เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 735 ปัญหาที่ยากที่สุด
ภายในตู้เสื้อผ้าโล่งโจ้ง นอกจากเสื้อผ้า ไม่เห็นมีอะไรที่เรียกว่าคน
แชว๊ป!
หลู่เหมิงหน้าซีดลงทันที ยืนสั่นงันงกไปทั้งตัว
“เป็นไปได้ยังไง มันเป็นไปไม่ได้……ฉันเป็นคนซุกเข้ามาไว้ด้วยมือตัวเองชัด ๆ……”
หลู่เหมิงตาเหลือกด้วยความตกใจกลัว พึมพำบ่นไม่หยุด
พัวะ!
หลินอิ่นอดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ ตบเข้าไปที่หน้าหลู่เหมิงอย่างเต็มแรง สีหน้าเหี้ยมลงสุด ๆ
ครั้งนี้ตบเข้าไปอย่างสุดแรง ตบลงไปทีเดียว หลู่เหมิงถึงกับเลือดทะลักออกจากปาก ตัวสั่นสะท้านล้มลงทั้งยืน
“แกแหกตาของแกดูเอง ในนี้มีคนมั้ย!”
คำรามถามไปพลาง หลินอิ่นกระชากผมหลู่เหมิง ลากเอาทั้งหัวอย่างค่อนข้างรุนแรง กดลงเข้าไปในตู้ทั้งตัว
หลู่เหมิงร้องอ๊ากด้วยความเจ็บปวด สั่นสะท้านไปทั้งตัว
หล่อนก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ก็หล่อนเป็นคนซุกเอาไว้เองกับมือ ไหงถึงหายไปได้?
“หรือว่า ประธานเย่กับหมอคนนั้น………”
หลู่เหมิงผลุบตาลง แล้วส่ายหน้า มันไม่มีทางเป็นไปได้เลย
พวกเขาไม่ได้รู้อะไรเลยว่าตัวหล่อนไปจับใครมา
เสียงดังครืน หลินอิ่นลากหล่อนออกจากตู้ ใช้แรงเหวี่ยงขึ้นไปบนเตียง พูดอย่างเกรี้ยวกราด
“นังหญิงสารเลว กล้าดีมาทำเรื่องข้าเสีย ท่าจะมีชีวิตอยู่จนเบื่อแล้วมัง!”
“รู้มั้ยว่าผู้หญิงคนนี้มีประโยชน์กับข้ามหาศาล แกมาปล่อยให้หลุดมือไป แล้วข้าจะเอาอะไรไปแลกซื่อเหอย่วนในฝันของข้า?!”
หลินอิ่นตอนนี้อยู่ในสภาพโกรธจนคลั่งแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความอำมหิต
บนชั้นสอง หลินชิงเสว่ยืนสั่น หนาวสะท้านทั้งตัว
ถังเฉาก็มีสีหน้าอึมครึม ถึงครานี้ เขาก็ได้รู้ชัดแจ้งถึงสาเหตุที่หลินอิ่นว่า การจ้างหลู่เหมิงลักพาตัวหลินชิงเสว่
เพื่อซื่อเหอย่วน
พวกมันคิดเอาชีวิตหลินชิงเสว่ เพื่อแลกกับการเข้าครอบครองสิทธิ์ซื่อเหอย่วน
เย่เซ่าเตี๋ยมองพวกเขาด้วยแววตาหวั่น ๆ ในคืนวันนั้นหล่อนก็อยู่ที่วังคริสตัล ย่อมรู้อยู่ว่าสองคนนี้มี ซื่อเหอย่วนอยู่หลังหนึ่ง
มันเป็นเรื่องน่ากลัวมากเลยทีเดียว
มีแต่ตระกูลหลวงเท่านั้นถึงจะมีคุณสมบัติพอที่จะมีซื่อเหอย่วน
โบราณว่า “คนทั่วไปโดยธรรมดาไม่มีโทษ ของมีค่าที่อยู่ในตัวนั้นแลให้โทษ” ในคืนนั้นเย่เซ่าเตี๋ยเคยคิดอยู่ว่าต้องมีคนระดับอิทธิพลจะลงมือกับพวกเขา แต่หล่อนคิดไม่ถึงเลยว่า คนแรกที่จะลงมือนั้น กลับเป็นคนตระกูลหลินของพวกเขาเอง!
