เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 707 คืนความภาคภูมิใจ
เสียงตะโกนอย่างลนลานของจางขุยดังมาจากด้านหลัง สีหน้าของหลินชิงเสว่จึงดูผิดแปลกไปเล็กน้อย เธอบังคับตัวเองอย่างสุดความสามารถให้สงบลง
เธอสามารถเข้าไปในคริสตัลตอนกลางวันได้ แต่เมื่อถึงตอนกลางคืน ในใจของเธอกลับรู้สึกไม่แน่ใจเป็นอย่างมาก
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เชื่อใจถังเฉา แต่สถานการณ์เช่นนี้มันดูพิเศษเกินไป!
การจับฉลากของซื่อเหอย่วนนั้นมีสมาคมการค้าเก้าราชาเป็นคนเปิด แม้แต่ตระกูลหลินที่เธออยู่มาก่อนหน้านี้ก็ยังต้องแสดงความนับถือเลย!
ตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เธอไม่ใช่คุณหนูของตระกูลหลินอีกต่อไป สถานะของเธอนั้นลดลงเรื่อยๆ เกรงว่าบรรดาแขกที่มาร่วมงานในค่ำคืนนี้ คงจะเป็นเธอที่มีสถานะทางสังคมต่ำต้อยที่สุด
ไม่ การที่จะเข้าวังคริสตัลได้นั้นจะต้องมีจดหมายเชิญ แต่ตอนนี้ถังเฉานั้นยังไม่ได้รับจดหมายเชิญเลยด้วยซ้ำ
ถังเฉาอยู่ในท่าทางที่ดูสงบและผ่อนคลาย มือข้างหนึ่งจับมือของลูกสาวเอาไว้ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้ม “ฉันคิดว่าการที่ทุกคนมาที่นี่นั้นมีจุดประสงค์เพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือการเข้าสู่วังคริสตัลใช่ไหมล่ะ?”
“นาย…”
ขณะที่จางขุยกำลังคิดหาวิธีโต้ตอบกลับอยู่นั้น
สองสาวฝาแฝดที่อยู่ด้านซ้ายและด้านขวาก็ได้ตอบโต้ไปแทนเขา
“โอ้ พูดจาดีนะเนี่ย ไม่ดูสถานะของพวกนายสักหน่อยเหรอ วังคริสตัลในตอนกลางคืนเป็นสถานที่ที่พวกนายมาได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่ มีแค่ตระกูลหลวงในเยี่ยนตู คนใหญ่คนโตจากสามอาณาจักรอันทรงพลังเท่านั้นแหละถึงจะมีคุณสมบัติได้เข้าไป!”
“คุณบ้าการค้าจากสมาคมการค้าเก้าราชาเองก็จะมาที่นี่ด้วยตนเองอีกด้วย!รู้จักไหมว่าบ้าการค้านั้นเป็นใคร?ก็คือ…อืม เอาเป็นว่าเป็นคนใหญ่คนโตที่เก่งกาจมากๆก็แล้วกัน ไม่ใช่คนชนชั้นระดับล่างอย่างพวกนายที่จะเข้าไปได้!”
“รู้จักปรับตัวให้มันเหมาะหน่อยนะ ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!อย่าให้ฉันต้องเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมานะ!”
