เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 687 สารภาพท่ามกลางสาธารณชน
ไม่นานนักเขาก็โทรติด เสียงรำคาญใจของเด็กหนุ่มดังตามสายมา
“ฮัลโหล? มีอะไรก็รีบพูดมา ฉันกำลังยุ่ง”
เจียงเฉาได้ยินเสียงหายใจรัวเร็วของเด็กหนุ่มจากปลายสาย และยังมีเสียงผู้หญิงครวญคราง
เจียงเฉาเข้าใจทันทีว่าทำไม แต่เขาไม่ยอมวางโทรศัพท์สายนี้หรอก
เขารีบเอ่ยขึ้น “คุณชายฉู่ครับ เรื่องนี้ผมไม่พูดไม่ได้”
“ผู้หญิงที่ท่านชอบ หลงเจียเจีย กำลังจะเป็นผู้หญิงของคนอื่นแล้วครับ!”
“หา!”
พอเขาพูดประโยคนี้ก็จบ ก็ได้ยินเสียงโหยหวนดังมาตามสาย
ปลายสายเงียบไปนานมาก แต่เจียงเฉาได้ยินเสียงหายใจทุ้มต่ำของคุณชายฉู่
ราวกับใกล้จะบันดาลโทสะเต็มทน
“ไอ้เวรตะไลที่ไหนมันใจกล้าขนาดนี้ บังอาจมาแย่งผู้หญิงของคุณชายฉู่อย่างฉัน”
คุณชายฉู่ด่าทออย่างฉุนเฉียว
เจียงเฉานึกดีใจ ก่อนจะเล่าเรื่องที่หลงเจียเจียกอดถังเฉาในงานพิธีบรรลุนิติภาวะแบบใส่สีตีไข่
คุณชายฉู่ฟังจบแล้วบันดาลโทสะในบัดดล
“ตระกูลหลงไม่เห็นตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวงของฉันอยู่ในสายตาเลยใช่มั้ย คุยกันไว้แล้วนี่ว่าจะยกหลงเจียเจียให้ฉัน ตอนนี้มากลับคำ ฉันไม่มีหน้ามีตารึไง?”
เจียงเฉาได้ยินว่ายกระดับเป็นความแค้นระหว่างตระกูลหลวงแล้วตกใจแทบแย่ เขารีบเอ่ยขึ้น “คุณชายฉู่ ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกครับ ด้านตระกูลหลงไม่ได้ไม่เห็นตระกูลฉู่อยู่ในสายตา แต่หลงเจียเจียและผู้ชายคนนั้นรู้จักกันมาก่อนครับ”
“และเชื่อว่าคุณชายฉู่ก็น่าจะเคยได้ยินเรื่องผู้ชายคนนี้ เขาเป็นเขยแต่งเข้าของเจ้าหญิงคนโตแห่งตระกูลหลิน หลินชิงเสว่ มีชื่อว่าถังเฉา เขามีคุณหลินอยู่แล้วแท้ๆ แต่ยังจะพัวพันกับเจียเจีย เขานั่นแหละครับที่ไม่เห็นท่านอยู่ในสายตา”
เจียงเฉากลัวว่าคุณชายฉู่จะไม่เชื่อ จึงดันถังเฉาออกไป
คราวนี้คุณชายฉู่โมโหแล้วจริงๆ “ไอหนุ่มนั้นยังอยากมีชีวิตอยู่มั้ย”
เห็นได้ชัดว่าเขาเคยได้ยินชื่อถังเฉา
เก้าตระกูลหลวงของเยี่ยนตูต่างปกครองเพียงส่วนของตัวเอง แต่เห็นอย่างนั้น ที่จริงแล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ตระกูลหลวงอื่นๆก็จะรู้ได้ในทันที
เพราะฉะนั้นเรื่องที่เจ้าหญิงคนโตแห่งตระกูลหลินมีสามีเป็นเขยแต่งเข้าที่ทำอะไรไม่เป็นเลย ไม่ใช่ความลับในแวดวงตระกูลหลวง
“คุณชายฉู่ ท่านรีบมาเถอะครับ!”
