เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 733 สถานะภาพตระกูลเย่
โดยฐานะของหลู่เหมิง การที่จะได้เข้าไปสัมผัสกับคนในตระกูลหลินตระกูลหลวงนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก
การจะทำให้เป็นที่สนใจของคุณหลินได้ ก็มีเพียงคนเดียว
หลินอิ่น
บนหน้าถังเฉาฉายแววเหน็บหนาว กดรับโทรศัพท์ แต่ไม่ปริปากพูด
“ฮัลโหล ? จัดการธุระเรียบร้อยยัง จะเอาคนไปส่งให้ได้เมื่อไหร่?”
ฟังเสียงหลินอิ่นจากในโทรศัพท์ร้อนรนทนไม่ไหว แสดงออกชัดถึงความอดกลั้นเกือบจะหมดแล้ว
“ฮัลโหล ? พูดซี่ !ฮัลโหล?”
หลินอิ่นรอหยุดอยู่พักหนึ่งยังไม่เห็นตอบ น้ำเสียงร้อนรนยิ่งมากขึ้น
ถังเฉาก็ถือโทรศัพท์ไว้เฉย แววตาเย็นยะเยือกถึงสุด
ฝ่ายหลินอิ่นก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะมีอะไรผิดปกติแม้สักนิด คงคิดแต่ว่าหลู่เหมิงกำลังเล่นตลกอะไรเขา
นึกแค้นจนคลุ้มคลั่ง
“ยัยแซ่หลวี่ ข้าขอเตือนนะ ถ้าแกกล้าเล่นไม่ซื่อกับข้า ข้าจะถล่มบ้านแกทั้งครอบครัวให้ย่อยยับ ไม่มีทียืนได้ในเยี่ยนจิงนี้”
ด้วยอิทธิพลของหลินอิ่น เป็นเรื่องทำได้อย่างง่ายดาย
“……”
แต่ ในโทรศัพท์ก็ยังไม่มีเสียงคนพูด
หลินอิ่นโกรธถึงขีดสุด “ดีละ แกไม่พูดใช่มั้ย ? ข้าจะเข้ามาหาแกนี่ละ……เงินทองแกไม่ต้องคิดจะได้แล้ว!”
ตู๊ด !
ด้วยความโกรธ หลินอิ่นตัดสายโทรศัพท์
มองดูที่หน้าจอโทรศัพท์ ถังเฉาหัวเราะออกมา แต่ใบหน้าที่ใช้หัวเราะนั้น หนาวยะเยือก
เย่เซ่าเตี๋ยรู้สึกได้ทันทีว่า หลินอิ่นแห่งตระกูลหลินกำลังอับโชค จึงรีบถามว่า “ต่อนี้ไปเราจะทำอย่างไร?”
ไม่รู้เป็นอะไร เย่เซ่าเตี๋ยในขณะนี้มีความรู้สึกตื่นเต้นอยู่ในใจ
คงเป็นเพราะว่า นี้เป็นครั้งแรกที่จะร่วมมือกับถังเฉาในฐานะที่เป็นศัตรู
การออกอาการตื่นเต้นของเย่เซ่าเตี๋ย ทำให้ถังเฉาย่นขมวดคิ้ว รักษาระยะห่างกับหล่อนออกมา พูดว่า “ไปอยู่ชั้นบน ซุ่มดักรอเหยื่อ”
“ได้คะ!”
อพาร์เมนต์ของหลู่เหมิงเป็นลักษณะสองชั้น เย่เซ่าเตี๋ยจึงรีบขึ้นไปหลบอยู่ชั้นบนอย่างรวดเร็ว
ถังเฉามองตามดูหล่อนขึ้นไปข้างบน ไม่เข้าใจว่าทำไมหล่อนจึงดูตื่นเต้นปานนั้น
ส่ายหัวไปมา เขาเดินไปเปิดประตูตู้เสื้อผ้าอันใหญ่นั้นออก
นอกจากของใช้ส่วนตัวจิปาถะของผู้หญิงร่วงตกลงมาบางส่วน ยังมีสาวงามนางหนึ่งนอนอยู่ หลับดูดั่งเจ้าหญิงนิทรา
ไม่ใช่หลินชิงเสว่แล้วจะใช่ใคร?