ช่างเป็น ‘ญาติที่แสนดี’ จริง ๆ!
ชั้นล่าง หลู่เหมิงกำลังถูกรุมซ้อม เสียงกรีดร้องมาอย่างต่อเนื่อง ดูท่าน่าจะถูกซ้อมจนเจียนตายแล้ว
ผัวะ ผะ เผียะ
แต่แล้วในขณะนั้นเอง เสียงปรบมือดังมาจากชั้นบน
“อือม์?”
ในทันทีนั้น ทุกคนหยุดมือในสิ่งที่กำลังกระทำทั้งหมด หันไปมองอย่างสงสัย
ที่เห็นบนชั้นสอง มีคนยืนอยู่สามคน
นั่นคือถังเฉา เย่เซ่าเตี๋ย หลินชิงเสว่สามคน
หลินชิงเสว่สีหน้าเย็นเยือก เห็นชัดได้ว่าหล่อนรู้เรื่องหมดแล้ว
ถังเฉามีสีหน้ายิ้มกวน เย่เซ่าเตี๋ยสีหน้าชาชืด จ้องมองมาที่พวกเขา
“ถังเฉา หลินชิงเสว่?!”
หลินอิ่นทำตาย่นลงมาในฉับพลัน
หลู่เหมิงก็ตะโกนร้องออกมาอย่างหน้าตื่น “ท่านประธานเย่ พวกท่านยังไม่ได้ไปหรือ ทำไม…….”
และแล้ว หล่อนก็เข้าใจ พวกเขาไม่ได้ไปไหนเลย ยังแอบดูอยู่ข้างบนชั้นสองนั้น รอจนเห็นถึงคนอยู่เบื้องหลังแล้วถึงจะปรากฏตัว
หลินชิงเสว่ ถูกพวกเขาช่วยออกไปแล้ว
เพียงแต่ หลู่เหมิงมองถังเฉาด้วยสายตาหวาด ๆ “แก แกเป็นใคร?”
ถังเฉายิ้มเรียบ ๆ “ผมเป็นสามีหล่อน”
“สามี?”
หลู่เหมิงหัวใจเต้นจนแทบหลุด มองไปที่เย่เซ่าเตี๋ยที่อยู่ข้าง ๆ หล่อนเข้าใจได้ในพลัน
จริง ๆ แล้วเยเซ่าเตี๋ยไม่ได้มาเยี่ยมเราเพราะความห่วงใยเลย แต่ต่างก็รู้ดีแล้วตั้งแต่ต้น ในเรื่องที่ตัวเองไปลักพาตัวหลินชิงเสว่มา
แรกเริ่มเย่เซ่าเตี๋ยเพียงแต่ห่วงว่าเรื่องระหว่างหลู่เหมิง กับถังเฉา จะไปพัวพันกับตัวหล่อนเอง แต่หลังจากนั้นเจาะลึกเข้าไป จึงค่อย ๆ ไปเห็นว่า หลู่เหมิงแอบทำเรื่องเลวร้ายข้างหลังหล่อน
“หัวหน้าหลวี่ กล้ามากนะที่นำเอาชื่อของหย่วนหยางกรุ๊ป ใช้ไปต้มตุ๋นหลอกลวง คุณแน่มากนักหรือ?”
เย่เซ่าเตี๋ยยิ้มเหี้ยมเดินเข้าไปหา และโดยทันที สะบัดมือตบใส่หน้าหลู่เหมิง
ตามด้วยเอามือจับที่คางหลู่เหมิง ใช้แรงบีบ เสียงดังกร๊วบเหมือนกระดูกแตก
“แกเห็นฉันเป็นตัวไอ้โง่หรือไง?”
“คุณเย่ ท่านประธานเย่…….ฉันผิดไปแล้ว…….โปรดได้กรุณาฉันด้วย….”