สองสาวฝาแฝดยืนอยู่ที่ด้านหน้าของหลินชิงเสว่ ทำตัวอำนาจบาตรใหญ่ พูดไปด่าไป
พวกหล่อนนั้นได้เรียนรู้และยกสิ่งที่จางขุยได้แสร้งทำเมื่อตอนกลางออกมา ทำตัวราวกับว่าพวกหล่อนนั้นรู้จักวังคริสตัลเป็นอย่างดี
หากไม่ทราบถึงสถานะทางสังคมของพวกหล่อน ก็คงเห็นเพียงเป็นแค่สองเมียน้อยที่ไร้ยางอายเท่านั้น คงคิดว่าทั้งสองนั้นเป็นผู้หญิงชนชั้นสูงที่ต้องพึ่งพาผู้ชาย
ถังเฉานั้นกำลังหัวเราะออกมาจริงๆ ในสายตาของถังเฉาสองสาวฝาแฝดนี้ก็เหมือนกับหมาพันธุ์ปั๊กที่คอยเอาแต่เห่าเสียงดัง คิดว่าการที่ตนนั้นเห่าดังนั้นจะทำให้คนตกใจกลัว แต่แท้จริงแล้วไม่มีพลังทำลายล้างอะไรเลยแม้แต่น้อย
ถังเฉาเองก็ขี้เกียจลดระดับไปโต้เถียงกับจางขุย เขาจับมือหลินชิงเสว่จากนั้นพาเข้าไปอย่างดูเป็นธรรมชาติ
ชั้นนอกของวังคริสตัลนั้นเป็นงานสังสรรค์กลางแจ้งขนาดใหญ่ ตรงใจกลางมีบ่อน้ำที่เงียบสงบอยู่ น้ำพุมากมายต่างถูกพ่นออกมาพร้อมกับเสียงดนตรีที่คลอเบาๆ
รอบๆน้ำพุ มีการจัดโต๊ะอาหารแบบตะวันตกขึ้นมา ขนมอบที่เลอค่าและไวน์แดงถูกจัดไว้ด้านบนเพื่อให้แขกได้ลิ้มรส
สองทางด้านข้างนั้นเป็นวงดนตรีที่จ้างมาเล่นในราคาที่แพงมาก เล่นเพลงและท่วงทำนองเบาๆ
วังคริสตัลในตอนกลางคืนนี้ช่างลุ่มหลงในความฟุ้งเฟ้อเสียจริง คนชนชั้นสูงปรากฏออกมาอย่างไม่ขาดสาย
นี่เป็นสิ่งที่คนชนชั้นกรรมกรไม่มีวันเอื้อมถึงในชั่วชีวิตนี้
ถังเฉาหยิบแก้วไวน์แดงสองใบและมอบให้หลินชิงเสว่ จากนั้นชิมอย่างสบายๆ
อีกทั้งยังนำของหวานและขนมเค้กอีกสองชิ้นมาให้กับถังเสี่ยวลี้อีกด้วย เจ้าตัวเล็กกินอย่างมีความสุข
“ค่อยๆกิน อย่าให้สำลักล่ะ กินหมดแล้วก็ยังมีอีกนะ”
ถังเฉาช่วยถังเสี่ยวลี้เช็ดครีมออกจากมุมปากอย่างระมัดระวัง
ชายและหญิงที่อยู่รอบๆ พยักหน้าให้พวกเขาด้วยรอยยิ้ม ส่วนถังเฉาเองก็ยิ้มตอบกลับไปเบาๆ
หลินชิงเสว่ที่ถือแก้วไวน์อยู่ก็ยิ้มอย่างสงบ
เมื่อพวกเขาเดินจากไป รอยยิ้มอันเงียบสงบบนใบหน้าของหลินชิงเสว่ก็หุบลงทันทีพร้อมกับดึงถังเฉาออกไปอีกฝั่งหนึ่ง ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างอย่างเหลือเชื่อ
“ถังเฉา ที่นี่มันล้อมไปด้วยเหล่าคนมีอำนาจ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายดูคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมแบบนี้ล่ะ?นายเคยปนเปอะไรแบบนี้มาก่อนเหรอ?”
เธอได้รับการศึกษามารยาทขึ้นสูงมาตั้งแต่ยังเด็ก เธอรู้ดีว่าสถานการณ์ไหนควรทำอะไรหรือควรแสดงท่าทางแบบไหน
แต่ถังเฉานั้นไม่เหมือนกัน เขาโตมาจากตระกูลหลิน แถมยังเคยเป็นทหารมาก่อนด้วย ทำไมเขาถึงดูสงบเสงี่ยมมากเธอได้ซะงั้นล่ะ?
ราวกับว่า —- เขาเป็นชายระดับสูงจริงๆ!เป็นหนึ่งในนั้น?
มีที่ไหนเป็นทหารกลับมาแล้วจะดูสงบเสงี่ยมได้ขนาดนี้กัน?
หลินชิงเสว่นั้นไม่อยากเชื่อ หากบอกว่าเสแสร้งแกล้งทำ มันก็ดูเหมือนเกินไปนะ?