สีหน้าถังเฉาเปลี่ยนเล็กน้อย ยื่นมือแตะสัมผัสบริเวณปลายจมูก
เสียงลมหายใจสม่ำเสมอ
ถังเฉาค่อยรู้สึกสบายใจขึ้น
หล่อนเพียงนอนหลับไปเฉย ๆ
ถังเฉาอุ้มหลินชิงเสว่ก้าวเดินขึ้นชั้นบน
ห้องแต่ละห้องชั้นบนถูกล็อคไว้หมด ทั้งสองจึงนั่งลงตรงพื้นโถงบันได
มองดูถังเฉาอุ้มหลินชิงเสว่เดินขึ้นมา เย่เซ่าเตี๋ยมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
โดยเฉพาะสายตาที่มองหลินชิงเสว่ แววตาของเย่เซ่าเตี๋ยเกิดเป็นความอิจฉาเพิ่มเข้ามา
ไม่รู้ได้ว่าด้วยเรื่องอะไร หล่อนรู้สึกอิจฉาในความเป็นปัจจุบันของหลินชิงเสว่
มีสามีที่ใส่ใจเธอ คอยห่วงใยเธอถึงขนาดนี้
“ดูคุณรักเธอเอามาก ๆ เลยนะคะ”
ยืนมองด้วยความอิจฉาอยู่พักใหญ่ เย่เซ่าเตี๋ยเอ่ยปากพูด
ถังเฉาอึ้งขึ้นมานิดหนึ่ง ก้มมองหลินชิงเสว่ที่หลับใหลในอ้อมแขน ยิ้มเรียบ ๆ “ผ่านชีวิตด้วยกันมานักแล้ว ไม่อยากให้มีการต้องพลัดพรากกัน”
เย่เซ่าเตี๋ยผงกหัว ตอนนี้พอจะมีความรู้สึกจิตสงบลงบ้าง เพียงสีหน้ายังคงความเสียดายให้พอเห็น
คนเราทุกคนคงเคยมีของหายไปอย่างกระทันหัน ความรู้สึกของเย่เซ่าเตี๋ยขณะนี้ก็เป็นแบบนั้นแหละ
ในตอนนี้หลู่เหมิงก็ยังไม่ฟื้น หลินอิ่นก็ยังมาไม่ถึง ว่างก็คงยังว่างอยู่ ถังเฉามองไปที่เย่เซ่าเตี๋ย ถามว่า “คุณทำไมถึงเกลียดเย่หรูอี้ถึงขนาดนี้?”
เย่เซ่าเตี๋ยสะอึกนิดหนึ่ง โดยข้อเท็จจริง หล่อนก็คิดไม่ถึงว่าถังเฉาจะมาถามเรี่องนี้ได้
เงียบไปพักใหญ่ หล่อนจึงได้ยิ้มเรียบ ๆ “ไม่มีเรื่องอะไรหรอก การจะเกลียดใครสักคน ยังต้องมีทำไมด้วยหรือ?”
“การที่หล่อนมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ หายใจเอาอากาศที่สดใหม่เข้าไปครั้งหนึ่ง ฉันก็รู้สึกเกลียดแล้ว”
ถังเฉาผงกหัวอย่างยอมรับ “ไม่ผิด แต่ว่า ในโลกนี้ก็ไม่น่าจะมีเรื่องแค้นเคืองที่ไม่มีสาเหตุมั้ง?”
เย่เซ่าเตี๋ยนิ่งเงียบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ นิ่งเงียบไปนาน นานมาก
สายตาที่เต็มด้วยความสับสนมองหลินชิงเสว่ในอ้อมกอดถังเฉา ย้อนถามเนือย ๆว่า “ถ้าคุณเข้าใจถึงว่า ทำไมภรรยาของคุณกับเย่หรูอี้ไม่ถูกกัน คุณก็จะเข้าใจได้ว่าทำไมดิฉันกับเย่หรูอี้จึงไม่ถูกกัน”
ได้ยินดังนั้น ในใจถังเฉาเกิดอาการไหวหวั่นเล็กน้อย ความกังขาแสดงออกเต็มหน้า
เขาจะมองข้ามจิตใจของผู้หญิงเกินไปแล้ว
หลินชิงเสว่ทำไมถึงไม่ถูกกับเย่หรูอี้?
ก็ไม่ใช่เพราะว่าต่างคนต่างมีดี ต่างคนต่างมีความสวยเหมือนกันหรือ?