อยู่ต่อหน้าเย่เซ่าเตี๋ย หลู่เหมิงผวาจนตัวสั่น ขวัญกระเจิงหายหมด
เทียบกับก่อนหน้านี้ที่โดนกลุ่มชายฉกรรจ์รุมซ้อม หล่อนกลัวน้อยกว่าที่อยู่ต่อหน้าเย่เซ่าเตี๋ยนี่เสียอีก
ถังเฉาเดินเช้าไปหา แต่เพียงมองหน้าหลู่เหมิงอย่างเฉยเมย พูดขึ้นว่า “หล่อนคนนี้ยกให้คุณไปจัดการเอง ลงจากนี้ไปเป็นเรื่องภายในตระกูลส่วนตัว คงไม่สะดวกทีคุณอยู่ด้วย”
“ได้คะ”
เย่เซ่าเตี๋ยผงกหัวรับปาก แล้วพาหลู่เหมิงจากออกไป
ระดับความโหดของเย่เซ่าเตี๋ย คงไม่มีการเอาหล่อนไปส่งให้ฝ่ายกฎหมายบ้านเมืองแน่นอน หล่อนชอบจะจัดการด้วยวิธีของหล่อนเอง
ถังเฉาก็ไม่คิดจะไปห้ามปรามอะไร ไม่ว่าใครหาญกล้ามาทำกับเมียรักของเขา มันผู้นั้นต้องชดใช้อย่างสมค่า
ขณะนั้น บรรยากาศในอพาร์ทเม้นต์คละคลุ้งด้วยกลิ่นอายของการฆ่าอย่างเงียบ ๆ
ถังเฉาใช้แววตาเรียบ ๆ มองไปยังหลินอิ่นอีก ฉับพลันนั้นก็หัวเราะออกมา
หลินอิ่นกลับรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งตัว เสียงหัวเราะของถังเฉาช่างยะเยือกหนาวจริง เหมือนเสียงหัวเราะที่ส่งให้กับคนตาย
“แก แกอย่าเข้ามานะ………..”
หลินอิ่นกลัวจนสุด ๆ ถอยหลังไม่กรูด
“พวกแกมัวยืนทำอะไร ลุยมันเลยสิ!”
หลินอิ่นออกคำสั่งพวกกลุ่มชายฉกรรจ์ด้วยความโกรธ
กลุ่มชายฉกรรจ์ต่างก็คว้าอาวุธลุยเข้าไปอย่างไม่ต้องคิด
แต่ทว่า เห็นแต่เสี้ยวเงาโฉบผ่าน หลินอิ่นไม่ทันเห็นด้วยซ้ำว่าถังเฉาขยับตัวยังไง ชายฉกรรจ์ส่วนใหญ่ต่างก็ล้มกันลงไป
คงเหลือแต่อีกไม่กี่คนที่มีปืนอยู่ พวกเขาชักปืนกันออกมา จ่อเล็งไปทางถังเฉาอย่างหวาด ๆ
ถังเฉาไม่มีอาการกลัวใด ๆ เอียงคอถามหลินอิ่นว่า “แกไม่ได้บอกพวกเค้าเหรอว่า ไอ้พวกเศษเหล็กเศษทองแดงแบบนี้ อย่าเอาออกมาอวดเล่นต่อหน้าข้า”
ตอนนี้บนหน้าผากของหลินอิ่นมีเหงื่อเป็นเม็ดขนาดเมล็ดถั่วผุดไหลย้อย เครียดเต็มที่กับความกดดัน
เป็นเรื่องจริงว่า เขาเคยได้ยินมาก่อนหน้านี้นานแล้วว่า ปืนใช้ทำอะไรไม่ได้กับถังเฉา
แต่ในทันทีต่อมา แววตาของเขาวาบแสงเย็นเยือกออกมา ตะเบ็งเสียงสั่ง “จ่อเล็งยิงใส่ไปที่ท้องผู้หญิงนั่น!”
หลินอิ่นนึกขึ้นได้ว่า หลินชิงเสว่กำลังตั้งท้องอยู่
ถ้ายิงใส่ไปถูกเข้าที่ท้อง ก็ต้องตายแน่นอน
อีกทั้งได้ทีเดียวสองศพ
ไหน ๆ ก็รู้สึกแล้วว่าถังเฉาจะต้องเอาชีวิตเขาแน่ หลินอิ่นก็ตัดใจแล้ว จะตายก็ต้องให้หลินชิงเสว่เป็นตัวสังเวย
ชายฉกรรจ์ที่เหลืออยู่สองคนหันกระบอกปืนทันที จ่อเล็งไปที่ท้องของหลินชิงเสว่
สีหน้าหลินชิงเสว่ซีดเผือดทันที
หล่อนคิดไม่ถึงว่าอารองของตัวเองแท้ ๆ จะสั่งให้คนยิงใส่ท้องของหล่อนได้
หล่อนกำลังตั้งท้อง แม้ว่าจะเพิ่งเริ่ม แต่ก็ทำให้หล่อนกังวลตื่นกลัวเป็นอย่างมาก
“หาที่ตาย!”
