เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 698 ไปจากตระกูลหลิน
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองไปยังเว่ยหมิงจวินเต็มไปด้วยความโกรธ
ถังเฉายังคงไม่พูดไม่จา เพียงแต่ในดวงตามีความน่าสะพรึงกลัวที่ทำให้ผู้คนสยบวาบผ่าน
พูดอย่างจริงใจ หลังจากที่ชาติกำเนิดของหลินชิงเสว่ถูกคนต่ำต้อยอย่างเว่ยหมิงจวินรู้เข้า ถังเฉาก็เดาออกแล้วว่าจะต้องยืมโอกาสนี้มาขับไล่หลินชิงเสว่ออกจากตระกูลหลิน
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเว่ยหมิงจวินจะให้หลินจ้าวหยูนออกคำสั่งไล่หลินชิงเสว่ออกไปด้วยตัวเอง
นี่คือการทำให้พวกเธอสองพี่น้องกลายเป็นศัตรูกัน!
“จ้าวหยูน แกยังลังเลอะไรอยู่อีก รีบไล่พวกมันไปสิ!”
“แม่ของเธอพูดถูกนะ หล่อนมีผลต่อเธอมาโดยตลอด ดูเหมือนจะกำลังปกป้องเธอ ที่จริงแล้วกำลังควบคุมเธอ!”
“เธอยอมจะถูกคนอื่นควบคุมชีวิตของเธอหลังจากนี้เหรอ?”
“…”
เหล่าญาติในตระกูลหลินทยอยกันพูดโน้มน้าว
สายตาของถังเฉาวาบผ่านบนใบหน้าของคนเหล่านั้นทีละคน ๆ
เขาจำได้ คนพวกนี้แบ่งออกเป็นหลินอิ่นบิดาของหลินโป๋หลาย รวมทั้งหลินหยวนผิงคุณอารองของหลินชิงเสว่ด้วย
หมัดของหลินชิงเสว่กำแน่น ริมฝีปากแทบจะกัดจนแตก พยายามจะทำให้อารมณ์ของตนเองอยู่ในสภาวะสงบอย่างสุดกำลัง จากนั้นก็มองไปยังหลินจ้าวหยูน
เผชิญหน้ากับสายตาของเธอ ร่างกายของหลินจ้าวหยูนก็สั่นเทา ฉากต่าง ๆ ที่ไปมาหาสู่กับพี่สาวปรากฏขึ้นในใจ
เมื่อก่อนคนที่เธอพึ่งพิงมากที่สุดไม่ใช่พ่อแม่ แต่เป็นพี่สาวที่อยู่ไกลถึงเมืองอื่นคนนั้น
บรรยากาศของเยี่ยนจิงกดดันมาก อากาศของเยี่ยนจิงก็ยังไม่ดีอีก ทั้งหมดของทั้งหมดเป็นเหมือนกับกรง หลินจ้าวหยูนเพียงอยากจะหนีไปจากที่นี่
ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะไปเมืองของพี่สาว เมืองหมิงจู
เพียงพบปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ เธอก็จะไปหาพี่สาว
ต่อมาอีก เธอก็ได้รู้จักกับพี่เขย
นั่นเป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุด เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานั้นเธอได้ทำความผิดไปอย่างหนึ่ง
เธอไม่ควรจะไปชอบพี่เขย
สายตาของหลินจ้าวหยูนเรียบเฉย ส่ายศีรษะไม่หยุด
เธอคว้ามือของเว่ยหมิงจวินเอาไว้ เอ่ยขอร้องว่า “แม่คะ ต่อให้พี่สาวไม่ใช่คนของตระกูลหลิน แต่ก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ตระกูลหลินมานานขนาดนี้ พวกท่านก็มีความรักความผูกพันแล้ว อย่าไล่เธอไปเลยได้ไหมคะ?”
สีหน้าของเว่ยหมิงจวินเปลี่ยนไปทันที สะบัดมือของหลินจ้าวหยูนทิ้ง “แกกำลังพูดอะไรน่ะ? เธอไม่ได้เป็นคนของตระกูลหลินตั้งแต่แรก ยังมีคุณสมบัติอะไรมาอยู่ในตระกูลหลิน? ต่อไปเธอจะคุกคามถึงตำแหน่งของแกในตระกูลหลิน”
“แกเชื่อฟังแม่นะ ฉันเป็นแม่ของแก จะทำร้ายแกได้เหรอ?”
“แต่หนูทำไม่ได้จริง ๆ ค่ะ”
น้ำตาของหลินจ้าวหยูนทะลักออกมาจากจากดวงตา
“ไร้ประโยชน์! ตอนแรกไม่น่าจะยอมให้แกไปเมืองหมิงจู!”
