เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 682 ความแค้นตลอดห้าปี
เสียงของหลงหวูหุ่ยกึกก้อง และมีความเคืองแค้นแฝงไว้ด้วย สะท้อนอยู่ในสวนบ้านตระกูลหลง
สิ้นเสียง หลงหวูหุ่ยก็มองถังเฉาด้วยสายตาคมกริบ สายตานั้นกลับแฝงความเวทนาและสลดมาด้วย
ราวกับได้เห็นโอรสสวรรค์ในวันวาน บัดนี้ร่วงหล่นสู่โลกมนุษย์ กลายสภาพเป็นคนธรรมดา
ทั้งสวนบ้านตระกูลหลงเงียบกริบ ทุกคนมองถังเฉาและหลงหวูหุ่ยอย่างเลื่อนลอย
แม้แต่เจียงเฉาที่ทำกร่างเมื่อกี้ยังตาโตอ้าปากค้าง มองภาพตรงหน้าอย่างตะลึงงัน
ทุกคนนึกไม่ถึงเลยว่าหลงหวูหุ่ยและถังเฉามีเรื่องราวในอดีตแบบนี้ด้วย
พวกเขาเคยเป็นคู่แข่งรุ่นเดียวกัน!
แต่ คนหนึ่งอยู่จนได้ขึ้นสวรรค์ อีกคนยังอยู่บนดิน ไม่อาจเทียบกับวันวานได้
ถึงแม้หลงหวูหุ่ยจะไม่ถูกคัดเลือกเข้าหน่วยหลักกองทัพปราณมังกร แต่ก็ล้มลุกคลุกคลานจนได้เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดแห่งสนามรบเยี่ยนจิงเขตย่อย
หันกลับมามองถังเฉา?
เมื่อก่อนความสามารถโดยรวมเหนือกว่าหลงหวูหุ่ยชัดๆ ตอนนี้กลับกลายเป็นเขยแต่งเข้าของคุณหนูตระกูลหลิน
ในสายตาคนธรรมดา นี่เป็นเรื่องที่โชคดีร่วงหล่นจากฟ้าชัดๆ แต่ในแวดวงไฮโซ คนที่โดนดูถูกแบบที่สุดของที่สุดก็คือเขยแต่งเข้า
ยิ่งภรรยาดีและสวยเท่าไหร่ เขยแต่งเข้าก็ยิ่งขายขี้หน้า ชีวิตไร้ค่ายิ่งกว่าหมา
เวลานั้น ทุกคนพบว่าสายตาที่หลงหวูหุ่ยมองถังเฉาแฝงไว้ด้วยความแค้น
ทว่า สีหน้าถังเฉายังคงเรียบนิ่งเมื่อเผชิญกับสายตาของหลงหวูหุ่ย ไม่ใส่ใจเลยสักนิด
ปฏิกิริยาเรียบเฉยแบบนี้ทำเอาหลงหวูหุ่ยรู้สึกเหมือนอัดหมัดหนักไปบนกองฝ้าย สีหน้าเขาอึมครึมลงไปยิ่งกว่าเดิม ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด “ถังเฉา ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าห้าปีต่อมานายจะหมดสภาพขนาดนี้ นายไม่อยากเถียงอะไรสักคำเลยหรอ?”
“เถียง?”
ถังเฉาจุดบุหรี่ ดูดเข้าไปลึกๆ ก่อนจะหรี่ตามองเขาอย่างพิจารณาและย้อนถาม “เถียงเรื่องอะไร? เถียงว่าทำไมฉันถึงกลายเป็นสามีของชิงเสว่หรือ? มีความจำเป็นต้องเปลืองน้ำลายด้วยหรอ?”
“หรือว่า นี่ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่นายอยากได้?”
“……”
การย้อนถามเป็นชุดนี้ทำเอาหลงหวูหุ่ยพูดอะไรไม่ออก
ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่ปฏิกิริยาที่หลงหวูหุ่ยต้องการ
เขาต้องการให้ถังเฉาคำรามใส่เขาอย่างเกรี้ยวกราดคลุ้มคลั่ง อับอายขายขี้หน้า ไม่เข้ากับที่แห่งนี้
ทว่า ถังเฉานิ่งเฉยเกินไป ท่าทางประหนึ่งเจอกับเสียงเห่าอย่างคลุ้มคลั่งของหมาจรจัด
ดังนั้น หลงหวูหุ่ยจึงไม่พูดอะไรอีก กลับหันไปมองเจียงไป๋เสว่ ผู้หญิงที่เขาเฝ้าคะนึงหาเมื่อห้าปีก่อน
“ไป๋เสว่ หลายปีมานี้เธอเป็นยังไงบ้าง”
“ห้าปีแล้ว เธอยังติดต่อกับถังเฉาอยู่หรอ?”
