เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 752 ลูกศิษย์ของเธอ
การเชือดไก่ให้ลิงดูของเจียงเทียนโหย่วนี้ให้ผลลัพธ์ที่ดีมาก ๆ จริง ๆ
กระบวนท่าตรึงร่างเข็มนี้เหล่าบรรดาผู้อ่อนอาวุโสของทั้งตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงมองจนเบิกตากว้างอ้าปากค้าง ตื่นเต้นจนใบหน้าแดงเป็นตูดลิง
ในสายตาของพวกเขา กระบวนท่านี้ของเจียงเทียนโหย่วสามารถเรียกได้ว่าฝีมือขั้นเทพ เพียงพอที่จะปราบถังเฉาและเจียงไป๋เสว่ได้เลย ให้พวกเขาได้ดูว่า นี่แหละ คือศักยภาพของคนรุ่นเยาว์ของตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวง ภารกิจสำคัญในการช่วยตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงให้รอดพ้นไม่จำเป็นจะต้องมอบให้คนนอกมาทำ พวกเขาก็สามารถรับภาระนี้ได้
ยอดฝีมือและผู้แข็งแกร่งนั้นหาได้ยาก ผู้แข็งแกร่งที่ดีคนหนึ่งเพียงพอที่จะกลายเป็นกุญแจสำคัญของความเป็นความตายของตระกูลหนึ่ง
เพราะเหตุใดตระกูลหลวงแห่งเยี่ยนตูถึงได้แข็งแกร่งยิ่งกว่าตระกูลทั่ว ๆ ไป?
เพราะว่าพวกเขาไม่ใช่แค่ร่ำรวย มีอำนาจ มียอดฝีมือมากมายในตระกูล
แต่เพราะวิธีการรวบรวมยอดฝีมือและผู้แข็งแกร่งของเก้าตระกูลใหญ่ นอกจากใช้เงินไปซื้อตัวเอาแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่ง นั่นคือก็ฝึกยอดฝีมือด้วยตัวเอง
ทุกคนในตระกูลฉินนิยมการใช้กำลัง จึงเชิญมู่ตงเฟิง ผู้พิทักษ์แดนตะวันออกมาชี้แนะด้วยตนเอง
ตระกูลเจียงก็ไม่ธรรมดา คนรุ่นหลังเสินหนง เข็มเดียวช่วยชีวิตคนได้ และเข็มหนึ่งนั้นก็สามารถปลิดชีพคนได้
อย่ามองว่าเข็มเงินนั้นเล็กกระจ้อยร่อย หากคิดอยากจะใช้เข็มเงินให้ดี หากไม่ได้บำเพ็ญฌานมาหลายปีและมีพรสวรรค์นั้น ก็ทำเช่นนี้ไม่ได้
ผลงานเมื่อครู่ของเจียงเทียนโหย่ว ก็เหมือนกับเซียวลี้ปวยตอมีดบินไม่พลาดเป้า เข็มคือมีดบินที่ซัดเข้าไปที่ตำแหน่งฝังเข็มของเจียงเค่อเอ๋อร์อย่างแม่นยำ ทำให้เธอไม่อาจขยับตัวได้
นี่ก็คือการต่อสู้ด้วยวิชาแพทย์ แพทย์ที่ใช้เข็ม โดยพื้นฐานล้วนแต่เป็นผู้ที่รู้จักศิลปะการต่อสู้เป็นอย่างดี เข้าไปถึงแก่นของยุทธภพ
ผู้ที่ฝึกจนถึงขั้นสำเร็จซัดออกไปเข็มหนึ่งเข้ากำแพงไปครึ่งฟุต
เข็มเดียวของเจียงเทียนโหย่วแท้จริงแล้วแฝงไว้ด้วยแรงภายในที่หยั่งลึก
ดังนั้นเขามีต้นทุนที่เพียงพอ กดสายตามองถังเฉากับเจียงไป๋เสว่
“ถ้าหากว่ายังไม่รู้จักแยกแยะดีชั่วอีกละก็ เธอ… ก็คือจุดจบ!”
