เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 724 เข้าซื่อเหอย่วน
แฝดพี่สมทบ “ใช่ค่ะ พวกเราแค่ไปดูว่าซื่อเหอย่วนหน้าตาเป็นยังไง ไม่เข้าไปถึงด้านในค่ะ”
สองพี่น้องตาโต หน้าตาคาดหวัง ตื๊อให้จางขุยพาพวกเธอเข้าไป
จางขุยกลับกลัวจนไม่ว่ายังไงก็ไม่กล้าเข้าไป หน้าตาซีดเผือดถึงขีดสุด
“พวกเธอจะไปรู้อะไร สมัยก่อนตอนที่ซอยตงเฉินเพิ่งสร้างก็ไม่อนุญาตให้ใครเข้าไป บัดนี้มีคนซื้อแล้ว ถือว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัว ยิ่งเข้าไปไม่ได้ใหญ่ เข้าไปเธอไม่กลัวโดนจับหรอ?”
ถึงแม้เมื่อวานซอยตงเฉินถูกขายไปแล้ว แต่พวกเขาไม่รู้ว่าใครคือผู้ซื้อ
แต่เขามั่นใจได้ว่า คนที่มีเงินซื้อซอยตงเฉิน ต้องเป็นคนใหญ่คนโตที่เขาไม่อาจแหยมด้วยได้แน่นอน
สองพี่น้องฝาแฝดไม่พอใจ เบ้ปาก หน้าตาแสนงอน
“ฉันไม่สน ฉันจะเข้าไปให้ได้ ถ้าถูกจับจริงฉันจะบอกว่าคุณเป็นคนปล่อยพวกเราเข้าไปค่ะ”
“ไอ้นี่……”
จางขุยตกใจจนสะดุ้ง เกือบตกลงไปจากรถ
“คุณชายจาง คุณคงไม่ได้กลัวใช่มั้ยคะ”
“ไม่น่านะ ไม่น่านะ คุณคงไม่คิดจริงๆว่าคนใหญ่คนโตเขาซื้อซื่อเหอหยวนไปอยู่จริงๆใช่มั้ยคะ?”
สายตาที่สองคนฝาแฝดมองจางขุยเปลี่ยนไปในบัดดล
เมื่อวานได้เจอคนใหญ่คนโตมากมายขนาดนั้น พวกเธอพลันรู้สึกว่าจางขุยไม่ได้เก่งกาจอะไร
เทียบกับคนที่รวยจริงๆแล้ว ต่างกันราวฟ้ากับเหว
“…….”
จางขุยหน้ากระตุก นี่ย้อนกลับมาสั่งสอนเขาหรอ?
ถ้าไม่ใช่เพราะพี่น้องฝาแฝดคู่นี้เป็นของชั้นเลิศจริง จางขุยไม่อยากปล่อยมือ ไม่อย่างนั้นถีบพวกเธอลงไปนานแล้ว
เป็นได้ยังไงที่เขาจะไม่รู้สถานการณ์ในตอนนี้ของตลาดอสังหาริมทรัพย์
อย่าว่าแต่ซื่อเหอย่วนชั้นเลิศอย่างซอยตงเฉินเลย แค่ที่อยู่อาศัยชั้นสูงที่ราคาแพงหน่อยก็ไม่ได้ซื้อมาเพื่อเข้าอยู่
ส่วนใหญ่ซื้อมาลงทุน
อนาคตราคาอสังหาริมทรัพย์ขึ้นแล้วค่อยขาย
ภายใต้สถานการณ์เดี๋ยวนี้ที่ เศรษฐกิจในยุคนี้หดตัวหนัก แต่ค่าครองชีพกลับสูงขึ้นเรื่อยๆ ลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์กลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
บ้าน จึงกลายเป็นตัวเลือกเพียงหนึ่งเดียว…..
แต่ปั่นราคาบ้าน เป็นเกมของคนรวย
ชนชั้นมนุษย์เงินเดือนเหนื่อยแทบตาย หาเช้ากินค่ำทุกวัน สู้ชีวิตไปหลายสิบปี หลังแทบหักเพราะหนี้สินเชื่อบ้านก้อนโตก็มีปัญญาซื้อบ้านได้แค่หลังเดียวเท่านั้น
กว่าจะได้เข้าอยู่ ใครจะเอามาใช้ลงทุนกันเล่า
ไม่มีต้นทุนขนาดนั้นหรอก
จางขุยลังเล ขมวดคิ้วเป็นปมไม่พูดจา
ซอยตงเฉินไม่ได้มีไว้สำหรับการเข้าอยู่อยู่แล้ว ส่วนมากเอาไว้ลงทุน นั่นก็หมายความว่า เป็นเวลาพักใหญ่ที่ด้านในนั้นไม่มีคน
เข้าไปดูหน่อย ก็เหมือนจะไม่เป็นอะไร…..