เจียงไป๋เสว่ขมวดคิ้ว แต่เนื่องจากที่นี่คือถิ่นของตระกูลหลงแห่งตระกูลหลวง เธอไม่ควรหักหน้าเขา จึงพยักหน้าตามมารยาท
“ก็เป็นแบบนั้นแหละ ฉันมากับถังเฉา”
“อย่างนั้นหรอ”
หลงหวูหุ้ยยิ้ม
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น เห็นแก่ไป๋เสว่และคุณหลินฉันจะไม่ไล่นายไป”
หลงหวูหุ่ยมองถังเฉาและกล่าว
“นายจะอยู่ที่นี่ก็ได้ แต่อีกเดี๋ยวนายต้องยืนกินเท่านั้น ไม่เหลือที่นั่งให้นายนั่งแล้ว”
แต่ละประโยค เปี่ยมไว้ด้วยน้ำเสียงสูงส่งของนายท่าน
แขกเหรื่อรอบๆเห็นแล้วพากันส่ายหน้า
ไม้นี้ของคุณชายหลงเหี้ยมจริงๆ ให้เขาอยู่ต่อแต่ไม่ให้ที่นั่ง นี่มันหาสารพัดวิธีมาหยามเหยียดเขาชัดๆ
สู้ไล่เขาไปเลยยังจะดีกว่าอีก
ในที่สุดนัยน์ตาของหลินชิงเสว่ก็ฉายแววโกรธเกรี้ยว “หลงหวูหุ่ย เขาคือสามีของฉัน คุณให้เขายืนก็หมายความว่าจะให้ฉันยืนด้วยใช่มั้ย?”
หลงหวูหุ่ยยิ้ม “ไม่ใช่อยู่แล้ว คุณหลินและไป๋เสว่จะเข้าสู่ห้องโถงในในฐานะแขกผู้มีเกียรติสูงสุดทั้งสองท่าน”
“แต่พวกเราคิดไม่ถึงว่าคุณจะพาสามีของคุณมาด้วย โต๊ะเก้าอี้ที่บ้านมีจำนวนไม่พอ ต้องให้เขาอดทนยืนกิน…..ถ้าไม่อยากยืน นั่งพื้นก็ได้นะครับ พื้นของตระกูลหลงใช้แต่ไม้จันทน์แดงชั้นดี”
พูดจบ เขาหันไปมองถังเฉาเรียบๆ สายตาเหมือนกำลังให้ทาน
เขานึกอุทาน โอรสสวรรค์ที่เคยอยู่เหนือเขา บัดนี้กลับอยู่ในสภาพที่เขาต้องให้ทานด้วยความเวทนาถึงจะอยู่ที่นี่ต่อได้
โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ
ขณะเดียวกัน เขาเหลือบมองเจียงไป๋เสว่อย่างไม่ตั้งใจ เมื่อพบว่าสายตาของเจียงไป๋เสว่อยู่ที่เขา ความแค้นในใจก็เบาบางลงในบัดดล
ถึงแม้เมื่อก่อนเขาจะสู้ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ไม่ได้ แต่เขากลับกลายเป็นคนที่ได้ดีที่สุด
ผู้นำที่อายุน้อยที่สุดแห่งสนามรบเยี่ยนจิงเขตย่อย อนาคตของเขาสว่างไสว!
ชีวิตทหารของเขาเพิ่งจะเริ่มต้น สิบปีหลังจากนี้จะก้าวสู่จุดสูงสุด ยี่สิบปีหลังจากนี้ขึ้นสู่ตำแหน่งสูง อยู่ในวัยเกษียณ และเป็นช่วงเวลาที่ลูกหลานเต็มบ้าน
ถังเฉาจะเอาอะไรมาสู้กับเขา?
ไหนจะเจียงไป๋เสว่อีก
ถ้าเป็นไปได้ หลงหวูหุ่ยอยากจะตะโกนถามเจียวไป๋เสว่ว่า “เจียงไป๋เสว่ ห้าปีก่อนเธอไม่ยอมติดตามฉัน ตอนนี้เธอนึกเสียใจบ้างมั้ย?”
