เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 734 ไม่ติดปีกแต่หายไปได้
ในความทรงจำของหลินชิงเสว่ ก่อนที่จะหลับสลบไป หล่อนกำลังทำข้อตกลงในการร่วมมืออย่างดีกับหลู่เหมิง
หลังจากนั้นหล่อนมีความรู้สึกง่วงและง่วงมาก ตาทั้งคู่หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
พอตื่นมา ก็รู้สึกเหมือนมีใครกอดตัวเองอยู่ ดิ้นไปมาสักพัก จึงได้เห็นว่าเป็นถังเฉา
“ที่นี่ที่ไหนกัน แล้วทำไมหล่อนก็มาอยู่ที่นี่ด้วย?”
มองเย่เซ่าเตี๋ยที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ท่าทีหลินชิงเสว่เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที
ที่เจียงเฉิงในตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ที่คอยหาเรื่องหล่อนกับถังเฉา ฉะนั้นหลินชิงเสว่รู้สึกไม่ถูกชะตากับหล่อนเอาเสียเลย
เย่เซ่าเตี๋ยส่งเสียงฮึออกมา ให้เห็นว่าไม่คิดจะพูดอะไรด้วย
ถังเฉาเสียไม่ได้ ต้องเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ ออกมา
“อะไรนะ?ฉันถูกคุณหลวี่ลักพาตัวมาที่นี่หรือ?”
หลินชิงเสว่สีหน้าตื่นตระหนก อย่างไม่เชื่อในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เป็นไปได้ยังไง หล่อน……..”
หลินชิงเสว่ยังไม่ทันได้พูดต่อ ตามมาด้วยเสียงเย็นห้วนแว่วขึ้นมาจากชั้นล่าง
“ที่สุดก็ไปกันหมดแล้วรึ ไอ้บัดซบสองตัวนั่น ดันกล้าเอาเข็มมาจิ้มฉัน รอให้ฉันได้เงินมากหน่อยเถอะ จะไปถล่มเก้าอี้มัน จะไปนั่งเป็นประธานแทนเอง”
พักสักพัก เสียงผู้หญิงนั่นหัวเราะออกมาอย่างสะใจ “ให้ได้คู่เวรอย่างยัยหลินชิงเสว่นั่นอีกสักหลายคน ก็คงจะไม่เลวนะ ลี่จิงกรุ๊ปถึงจะไม่เท่าไหร่ในเยี่ยนจิง แต่ก็พอให้ฟันเป็นเงิรก้อนพอได้เหมือนกัน”
“นี่……….”
หลินชิงเสว่ที่อยู่บนชั้นสองสีหน้าเปลี่ยนไปทันที ให้รู้สึกว่าเป็นอะไรที่คิดไม่ถึง
เสียงคนที่พูดนั้น ก็คือเสียงของหลู่เหมิงที่เพิ่งฟื้นตื่นขึ้นมา ในขณะนี้สีหน้าของความเคียดแค้น กับการหัวเราะที่บ้าคลั่งสลับกันไปมาเหมือนคนโรคประสาท
หลินชิงเสว่ตื่นกลัวจนมึน หล่อนไม่คิดเลยว่า หลู่เหมิงที่ก่อนหน้านี้นั่งคุยกันอย่างชื่นมื่นในวงอาหาร จะกลายเป็นคนที่หลอกลวงเธอ
ถังเฉาพูดเสียงเข้ม “เห็นแล้วใช่ไหม? ความโหดเหี้ยมของใจคน รู้หน้าไม่รู้ใจ ตั้งแต่เค้าเริ่มติดต่อกับเธอ เค้าก็ได้เริ่มวางแผนหลอกลวงนี้ไว้แล้ว”
สีหน้าหลินชิงเสว่ในตอนนี้ดูไม่ได้อย่างบอกไม่ถูก “แต่ว่า สถานที่ที่เราคุยข้อตกลงกัน นอกจากหล่อนแล้ว ก็ยังมีนักธุรกิจสาวสังคมสูงในเยี่ยนจิงด้วยนะ”
“พวกนั้นล้วนถูกชวนมาเป็นหน้าม้า ฐานะจริง ๆ ของพวกนั้น ก็เพียงพนักงานระดับกลางในบริษัทที่มีชื่อในตลาดหลักทรัพย์ เท็จจริงแล้วไม่มีอำนาจในการตัดสินใจในระดับสูง พวกเขารวมตัวกัน อุปโลกน์เป็นองค์กรธุรกิจมาชื่อหนึ่ง รุกเจาะตลาดไปต้มตุ๋นกลุ่มธุรกิจในเยี่ยนจิง”
ถังเฉายิ้มชืด ๆ พูดต่อ “หลังจากนั้น เพียงไม่ให้มีสำเนา อีกยังมีรายงานการหมุนเวียนของบัญชีในธนาคาร แปรสภาพให้เป็นบัญชีการเงินของธุรกิจของแต่ละองค์กร ก็จะกลายเป็นกระแสการหมุนเงินระหว่างบริษัทต่อบริษัท นั่นเท่ากับเป็นการใช้ชื่อของบริษัทมาครอบงำการเงินของคุณ”
เย่เซ่าเตี๋ยได้จังหวะเย้ยหัวเราะว่า “ขนาดเป็นถึงระดับคุณหนูบ้านตระกูลหลิน ยังไปให้เขาหลอกได้ ช่างน่ามหัศจรรย์จริง ๆ”
“คุณอย่าเอาแต่หัวเราะคนอื่นเลย ตัวคุณเองก็ไม่ใช่หรือที่ปล่อยให้ลูกน้องปั่นจนหัวหมุน ถ้าไม่ใช่ผมไปตามหาคุณ ถึงป่านนี้คุณก็คงยังจมอยู่ในบ่อหาทางออกไม่เจอ”
ถังเฉาหักมุมเรื่องคุย มองขวางใส่เย่เซ่าเตี๋ยแล้วพูด
“ฉัน…..พูดถึงตัวฉันว่าโดนล้อเล่น? นั่นมันตอนฉันไม่ทันได้คิดจะต้องใส่ใจ พวกคนตัวเล็ก ๆ พรรณนั้น กล้าดีเกินไปแล้วที่มาเล่นถึงหัวฉัน?”
