยนไปเป็นสองแทนซะ ไปหาเจียงไป๋เสว่นั่น”
“ผู้หญิงคนนั้น……”
ค้างคาวรู้สึกสงสัยไม่น้อย“เธอกับถังเฉากับหลี่เห้าเมื่อเทียบความสามารถโดยรวมแล้วก็ต่างกันลิบลับแล้ว”
“นั่นมันก็เท่ากับกลับมามือเปล่าอยู่ดี”
ไวโอเล็ตพูดขึ้นอย่างเย็นชา“ผู้บริหารสูงสุดห้าดาวในองค์กรมีไม่เยอะ นายรู้ไหมว่ามีกี่คนที่กำลังจับจ้องตำแหน่งของฉันอยู่?”
“เมื่อเทียบกันแล้ว เจียงไป๋เสว่จับตัวได้ง่ายกว่า”
จู่ๆไวโอเล็ตก็ยิ้ม“นี่มันต้องให้‘ไพ่ตัวคิง’ของเราลงมือเองแล้ว”
มีผู้ชายเยือกเย็นหนึ่งคนเดินออกมาจากข้างหลังของไวโอเล็ต
เขาคือหลี่เห้า