เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 685 เจ้าหญิงแห่งตระกูลหลง
ปึ้ง! ปึ้ง!
สิ้นเสียงเย่หรูอี้ เสียงวางตะเกียบดังขึ้นอีกสองเสียง
หลินชิงเสว่และเจียงไป๋เสว่วางตะเกียบลงพร้อมกัน สีหน้าเรียบเฉย
“ในเมื่อคุณไม่ให้สามีของฉันนั่ง งั้นฉันก็ไม่นั่ง ถังเฉายืนฉันก็ยืนด้วย”
“เหมือนกัน”
หลินชิงเสว่และเจียงไป๋เสว่พูดไล่ๆกัน
พอเห็นเจียงไป๋เสว่ลุก สีหน้าเจียงหู่อึมครึมลง เกิดเสียงดังปึ้ง เขาตบโต๊ะอย่างแรง
“นี่หรือวิถีต้อนรับแขกของพวกคุณตระกูลหลง?”
“วันนี้ทุกคนที่มาล้วนเป็นแขก แขกของเจ้าหญิงน้อยแห่งตระกูลหลง ทุกคนมาด้วยใจที่อวยพร แต่กลับไม่จัดที่นั่งให้? ทำไม เพิ่มปากมาหนึ่งปาก ตะเกียบหนึ่งคู่ ตระกูลหลงของพวกคุณจะจนรึไง?”
เจียงหู่ติดตามผู้นำตระกูลเจียงบุกป่าฝ่าดงตอนสมัยหนุ่มๆนั้น ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อน
ถึงตอนนี้อายุมากแล้ว เบาลงไปเยอะ แต่ถ้าเจอเรื่องที่เกินไปก็ไม่ยอมถอยให้สักนิด
ไม่ต้องสงสัยเลย การที่เจียงไป๋เสว่ลุกขึ้นพาเอาเจียงหู่อารมณ์ขึ้นไปด้วย
ชั่วขณะหนึ่ง ตระกูลใหญ่ที่มีน้ำหนักที่สุดในงานเลี้ยงนี้พากันลุกขึ้น คราวนี้เรื่องใหญ่ซะแล้ว!
หลงหวูหุ่ยสีหน้าย่ำแย่จนถึงขีดสุด เขาทำหน้าอย่างกับกินแมลงวันเข้าไป
หันกลับไปมองถังเฉา เขายืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารเหมือนไม่รู้สึกรู้สา มุมปากเลิกขึ้นเบาๆเป็นรอยยิ้มเย็น
ด้านหลังเขา หลินชิงเสว่ เจียงไป๋เสว่ยืนอยู่ จากนั้นเป็นฉินผู่หยาง เย่หรูอี้ เจียงหู่
ในบรรดาคนเหล่านี้ เก้าตระกูลใหญ่อยู่ในนี้ถึงสี่คน
แขกเหรื่อที่อยู่กันที่นี่ตาโตอ้าปากค้าง หน้าตาไม่อยากจะเชื่อ
ถ้าสี่ตระกูลหลวงไปหมดเพราะถังเฉาคนเดียว หลงหวู่หุ่ยก็ทำลายพิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าหญิงแห่งตระกูลหลง หลงเจียเจีย ด้วยมือตัวเอง
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีเรื่องอะไรกัน?”
“ทำไมแขกผู้มีเกียรติจากตระกูลฉิน ตระกูลเย่ ตระกูลหลิน และตระกูลเจียง ถึงยืนกันทุกคนเลยล่ะ?”
…….
ความวุ่นวายตรงนี้เรียกเอาความสนใจจากสมาชิกคนสำคัญคนอื่นๆของตระกูลหลงมาได้ พวกเขารุดเข้ามาอย่างรวดเร็ว พอเห็นพวกถังเฉายืนกันหมด สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก
โดยเฉพาะหลงเฟยกั๋ว สีหน้าย่ำแย่ถึงขีดสุด
วันนี้เป็นวันพิธีบรรลุนิติภาวะของลูกสาวเขานะ ต้องไม่มีอะไรผิดพลาด
และเขาได้ข่าวมาว่า พ่อของพวกเขา หรือก็คือท่านเจ้ามังกรก็จะมางานนี้ด้วย
ถ้าท่านเจ้ามังกรเห็นภาพชุลมุนนี้เข้า ตระกูลหลงคงขายหน้าคนทั้งประเทศ
หลงหวูหุ่ยกัดฟันกรอด ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่า นี่คือการเอาคืนของถังเฉา
ถังเฉาไม่ใช่คนประเภทกล้ำกลืนฝืนทน!
