เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 679 เจอกันอีกแล้ว
หลังจากที่ถังเฉาพูดจบ หลงเฟยกั๋วก็อึ้งไปทันที แล้วมองถังเฉาด้วยสีหน้าที่ประหลาดใจ
เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
พอพูดถึงหลงเฟยหยู่ หลงเฟยกั๋วก็รู้สึกโกรธมาก
เพราะในงานพิธีบรรลุนิติภาวะของลูกสาวเขา ลูกชายของหลงเฟยหยู่กลับไปก่อเรื่องซะได้
ไปหาเรื่องคนที่ไม่ควรหาเรื่องที่สนามบินเข้า ได้ยินว่าแม้แต่ส่วนกลางของสนามรบแห่งเยี่ยนจิงยังต้องเคลื่อนไหว
แม้แต่สมาคมการค้าเก้าราชายังต้องออกโรง คนที่สามารถทำให้สมาคมการค้าเก้าราชาเคลื่อนไหวได้นั้น ต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งที่น่ากลัวขนาดไหน
“แกพูดว่าไงนะ?”
สีหน้าของหลงเฟยกั๋วนั้นจริงจังอย่างถึงที่สุด ถามพร้อมกับจ้องเขม็งมาที่ถังเฉา
ถังเฉาขำออกมาเบาๆ “ถ้าหลงเฟยหยู่มันไม่โอ๋ลูกจนเกินไป ก็คงไม่ต้องตกต่ำถึงขนาดนี้ ผมคิดคุณคงจะไม่ทำผิดในแบบเดียวกันนะครับ”
ถังเฉาน้ำเสียงเรียบเฉย สิ่งที่พูดออกมาทีละคำ ราวกับว่าเขานั้นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย มันจึงทำให้หลงเฟยกั๋วรู้สึกไม่สบายใจมาก
สิ่งสำคัญที่สุดคือ คนทั่วไปเมื่อตัวเองถูกจับ ต่างก็ตกใจจนตัวสั่นไปแล้ว แต่หนุ่มคนนี้ไม่เพียงไม่หวาดกลัว แต่กลับยังยิ้มออกมาได้อีก
หลงเฟยกั๋วนั้นเพิ่งเคยเจอวัยรุ่นแบบนี้ครั้งแรกเหมือนกัน
เจียงเฉามองถังเฉาด้วยความอึ้งๆ
วันนี้ที่ สนามบินเยี่ยนจิง ได้กลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งไปแล้ว เขาจึงได้รู้เรื่องนี้เหมือนกัน แต่สิ่งที่เขาไม่เข้าใจก็คือ ทำไมถังเฉาถึงได้ทำหน้าเหมือนรู้ทุกอย่างไปหมดเลย?
หลงเฟยกั๋วโบกไม้โสัญชาตญาณเป็นการบอกให้บอดี้การ์ดนั้นหยุดมือ จากนั้นก็เดินไปหาถังเฉา พร้อมกับสายตาที่เย็นเยือก
“ตอนนี้เฟยหยู่ยังไม่กลับมา นี่แกรู้เรื่องอะไรอยู่ใช่มั้ย?”
ถังเฉาทำหน้าเหมือนเดิม “เขาจะไม่เป็นไร แต่ลูกชายของเขานั้นเจอปัญหาเข้าแล้วแน่นอน”
การจัดหาคนของบ.รปภ.มังกรต้าเซี่ย ก็มีหลงชื่อเทาเป็นคนดูแลนี่แหละ จึงไม่มีทางหนีรอดแน่นอน
พ่อของเขาก็ขยับไม่ได้แล้วเหมือนกัน!
นี่ทำให้สีหน้าของหลงเฟยกั๋วเปลี่ยนไปทันที
ถึงแม้ในตระกูลหลงนั้นตำแหน่งของหลงชื่อเทาจะไม่สูงเท่าไหร่ แต่ก็เป็นคนของตระกูลหลงอย่างแท้จริง การจะลงมือกับเขานั้นจึงต้องไตร่ตรองให้ดีก่อน
หรือชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้านี้ จะเป็นคนใหญ่คนโตที่ว่าจริงๆ และไม่ต้องใช้บัตรเชิญก็สามารถเดินเข้าตระกูลหลงได้!
“ยังมีตรเกูลเจียงของคุณอีก”
ถังเฉามองไปที่เจียงเฉา หรี่ตาแล้วยิ้ม “เจียงหู่พ่อบ้านของตระกูลเจียงก็มาที่สนามบินแล้ว ผมพูดถูกมั้ย?”