เสือสองตัวอยู่พื้นที่เดียวกันไม่ได้ฉันใด สองสาวทั้งดีเด่นทั้งสวยงามเหมือนกันมาพบกัน ก็คงเปรียบได้ดั่งนี้เอง
พวกหล่อนจะต้องคิดหาสารพันกลไกวิธีเพื่อการแพ้ชนะ เหยียบฝ่ายตรงข้ามให้อยู่ใต้ฝ่าตีน—–แต่โดยข้อเท็จจริง มีแต่เย่หรูอี้ฝ่ายเดียวที่จ้องวัดกับหลินชิงเสว่ ส่วนหลินชิงเสว่ผู้แสนสมถะนั้น คงไม่มีความคิดด้านนี้เลย ยิ่งกว่านั้นจะเห็นเป็นเรื่องไร้สาระด้วยซ้ำไป
แต่เมื่อหลินชิงเสว่ยิ่งไม่คิดที่จะคิดแบบเดียวกับเย่หรูอี้ เย่หรูอี้ก็ยิ่งมองว่าหลินชิงเสว่มารยาแสแสร้ง ยิ่งจะหาทางเหยียบหล่อนให้จมมิด
แต่กลับเป็นว่าในคืนนั้นเมื่อห้าปีที่แล้ว หล่อนไม่เคยคิดฝันเลยว่า ผู้ชายอย่างถังเฉาที่ควรจะเป็นของหล่อน กลับถูกลักพาตัวไป และไปได้เสียกับหลินชิงเสว่แบบยังไม่รู้อีโหน่อีเหน่กันเลย
เรื่องนี้จึงได้กลายเป็นชนวน ด้วยความจริงที่ว่าผู้ชายที่ควรจะเป็นของเย่หรูอี้ กลับจับพลัดจับผลูกลายไปเป็นของหลินชิงเสว่
ในความเห็นของเย่หรูอี้ ก็คือเป็นการที่หลินชิงเสว่แย่งเอาผู้ชายของหล่อนไป มันเป็นเรื่องที่ใครจะไปทนได้?
นี่ก็คือสาเหตุที่ว่า ทำไมเย่หรูอี้จึงยังไม่ยอมปล่อยจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
แต่ทว่า กรณีเย่หรูอี้กับเย่เซ่าเตี๋ย คงเป็นเรื่องจากสาเหตุอื่นอีกต่างหาก
ไม่ยากนักที่จะคิดได้ว่า เหตุต้องเกิดจากเรื่องภายในตระกูลหลวงตระกูลเย่เอง
เย่เซ่าเตี๋ยพูดหน้ายิ้มเศร้า ๆ “คุณทายถูกแล้ว ในบางครั้ง ในตระกูลเดียวกันเองมีคนที่มีพรสวรรค์มากหลายคนแล้ว มันไม่ใช่เรื่องดีเลย กลับเป็นเรื่องนำพามาซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้”
ถังเฉาไม่พูดอะไร เขาทายเรื่องได้ถูกแล้วจริง ๆ
“ท่านปู่แก่มากแล้ว วันเวลาเหลือคงไม่กี่ปีแล้ว รุ่นคุณพ่อดิฉันเรียบ ๆ ธรรมดาทั่ว ๆ ไป มีแต่จะฝากความหวังไว้ที่รุ่นพวกดิฉันนี่แล้ว”
เย่เซ่าเตี๋ยพูดเนิบ ๆ “ความจริง ตัวดิฉัน เย่จงเวิ่นเป็นระดับชั้นนำของคนรุ่นหนุ่มสาว ประกอบกับตัวเย่จงเวิ่นเองใช้เวลาส่วนใหญ่กับกิจการธุรกิจอยู่ต่างประเทศ แม้ว่าจะกลับคืนสู่วงศ์ตระกูล อิทธิพลคงเทียบดิฉันไม่ได้ คุณพอเข้าใจที่ดิฉันพูดไหม?”
จู่ ๆ เย่เซ่าเตี๋ยก็มีทีท่าเคร่งขรึมจ้องไปที่ถังเฉา
ถังเฉาผงกหัว
ถึงยังไงเขาก็เคยเห็นเข้าไปถึงเรื่องบุญคุณความแค้นภายในของตระกูลใหญ่ แม้นหากใครเข้าลึกไปถึงส่วนในของตระกูลใหญ่ ญาติรักใคร่กันยังกลายเป็นคนแปลกหน้าข้างทาง
เดิมแท้แล้วเย่เซ่าเตี๋ยจะได้เป็นผู้สืบทอดตระกูลที่มีหวังได้มากที่สุดของตระกูลหลวงตระกูลเย่ ได้รับการปรบมือชมเชยมาตลอดตั้งแต่ยังเล็ก บุตรีในตระกูลหลวง หน้าตางามสวยหมดจด ไหวพริบภูมิปัญญาไม่มีใครเทียบ เปล่งรัศมีบรรเจิดจ้า
แต่จู่ ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ในบ้านเกิดมีคนนอกปรากฏขึ้นมาคนหนึ่ง พูดถึงหน้าตา เธอไม่เป็นรองหล่อน ว่ากันถึงเชาว์ปัญญา หล่อนน่าจะเทียบเธอไม่ได้ แล้วหล่อนจะเป็นยังไง ?