เธอเห็นมากับตาว่ามีชาวตะวันตกผมบลอนด์คนหนึ่งเข้ามาถามทาง ถังเฉาก็พูดภาษาอังกฤษออกมาได้อย่างดีและพูดคุยกันเป็นเวลานานอีกต่างหาก
ทั้งสองพูดคุยกันอย่างมีความสุข ในที่สุดชาวตะวันตกก็กอดถังเฉาอย่างอบอุ่นและทิ้งนามบัตรไว้ให้อีกด้วย
ปรากฏว่าเขาเป็นหุ้นส่วนของบริษัทขนส่งข้ามชาติที่มีอิทธิพลกว้างขวางในเยี่ยนจิง มีมูลค่านับพันล้าน
หลินชิงเสว่ตกตะลึง
ถังเฉายิ้ม “ฉันเคยเรียนมาก่อนน่ะ”
เขาเคยเรียนมาอย่างแน่นอน ไม่ต้องพูดแค่เรื่องของมารยาทขั้นสูง แม้แต่งานเต้นรำที่สืบทอดมาแต่ดั้งเดิม เขาก็สามารถเต้นรำออกมาได้อย่างมีมาตรฐาน
หลังจากนั้น หลินชิงเสว่เองก็ไม่ได้ถามอะไรมากความอีก ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมากก็ตาม
ตนจะพูดได้อย่างไรว่าเคยเป็นเจ้าหญิงคนโตของตระกูลหลินมาก่อน ตอนนี้ได้แต่เดินตามหลังถังเฉาอยู่ติดๆ
การกระทำของพวกเขาอยู่ในสายตาของจางขุยและสองสาวฝาแฝด
พวกเขาทั้งหมดดูงี่เง่าและไม่ตอบสนองเป็นเวลานาน
“พวกเขา…เข้าไปในนั้นได้จริงเหรอ?”
พี่สาวสองสาวฝาแฝดนั้นมีปฏิกิริยาก่อน ใบหน้านั้นแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธ
จากนั้นน้องสาวของฉันและจางขุยก็มีปฏิกิริยาเช่นกัน ทันใดนั้นภายในใจก็รู้สึกไม่สมดุลเอาเสียเลย
“ในลานสนามนี้ไม่ได้มีแต่คนได้รับจดหมายเชิญเท่านั้นถึงเข้าไปได้หรอกเหรอ พวกเขาเข้าไปได้ยังไงกัน?”
“ไม่ได้การละ ฉันต้องเข้าไปเปิดเผยพวกเขา!”
จางขุยและสองสาวฝาแฝดนั้นลนลานเข้าไปในลานสนามเล็กๆด้วยความโกรธ จากนั้นชี้ไปที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “ทุกท่านอย่าโดนครอบครัวของสามคนนี้หลอก ครอบครัวสามคนนี้มันเป็นคนขี้โกหก!”
“ลูกสาวร่ำรวยบ้าบออะไรกันล่ะ?เธอมันก็แค่คนไร้แผ่นดิน!”
“แถมผู้ชายคนนี้อีก แต่ก่อนน่ะเขาเป็นแค่ลูกเขยที่พึ่งพาภรรยาตัวเองเท่านั้น ตอนนี้ภรรยาโดนขับไสไล่ส่งออกมาแล้ว แม้แต่ที่อยู่ก็ไม่มีให้อยู่เลย!”
“แถมยังเป็นคนบ้านนอกต่างถิ่นอีกด้วย!”
“พวกเขาเข้ามาก็เพื่อจะมาทำตัวอิ่มหนำสำราญก็เท่านั้น จดหมายเชิญอะไรก็ไม่มี!”
ฮวบ!
หินก้อนหนึ่งทำให้เกิดคลื่นนับพัน ถ้อยคำนั้นช่างน่าอัศจรรย์ ทำให้คนตายได้อย่างไม่รู้จบ
สายตาของทุกคนนั้นจับจ้องไปที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่ ดวงตาของพวกเขาแต่ละคนดูแปลกไป
เมื่อพวกเขามอง ก็พบว่าเป็นจางขุยและสองสาวฝาแฝดอีกแล้ว ใบหน้ามืดมนลงในทันใด
ขณะนี้ จางขุยและสองสาวฝาแฝดเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ยิ้มเยาะ ดวงตานั้นไม่ได้ปิดบังความเย้ยหยันที่อยู่ภายในเลยแม้แต่น้อย
“ชิงเสว่อ่า โดนฉันเปิดเผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงแล้ว ผิดหวังไหมเนี่ย?”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่สนใจเรื่องที่เราเป็นเพื่อนกันสมัยเรียนแล้วชอบทำตัวมีปัญหากับเธอหรอก แต่พฤติกรรมของเธอน่ะมันกล้าหาญและอุกอาจเกินไปแล้ว แม้กระทั่งฉันที่เคยเป็นเพื่อนร่วมชั้นมาก่อนก็รู้สึกทนไม่ไหวเลยล่ะ!”
จางขุยถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าที่เศร้าสร้อย “เธอจะบอกว่าพวกเธอมาอิ่มหนำสำราญก็ตามนั้น ทำตัวสูงส่งทั้งๆที่ไม่ใช่ หากไม่รู้ล่ะก็คงคิดว่าเธอเป็นคุณหนูของตระกูลหลินคนเดิมแน่ๆ!”
“ต่อไปก็ถ่มตนลงหน่อย เข้าใจไหม?แล้วก็อย่าพาสามีเศษเดนนั่นที่ทำอะไรไม่เป็นมาด้วย อับอายขายขี้หน้าคนเปล่าๆ แบบนั้นเธอก็จะสามารถแสร้งทำเป็นคุณหนูของตระกูลหลินได้แล้ว”
การเสียดสีในดวงตาของจางขุยเริ่มแข็งกร้าวขึ้น
“อะไรกัน?เธอไม่ใช่คุณหนูตระกูลหลิน หลินชิงเสว่เหรอ?”
“จะมาอิ่มหนำสำราญอะไรกัน?”
คนที่สามารถมาปรากฏตัวในงานตอนกลางคืนนี้ได้ จะต้องเป็นบุคคลใหญ่โตเท่านั้น หลินชิงเสว่นั้นเคยมีชื่อเสียง ทุกคนรู้ดีว่าเธอหน้าตาเป็นอย่างไร
แน่นอน ว่าต้องรู้จักถังเฉาที่อยู่ด้านข้างด้วย
ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกใจที่หลินชิงเสว่และถังเฉาจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่
จางขุยคิดว่าจะสามารถผลักหลินชิงเสว่ให้ไปอยู่ในการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในสังคมที่โหดร้ายได้อีกครั้ง เธอจะต้องลนลานหวาดกลัวเป็นแน่ แต่ไม่คาดคิดเลยว่าท่าทาของเธอจะยังคงดูสงบเช่นนี้
ทนรับสิ่งต่างๆมาตั้งหลายครั้ง เธอเองก็เคยชินกับมันแล้ว
เธอมองไปที่ถังเฉาและพบกำลังใจที่อยู่ภายในดวงตาของเขา
หลินชิงเสว่มองไปที่จางขุยด้วยใบหน้าที่เรียบเฉยและกล่าวว่า “ฉันเกรงว่ามันจะไม่เป็นอย่างที่คุณต้องการ สามีของฉันและฉันมาที่นี่เพื่อมาร่วมในงานจับฉลากของซอยตงเฉินค่ะ”
“ตอนนี้ผู้จัดงานเองก็ยังมาไม่ถึงเลย การที่ฉันและสามี รวมถึงลูกสาวมาหาอะไรทานเพื่อฆ่าเวลา ทำไมจะไม่ได้กันล่ะคะ?”
ขณะที่พูดคำพูดเช่นนี้ หลินชิงเสว่ยกคางของเธอขึ้นเหมือนแต่ก่อน ดวงตาของเธอดูเย็นชา ดูสูงส่งราวกับนกยูงที่รำแพน
ถึงแม้ว่าภายในใจของเธอจะไม่ค่อยแน่ใจนัก แต่เธอเชื่อว่าถังเฉาจะไม่ปล่อยให้เธอต้องดูถูกตัวเองเป็นแน่!
เธอทุ่มสุดตัว!
ถังเฉาหัวเราะอย่างแผ่วเบาพร้อมกับอุ้มถังเสี่ยวลี้ขึ้นมา พูดด้วยรอยยิ้ม “คืนนี้พ่อจะทำให้ลูกและแม่เป็นจุดสนใจที่โดดเด่นและสะดุดตาที่สุด หนูเชื่อไหมคะ?”
ถังเสี่ยวลี้พยักหน้าโดยที่ไม่ได้คิดอะไร “เชื่อค่ะ!”
“….”
“อืม?”
หลินชิงเสว่ประกาศด้วยปณิธานอันแรงกล้า ซึ่งนั่นทำให้จางขุยตะลึง
สองสาวฝาแฝดจ้องมองไปที่พวกเขา กะพริบตาจากนั้นตอบโต้กลับไปในทันทีพร้อมกับด่าระอุ
“นี่เธอหลอกใครอยู่?อย่างเธอ?จะมีคุณสมบัติเข้าร่วมการจับฉลากซอยตงเฉินงั้นเหรอ?”