บนในหน้าของถังเฉาเปล่งประกายหนาวเยือก เพียงพริบตา พลังของเขาทั้งหมดระเบิดขึ้น
เหมือนทั้งตัวเต็มด้วยเกลียวสปริง ถังเฉาเร่งความเร็วขึ้นถึงที่สุด
ชั่วขณะนั้น ในสายตาของคนที่เห็น จะเป็นถังเฉาสองคนอยู่ในมิติของเวลาเดียวกันนั้น
คนหนึ่งยืนอยู่ข้างหลินชิงเสว่ และอีกคนหนึ่งเข้าไปถึงหน้าของชายฉกรรจ์สองคนที่เหลือนั่น
ตูม
เขาใส่หมัดที่หนักหน่วงลงไป
ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะลั่นไก หน้าของเขาทั้งสองยุบลง หายหมดทั้งห้าทวาร
ปืนในมือร่วงลงพื้นพร้อมกับร่างที่ทรุดฮวบลง
ภาพร่างของถังเฉาที่อยู่ข้าง ๆ หลินชิงเสว่หายไป ถังเฉาตัวจริงยืนอยู่ข้างศพของชายฉกรรจ์ทั้งสอง
“……”
ทั้งอพาร์ทเม้นท์เงียบเป็นตาย
หลิ่นอิ่นและหลินชิงเสว่ยืนเซ่อ มองถังเฉาอย่างตื่นตะลึง
ในพริบตาก่อนหน้านี้ พวกเขาเห็นมีถังเฉาสองคนจริง ๆ
ปรากฏการณ์ที่เกิดนี้ เป็นด้วยความเร็วสุดประมาณของถังเฉา เร็วจนกระทั่งเห็นปรากฏมีถังเฉาสองคนได้ในเวลาเดียวกัน
ภาพที่เห็นหนึ่งเป็นคนจริงเป็น ๆ ส่วนอีกภาพหนึ่งเป็นเงาร่าง
นั่นเป็นเพราะถังเฉาตื่นตระหนกมาก
ตอนที่หลินอิ่นพูดถึงมุ่งจะทำร้ายใส่ส่วนท้องของหลินชิงเสว่ เขาตื่นตระหนกมาก
ท่ามกลางความตื่นตระหนก ถังเฉาทุ่มเทพลังทั้งหมดเป็นครั้งแรก
ความเร็วเร็วจนนัยน์ตามนุษย์จับเห็นไม่ทัน
ถังเฉาไม่ใส่ใจกับศพทั้งสองเลย เพียงหันกลับ เดินเข้าหาหลินอิ่นด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก
ตึง!ตึง!ตึง!
เสียงก้าวเท้าของถังเฉา เหมือนเสียงก้าวของความตาย เหยียบย่ำลงไปบนหัวใจของหลินอิ่น ก่อเกิดความกลัวจนใจจะขาด
“อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา……”
หลินอิ่นกลัวจนถึงที่สุด ๆ เดินถอยไม่หยุด ถอยจนถึงริมขอบระเบียงของอพาร์ทเม้นต์
ระเบียงอพาร์ทเมนต์ที่หลู่เหมิงซื้อไว้ เป็นส่วนให้เปล่า จึงไม่มีส่วนป้องกันปิดกั้น มีเพียงราวสองเส้นสูงแค่เอว
หลินอิ่นถอยจนสุดถึงที่นี่แล้ว ไม่มีที่จะถอยอีก
แต่ถังเฉาก็ยังก้าวเดินเข้าหาเขาต่อ
กลิ่นอายของการฆ่าพุ่งใส่หน้าเขา หลินอิ่นรู้ดีแล้วว่า ถังเฉาเอาจริงที่จะฆ่าเขาแน่นอน
อาจจะก่อนหน้านี้ที่หลินอิ่นยังไม่พูดคำนั้นออกไป ถังเฉาคงไม่ได้คิดถึงจะฆ่าเขา แต่ตอนนี้ ถังเฉาฆ่าเขาแน่!
