เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 727 บัญชากองทัพปราณมังกรอีกครั้ง
ตระกูลหลวงตระกูลหลินรู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่างของถังเฉาและหลินชิงเสว่ดี
ภายในห้องรับแขกคฤหาสน์ เว่ยหมิงจวินนั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ
จากนั้นเป็นหลินจ้าวหยูน หลินอิ่น และถงเจิน รวมถึงสมาชิกสำคัญคนอื่นในตระกูลหลิน
ราวกับกำลังรอข่าวบางยอ่าง
ตอนนี้ข่าวยังมาไม่ถึง เว่ยหมิงจวินเหลือบมองหลินจ้าวหยูนพลางถาม “จ้าวหยูน หลายวันนี้ไปบริษัทหลักแล้วรู้สึกยังไงบ้าง”
ตั้งแต่ถูกเลื่อนตำแหน่งมาเป็นเจ้าหญิงเพียงคนเดียวของตระกูลหลิน หลินจ้าวหยูนก็ถูกส่งไปอบรมที่บริษัทหลักภายใต้ตระกูลหลินตั้งแต่วันถัดมา
หากอยากนั่งตำแหน่งผู้จัดการที่อสังหาริมทรัพย์หงหย่วนแห่งตระกูลหลินให้มั่นคง จะต้องมีความสามารถเหนือคนทั่วไปให้มาก
หลินชิงเสว่ทำได้ดีแน่นอน น่าเสียดายที่เธอไม่ถูกกับเว่ยหมิงจวินประหนึ่งน้ำกับไฟที่ไม่ยอมกัน คนหลังไม่ยอมให้คนหน้าขัดอนาคตอันเกรียงไกรของเธอหรอก
ความสามารถของหลินจ้าวหยูนเทียบกับหลินชิงเสว่แล้วออกจะด้อยกว่าหน่อย จึงต้องเสริมเองในภายหลัง หลายวันมานี้เธอเข้าอบรมจากแผนกต่างๆที่บริษัทหลัก แทบจะไม่มีเวลาพักผ่อนเลยสักนิด
หลินจ้าวหยูนมีสีหน้าเหนื่อยล้า เธอฝืนยิ้ม “เยี่ยมมากเลยค่ะแม่ ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ”
คิดไม่ถึงว่าเว่ยหมิงจวินหน้าขรึมขึ้น สีหน้าดุดัน “ฉันจะไม่เป็นห่วงได้ยังไง แกเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลหลิน ไม่สำเร็จก็พัง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพิ่มเวลาอบรม!”
“แม่—–”
สีหน้าหลินจ้าวหยูนเปลี่ยนไปอย่างมาก สายตาหวาดผวา และโกรธเคืองด้วย
“หุบปาก!”
คิดไม่ถึงว่าเว่ยหมิงจวินตะคอกเสียงดัง สายตามีแสงเย็นเยียบที่หลินจ้าวหยูนไม่เคยเห็นเปล่งประกายอยู่ “แกมีสิทธิ์โอดครวญว่าเหนื่อยหรอ รู้มั้ยว่าทำไมแกถึงสู้พี่สาวแกไม่ได้? เพราะแกไม่มีความตระหนักว่าต้องทำลายกฎเกณฑ์เก่าๆจึงจะสร้างสิ่งใหม่ขึ้นมาได้! ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ชาตินี้ทั้งชาติแกก็ไล่ตามพี่สาวแกไม่ทัน!”
“…….”
ดังนั้น หลินจ้าวหยูนไม่พูดอะไรอีก ชั่วขณะที่เธอก้มหน้า มีน้ำตารื้นขึ้นมา
หน้าเธอเต็มไปด้วยความน้อยใจ
เธอมองนกที่โบยบินอย่างอิสระนอกหน้าต่าง เธออยากจะหนีไปจากที่นี่จังเลย
จากนั้น เว่ยหมิงจวินถามไถ่เรื่องภายในตระกูลของตระกูลหลวงต่างๆ และชี้แนะวิธีรับมือบ้าง
ระหว่างที่พูดคุยกัน สีหน้าเธอเคร่งขรึม แสดงถึงความเป็นผู้นำของตระกูล
ร่างเธอสั่นเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะตื่นเต้น
เธอแต่งเข้าตระกูลหลิน ก็เพื่อนาทีนี้ในวันนี้ไม่ใช่หรือ?
เธอรักความรู้สึกที่กุมอำนาจใหญ่ไว้ในมือ รู้สึกดีมากจริงๆ
น่าเสียดาย ที่เธอเป็นเพียงตัวแทน
“ผู้นำ!”
ขณะนั้น มีบ่าวคนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่ประตูอย่างรวดเร็ว
เขาถือรายงานเล่มหนึ่งไว้ในมืออย่างระมัดระวัง
“นี่คือข้อมูลที่ท่านต้องการ.”