“นี่รู้หรือเปล่าว่าการที่จะเข้ามาในวังคริสตัลนั้นต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง?แตกต่างกับคนที่เข้ามาในช่วงตอนกลางวันอย่างสิ้นเชิง ต้องมีจดหมายเชิญ ซึ่งจดหมายเชิญนั้นมันประเมินค่าไม่ได้ พวกเธอจะเอามาได้เหรอ?”
“นั่นสิ คุณชายจางของพวกเรายังไม่ได้รับจดหมายเชิญเลย แล้วพวกเธอจะเอามันมาได้เหรอ?น่าขำจริงๆ!”
ใบหน้าของสองสาวฝาแฝดนั้นเต็มไปด้วยความรังเกียจ มองไปที่หลินชิงเสว่ด้วยสายตาที่ดูถูก
แต่ครั้งนี้ ไม่ว่าพวกหล่อนจะพูดยังไง หลินชิงเสว่ก็ไม่ก้มหน้าอีกต่อไป เธอยังคงดื่มไวน์อย่างใจเย็น
ในคืนนี้ เธอมอบทุกอย่างให้กับถังเฉา
“เกิดอะไรขึ้น?”
ในเวลานี้ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งสวมแว่นตากรอบทอง อยู่ในชุดสูทและรองเท้าหนังเดินออกมาจากวังคริสตัล
ด้านหลังของเขายังมีกลุ่มชายที่สวมชุดสูทและรองเท้าหนังเช่นเดียวกับเขา บนชุดสูทมีโลโก้สีทองถูกสลักคำว่า‘เก้าราชา’ไว้อยู่
มันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าพวกเขานั้นเป็นคนของสมาคมการค้าเก้าราชา
“คุณจิน จากสมาคมการค้าเก้าราชา!”
เสียงอุทานมาจากฝูงชน ทุกคนต่างมองมาที่คุณจินด้วยท่าทางที่อยากเอาอกเอาใจ
คุณจินเป็นเพียงผู้จัดการเล็กๆในสมาคมการค้าเก้าราชา ไม่ได้เป็นสมาชิกของสมาคมด้วยซ้ำ
แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้คนเหล่านี้ก้มศีรษะลงให้
พูดอย่างนี้ก็แล้วกัน แม้ว่าจะเป็นคนรับผิดชอบของสมาคมการค้าใหญ่เจ็ดแห่ง หรือแม้แต่คนระดับหลัวปู้มาที่สมาคมการค้าเก้าราชา ทุกคนล้วนต่างต้องมีความเท่าเทียมกับสมาชิกอาวุโสคนอื่นๆ
นี่คือสมาคมการค้าเก้าราชา ผู้นำสมาคมการค้าใหญ่แปดแห่งของประเทศ!
วันนี้เขามีหน้าที่ในการมาตรวจตั๋ว
ความกดดันที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นในหัวใจของหลินชิงเสว่
จางกุยและสองสาวฝาแฝดวิ่งไปหาคุณจินด้วยความตื่นเต้นและกล่าวด้วยความเคารพว่า “คุณจิน พวกเราได้จับคนสามคนที่ไม่มีจดหมายเชิญเข้ามา แถมยังทำตัวอิ่มหนำสำราญอีกด้วย ท่านต้องรีบไล่พวกเขาออกไปเลยนะครับ!”
“ทำตัวอิ่มหนำสำราญ?”
คุณจินเลิกคิ้วขึ้น จากนั้นใบหน้าก็มืดมนลง “คนอะไร ทำไมช่างกล้าขนาดนี้?”
“มันคือพวกเขา!”
จางขุยชี้ไปที่ถังเฉาและหลินชิงเสว่ จากนั้นยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
คุณจินมองไป คิ้วขมวดแน่น
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขานั้นรู้จักกับหลินชิงเสว่
เขาก้าวเท้าไปที่ด้านหน้าของหลินชิงเสว่ ไม่ได้พูดว่าเธอไม่มีจดหมายเชิญแต่อย่างใด เขายืนมือออกไปอย่างสุภาพ “คุณหลิน โปรดแสดงจดหมายเชิญด้วยครับ”