ตรงกันข้าม การเอาคืนของเขาทิ่มแทงเข้าที่ใจ ไม่ใช่อะไรธรรมดาๆอย่างได้เปรียบทางวาจา
หลินชิงเสว่สนับสนุนให้ถังเฉาทำแบบนี้มาก
หลงหวูหุ่ยจนปัญญา ได้แต่กัดฟันพูด “เขาไม่ยอมนั่งที่”
หลงเฟยหยู่และหลงเฟยกั๋วหันมองถังเฉาทันที
ถังเฉายิ้ม “ฉันไม่ยอมนั่งที่หรอ? ทำไมฉันจำได้ว่านายเป็นคนไม่อนุญาตให้ฉันนั่งที่ล่ะ? แล้วก็บอกว่าฉันยืนกินก็พอแล้ว หรือนั่งพื้นของพวกนายตระกูลหลงเลยก็ได้”
ตู้ม……
พอคำพูดนี้ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป หลงเฟยหยู่รู้สึกเหมือนมีคลื่นซัดสาดในใจ รู้อย่างนี้เขาน่าจะตามไปดูด้วย นี่หลงหวูหุ่ยดันไปล่วงเกินถังเช่าเข้า!
สีหน้าหลงเฟยกั๋วยิ่งอีมครึมน่ากลัว
ตอนนี้เขาเข้าใจหมดแล้ว ถังเฉาไม่ใช่แค่เขยแต่งเข้าของตระกูลหลินธรรมดา ตระกูลเย่ ตระกูลฉิน ตระกูลเจียง ล้วนเป็นผู้สนับสนุนหลักของเขา
“เจ้าหญิงผู้เป็นเจ้าของวันเกิดในวันนี้จะลงมาแล้ว เรื่องนี้จะแก้ไขยังไงดีนะ?”
ถังเฉาพูดยิ้มๆ ทว่าทอดสายตาไปที่หลงหวูหุ่ย
คนอื่นๆก็พากันมองหลงหวูหุ่ย
ทุกคนรู้หมดว่าถังเฉาหมายความว่ายังไง
เขาต้องการให้หลงหวูหุ่ยก้มหัว หากไม่ก้มหัว พวกเขาไม่ใช่แค่ไม่เข้าร่วมงานเลี้ยงตระกูลหลงอีก แต่จะไปเดี๋ยวนี้เลย
ในเยี่ยนจิง ไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงอะไร ขอแค่เป็นที่ที่มีตระกูลหลวงแห่งเยี่ยนตูอยู่ ก็จะเป็นที่ที่ใครๆต่างจับจ้อง
กลับกัน หากไม่มีตระกูลหลวงแห่งเยี่ยนตู ก็จะเป็นดั่งดวงดารามืดสลัว ไร้ซึ่งบารมี
พิธีบรรลุนิติภาวะของเจ้าหญิงแห่งตระกูลหลง ตระกูลหลวงเหล่านี้ถือเป็นตัวชูโรง พวกเย่หรูอี้จึงไปไหนไม่ได้เด็ดขาด
หลงหวูหุ่ยหน้าเขียวกัดฟันแน่น มองถังเฉาด้วยสายตาดุร้าย
ถ้าสายตาฆ่าคนได้ ถังเฉาคงตายไปมากกว่าหนึ่งครั้งแล้ว
“เอ๋ นายทำสายตาอะไรเนี่ย? ถ้าไม่ต้อนรับพวกเรา พวกเราไปก็ได้”
ถังเฉามองหลงหวูหุ่ยและเอ่ยขึ้นฉับพลัน
จากนั้น เขาจูงมือหลินชิงเสว่ ตั้งใจจะไปจากที่นี่
หลินชิงเสว่ยกมือให้ถังเช่าจูงอย่างให้ความร่วมมือ ทั้งสองคนตั้งใจจะไปจากที่นี่
พวกเย่หรูอี้ ฉินผู่หยางมองหน้ากัน และไปจากหองานเลี้ยงด้วย
พอเห็นภาพนี้ หลงเฟยหยู่และหลงเฟยกั๋วลนลานขึ้นมา รีบเข้าไปห้าม
“คุณถังช้าก่อน!”
ถังเฉาไปแล้ว พวกเย่หรูอี้ก็จะไปด้วย งานวันเกิดของเจ้าหญิงน้อยตระกูลหลงก็หม่นหมองลงน่ะสิ
หลงเฟยกั๋วตำหนิหลงหวูหุ่ยอย่างโมโห “ยังไม่รีบขอโทษคุณถังอีก?” “ถ้างานวันเกิดของเจียเจียล่ม แกนี่แหละคือตัวการ
หลงหวูหุ่ยกัดฟันแน่นขึ้นกว่าเดิม เสียงดังกรอบแกรบ
แต่หลงหวูหุ่ยยังไม่ยอมก้มหัวขอโทษ
เขาคือผู้นำที่อายุน้อยที่สุด จะขอโทษคนไม่เอาไหนที่สถานะต่ำต้อยได้ยังไงกัน
ต่อให้เขาผิด เขาก็ไม่ขอโทษเด็ดขาด
นี่คือหลักการของเขา!