“งั้นก็ได้ เราเข้าไปดูกันหน่อย ไม่แตะอะไรทั้งนั้น”
จางขุยตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว ว่าจะพาสองสาวเข้าไปวนดูด้านใน
เขาคิดไว้ว่าแค่เข้าไปเชยชม ไม่เข้าไปลึก คงไม่มีอะไร
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสามคนจึงย่องเบาเข้าไป
จางขุยหวาดเสียวไปทั้งทาง พึมพำในใจตลอดว่าขออย่าให้เจอกับเจ้าของซื่อเหอหยวนเลย ไม่อย่างนั้นคงต้องโดนจับขอหาโจร
แม้แต่เขตคฤหาสน์ธรรมดาทั่วไปยังมีพื้นที่ส่วนตัว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงซอยตงเฉินเลย ทุกย่างก้าวในซื่อเหอย่วนแห่งนี้อย่างกับเดินอยู่บนน้ำแข็งแผ่นบางๆ
กลับกัน สองสาวฝาแฝดกลับยิ่งเดินยิ่งตื่นเต้น พวกเธอคอยมองทิวทัศน์รอบๆอยู่ตลอด
“ว้าว ที่แท้ซื่อเหอย่วนเป็นแบบนี้เองหรอ ทิวทัศน์สวยงามมากเลย!”
“มีสายน้ำและภูเขาจำลองด้วย ให้ตายเถอะ!”
“ที่นี่อย่างกับสวนดอกไม้หลังพระราชวังโบราณเลย!”
“อยากอยู่ที่นี่ตลอดไปจัง!”
“……”
สองสาวฝาแฝดส่งเสียงตื่นเต้นเป็นครั้งคราว จิ๊บๆเหมือนลูกนกที่เอาแต่ร้องไม่หยุด
ทุกครั้งที่พวกเธอส่งเสียงร้อง หัวใจของจางขุยก็จะหนักหน่วงขึ้นทุกครั้ง เขาแทบอยากจะเอาเทปกาวมาปิดปากของพวกเธอไว้
พวกหล่อนกลัวคนอื่นไม่รู้หรอว่ามีคนอยู่ในซอยตงเฉิน?
แต่ ไม่นานนักจางขุยก็ถูกทิวทัศน์ในซื่อเหอย่วนดึงดูดไป
ซื่อเหอย่วน แบ่งออกเป็นสองส่วน
ส่วนในสามชั้น ส่วนนอกสามชั้น แต่ละชั้นมีสิ่งปลูกสร้างที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ สรุปได้ว่า สไตล์ของมันมีเพียงคำเดียว เหลี่ยม
สวนหน้าบ้านและสวนหลังบ้านยิ่งน่าตกตะลึงในฝีมืออันอัศจรรย์ เป็นเหมือนสวนทางนิเวศวิทยาขนาดเล็ก!
ภูเขาจำลองป่าสีเขียว แล้วยังมีสัตว์ขนาดเล็กโผล่มาให้เห็นเป็นครั้งคราวด้วย!
ถ้านี่คือหน้าร้อน ยกเก้าอี้หวายสักตัวมานอนอาบแดดจางๆ บวกกับสาวงามและไวน์แดง ชีวิตแทบจะเข้าขั้นสมบูรณ์แบบ!
ทำให้จางขุยรู้สึกไม่อยากกลับขึ้นมานิดหน่อย
นั่นคือสิ่งปลูกสร้างในซื่อเหอย่วน เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมที่ได้รับการคุ้มครองจากประเทศ
ถ้าทำอะไรพังไป ต้องชดใช้ในราคาสูงลิบลิ่ว
ที่นี่ทำเงินได้เยอะกว่าการเวนคืนที่ดินของบ้านเขาเยอะเลย
“มีบ่อน้ำแร่ด้วย!”