หากถ้าถังเฉาเป็นเย่เซ่าเตี๋ย เขาคงต้องโกรธ ต้องเครียด คงต้องกลัว—กลัวว่าความเป็นที่หนึ่งของตัวเองจะถูกแทนที่
ฉะนั้นเย่เซ่าเตี๋ยต้องหาสารพัดวิธีในการเบียดหล่อนให้ออกพ้น แม้กระทั่งการกำจัดหล่อนทิ้งไป
เบื้องหน้าบารมีอำนาจไม่มีน้ำใจญาติมิตรที่จะพูดกัน
“เพราะฉะนั้น คุณคิดว่าต้องทำอย่างไร ?”
ถังเฉาถาม แววตาค่อย ๆ คมเฉียบขึ้นทีละน้อย
ก็ด้วยประเด็นนี้ เขากับเย่เซ่าเตี๋ยจึงกลายเป็นศัตรูกัน
เพราะเขาได้เคยตอบตกลงเย่หรูอี้ จะช่วยการปักฐานในตระกูลเย่ให้หล่อน
เย่เซ่าเตี๋ยก็เข้าใจดีในเรื่องนี้อยู่ แต่หล่อนไม่เปิดเผย กลับยิ้มให้กับถังเฉา “ถ้าหากดิฉันจะขอความช่วยเหลือจากคุณหละ ?”
“ไม่ได้”
ถังเฉาปฏิเสธอย่างตัดบท
เย่เซ่าเตี๋ยสีหน้าหม่นลง หลังจากนั้น มองถังเฉาอย่างเสียดาย “แล้วถ้า ดิฉันตัดหน้าเย่หรูอี้ เป็นผู้หญิงของคุณก่อนหละ ?”
ชแวป!
แววตาของถังเฉาเหี้ยมเกรียมลงทันที รูม่านตาส่องประกายหนาวเยือก
“ข้อที่หนึ่ง คุณไม่มีทางเป็นผู้หญิงของผมได้ เย่หรูอี้ก็เป็นไม่ได้ ข้อที่สอง ผมเพียงรับปากเย่หรูอี้ว่าจะช่วยหล่อนปักฐานให้ได้ในตระกูลเย่เท่านั้น ไม่ใช่จะช่วยหล่อนชิงอำนาจ เรื่องภายในตระกูลเย่ของพวกคุณ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะลากเข้ามาเกี่ยวข้องกับผม”
เย่เซ่าเตี๋ยกลับส่ายหน้าหัวเราะออกมา “คุณวางตัวเป็นคนอยู่วงนอกไม่ได้เสียแล้ว เพราะว่าคุณได้หลุดเข้าไปแล้ว”
“หมายความว่ายังไง ?”
สีหน้าถังเฉาเปลี่ยนเล็กน้อย
“ความจริงแล้ว สภาพภายในตระกูลเย่ไม่ใช่ดิฉันที่อยู่ในที่น่าอันตราย เย่หรูอี้นั่นสิใช่”
เย่เซ่าเตี๋ยพูด “เพราะเย่จงเวิ่นกลับมาแล้ว”
“เย่จงเวิ่น ?”