เห็นลูกสาวของตัวเองร้องไห้ให้กับคนนอกคนหนึ่งแล้ว สีหน้าของเว่ยหมิงจวินก็เขียวคล้ำ ร้อนรนที่ลูกสาวไม่เอาไหน
จากนั้นเธอก็บีบบังคับให้น้ำเสียงของตัวเองเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เอ่ยกับหลินจ้าวหยูนว่า “จ้าวหยูน นี่เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งที่แกจะต้องข้ามผ่านไปให้ได้ แกจะต้องตัดสายสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้น แก… จะต้องเปลี่ยนเป็นหลินชิงเสว่คนที่สอง”
สิ้นเสียง ใบหน้าของหลินจ้าวหยูนก็เต็มไปด้วยคราบน้ำตา แต่เสียงร้องไห้ของเธอก็หยุดลงแล้ว สายตามีความงงงวย
“กลายเป็นพี่สาวคนที่สอง หมายความว่าอย่างไร หนูไม่เข้าใจ…”
ความอดทนของเว่ยหมิงจวินกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว เอ่ยอย่างรำคาญว่า “ยังไม่เข้าใจอีกหรือ? พ่อของแกมีลูกสาวคนหนึ่งแล้ว ทำไมหลังจากแต่งงานกับฉันแล้วยังจะมีลูกสาวอีกคนล่ะ? ก็เพื่อจะใช้ป้องกันในกรณีฉุกเฉินไง!”
“ถ้าหากว่าวันหนึ่งลูกสาวคนโตของเขาไปจากตระกูลหลิน ก็ยังมีลูกสาวคนเล็ก เธอต้องรับผิดชอบตำแหน่งที่ว่างอยู่… ถ้ามีความสามารถไม่เท่ากับหลินชิงเสว่ในเมื่อก่อน แล้วเธอจะได้รับการนับถือได้อย่างไร?”
“พอได้แล้ว!”
ในตอนนี้เอง หลินชิงเสว่คล้ายกับจะกรีดร้องออกมา
ดวงตาคู่หนึ่งจ้องเว่ยหมิงจวินเขม็ง “คุณอย่าบังคับให้เธอทำเรื่องที่เธอไม่อยากทำเลย เธอมีความคิดของเธอเอง เธอยังเป็นเด็กคนหนึ่ง!”
นาทีต่อมา หลินชิงเสว่ก็คว้ามือของหลินจ้าวหยูนเอาไว้ “ไปกับพี่!”
เธอไม่สามารถให้น้องสาวของเธอถูกคนอื่นใช้ประโยชน์อยู่ที่ตระกูลหลินได้
“พี่…”
หลินจ้าวหยูนตั้งสติได้ก็ส่งเสียง ไม่ง่ายเลยกว่าจะหยุดน้ำตาได้ มีแววว่าจะปรากฏออกมาอีกเป็นอย่างมาก
สีหน้าของเว่ยหมิงจวินเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว กรีดร้อง “ขวางเธอเอาไว้!”
ฟึ่บ ๆ ๆ!
ด้วยความรวดเร็ว ผู้คุ้มกันของตระกูลหลินปราดเข้ามา ขวางอยู่ด้านหน้าของหลินชิงเสว่
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น งานเลี้ยงก็ไม่มีทางจะจัดต่อไปได้แล้ว บรรดาแขกจากไปอย่างรวดเร็ว
ทั้งบ้านตระกูลหลินก็เหลือเพียงสมาชิกในตระกูลหลิน
ในดวงตาของถังเฉามีรังสีอำมหิตอย่างรุนแรงวาบผ่าน ขวางอยู่ข้าง ๆ หลินชิงเสว่ “ใครกล้าก้าวขึ้นมาด้านหน้าอีกก้าวหนึ่งนะ?”
ฟังเสียงเย็นยะเยือกของถังเฉาแล้ว เว่ยหมิงจวินก็รู้ว่าศักยภาพของถังเฉานั้นน่าสะพรึงกลัว สีหน้ามีความตื่นตระหนก
“ถังเฉา แม้แต่แกก็กล้าลงมือกับตระกูลหลินงั้นหรือ?”
สีหน้าของถังเฉาเรียบเรื่อย “ผมไม่สอดมือเข้าไปภายในกิจการของตระกูลหลิน แต่ทั้งหมดนี้ ล้วนแต่มีการเตือนล่วงหน้าคือภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ลงมือกับภรรยาของผม ถ้าไม่อย่างนั้นแล้วผมก็ไม่ถือสาที่จะทำให้ตระกูลหลินกลายเป็นแบบในอดีต”
ได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของทุกคนในตระกูลหลินก็มีความหยิ่งยโสเพิ่มขึ้นมาทันที
ในสายตาของพวกเขา ประโยคนี้ของถังเฉาเมื่อกี้เป็นเพียงการใช้กำลังการต่อสู้มาคุกคามเท่านั้น
แต่พวกเขาจะไปนึกถึงได้อย่างไรว่าแรงกระทบของถังเฉาในเยี่ยนจิงจะถึงขั้นที่ยิ่งใหญ่กว่าในเมืองหมิงจู
เพียงแต่ว่าตระกูลหลินก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปะทะกับถังเฉาต่อหน้า เพียงแค่อยากจะขับไล่หลินชิงเสว่ก็เท่านั้น
เว่ยหมิงจวินมือไวตาไว คว้ามืออีกข้างของหลินจ้าวหยูนเอาไว้ เอ่ยด้วยอารมณ์ฮึกเหิมว่า “หลินจ้าวหยูน ฉันเป็นแม่ของแกนะ กวาดสิ่งกีดขวางทั้งหมดจนเรียบ แกยังจะพาอันตรายมาสู่ญาติอีก แกยังมีคุณธรรมอยู่บ้างไหม?”