แต่ ถังเฉาพาหลินชิงเสว่เดินออกไปไกลแล้ว
เย่หรูอี้ ฉินผู่หยาง และเจียงหู่ก็เหมือนกัน
หลงเฟยกั๋วบันดาลโทสะ เขาผลักหลงหวูหุ่ยอย่างแรง
“แกขอโทษสิวะ!”
“เดี๋ยวคุณปู่ออกมาเห็น ดูซิแกจะทำยังไง”
“……”
ความกดดันอาจะหนักหน่วงเกินไป หนักจนตัวหลงหวูหุ่ยเองแบกรับต่อไปอีกไม่ไหว
สุดท้ายเขาคำรามขึ้น “ขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว!”
สิ้นเสียงคำราม ถังเฉายอมชะงักฝีเท้าในที่สุด เขาหันมามองหลงหวูหุ่ยและยิ้ม
“ผิดตรงไหน?”
ถังเฉาถามยิ้มๆ
หลงหวูหุ่ยกัดฟันและเอ่ย “ฉันไม่ควรไปตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับนาย และไล่นายไป”
“แล้วอะไรอีก?”
หลงหวูหุ่ยเงียบไปอีกพักหนึ่ง แต่ก็เอ่ยขึ้น “ไม่ควรไปหยามนาย ให้นายต้องยืนกิน”
หลงหวูหุ่ยเสียงสั่นมาก สำหรับเขา ทุกประโยคที่ผิดทำให้เขาอับอายขายขี้หน้า
ต่อให้เขาไม่อยากเชื่อเพียงไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องราวดำเนินไปในทิศทางที่ถังเฉาบอก
ห้าปีก่อนถังเฉาเหนือกว่าเขา ห้าปีต่อมาก็ยังเหนื่อกว่า
ถังเฉากลับส่ายหัว “ผิดทั้งหมด”
พอเขาพูดแบบนี้ ทุกคนต่างตะลึงงัน แม้แต่หลงหวูหุ่ยยังมองถังเช่าด้วยสีหน้าประหลาดใจ
ถังเฉาส่ายหัว “นายเข้าใจผิดเรื่องตำแหน่ง”
ตำแหน่ง?
ทุกคนมองหน้ากัน
ถังเฉาพูดต่อ “ตัวเอกในวันนี้ไม่ใช่นายเลย นายกลับวางตำแหน่งตัวเองไว้ที่จุดศูนย์กลาง”
“เพราะฉะนั้น หุบปากเถอะ ที่นี่ไม่มีที่ว่างให้นายพูด”
ถังเฉาพูดจบ ก็พาหลินชิงเสว่กลับไปนั่งที่อีกครั้ง
พวกเย่หรูอี้ก็กลับไปอีกครั้งเหมือนกัน
เห็นท่า หลงเฟยหยู่ หลงเฟยกั๋วโล่งอก
ไม่ว่ายังไง คนของตระกูลเย่และตระกูลฉินไม่ได้ออกไป นี่คือผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลงหวูหุ่ยยืนเหม่อลอยอยู่นอกหองานเลี้ยง ไม่มีใครไปเรียกเขาสักคน
เสียงเรียบนิ่งของถังเฉายังสะท้อนอยู่ในหูเขา แต่ละคำแต่ละประโยคประหนึ่งค้อนเล่มหนัก ทุบเข้าที่หัวใจเขาอย่างรุนแรง
หน้าตาเขาบิดเบี้ยวหนัก แดงบ้างเขียวบ้าง แต่ไม่อาจกลับสู่สีหน้าปกติ
วันนี้เป็นวันพิธีบรรลุนิติภาวะของน้องสาวเขา เขาเป็นคนจัดการทุกเรื่องที่ต้องเตรียมสำหรับงานเลี้ยง
เหมือนตอนอยู่ที่สนามรบ
เขาทำไปอย่างที่มันควรจะเป็น
เขาเกิดมาเพื่อเป็นตัวเอก แต่คำพูดของถังเฉา ทำลายศักดิ์ศรีของจนแหลกอย่างไร้ความปรานี
“เจ้าหญิงเจ้าของวันเกิดมาแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตะโกน บรรยากาศของงานเลี้ยงคึกคักถึงขีดสุดอีกครั้ง
สายตาทุกคนจับจ้องไปยังชั้นของคฤหาสน์ทันที
ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ก็เงยหน้ามอง ไม่รู้ว่าหลินชิงเสว่คิดไปเองหรือเปล่า เธอพบว่าในสายตาของถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ แฝงความอ่อนโยนไว้ ราวกับกำลังรอคอยเพื่อนเก่าที่ไม่ได้พบหน้ากันนาน
ตึง! ตึง! ตึง!