ถังเฉาขมวดคิ้วย่น ในสมองผุดภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นที่วังคริสตัล
นั้นเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเย่จงเวิ่น
ไม่มีการพูดจากันใด ๆ แต่ เขามีความรู้สึกกดดันอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ไม่มีอะไรต้องสงสัย ผู้ที่ชื่อเย่จงเวิ่นคนนั้นเป็นยอดฝีมือ
ไม่สนใจว่าสมองเขาคิดอะไร เพียงแค่ประเด็นนี้ ก็จะมองข้ามเขาไปไม่ได้
“ระหว่างเย่จงวิ่น กับเย่หรูอี้มีความแค้นที่ไม่สามารถปรับให้ลงตัวกันได้”
ทันใดนั้นเย่เซ่าเตี๋ยหัวเราะขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี “แค้นเรื่องมาตุฆาต”
พอได้ยิน ถังเฉาถึงกับมีทีท่าเปลี่ยนไป
ห้วงความคิด ย้อนกลับไปในวันเผยเบื้องหลังชีวิตของเย่หรูอี่
แม่ของหล่อนมีชื่อว่าเย่ซู เป็นเพียงสาวใช้ในตระกูลหลวงตระกูลเย่
แต่ได้ถูกพ่อของเย่จงเวิ่น-เย่จงซือเมาเหล้าแล้วบังคับขืนใจ
จึงได้มาเป็นพี่น้องหงส์มังกรคู่นี้
แต่ทว่า เย่ซูกับเย่หรูอี้สองแม่ลูกไม่เป็นที่ยอมรับของตระกูลหลวงตระกูลเย่ คิดกำจัดทิ้ง
เย่ซูปกป้องลูกน้อยอย่างสุดชีวิตพาเย่หรูอี้หลบพ้นจากการตามฆ่า หนีภัยมาถึงหมิงจู
มาอยู่ที่หมิงจู ก็ไปเจออันธพาลชื่อว่าจ้าวเหล่าลิ่ว ถูกข่มขืนจนตั้งท้อง คลอดมาเป็นเย่เทียนหลง
ด้วยความอดอยากและหนาวอากาศ กอปรกับจิตใจที่บอบช้ำซ้ำซ้อน เย่ซูก็จากไป
เย่หรูอี้มองหล่อนจากไปกับตา
ตราบจนทุกวันนี้ เย่หรูอี้จดการตายของแม่ไว้ในบัญชีของตระกูลเย่
ฉะนั้น หล่อนจะต้องขึ้นมาเป็นจ้าวของตระกูลเย่ ผู้ที่ทำร้ายหล่อนสองแม่ลูกในครั้งนั้น หล่อนจะล้างทีละบัญชี ขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก
เป้าหมายแรกที่ชน ก็คือเย่จงเวิ่นกับเย่จงซือสองพ่อลูก
“เย่จงเวิ่นก็รู้ดีในจุดนี้ เขาจึงได้กลับมา ในขณะเดียวกันกับการชิงตำแหน่งผู้นำใหญ่ จะได้จัดการกำจัดเย่หรูอี้ไปด้วย”
เย่เซ่าเตี๋ยหัวเราะแล้วพูดว่า “เพราะฉะนั้นแล้วฉันจึงไม่มีอะไรต้องเดือดร้อน เพียงนั่งดูเสือสองตัวกัดกัน แค่นั้นเอง”
ถังเฉานิ่งเงียบไม่พูดอะไร หากแม้นไปถึงวันนั้น เขาก็คงต้องลงมือ
เย่เซ่าเตี๋ยก็ไม่พูดอะไรในเรื่องนี้ต่อ ถึงยังไง ในขณะนี้ ตระกูลกลวงตระกูลเย่มีหนึ่งมังกรสองหงส์ ปักหลักกันเป็นสามขา
เพียงดูว่าใครจะลงมือก่อน ทลายรูปการณ์นี้
ไม่ว่าจะเป็นเย่หรูอี้ หรือเย่จงเวิ่น หรือจะเป็นเย่เซ่าเตี๋ยคนข้าง ๆ นี้ ต่างก็คงไม่ยอมหงายไพ่ของใครออกมาก่อนเป็นแน่
เล่นงานกันในมุมมืด น่ากลัวกว่าซัดกันซึ่งหน้าเป็นไหน ๆ
“อืออ์……”
ทันใดนั้นเอง แว่วเสียงครางเบา ๆ ดังจากชั้นล่างขึ้นมา
เย่เซ่าเตี๋ยรีบส่งเสียงพูดเบา ๆ “เธอตื่นแล้ว”
ถังเฉาไม่ปริปากออกเสียงใด ๆ มองดูความเคลื่อนไหวข้างล่าง
พอดี หลินชิงเสว่ในอ้อมแขนก็ตื่น
พอลืมตาขึ้น ก็เห็นตัวเองอยู่ในอ้อมแขนผู้ชาย คิดกรีดร้องออกมาด้วยสัญชาติญาณ
“ซูว์……”
ถังเฉารีบเอามือปิดปากหล่อนไว้ ทำท่าให้อย่าส่งเสียง
พอเห็นว่าเป็นถังเฉา หลินชิงเสว่ก็ได้คลายใจลง ดึงแขนถังเฉา ถามว่า “คุณทำไมมาอยู่นี่ได้ ที่นี่ที่ไหนกัน?”