“ใช่ จ้าวหยูน แม่ของเธอดีต่อเธอ เธอไม่ได้ทำผิด!”
“เธอลืมไปแล้วหรือว่าเมื่อก่อนแม่ของเธอดูแลเธออย่างไร? ตอนที่เธอเพิ่งเกิดแม้แต่ตาเธอก็ยังลืมไม่ขึ้น หล่อนดูแลเธอตลอดทั้งคืน จนถึงตอนที่เธอลืมตาขึ้นหล่อนถึงได้หยุด! หล่อนจะทำร้ายเธอได้หรือ?”
พวกผู้อาวุโสหลินอิ่นและหลินหยวนผิงก็พูดเช่นนี้
ฝีเท้าของหลินจ้าวหยูนช้าลงอย่างไม่ได้ตั้งใจ แรงที่มือที่ถูกหลินชิงเสว่กุมเอาไว้ก็แรงขึ้นหลายส่วน หลินชิงเสว่พบว่ายากมากที่ตนเองจะพาเธอไปด้วยได้
เธอหันกลับมา มองหลินจ้าวหยูนอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“พี่คะ ขอโทษค่ะ…”
หลินจ้าวหยูนร้องไห้พลางเอ่ยว่า “ฉันไม่สามารถไปกับพี่ได้”
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก อดไม่ได้ที่จะพูดโพล่งออกมา “ทำไม?”
“เพราะว่าต่อให้เธอเลวกว่านี้ เธอก็ยังเป็นแม่ของฉัน!”
ทันใดนั้นหลินจ้าวหยูนก็โค้งตัวขอโทษหลินชิงเสว่
น้ำตาไหลลงมาเยอะกว่าเดิม ถึงขั้นที่ไหลเข้าไปในปาก ขมฝาดไปทั้งปาก
ถังเฉายืนอยู่ข้าง ๆ ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
เขาไม่ได้แปลกใจกับการกระทำของหลินจ้าวหยูนเลยแม้แต่น้อย
ใคร ๆ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไปจากตระกูลหลิน จะมีเพียงแต่หลินจ้าวหยูนเท่านั้นแหละที่เป็นไปไม่ได้
เพราะว่าแม่ของเธออยู่ที่นี่
พี่สาวกับแม่เป็นขมิ้นกับปูน เธออยู่ตรงกลาง เป็นคนที่ทุกข์ที่สุด
ได้ยินประโยคนี้แล้ว เว่ยหมิงจวินที่เดิมทีความคิดเลอะเลือนก็ถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ… ขอโทษค่ะ… ขอโทษค่ะ…”
หลินจ้าวหยูนยังคงโค้งเอวขอโทษ “พี่คะ พี่เขยคะ ฉันรู้ว่าพวกคุณดีกับฉันด้วยใจจริง แต่ว่าฉันยังไงก็ไปกับพวกคุณไม่ได้”
“ติดตามพวกคุณไป ฉันก็จะเป็นเด็กคนหนึ่งไปตลอด ฉันไม่อยากเป็นเด็กแล้ว ฉันเองก็อยากจะเปลี่ยนเป็นคนแบบพี่สาวค่ะ!”
ฟังคำพูดของหลินจ้าวหยูน หลินชิงเสว่ก็คลายมือของเธอออกอย่างไม่รู้ตัว มองเธออย่างเลื่อนลอย
เธอตกอยู่ในความเงียบงัน
ที่จริงแล้ว ถ้าหากว่าหลินจ้าวหยูนติดตามเธอกับถังเฉาไปตลอด เธอก็จะไม่เติบโตไปตลอด
การจากไปถึงจะสามารถได้รับการฝึกฝนที่ดีที่สุด
“ปล่อยเธอไปเถอะ”
ถังเฉาเอ่ยกับหลินชิงเสว่อย่างฉับพลัน
หลินชิงเสว่ไม่ได้เอ่ยปากพูด นี่เป็นความรู้สึกที่แปลกอย่างหนึ่ง มีความหดหู่ และก็มีความปลื้มใจ
ก็เหมือนกับลูกที่ตนเองปกป้องมาตลอดเติบโตขึ้นอย่างกะทันหัน จะจากเธอไปแล้วอย่างไรอย่างนั้นแหละ
“ได้”
หลินชิงเสว่เลือกที่จะเห็นด้วย แต่ว่าเธอมองไปยังเว่ยหมิงจวิน “หวังว่าคุณจะไม่ใช้ประโยชน์จากเธออีก ไม่อย่างนั้นฉันจะไม่ปล่อยคุณไว้แน่”
พูดจบหลินชิงเสว่ก็ค่อย ๆ หันหลัง ไปจากตระกูลหลิน
มองดูเงาด้านหลังของพี่สาว หลินจ้าวหยูนไม่ได้ร่ำไห้
เพราะนี่เป็นเงาที่เธออยากจะข้ามผ่านไป