ได้ฟังปุ๊บ เว่ยหมิงจวินสายตาแข็งทื่อไปทันที “เอามานี่”
ก่อนหน้านี้เธอใช้ให้หลินอิ่นและถงเจินไปสืบความสัมพันธ์ระหว่างถังเฉาและบ้าการค้า เพิ่งได้ข่าวตอนนี้นี่แหละ
เว่ยหมิงจวินตั้งใจอ่าน อ่านไปอ่านมา สีหน้าของเธอก็เลื่อนลอยไปพักหนึ่ง
จากนั้น ใบหน้าสะสวยของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
“ไอ้ถังเฉานี่ บังอาจหลอกพวกเรา!”
เธอตวาดเสียงดัง เว่ยหมิงจวินโยนรายงานในมือลงพื้นอย่างแรง
หลินอิ่น หลินจ้าวหยูนและคนอื่นๆสะดุ้งโหยงกันหมด ไม่รู้ว่าทำไมผู้นำถึงโมโหขนาดนี้
พอเก็บขึ้นมาอ่าน หลินอิ่นก็เอ๋อไป
“นี่มัน นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
“พวกเขา มีความสัมพันธ์กันแบบนี้เองหรอ!”
หลินอิ่นยืนให้ถงเจินอ่าน ถงเจินอุทานเสียงหลงออกมาทันที “ถังเฉาเป็นคนช่วยชีวิตบ้าการค้าไว้หรอนี่?”
ข้อมูลถูกเก็บมาเป็นกอง แต่ข้อที่สะดุดตา ที่สุดกลับเป็นเรื่องที่ห้าปีก่อนบ้าการค้าเคยเป็นขอทาน ต้องเผชิญกับทั้งความหิวและความหนาว ในขณะที่กำลังจะถูกขอทานคนอื่นกระทืบตาย ก็ได้ชายหนุ่มคนหนึ่งช่วยไว้ เขาก็คือถังเฉา
เนื้อหาหลังจากนั้น ก็คือถังเฉาเอาข้าวหอมร้อนๆถ้วยนึงให้บ้าการค้า ทำให้บ้าการค้าไม่อดอยากจนตาย
“นี่มัน….. นี่มัน…..”
“ไหนบอกว่า ถังเฉาเป็นอาจารย์ของบ้าการค้าไม่ใช่หรอ ทำไมถึงกลายเป็นผู้มีพระคุณล่ะ?”
ทุกคนรู้สึกยากจะเชื่อ
เว่ยหมิงจวินหน้าตาอึมครึมจนแทบจะมีสายฝนเทลงมา
“ฉันว่าแล้ว ไอ้ขยะนั่นจะไปมีความสามารถอะไรไปเป็นอาจารย์ของบ้าการค้า? มิน่าล่ะ ก็แค่ดวงดี บุญคุณข้าวถ้วยเดียว”
“ส่วนเรื่องการเรียกอาจารย์ ถ้าไม่ใช่พวกเขาเตี๊ยมกันไว้ก่อน ก็เพราะบ้าการค้าเรียกผู้มีพระคุณของตัวเองว่าอาจารย์ ตามคนสมัยโบราณ”
เว่ยหมิงจวินวิเคราะห์
เมื่อเธอพูดแบบนี้ ทุกคนก็พากันพยักหน้าเห็นด้วย
“ผู้นำพูดมีเหตุผล ถังเฉาและบ้าการค้ามีความสัมพันธ์แค่ข้าวถ้วยเดียว ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่”
“นิสัยอย่างไอ้ขยะนั่น ต้องกัดเรื่องนี้ไม่ปล่อยแน่ แล้วร้องขอสิ่งต่างๆจากบ้าการค้าไม่หยุด แต่บ้าการค้าจะยอมให้เขาทำตัวได้คืบจะเอาศอกไปเรื่อยๆแบบนี้ได้ยังไงกัน”
“ถูกต้อง ตอบแทนพระคุณก็มีขอบเขตเหมือนกัน! บ้าการค้าช่วยให้ไอ้ขยะนั่นได้ซื่อเหอย่วนของซอยตงเฉินไปได้แล้ว ไม่มีทางช่วยเหลือเขาอีก”
“จิ้งจอกแอบอ้างบารมีเสือ เขาหลอกพวกเราทุกคน!”