สองสาวฝาแฝดอุทานอย่างตกใจ
จางขุยพยักหน้า และทำการแนะนำ “บ่อน้ำแร่นี่ถูกนำเข้ามาจากใต้ดิน สามารถนำมาดื่มและใช้ได้”
“หา——นี่มันจะดีเกินไปแล้ว คุณชายจาง ถ้าซื่อเหอย่วนนี้เป็นของคุณคงจะดีมากเลยนะคะ”
สองสาวพี่น้องตาเป็นประกาย อยากจะเข้าไปด้านในซะเดี๋ยวนี้เลย
พอความคิดนี้ก่อตัวขึ้น สองสาวพี่น้องก็ไปยุยงทันที “คุณชายจาง ยังไงในซื่อเหอย่วนก็ไม่มีใครอยู่แล้ว เราเข้าไปดูกันหน่อยมั้ยคะ”
จางขุยขมวดคิ้ว ลังเลนิดหน่อย
เขาหันกลับไปมองซื่อเหอย่วนอันกว้างใหญ่ นาทีกลับรู้สึกว่ามันมืดมนขึ้นมา ราวกับพร้อมจะมีคนกระโจนออกมาทุกเมื่อ
แต่ สิ่งที่สองสาวพี่น้องพูดใช่ว่าจะไม่มีเหตุผล
เจ้าของซื่อเหอย่วนยังไม่เข้ามาอยู่เร็วๆนี้หรอก ถ้าอย่างนั้นใครอาศัยอยู่ด้านในก็เหมือนกันนั่นแหละ
ไหนๆก็ลอบเข้ามาแล้ว ไม่เข้าไปดูหน่อยคงผิดต่อตัวเองสุดๆ
“ไปสิ! เข้าไปดูกันหน่อย”
จางขุยหวั่นไหว จึงพาสองสาวฝาแฝดเดินเข้าไป
แอ๊ด!
ประตูมีห่วงทองแดงเหมือนสมัยโบราณ เป็นนัยยะสื่อถึงสิริมงคล
หน้าประตูมีรูปปั้นปี่เซียะสมจริงราวกับมีชีวิตจริงๆ เป็นนัยยะสื่อถึงความร่ำรวย และเกี่ยวกับฮวงจุ้ย
พอเดินเข้าไปด้านในอีกจะเป็นสิ่งปลูกสร้างเหลี่ยมๆ
จางขุยและสองสาวฝาแฝดเดินเข้าไปถึงห้องโถงใหญ่ ที่นี่ไม่ได้มีไว้สำหรับอาศัย แต่เหมือนห้องรับแขกทั่วๆไป
บนประตูใหญ่ติดกลอนคู่ไว้
“ประตูนภาถูกลำธารแยกออกจากกัน น้ำธารสีเขียวใสไหลมาสิ้นสุดที่นี่และย้อนกลับ”
มาจาก ของหลี่ไป๋
บวกกับภาพวาดบนผาศิลาสุดแสนโอฬาร ความรู้สึกมันเอ่อล้นออกมาทันที
นี่สิบ้านที่คนรวยอยู่
นี่สิรสนิยมของคนรวย
สิ่งอำนวยความสะดวกด้านในห้องครบครัน แค่มีเปลือกของซื่อเหอย่วนยุคโบราณเท่านั้น ด้านในหรูหราอลังการมาก
แค่เดินเข้าไปดูปราดเดียว สองสาวฝาแฝดก็ไม่อยากไปไหนแล้ว
“คุณชายจางคะ พวกเราอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆเลยดีมั้ยคะ?”
แฝดน้องพูดกับจางขุยตาเป็นประกาย
จางขุยตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง ถ้าอยู่ที่นี่จริงๆกลางคืนคงนอนหลับไม่สนิท
แฝดพี่ฉวยโอกาสพูดขึ้น “คุณชายจางคะ หรือคุณไม่อยากเสพสุขกับพวกในซื่อเหอย่วนหรอคะ”
เธอยิ้มหวานเบิกบานดั่งดอกไม้ คนพี่เริ่มถอดเสื้อผ้าแล้ว
คนน้องค่อยๆเลื่อนมือลงต่ำ พร้อมหัวเราะคิกคัก
จางขุยตัวสั่นขึ้นมาทันที เขามองการตกแต่งภายในสีทองอร่าม บวกกับสองพี่น้องโฉมงาม เลือดเขาพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที
นี่มันเป็นการปฏิบัติระดับจักรพรรดิ์ชัดๆ
“ได้!”
จางขุยร่วงหล่นลงไปในบ่วง เขาถอดเข็มชัดที่เอวอย่างอดรนทนไม่ไหว
บรืน….
และในขณะนั้น หน้าประตูของซื่อเหอย่วนมีเสียงเครื่องยนต์ดังสนั่นเข้ามา