ตึ้ง……
พอคำพูดนี้ถูกพูดออกไปหลงเฟยกั๋วก็มองไปที่เจียงเฉาทันที พอเห็นเจียงเฉากำลังเบิ่งตาโต เขาก็มั่นใจว่าถังเฉาพูดถูกแล้ว
ทีนี้ สายตาที่หลงเฟยกั๋วมีต่อถังเฉาก็เหมือนกับเห็นผี
ในใจนั้นยิ่งมั่นใจเข้าไปใหญ่ ว่าถังเฉานั้นต้องเป็นคนใหญ่คนโตอะไรสักอย่างแล้ว
สีหน้าของเจียงเฉานั้นเสียศูนย์ไปพักใหญ่ จู่ๆ ก็ด่าทอถังเฉาออกมาเสียงดัง
“เชี่ย ก็แค่บังเอิญเป็นคนที่ผ่านไปเห็นเหตุการณ์เข้า ยังมีหน้ามาเสแสร้งอีกเหรอ?”
ทันใดนั้น หลงเฟยกั๋วก็ทำหน้าตกใจ “แค่คนที่เห็นเหตุการณ์อย่างนั้นเหรอ? มันหมายความว่ายังไง?”
เจียงเฉาชี้หน้าถังเฉาแล้วด่าทอออกมาเสียงดัง “คุณลุงหลงครับ มันไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไรเลย มันก็แค่บังเอิญไม่อยู่ใน สนามบินเยี่ยนจิงตอนที่เกิดเรื่องขึ้นเท่านั้น แล้วได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับตาตัวเอง!”
คำพูดนี้พูดออกมาได้ตรงประเด็น หลงเฟยกั๋วอึ้งไปแวบหนึ่งก่อนจะดึงสติกลับมาได้ทั้งหมด
ถึงว่าถังเฉาถึงได้รู้เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลงเฟยหยู่ และถึงว่าล่ะทำไมถังเฉาถึงรู้เรื่องที่พ่อบ้านของตระกูลเจียงก็มาแล้วด้วย!
เขาก็แค่เป็นคนที่มองดูทุกอย่างที่เกิดขึ้นอยู่ข้างๆ เท่านั้น!
ถังเฉาเองก็รู้สึกตกใจกับคำพูดของเจียงเฉาเหมือนกัน
การที่เขาพูดสองเรื่องนี้ออกไป ก็เพื่อต้องการจะสื่อว่าเขานี่แหละที่เป็นคนเอาตัวหลงเฟยหยู่ไป การที่เขาจะเข้าตระกูลหลง จึงไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเชิญเลย
ไม่นึกเลยว่าเจียงเฉาจะเห็นเขาเป็นแค่คนที่มุงดูเท่านั้น จนถังเฉาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปพักหนึ่งเหมือนกัน
“หึ ถ้าฉันไม่ได้นึกถึงจุดนี้ซะก่อนนะ ก็คงจะถูกแกหลอกเข้าแล้วจริงๆ!”
สายตาที่เจียงเฉามีให้ถังเฉานั้นเหยียดหยามอย่างมาก “แกมันก็แค่ฉวยโอกาสเก่งเท่านั้นแหละ”
ความจริงนั้นเป็นที่ประจักษ์ การที่ถังเฉาพูดถึงจุดจบของหลงเฟยหยู่ แถมยังพูดถึงเจียงหู่ ก็เพราะว่าถังเฉาไปอยูทในเหตุการณ์พอดี และเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเข้า
นี่กับกลายเป็นสิ่งที่เขาเอามาเสแสร้งซะได้
หลงเฟยกั๋วโกรธจนจมูกเบี้ยว
คนธรรมดาที่ดีแต่ฉวยโอกาส ก็ยังกล้าที่จะเข้าไปร่วมงานพิธีบรรลุนิติภาวะของเขาด้วย?
“เอาตัวมันไป!”
หลงเฟยกั๋วออกคำสั่งเสียงดัง ตอนนี้ไม่ว่าใครมาก็ไม่มีประโยชน์ ยังไงก็ต้องเอาตัวถังเฉาไปให้ได้
ถังเฉาได้ถอนหายใจออกมา นี่เขาโดนหาว่าเป็นผู้บุกรุกไปซะแล้ว
ในตอนที่เขากำลังลังเลว่าจะโทรหาท่านเจ้ามังกรดีมั้ย ที่ทางเข้าของลานจอดรถก็ได้มีผู้หญิงที่งดงามสองคนปรากฏขึ้น
“นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร!”