ทุกคนในตระกูลหลินสบถก่นด่ากันหมด หน้าตาทั้งโมโหทั้งอิจฉา
โมโหที่ถังเฉาได้ย้ายเข้าซื่อเหอย่วน นั่นเป็นที่ที่พวกเขาอยากจะเข้าอยู่นะ
อิจฉาที่ทำไมถังเฉาดวงดีขนาดนั้น ทำไมถึงได้พบบ้าการค้าที่ยังเป็นขอทานเมื่อห้าปีก่อน
ถ้าตอนนั้นคนที่ให้ข้าวหนึ่งถ้วยกับบ้าการค้าเป็นพวกเขาตระกูลหลิน เช่นนั้น ตระกูลหลินก็เป็นเหมือนพระประยูรญาติน่ะสิ
บ้าการค้า เป็นคนระดับที่ต่ำกว่าหลงจู่แห่งต้าเซี่ยเพียงระดับเดียวเชียวนะ!
“เอาเถอะ เลิกบ่นได้แล้ว มะรืนรั่วหวีก็กลับมาแล้ว เราต้องเอาซอยตงเฉินมาให้ได้ ให้เขาเห็นว่าฉันทำผลงานได้!”
สายตาเว่ยหมิงจวินเปล่งประกายเย็นเยียบ “พวกคุณน่าจะรู้ใช่มั้ย ว่าควรทำอะไร?”
หลินอิ่นพยักหน้า “ในเมื่อเล่นซึ่งๆหน้าไม่ได้ ก็ได้แต่เล่นลับหลัง ไอเด็กถังเฉายังไม่เคยลิ้มลองฝีมือของตระกูลหลวงในเยี่ยนตู….”
หลินจ้าวหยูนได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอย่างชัดเจน
ใบหน้างดงามของเธอซีดเผือด หลังจากกลับไปที่ห้องแล้ว เธอจะกดโทรหาถังเฉา
แต่พอนึกถึงเรื่องไม่อภิรมย์ที่เกิดขึ้นในงานมงคลวันนั้น สีหน้าเธอหม่นหมองลง
ตอนนี้พี่เขย คงเกลียดตัวเองไปแล้วสินะ
เช่นนั้น เธอจึงวางโทรศัพท์ลงเงียบๆ
—-
ในขณะเดียวกัน อีกฟากของโลก
หิมะโปรยปราย
ชายสองคนกำลังเดินอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บ
ในมือพวกเขามีบังเหียน คล้องกับสัตว์ที่คล้ายกับสุนัขล่าเนื้อข้างหน้า
นี่มันหมาป่าสองตัวจริงๆ!
หมาป่าสองตัวต่างมีสัญชาตญาณกระหายเลือด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าชายสองคนนี้ กลับอ่อนโยนราวกับแกะ
“จะไปแล้วหรอ?”
ชายหนึ่งในนั้นเอ่ยขึ้นยิ้มๆ
ชายอีกคนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้า
หากตอนนี้ถังเฉาอยู่ที่นี่ ต้องจำได้แน่ว่าเขาก็คือหลินรั่วหวีที่ออกเดินทางไกล
คิดไม่ถึงว่า เขาบินมาถึงอีกฟากโลก
“ได้ แต่หลังจากกลับถึงต้าเซี่ยแล้ว ผมหวังว่าคุณจะช่วยผมสักเรื่อง”
ชายคนนั้นยังคงยิ้มและโบกมือ
ท่ามกลางหิมะโปรยปราย จู่ๆก็มีหนึ่งชายสองหญิงเดินเข้ามา
จากซ้ายไปขวา คนแรกคือชายค้างคาวในเสื้อคลุม ต่อมาคือไวโอเล็ตในชุดราตรีโกธิค
รวมถึง….
เฟิ่งหวง!
หลินรั่วหวีสายตาเรียบเฉย ไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด
“ผมช่วยคุณแค่เรื่องเดียว พวกเขามีกันสามคน”
เขาปฏิเสธกลายๆ
ชายคนนั้นหัวเราะลั่น “สหายเก่า คุณเข้าใจผิดแล้ว คนที่คุณต้องช่วย คือเขา”
ชายคนนั้นชี้ไปที่ชายค้างคาว
จากนั้นก็พูดขึ้นอีก “คนอื่นๆอีกสองคนมาเพื่อเกื้อหนุนคุณ โดยเฉพาะเธอ”
ชายคนนั้นชี้เฟิ่งหวงและกล่าว
เฟิ่งหวงย่อตัวลงเล็กน้อย ถือเป็นการทักทายหลินรั่วหวี
หลินรั่วหวียิ้ม “ผมจำคุณได้ คุณคือลูกน้องของลูกเขยผม”
เฟิ่งหวงเงียบไม่พูดจา สีหน้าเย็นชา
หลินรั่วหวีรับปาก “พูดมาเถอะ ให้ผมทำอะไร”
เสียงหัวเราะของชายคนนั้นทุ้มต่ำลงนิดหน่อย “ง่ายมาก เด็กคนนี้ออกมาจากกองทัพปราณมังกร ผมหวังว่าคุณจะช่วยให้เขาได้บัญชากองทัพปราณมังกรอีกครั้ง”