เย่เซ่าเตี๋ยอารมณ์ขึ้น เลือดโกรธฉีดแดงเต็มหน้า ที่ถังเฉาพูดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเป็นเรื่อง
“ใช่ไหมหละ? แล้วทำไมป่านนี้เพิ่งจะรู้สึกหละ?”
ถังเฉาพูดเย้ยบ้าง “เชื่อไหมว่า ถ้ายังปล่อยให้หลู่เหมิงห้อยเอาชื่อหย่วนหยางกรุ๊ปไปเที่ยวหลอกชาวบ้านอีกสักสองสามงาน เดี๋ยวจะมีเจ้าหน้าที่กองควบคุมงานเศรษฐกิจเข้ามาหาเหาบนหัวคุณแน่นอน ตรวจสอบแล้วสั่งปิดหย่วนหยางกรุ๊ปของคุณ ทีนี้ผมก็จะดูว่าคุณจะกลับไปรายงานกับตระกูลเย่ยังไง”
“ฉัน ฉัน……..”
เย่เซ่าเตี๋ยหน้าซืดเผือด ใจคิดจะย้อน แต่ก็หาเหตุผลไม่ได้
ผลที่จะเกิดตามที่ถังเฉาพูด ไม่ใช่เรื่องไร้สาระที่ไม่จำต้องใส่ใจ หากถ้าหลู่เหมิงได้ไปทำอีก หล่อนต้องพังเป็นแน่
ถึงเวลานั้นทำเอาหย่วนหยางกรุ๊ปเจ๊ง ตระกูลเย่ต้องเสียหายอย่างสาหัส ไม่ต้องให้เย่หรูอี้หรือเย่จงเวิ่นลงมือ หล่อนก็คงต้องโดนไล่ออกจากตระกูเย่เป็นแน่
หาเหตุนู่นนี่นั่นยังไงก็ไม่มีข้อโต้กลับได้ สุดท้ายเย่เซ่าเตี๋ยเลยเล่นพาลใส่เอาดื้อ ๆ
“คุณถังเฉาพูดมาเสียมากมาย คุณกำลังพูดให้เห็นชัดใช่ไหมว่าฉันสู้เย่หรูอี้ไม่ได้? แต่ฉันไม่เชื่อหรอก ลองถ้าให้เย่หรูอี้มาบริหารหย่วนหยางกรุ๊ปแล้ว จะทำได้ดีกว่าฉัน!”
เย่เซ่าเตี๋ยพูดด้วยสีหน้าไม่ยอมแพ้
ถังเฉาสะอึกนิดหนึ่ง แล้วพูดว่า “หล่อนน่าจะทำได้ดีกว่าคุณนะ ไม่เชื่อถามภรรยาผมดูก็ได้”
หลินชิงเสว่ผงกหัว “หล่อนไม่เคยต้องพึ่งการช่วยเหลือของวงศ์ตระกูล ทำบริษัทตระกูลซ่งก้าวขึ้นมาได้ถึงระดับเทียบคู่กับลี่จิงกรุ๊ปของฉันได้ คุณคิดว่าคุณทำได้ไหมหละ?”
“……”
เย่เซ่าเตี๋ยถึงกับปากอ้าตาค้าง มึนทึบไปพักหนึ่ง ที่สุดย้อนใส่กลับ
“พวกคุณเป็นสามีภรรยากัน ก็เอออวยกันเอง นับไม่ได้”
เย่เซ่าเตี๋ยบ่นกะปอดกะแปดตัดบทการสนทนา
กริ๊ง……!