ทั้งคู่ตำหนิออกมาทีหนึ่ง พร้อมกับสีหน้าที่ก็โกรธเกรี้ยว
และสองคนนั้นก็คือหลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่นั่นเอง
พวกเธอรออยู่ในงานวันเกิดไปพักใหญ่ ก็ยังไม่เห็นถังเฉาเข้ามา พอรู้สึกไม่สบายใจ จึงได้กลับมาดูที่ลานจอดรถอีกครั้ง
แล้วก็ได้เห็นถังเฉาถูกจับในฐานะผู้บุกรุก
“ใครกัน?” เจียงเฉาต่อว่าออกไปโดยอัตโนมัติ แต่ไม่นึกเลยว่าสีหน้าของหลงเฟยกั๋วที่อยู่ข้างๆ กลับเปลี่ยนไปทันที และรีบเข้าไปต้อนรับด้วยรอยยิ้ม
“คุณหลิน ไม่ใช่ว่าจัดให้พวกคุณไปพักที่ห้องจัดเลี้ยงแล้วไม่ใช่เหรอครับ แล้วทำไมถึงยังออกมาข้างนอกอีกล่ะครับ?”
เจียงเฉาอึ้งไปพักหนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะถามไปว่า “คุณลุงหลง ผู้หญิงสองคนนี้คือใครเหรอครับ?”
หลินชิงเสว่นั้นไม่ค่อยได้กลับเยี่ยนจิงเท่าไหร่ ดังนั้นเจียงเฉาจึงไม่รู้จักเธอ
แต่พอได้เห็นสองสาวหลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่เข้า สายตาของเขาก็เป็นประกาย ผู้หญิงที่หน้าตาดีแบบนี้ ไม่ได้พบเห็นกันง่ายๆ เลย
หลงเฟยกั๋วมองไปที่ถังเฉา แล้วชี้ไปที่หลินชิงเสว่ “เห็นรึยัง ต้องแขกอย่างคุณหลินนี่ ถึงสามารถเข้าไปในตระกูลหลงได้โดยที่ไม่ต้องใช้บัตรเชิญ!”
คำพูดนี้สามารถตอบคำถามของเจียงเฉาได้ แถมยังตำหนิถังเฉาไปด้วย
ตอนนี้ถังเฉาถึงได้เข้าใจ ถึงว่าทำไมหลินชิงเสว่ไม่มีบัตรเชิญแต่ก็ยังไม่เป็นไร ที่แท้ก็รู้ฐานะที่แท้จริงของเธอไปนานแล้วนี่เอง
ไม่นึกเลยว่าพอหลินชิงเสว่ได้ยินแบบนั้นแล้วจะโมโหขึ้นมาทันที สีหน้าของเธอนั้นเย็นชาขึ้นมาทันที
“พวกคุณรู้รึเปล่าว่าเขาเป็นใคร?”
พอเห็นหลินชิงเสว่โมโหขนาดนี้ สีหน้าของเจียงเฉาก็เปลี่ยนไปทันที และพูดออกไปอย่างระมัดระวังว่า “คุณหลิน เขาคงไม่ใช่คนขับรถของคุณหรอกใช่มั้ยครับ?”
“ไม่ใช่”
“ผมก็ว่าอยู่ คุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างคุณหลิน จะไปหาคนขับรถแบบนี้ได้ยังไง……”
“เขาเป็นสามีของฉัน”
“สามีเหรอครับ? สามีก็ยิ่ง……อะไรนะครับ?”
เจียงเฉากำลังจะพูดตามสัญชาตญาณ แล้วเขาก็ต้องช็อกไปทันที พร้อมกับสีหน้าที่ตกใจ
“อะ อะไรนะครับ? เขาเป็นสามีของคุณ?!” ไม่เพียงเจียงเฉาที่ตกใจ หลงเฟยกั๋วก็ทำหน้าราวกับเห็นผีเหมือนกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
แต่พอมานึกดูดีๆ แล้ว คุณหนูแห่งตระกูลหลินก็ได้หาสามีไม่ได้มีความเหมาะสมกันเลยเข้าบ้านไป
เป็นเขาอย่างนั้นเหรอ?!
หลงเฟยกั๋วกับเจียงเฉานั้นช็อกไปตามๆ กัน
“พวกคุณกำลังรังแกเขาอยู่ ถ้าไม่มีคำอธิบาย ฉันก็จะไปขอคำอธิบายจากผู้นำหลงเอง”
หลินชิงเสว่พูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย
หลงเฟยกั๋วหันมองถังเฉาไปทีหนึ่ง จากนั้นก็พูดด้วยสีหน้าที่จริงจังว่า “คุณหลินครับ ถ้าเขาเป็นสามีของคุณ ผมก็จะไม่ติดใจเอาความแล้วก็ได้ครับ แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็ห้ามเข้าไปในงานพิธีบรรลุนิติภาวะของลูกสาวผมเด็ดขาด”
“เพราะอะไร?”