เจียงเฉาเร่งเร้า “วันนี้เป็นงานพิธีบรรลุนิติภาวะอายุสิบแปดปีของหลงเจียเจีย วันสำคัญขนาดนี้กลับไม่เชิญท่านมา แค่นี้ก็บ่งบอกถึงปัญหาแล้ว”
เจียงเฉาใส่ไฟเพิ่มอีกโดยเอาเรื่องพิธีบรรลุนิติภาวะของหลงเจียเจียมาเป็นประเด็น
คราวนี้คุณชายฉู่ไม่ได้พูดอะไร เขาวางสายไปเลย
เจียงเฉาถือโทรศัพท์ กระตุกยิ้มเย็นบนใบหน้า สายตาเปี่ยมด้วยความอิจฉาริษยา
“ถังเฉา บังอาจมามีเรื่องกับฉัน ฉันทำให้แกไม่รู้ว่าตัวเองตายได้ยังไง”
เจียงเฉารู้นิสัยของคุณชายฉู่ ใครบังอาจไปแหยมกับเขา เขาไม่ตีอีกฝ่ายจนพิการไม่ยอมเลิกราหรอก
ต่อให้ภรรยาเขาคือหลินชิงเสว่ก็ไร้ประโยชน์ คุณชายฉู่ไม่กลัวหลินชิงเสว่
กลับเข้าที่แล้ว เจียงเฉามองถังเฉาด้วยสายตาเย็นยะเยือก
ที่จริง เขาคาดหวังให้เรื่องราวใหญ่โตขึ้น
การดองกันระหว่างเก้าตระกูลหลวงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยๆ
เหมือนครั้งก่อนที่ตระกูลหลินป้องกันถังเฉามาหาถึงที่ด้วยการจับหลินชิงเสว่หมั้นกับฉินผู่หยางแห่งตระกูลฉินลับหลัง ต่างทำไปเพราะมีจุดประสงค์ของตัวเอง
ตระกูลฉู่และตระกูลหลงก็เหมือนกัน หลงเจียเจียและคุณชายฉู่แห่งตระกูลฉู่หมั้นกันอยู่
ถึงหลงเจียเจียไม่เคยยอมรับ แต่หากไปถึงระดับตระกูล ก็คงมีเรื่องสนุกๆให้ดูแล้วล่ะ
บัดนี้งานวันเกิดดำเนินไปถึงช่วงกลางแล้ว หลงเจียเจียนั่งอยู่ที่โต๊ะถังเฉา
พิธีบรรลุนิติภาวะ หมายความว่าโตแล้ว หลงเจียเจียเปิดแชมเปญราคาไม่เบาหนึ่งขวดเพื่อฉลอง ปรากฏว่าดื่มไปได้แค่อึกเดียวก็เป็นอันสำลัก
ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่หัวเราะอย่างเป็นมิตร
บรึ้น….
และในตอนนั้น หน้าประตูลานมีเสียงคำรามสะเทือนหูของเครื่องยนต์ดังเข้ามา
รถสปอร์ตคันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู ชายหนุ่มคิ้วเข้มตาโต สวมชุดทักซิโด้พอดีตัวก้าวยาวๆเข้ามา
“คุณชายของตระกูลฉู่แห่งตระกูลหลวง ฉู่หยัง”
“นี่คุณชายฉู่ที่หมั้นกับเจียเจียตั้งแต่อยู่ในท้องไม่ใช่หรอ?”
“เขามาได้ยังไง?”
“…….”
ทุกคนพูดกันไปต่างๆนานา และพบความผิดปกติของเรื่องนี้
วันนี้เป็นวันพิธีบรรลุนิติภาวะของหลงเจียเจีย ตระกูลฉู่ในฐานะครอบครัวที่จะดองกันในอนาคตกลับไม่ได้รับเชิญ?!