“แยกย้ายกันไปด้แล้ว พิธีบรรลุนิติภาวะของน้องสาวผมกำลังจะเริ่มแล้ว”
หลงหวู่หุ่ยเอ่ยเรียบๆ หมดความสนใจต่อถังเฉาโดยสิ้นเชิง เขาเดินเข้าไปทางบ้าน
เจียงเฉาก็เลิกกระแนะกระแหนถังเฉา สำหรับเขา คำสั่งของหลงหวูหุ่ยที่มีต่อถังเฉาก็คือการลงทัณฑ์
ถึงเวลาพิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าหญิงน้อยแห่งตระกูลหลง ทุกคนนั่งกันหมด มีถังเฉาคนเดียวที่ต้องยืน หรืออาจถึงขั้นนั่งพื้น เสียหน้าสุดๆ
“ที่รัก ขอโทษนะคะ คุณต้องมาโดนกระทำแบบนี้”
หลินชิงเสว่กัดปากแน่น ตำหนิตัวเอง
ที่ข้างนอก ฐานะของหลินชิงเสว่อาจจะข่มคนมากมายได้ แต่ที่นี่คือเยี่ยนจิง
เยี่ยนจิงมีเก้าตระกูลใหญ่ ฐานะของเธอไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่าไหร่
ถ้าฐานะของเธอสูงส่งกว่านี้ หลงหวูหุ่ยก็คงไม่กล้าตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับถังเฉา
ถังเฉากลับส่ายหัวเบาๆ พลางเอ่ยยิ้มๆ “ไอ้มดปลวกในโลกนี้มีมากมาย พวกมันไม่รู้ความเศร้าของยักษา ชิงเสว่ คุณจะขอโทษทำไมกัน”
ถังเฉาน้ำเสียงเรียบเฉย ทว่ากึกก้องรุนแรงประหนึ่งหินทองคำกระแทกพื้น
ฉับพลัน ความโทษตัวเองของหลินชิงเสว่ก็มลายหายไป
ภายใต้สายตาจ้องมองของคนนับไม่ถ้วน จู่ๆถังเฉาก็เดินไปหาหลงหวูหุ่ย และพูดเสียงดังขี้นอีกหนึ่งคีย์
“หลงหวู่หุ่ย ที่นายพูดมาทั้งหมดก็เพราะอยากพิสูจน์ว่านายแข็งแกร่งกว่าฉัน แต่นายรู้สึกแบบนั้นจริงๆหรอ?”
“เวลาดำเนิน คนผันเปลี่ยน คนที่บดขยี้นายในตอนนั้นได้ ตอนนี้ก็บดขยี้นายได้เหมือนเดิม”
ฉึบ!
หลงหวูหุ่ยที่เดินอยู่ด้านหน้าชะงักฝีเท้ากึก ค่อยๆหันกลับมาและหรี่ตาลง มองถังเฉาอย่างพิจารณาด้วยสายตาคมกริบ
“ทำไมหรอ? ฟังจากที่นายพูด นายไม่ยอมรับว่าฉันเก่งกว่าหรอ”
หลงหวูหุ่ยกลับมาอยู่ตรงหน้าถังเฉาอีกครั้ง ผู้ชายสองคนใกล้กันมาก จ้องอีกฝ่ายเขม็ง กลิ่นดินปืนดุเดือดอยู่ในอากาศ
“ถังเฉา มาถึงตอนนี้นายยังมีอะไรที่ไม่ยอมอีก นายในตอนนี้เป็นเพียงตัวไร้ประโยชน์ที่ทำให้กองทัพปราณมังกรอับอาย นายร่วงหล่นไปแล้ว ไม่ใช่ผู้มีพรสวรรค์คนเดิมเมื่อห้าปีก่อนนั่นแล้ว”
“แน่นอน ฉันรู้ว่านายนึกแค้นในใจ ถ้าตอนนั้นนายไม่ตีฉินผู่หยางจนขาหักหนึ่งข้าง ล่วงเกินตระกูลฉินแห่งตระกูลหลวงเข้า นายกับเจียงไป๋เสว่ก็คงไม่โดนไล่ออกจากการเป็นตัวสำรองของกองทัพปราณมังกร พวกนายรนหาที่เอง”
หลงหวูหุ่ยพูดพร้อมหัวเราะลั่น ไม่แยแสคำพูดก่อนหน้านี้ของถังเฉาเลยสักนิด
“เวลาขัดเกลาความโดดเด่นของคนคนหนึ่งได้จริงๆ”
“บางคนร่วงหล่นอย่างน่าสลด และมีบางคนเฉิดฉายอย่างเจิดจรัส ส่วนฉัน เหยียบหินรองเท้าอย่างนายก้าวสู่จุดสูงสุดในชีวิต”