ครั้งนี้คนที่ถามคือเจียงไป๋เสว่
สีหน้าของเธอนั้นเย็นชายิ่งกว่าของหลินชิงเสว่ราวกับหิมะของประเทศเหนือ
หลงเฟยกั๋วไม่ได้ตอบ เขาแค่พูดพร้อมกับขมวดคิ้ว “แล้วคุณล่ะมาจากตระกูลไหนอีก?”
การที่เจียงไป๋เสว่ยืนอยู่กับหลินชิงเสว่นั้น ออร่าก็ยังคงโดดเด่น ด้วยเหตุนี้ หลงเฟยกั๋วจึงนึกว่าเธอคือเพื่อนรักของหลินชิงเสว่นั่นเอง
แต่ถึงจะเป็นเพื่อนรัก ก็ใช่ว่าจะเข้ามายุ่มย่ามกับเรื่องภายในของตระกูลหลงได้!เจียงไป๋เส่วก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วพูดออกไปอย่างไม่ชอบใจว่า “เยี่ยนตู ตระกูลเจียง”
อะไรนะ?
พอได้ยินอย่างนั้น หลงเฟยกั๋วก็ถึงกับอึ้ง แล้วหันมองไปยังเจียงเฉา
“ผู้หญิงคนนี้เป็นคนของตระกูลเธออย่างนั้นเหรอ?”
เจียงเฉาเองก็อึ้งไปเหมือนกัน
หลังจากที่จ้องมองเจียงไป๋เสว่อย่างอึ้งๆ ไปพักใหญ่ จู่ๆ เขาก็ด่าทอออกมา
“นี่เธอคิดจะหลอกใคร? ฉันนี่แหละคนของตระกูลเจียง ในตระกูลเจียงของเราไม่เคยมีสมาชิกอย่างเธอ!”
ว่าแล้วสายตาที่หลงเฟยกั๋วมองเจียงป๋เสว่ก็เปลี่ยนไป
สีหน้าของเจียงไป๋เสว่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร
เธอยังไม่ได้กลับไปที่ตระกูลเจียง แค่เจียงหู่ที่ขอให้เธอกลับไป การที่คนของตระกูลเจียงจะไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
หลงเฟยกั๋วตัดสินใจไม่อยากสาธยายอะไรกับพวกเขา และได้พูดกับหลินชิงเสว่ไปตรงๆ ว่า “คุณหลินโปรดให้อภัยด้วยวันนี้เป็นงานพิธีบรรลุนิติภาวะสิบแปดปีของลูกสาวผม คนที่มาร่วมงานนั้นต่างก็ต้องแต่งตัวทางการ แต่การแต่งกายของพวกคุณนั้นไม่เหมาะสมเลยครับ!”
ครั้งนี้หลงเฟยกั๋วสั่งสอนแม้กระทั่งหลินชิงเสว่
การที่ให้ความเคารพหลินชิงเสว่ก็เพราะเธอคือคุณหนูของตระกูลหลิน แต่ไม่นึกเลยว่าจะไม่รู้จักกาละเทศะถึงขนาดนี้ จึงทำให้หลงเฟยกั๋วรู้สึกโกรธแล้ว
เนื่องจากพอมีเวลา ถังเฉา หลินชิงเสว่และเจียงไป๋เสว่นั้นต่างก็ได้เปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้ว ถึงแม้จะยังดูดีอยู่ แต่มันก็ไม่เข้ากับงานเลี้ยงเอาซะเลย
คุณหนูคุณชายของตระกูงอื่นๆ ต่างก็ใส่ชุดราตรีกับ tailcoatกันทั้งนั้น ให้ความรู้สึกที่เป็นทางการมาก
“โดยเฉพาะสามีที่ไร้ค่าของคุณ ดูสิว่ามันใส่อะไรมา!”
สีหน้าของหลงเฟยกั๋วนั้นมีแต่ความดูถูกเหยียดหยาม ชี้ไปที่เสื้อผ้าของถังเฉาพร้อมกับพูดอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
ถังเฉานั้นใส่แค่เสื้อเชิ้ตธรรมดากับกางเกงลำลองเท่านั้น ที่ข้อมือก็ไม่ได้ใส่เครื่องประดับอะไรไว้เลย
ถ้าจะถามหาของมีราคาละก็ก็มีแค่รองเท้าที่ถังเฉาสวมใส่อยู่เท่านั้น
“ใช่ ต่อให้แก่เป็นสามีของคุณหลินจริง ก็ห้ามเข้าไปเด็ดขาด ที่นี่คือเยี่ยนจิง คุณหลินไม่ได้มีหน้ามีตาขนาดนั้น!”