หลินชิงเสว่วิ่งตามมา ใจเต้นโครมครามไม่หยุด
“ถังเฉา พอเถอะ มันจะเป็นเรื่องฆาตรกรรม…..”
ได้ยินดังนั้น ถังเฉากลับยิ้มเหี้ยมออกมา “ชีวิตคนที่นี่ ยังน้อยอีกหรือ?”
ติดตามด้วยการยังคงเดินเข้าหาหลินอิ่นต่อ
“โอ๊ะ!”
หลินอิ่นร้องเสียงหลง เขาเดินถอยจนประชิดราวกั้นตรงขอบระเบียงแล้ว
อพาร์ตเม้นต์ของหลู่เหมิงถึงไม่สูงแต่ก็ไม่เตี้ย อยู่ที่สี่ชั้น แต่ก็พอให้หลินอิ่นกลัวมากแล้ว
“อย่าเข้ามานะ แกขืนเข้ามาอีก ข้าก็จะกระโดดลงไปนะ!”
หลินอิ่นมองถังเฉาด้วยความกลัว ตะโกนพูดไป
เวลานั้นในบริเวณข้างล่ามีคนจำนวนหนึ่ง ได้เห็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ ต่างก็หยุดยืนดูด้วยหน้าตาตื่น
อีกยังมีหลายคนที่เอาโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายบันทึกภาพ
พอพูดคำนั้นออกไป หลินอิ่นคิดว่าถังเฉาจะหยุด
ไม่คิดว่าถังเฉาเหมือนไม่ได้ยิน ยังคงเดินเข้าหาต่อ บนใบหน้าแฝงยิ้มที่เหี้ยมเกรียม
“กระโดดเลย ใจกล้า ก็กระโดดลงไปเลย”
ถังเฉาพูดอย่างชาเย็น “กระโดดลงไป แกยังพอมีทางเฉียดรอดตายได้ ถ้าไม่กระโดด ข้าจะหักคอแกด้วยมือของข้าเอง”
ในขณะที่พูด ถังเฉาไม่ได้หยุด ยังคงก้าวต่อเข้าไปหา
ในที่สุด เขาก็มาถึงตรงหน้าหลินอิ่น
แหงนหน้าหัวเราะ น้ำเสียงไม่มีความอบอุ่นเลยแม้แต่นิดเดียว
“เอายังไง เลือกซะ กระโดด หรือไม่กระโดด?”
เอื๊อก!
หลินอิ่นกลืนน้ำลายคำใหญ่
ในสมองมองเห็นปัญหาโลกแตก
กระโดด
หรือไม่กระโดด
ในขณะที่หลินอิ่นกำลังลังเล ถังเฉาลงมือแล้ว
เพียงแค่สะบัดมือ หลินอิ่นร้องได้แค่โอ๊ะ ขาพลาดหลุด ร่างก็หล่นร่วงลงไป
“โอ๊ะ!”
คนที่มุงดูกันอยู่ข้างล่างเห็นภาพนี้เข้า ต่างร้องตกใจแตกตื่นกระจายกันออกไป
หลินชิงเสว่ก็วิ่งเข้าไปดู ตอนนี้หลินอิ่นตกลงไปถึงข้างล่างแล้ว
ไม่ตาย
แต่ขาทั้งสองข้าง บิดเบี้ยวไม่อยู่ในรูปที่ควรเป็น คลุกคลานดิ้นอยู่ที่พื้นแผดร้องครวญคราง
“กระดูกหักแตกแหลกเละ ไม่อยู่ในสภาพที่ซ่อมคืนสภาพได้”
ถังเฉายืนอยู่บนระเบียง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
หลินชิงเสว่เงยหน้า พินิจมองด้านข้างใบหน้าของถังเฉา
ในขณะนี้ถังเฉาคงสีหน้าเย็นชา ภายใต้แสงแดดสาดส่อง ดูไม่มีความเยือกเย็นให้เห็นแม้แต่น้อย
ตามสภาพที่เห็นในลักษณะนี้ ที่ถังเฉาจะเอาชีวิตของหลินอิ่น ไม่ใช่ที่หลินอิ่นจ้างคนมาลักพาตัวหล่อน
แต่เพราะ คำพูดนั้น
ผู้ชายคนนี้ รักตัวหล่อนนี้อย่างที่สุด