ขณะนั้นเอง โทรศัพท์ของหลู่เหมิงที่อยู่ชั้นล่างดังขึ้นอีก
หลู่เหมิงรีบรับโทรศัพท์ “ฮัลโหล คุณหลิน ดิฉันเพิ่งจะจัดการธุระในมือเสร็จ……..”
“ยัยคนแซ่หลู่ แกกล้าไม่ทำตามคำสั่งข้า เงินไม่ต้องหวังเอาแล้ว!”
ในโทรศัพท์ใส่มาด้วยเสียงตะคอกอย่างเกรี้ยวกราด
เสียงตะคอกนี้ทำเอาหลู่เหมิงมึนตึ๊บ ตามมาด้วยความร้อนรน “เดี๋ยว ๆ คุณหลิน ทำไมหละ ฉันไม่ได้ไม่ทำตามคำสั่งนะ!”
“ไม่ต้องพูดมาก กล้าเล่นแง่กับข้า ข้าอยู่ชั้นล่างที่บ้านแกแล้ว”
ตุ๊ด !
ตวาดใส่เสร็จ หลินอิ่นตัดโทรศัพท์ทิ้ง
หลู่เหมิงถือโทรศัพท์ค้าง ยืนงงกับที่ แล้วก็นึกขึ้นได้ มันต้องเป็นเพราะตอนที่หลับสลบอยู่ ประธานเย่กับไอ้หมอนั่นรับโทรศัพท์แน่
“ให้ตายสิ”
หลู่เหมิงโกรธตัวสั่น ความเคียดแค้นเต็มล้นในลูกตาทั้งคู่
เย่เซ่าเตี๋ยในตอนนี้หล่อนยังไม่กล้าแหย่ แต่ไอ้เจ้าหมอตัวนั้น ให้ได้เจอ จะต้องสั่งสอนให้สาสม
เจ็บใจนัก
ติ๊งต่อง!
ขณะนั้นเอง มีเสียงคนกดออดดังขึ้น ดูท่าจะใช่หลินอิ่นมารับ ‘สินค้า’ แน่
ถังเฉากับเย่เซ่าเตี๋ยบนชั้นสองสบตากัน ทั้งสองแค่นหัวเราะเยือก ๆ ออกมาด้วยกัน
ฉากที่น่าสนุกที่สุดมาแล้ว
ความเคียดแค้นบนหน้าของหลู่เหมิงหายไปแล้ว รีบเดินไปเปิดประตู
ผัวะ
อย่างไม่ทันคาดคิด พอประตูเปิดออก หลินอิ่นก็ตบหน้าหลู่เหมิงไปฉาดใหญ่
ทำเอาหน้าของหลู่เหมิงปวดแสบปวดร้อนอย่างแรง แต่ก็ไม่กล้าขึ้นเสียง ฝืนกลั้นอารมณ์ไว้
ตามมาข้างหลังหลินอิ่นเป็นชายฉกรรจ์อยู่หลายคน ที่เอวดูตุง ๆ เห็นแน่ชัดได้ว่าเป็นปืน
“คนหละ?”
หลินอิ่นใช้เสียงที่เย็นชา ถามใส่หลู่เหมิง
หลู่เหมิงยิ้มกว้าง “คุณหลิน ให้ดิฉันทำงาน ท่านวางใจได้ ถึงแม้ว่าระหว่างดำเนินการจะมีบทแทรกบ้าง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคกับธุรกิจ”
“ข้าพูดว่า คนหละ?”
หลินอิ่นพูดเสียงเย็นชา ให้เป็นที่ชัดเจนว่า การที่หลู่เหมิงได้ไปท้าทายถึงขีดจำกัดหลายครั้งนั้น ทำให้เขาหมดความอดทนแล้ว
หลู่เหมิงสั่นขึ้นมา ไม่กล้าพูดมากอีก ได้แต่พาหลินอิ่นไปยังหน้าตู้ที่ใหญ่ขนาดพอซุกซ่อนคนได้นั้น
“คนอยู่ในนั้นคะ”
หลินอิ่นหันไปมองหน้าชายฉกรรจ์หลายคนนั้น
“อือ”
พวกเขาผงกหัวรับทราบ เปิดตู้ออกอย่างรวดเร็ว
คว๊าบ
แต่ทว่า นอกจากเสื้อผ้าที่อยู่ข้างใน ก็ไม่เห็นมีอะไรอีก
เส้นเอ็นปูดเขียวขึ้นเห็นชัดบนหน้าผากหลินอิ่ง ตะคอกใส่อย่างเดือดดาล “คนหละ?!”
“อะไรกันนี่ เป็นไปไม่ได้นะ ฉันเป็นคนอุ้มใส่เข้าไปกับมือ……”
หัวใจหลู่เหมิงรัวเต้นขึ้นมา เดินเข้าไปดู หน้าซีดเผือดไปทันที