พอเจียงเฉาพูดจบ ก็ก้มดูเวลาทีหนึ่ง
“แย่แล้ว ได้จะได้เวลางานเลี้ยงของเจียเจียแล้ว คุณลุงหลง ผมขอตัวเข้าไปก่อนนะครับ”
หลงเฟยกั๋วพยักหน้า “ไปเถอะ ไปสนุกกับพวกวัยรุ่นเลย”
เจียงเฉาได้จากไปอย่างรวดเร็ว
ก่อนที่จะไป เขาก็มั่นใจมากว่าถังเฉาต้องถูกไล่ออกไปแน่นอน
นี่แหละคือผลของการที่มาหาเรื่องเขา!
หลงเฟยกั๋วมองหน้าถังเฉาแล้วพูดว่า “ถือว่าเห็นแก่คุณหลินแล้วกัน แก่ไปจากที่นี่เองดีกว่า ฉันจะไม่ไล่แกแล้ว”
สองสาวหลินชิงเสว่กับเจียงไป๋เสว่ก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวหนึ่ง สีหน้าเย็นชา “แล้วถ้าเราดึงดันที่จะอยู่ต่อล่ะ!”
หลงเฟยกั๋วเลิกคิ้วขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็จะถือเป็นการแหกกฎของตระกูลหลง พวกคุณก็ต้องถูกขับไล่ออกไป!”
หลงเฟยกั๋วกำลังบ่นอยู่ในใจ ต่อให้เป็นสองของตระกูลหลิน ก็ยังไม่กล้าพูดกับตนเองแบบนี้ คงคิดว่าตัวเองมีสายเลือดของสองตระกูลหลวง ก็สามารถทำตัวโอหังได้แล้วสินะ?
แต่ถังเฉานั้นกลับยิ้มออกมา “ไม่ต้องให้พวกคุณออกหน้าหรอก เพราะเขาไม่กล้าไล่ผมออกไปหรอกครับ”
พอหลงเฟยกั๋วได้ยินอย่างนั้น “ว่าไงนะ? ฉันไม่กล้าไล่แก”
“ใช่”
ถังเฉานั้นมั่นใจมาก “ท่านเจ้ามังกรไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน หลงเจียเจียลูกสาวของคุณ ก็ไม่มีทางเห็นด้วยแน่นอน!”
“ถ้าคุณไล่ผมไปจริงๆ ก็จะสูญเสียความรักใคร่ของคนรุ่นพ่อกับลูกสาวไป!”
หลงเฟยกั๋วนั้นโกรธจนแทบหัวเราะออกมา
อยู่มาตั้งค่อนชีวิต นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เห็นใครทำตัวสามหาวแบบนี้
“ไม่เสียแรงที่เป็นเขยแต่งเข้าบ้านของตระกูลหลิน คนแซ่หลงคนนี้นับถือจริงๆ! ที่คุณหลินไปแต่งานกับ ‘สามีที่ดี’ แบบนี้!”
หลงเฟยั๋วนั้นพูดประชด จากนั้นก็โบกมือ “ไล่คนพวกนี้ออกไป!”
ยามที่อยู่ด้านหลัง ก็ได้พากันเดินเข้าไปหาถังเฉาด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น
ในตอนนั้นกำลังมีรถคันหนึ่งค่อยๆ ขับเข้ามา ประตูรถเปิดออก ชายวัยกลางคนที่หมดอาลัยตายอยากก็ได้ลงจากรถ
“เฟยหยู่!”
หลงเฟยกั๋วตะโกนออกมา
ชายวัยกลางคนคนนี้ก็คือหลงเฟยหยู่นั่นเอง
หลงชื่อเทานั้นถูกจะไปอย่างไม่เหนือความคาดหมาย เขาเองก็ถูกพักงานเพื่อตรวจสอบ
ถังเฉายิ้มๆ ให้เขา เผยให้เห็นฟันขาวๆ เป็นแถบ “ขอโทษนะครับ เจอกันอีกแล้ว”
หลงเฟยหยู่นั้นอึ้งไป จากนั้นก็ตกใจจนหน้ากลายเป็นหมูแดดเดียวไปเลย
โดยเฉพาะตอนที่เห็นว่าหลงเฟยกั๋วกำลังจะขับไล่เขา หลงเฟยหยู่ก็ตกใจจนแทบจะเป็นลมไปเลย
“พี่ใหญ่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ พระองค์ใหญ่องค์นี้พี่ไม่มีปัญญาไล่ได้หรอกครับ!”