หลงเจียเจียหน้าอึมครึมลงทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความรังเกียจ
“ฉู่หยัง ฉันจำได้ว่าฉันไม่ได้เชิญนายมาที่งานพิธีบรรลุนิติภาวะของฉันนะ ทำไมหน้านายถึงด้านขนาดนี้ล่ะ เขาไม่เชิญแล้วยังจะมา”
ท่าทีหลงเจียเจียแย่มาก เห็นได้เลยว่าเกลียดฉู่หยังถึงระดับไหน
ฉู่หยังกลับไม่ใส่ใจเลยสักนิด เขายิ้มเบาๆ “เจียเจีย ฉันเป็นคู่หมั้นของเธอนะ ฉันจะมาต้องมีบัตรเชิญด้วยหรอ?”
“วันนี้เป็นวันพิธีบรรลุนิติภาวะของเธอ วันสำคัญขนาดนี้ ฉันจะไม่มาได้ยังไงกัน?”
สิ้นเสียง เขาก็ดีดนิ้วเสียงดัง
ผู้ชายสองคนในชุดคนรับใช้เดินขึ้นมาจากด้านหลัง พวกเขาเปิดท้ายคันรถ
ทันใดนั้น สีแดงฉาดท่วมท้นสู่สายตาของทุกคน
ตู้ม!
ทุกคนมีสีหน้าตะลึง
ดอกกุหลาบสีแดงเต็มท้ายคันรถ
แถมรถคันนี้ยังเป็นรถสปอร์ตที่ด้านในกว้างขวาง แต่ตอนนี้ด้านในกลับเต็มไปด้วยดอกกุหลาบ ซึ่งมีจำนวนเกิดเก้าร้อยเก้าสิบเก้าดอกไปมาก มีผลกระทบต่อการมองเห็นสุดๆ
ฉู่หยังเดินมาอยู่ตรงหน้าหลงเจียเจีย ก่อนจะหยิบกล่องหยกสุดงดงามกล่องหนึ่งออกมาจากกระเป๋า
เปิดมแล้วเป็นแหวนรูปหัวใจ
แซ่ด!
ที่ตรงนั้นมีเสียงเอะอะอย่างโกลาหลปะทุขึ้นมาทันที
ให้แหวนรูปหัวใจในพิธีบรรลุนิติภาวะ หมายความว่ายังไงคงไม่ต้องให้พูด
ฉู่หยังยิ้มพราวเสน่ห์ให้ เขาจ้องใบหน้าสะสวยงดงามของหลงเจียเจียพลางเอ่ยยิ้มๆ “เจียเจีย ฉันรู้ว่าเธอยังเด็ก แต่ฉันรอให้เธอโตกว่านี้ได้”
“แหวนเพชรรูปหัวใจนี้เป็นแบบใหม่ล่าสุดของบัลแกเรีย มันจะมาเป็นสัญลักษณ์ความรักของเราสองคน ขอโอกาสให้ฉันได้สวมให้เธอด้วยมือตัวเองนะ”
ฉู่หยังหน้าตาอ่อนโยน ที่ตรงนั้นเงียบสงัด
นี่ไม่ใช่การขอแต่งงาน แต่เป็นการแสดงถึงความรักมั่น
โรแมนติกกว่า และจริงจังกว่า
ผู้หญิงที่อยู่ตรงนั้นแทบคลุ้มคลั่ง
“แบบใหม่ล่าสุดของบัลแกเรียหรอ ราคาเกินสิบล้าน แบบลิมิเต็ดของโลก!”
“ถ้าใครให้ฉันนะ ฉันคงมีความสุขจนตายไปเลย!”
“เจียเจีย รีบตอบตกลงคุณชายฉู่ไปเถอะ”
“……”
รอบๆมีแต่เสียงแบบนี้ คนที่ยุยงส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิง
สำหรับบุคคลสำคัญในตระกูลหลวง แค่สิบล้านขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอก แต่สำหรับบางตระกูล การซื้อแหวนเพชรราคาสิบล้านนั้นสิ้นเปลืองอย่างมหันต์!
ถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ก็เห็นภาพนี้ พวกเขาไม่ได้อวยพร เพราะพวกเขาสังเกตเห็นว่าสีหน้าของหลงเจียเจียย่ำแย่มาก
หลงเฟยกั๋วก็ถอนหายใจ
ที่จริงหลงเฟยกั๋วพอใจในฉู่หยังคนนี้มาก นอกจากภูมิหลังครอบครัวเหมาะสมแล้ว ยังรักเจียเจียมากด้วย เสียดายที่เจียเจียไม่เอาเขา
พูดจบ ฉู่หยังก็รอให้หลงเจียเจียตอบรับ พร้อมหันไปมองถังเฉาอย่างสะใจ
เขาตัดสินใจว่าจะเอาคืนด้วยวิธีนี้
ทว่า ถังเฉาไม่มีสีหน้าโมโหเลยสักนิด อย่างกับคนที่เดินผ่านไปผ่านมาเท่านั้น
เจียงเฉาก็ปรบมือให้ฉู่หยัง
หลงเจียเจียสูดลมหายใจเข้าลึก ก่อนที่ใบหน้าเล็กๆนั่นจะเต็มไปด้วยความโมโห
“ฉู่หยัง นายจะให้ฉันต้องพูดอีกกี่รอบนายถึงจะเข้าใจ?”
“ฉันไม่สนใจนาย ไม่สนใจเลยสักนิด! ฉันมีคนที่ชอบในใจแล้ว!”
“……”
หลังจากประโยคนี้ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป ทั้งหองานเลี้ยงตกอยู่ในความเงียบสงัด
ทุกคนอึ้งกันหมด
ทุกคนคิดไม่ถึงเลยว่าหลงเจียเจียจะไม่ไว้หน้าการสารภาพรักสุดลึกซึ้งของฉู่หยังเลยสักนิด เธอปฏิเสธทันควัน มิหนำซ้ำยังบอกว่ามีคนที่ชอบในใจแล้วด้วย!
ในฝูงชน เจียงเฉาทำหน้าอึ้ง แต่ในใจนั้นเบิกบานสุดๆ
เรื่องราวดำเนินไปในทิศทางที่เขาคาดการณ์ไว้
หลงเจียเจียปฏิเสธฉู่หยัง แบบนี้ฉู่หยังก็จะบันดาลโทสะ หลังจากนั้น แค่ชักไฟศึกไปหาถังเฉาก็พอ
ฉู่หยังก็คิดไม่ถึงว่าหลงเจียเจียจะปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้ หน้าของเขาแข็งทื่อไป
แขกเหรื่อก็ตระหนักได้ว่า เรื่องใหญ่ซะแล้ว
หลังจากได้สติกลับมา ฉู่หยังทำหน้าเจ็บใจ รวมถึงโกรธเกรี้ยวด้วย
“ทำไม? เธอชอบใครกันแน่ บอกฉันมา!”
หลงเจียเจียสีหน้าเย็นชา “ฉันชอบใคร นายไม่ต้องรู้หรอก ฉันไม่ได้ชอบนายก็แล้วกัน ฉันไม่อยากจะเห็นหน้านายด้วยซ้ำ รีบหายไปจากสายตาของฉันซะ!”
“เจียเจีย—–”
“อย่ามาเรียกฉันว่าเจียเจียนะ ช่วยเรียกชื่อเต็มฉันด้วย หรือไม่ก็คุณหลง!”
หลงเจียเจียขัดคำพูดเขาอย่างรำคาญ
ทุกคนอึ้งกันหมด รวมถึงถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ด้วย
ปฏิเสธซึ่งๆหน้าขนาดนี้ ไม่ไว้หน้าแม้แต่นิด นี่เหมือนตบหน้าฉู่หยังชัดๆ
ฉู่หยังหน้าแดงหน้าซีดสลับกันไป สุดท้ายหน้าเขียวจนถึงขีดสุด
ท้ายที่สุด เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ข่มไฟโทสะในใจ
“ได้ หลงเจียเจีย ต่อให้เธอปฏิเสธฉัน แต่เรื่องแต่งงานของเราสองคนถูกกำหนดไว้นานแล้ว ชะตากรรมของเธอก็คือต้องแต่งงานกับฉัน!”