ทุกคนได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นอันน่าฟัง จากนั้นร่างขาวผ่องร่างหนึ่ง ปรากฏสู่สายตาของทุกคน
นั่นคือเด็กสาวที่อายุยังไม่ถึงยี่สิบ เธอสวมชุดกระโปรงยาวสีขาวหิมะ มีเพชรเม็ดเล็กๆฝังอยู่ตามระบายของชุดกระโปรง เลอค่าและสง่างาม
ที่เท้าสวมรองเท้าส้นสูงสีขาว ส้นไม่ได้สูงมาก แต่รับกับรูปร่างสูงเพรียวของเธอได้เป็นอย่างดี
เธอก็คือเจ้าของงานวันเกิดในวันนี้ หลงเจียเจียที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะ
แม้หลงเจียเจียเพิ่งจะอายุสิบแปด แต่ความงามของเธอไม่ได้ด้อยไปกว่าหญิงสาวที่บรรลุนิติภาวะแล้ว
เทียบกันแล้ว เธอดูเยาว์วัยและดื้อรั้นมากกว่าซึ่งหาได้ยาก พริบตาเดียวก็ดึงดูดความสนใจของคุณชายวัยหนุ่มจำนวนหนึ่งในที่นี้
นี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมบางตระกูลต้องพาเด็กๆมาด้วย บางทีเด็กสองคนถูกใจกันเข้า อาจจะพัฒนาเป็นคู่บุพเพได้
แม้แต่ผู้หญิงบางคนยังส่งเสียงอิจฉาอย่างอดไม่ได้ พร้อมกันอุทานว่า สิบแปดปีนี่ดีจริงๆ
หลงเฟยกั๋วเห็นลูกสาวตัวเองสวยขนาดนี้ หน้าชื่นมื่นอย่างอดไม่ได้เหมือนกัน เขากระแอมคอก่อนจะเอ่ยเสียงก้อง
“ขอบคุณทุกท่านที่หาเวลามาร่วมพิธีบรรลุนิติภาวะของเจียเจียทั้งที่ยุ่งกันมาก ทุกคนต้องกินดื่มกันให้เต็มที่เลยนะครับ”
หลงเฟยกั๋วในตอนนี้ก็สวมชุดสูทเข้ารูป รูปร่างสูงโปร่ง
ข้างกายเขามีคุณนายละอ่อนสวมชุดกี่เพ้าคนหนึ่ง ดูท่าน่าจะเป็นคุณแม่ของหลงเจียเจีย
“เมื่อก่อนเจ้าหญิงตระกูลหลงอย่างกับเด็กผู้ชาย คิดไม่ถึงว่าโตมาจะสวยขนาดนี้”
ฉินผู่หยางกระซิบอยู่ข้างๆถังเฉา
ถังเฉายิ้ม ไม่พูดอะไร
ขณะนั้น รถเข็นที่มีเค้กวันเกิดสูงราวๆสามสี่เมตรถูกเข็นเข้ามา
ในงานมีเพลงวันเกิดดังขึ้น ทุกคนร้องตาม
“เจียเจีย สุขสันต์วันเกิด”
“ขอบคุณค่ะ”
หลงเจียเจียโค้งตัวคำนับ เพื่อแสดงถึงความขอบคุณ
หลงเฟยกั๋วพูดกับหลงเจียเจียด้วยรอยยิ้ม “เจียเจีย ไปแบ่งเค้กวันเกิดให้ทุกคนสิ”
หลงเจียเจียหั่นเค้กออกมาได้หลายชิ้น และนำไปแบ่งให้ทุกโต๊ะ
ทุกโต๊ะต่างแสดงการขอบคุณ ตอนที่เค้กถูกส่งมาที่โต๊ะถังเฉา ถังเฉายิ้มพลางอวยพร
“เจียเจีย สุขสันต์วันเกิด”
ทว่าหลงเจียเจียไม่ได้กล่าวขอบคุณตามน้ำ แต่ผงะไปครู่หนึ่ง มองถังเฉาและเจียงไป๋เสว่อึ้งๆ
สองคนนั้นยิ้มให้หลงเจียเจีย
มองอยู่นาน ทันใดนั้นหลงเจียเจียหน้าตาเซอร์ไพรส์ พลางร้องเสียงดังอย่างตื่นเต้น
“พวกพี่คือ….พี่ถังเฉา? พี่ไป๋เสว่!”