ฉู่หยังหมายจะกดดันด้วยเรื่องตระกูล
แต่หลงเจียเจียไม่กลัวเลย เธอแดกดันกลับ “ตอนที่พ่อฉันจับฉันหมั้นก็เพราะกลัวว่าฉันจะเอาแต่ทำตัวเป็นเด็กผู้ชาย แล้วอีกหน่อยจะไม่มีใครเอา ถึงได้เก็บนายไว้เป็นตัวสำรอง นายคิดจริงๆรึว่าจะใช้ชีวิตในฐานะสามีฉันน่ะ?”
“อีกอย่าง ตอนแรกนายก็ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ไม่ใช่หรอ เพราะฉันเหมือนเด็กผู้ชายยังไงล่ะ? พอตอนนี้ฉันไม่เหมือนแล้วนายก็พยายามเข้าใกล้ มีเรื่องดีๆขนาดนี้ที่ไหนกัน?”
คำพูดเหล่านี้เล่นงานฉู่หยังซะสะอึก
สีหน้าฉู่หยังย่ำแย่ถึงขีดสุด
ใช่แล้ว ตอนแรกฉู่หยังก็ไม่เห็นด้วยกับการหมั้นของทั้งสอง ภรรยาในอนาคตของเขาจะเป็นเหมือนเด็กผู้ชายได้ยังไงกัน?
แต่ตั้งแต่หลงเจียเจียสวยขึ้น ฉู่หยังก็เปลี่ยนใจ
หลงเจียเจียถากถาง “ส่วนเรื่องหมั้นนายวางใจได้ ตอนนี้ฉันบรรลุนิติภาวะแล้ว จะถอนหมั้นเดี๋ยวนี้แหละ”
“ตอนแรกคิดว่าอีกสองสามวันจะไปตระกูลฉู่ด้วยตัวเองเสียหน่อย แต่ในเมื่อนายมาแล้ว งั้นฉันจะบอกนายต่อหน้าเลยแล้วกัน ฉันไม่ยอมรับการหมั้นครั้งนี้! ขอถอนหมั้นฝ่ายเดียว!”
เสียงของหลงเจียเจียดังมาก แต่ที่ตรงนั้นกลับเงียบกริบ
ฉู่หยังตาโต หน้าตาไม่อยากจะเชื่อ
แต่หลังจากนั้นตอนที่เขาได้สติกลับมา แดงก่ำไปทั้งหน้า
ฝ่ายหญิงถอนหมั้น เป็นการเหยียดหยามสุดๆสำหรับฝ่ายชาย
เห็นๆอยู่ว่าสถานการณ์ชักจะควบคุมไม่อยู่แล้ว หลงเฟยกั๋วรีบเข้ามาคลี่คลาย
“ในเมื่อคุณชายฉู่มาแล้วก็นั่งก่อนเถอะ ขั้นตอนต่อไปคือเต้นรำบรรลุนิติภาวะ”
หลงเฟยกั๋วหันไปมองหลงเจียเจีย พลางกล่าวยิ้มๆ “เจียเจีย ลูกไปเลือกแขกผู้ชายในงานมาเต้นด้วยกันสิ”
พอเขาพูดแบบนี้ สายตาทุกคนเร่าร้อนขึ้น
โดยเฉพาะชายหนุ่มที่โดดเด่นและมีดี ต่างคาดหวังว่าจะถูกหลงเจียเจียหมายตา
ทว่า หลงเจียเจียกลับเดินไปอยู่ตรงหน้าถังเฉา และเผยรอยยิ้ม “พี่ถังเฉา เต้นกับหนูหน่อยนะคะ”