เจียงเทียนโหย่วได้ยื่นคำขาดสุดท้ายไว้แล้ว ต่อไปถ้าหากเป็นไปตามที่เขาคิดไว้ เกรงว่าถังเฉากับเจียงไป๋เสว่จะรู้สึกว่าหวาดกลัว ยอมสวามิภักดิ์อย่างไม่มีข้อแม้
ถังเฉากับเจียงไป๋เสว่มึนงงไปจริง ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจ มองไปยังเจียงเทียนโหย่ว
เจียงเทียนโหย่วจึงพอใจอย่างถึงที่สุด
กำลังคิดภาพเจียงไป๋เสว่คุกเข่าลงไปขอร้องให้เขาอภัยให้กับความผิดที่เธอก่อเรื่องใหญ่กับตระกูลเจียง
ทว่าพอเรียกสติกลับมาได้ สีหน้าของเจียงไป๋เสว่ไม่ได้ตกตะลึงเหมือนที่เขาคิดเอาไว้ล่วงหน้า
ผู้อื่นให้สิ่งของก็ต้องรู้จักตอบแทน ที่นี่คือตระกูลเจียง การจะเปรียบเทียบเทียบที่สูงที่ต่ำที่ดีที่สุดควรจะใช้เข็ม
ดังนั้นในนิ้วเรียวบางของเจียงไป๋เสว่จึงมีเข็มเงินที่อาบด้วยความน่าสะพรึงกลัวเพิ่มขึ้นมาหนึ่งเล่ม
เข็มเงินเป็นเหมือนกับหิมะ สอดคล้องกับใบหน้าดุจน้ำค้างแข็งของเธอ
ในตอนที่จะลงมือนั้นเอง ถังเฉากลับออกมือขึ้นมาขวางเธอพลัน
เจียงไป๋เสว่ขมวดคิ้ว มองเขาอย่างประหลาดใจ
เหมือนจะใช้สายตาถามกับเขา “เหตุใดจึงขวางฉัน?”
ถังเฉายิ้มอย่างสงวนท่าที เอ่ยขึ้นว่า “ผมเอง”
ได้ยินอย่างนั้นเจียงไป๋เสว่ก็เก็บเข็มไป ถอยหลังไปหนึ่งก้าวราวกับลูกสะใภ้ที่ถูกโขกสับที่เชื่อฟัง
ในมือของถังเฉามีเข็มเงินเพิ่มขึ้นมาสองเล่ม สายตามองเจียงเค่อเอ๋อร์ที่ถูกเจียงเทียนโหย่วสกัดจุดเอาไว้ด้วยความเคร่งขรึมอย่างที่สุด
ครึ่งร่างของเจียงเค่อเอ๋อร์ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ ใบหน้าขาวซีดราวกับกระดาษ ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
เด็กผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้เพียงแค่ออกมาพูดประโยคที่เป็นธรรมประโยคหนึ่ง ก็ถูกเจียงเทียนโหย่วใช้เป็นเป้ากระสุนมาเชือดไก่ให้ลิงดู ต่อให้แก้จุดแล้วแต่หากไม่พ้นสิบวันสิบห้าวันก็คงยังลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้
การพูดความจริงเป็นเรื่องที่เลวร้ายจนไม่อาจให้อภัยได้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
ถังเฉาไม่เข้าใจ
นี่คือตระกูลหลวงแหล่งที่อยู่ของผู้บ้าการแพทย์?
สายตาของถังเฉาเย็นชา ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ละก็ เขาก็ไม่ถือสาที่จะปรับปรุงแก้ไขแทนผู้บ้าการแพทย์สักหน่อย
“หืม?”
มองเห็นการกระทำของถังเฉา เจียงเทียนโหย่วก็ขมวดคิ้ว สายตาสาดประกายคมปลาบ จ้องถังเฉาเขม็งพลางเอ่ยว่า “แกคิดจะทำอะไร? คงไม่ได้คิดที่จะถอนวิชาเข็มของฉันหรอกนะ?”
พอคำนี้ลั่นออกมา ใบหน้าของบรรดาเหล่าผู้อ่อนอาวุโสคนอื่น ๆ ของตระกูลเจียงก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นอกจากนี้แล้วยังมีความเยาะหยันอย่างล้ำลึกอยู่ด้วย
ในสายตาของพวกเขา ถังเฉาไม่มีทางแก้ตำแหน่งฝังเข็มของเจียงเค่อเอ๋อร์ที่ถูกเข็มเงินทำให้ชาได้โดยสิ้นเชิง
นี่ก็เป็นเหมือนกับการประลองฝีมือของผู้แข็งแกร่งสองคน คนหนึ่งผนึกทางเดินของเลือดลมทั้งร่างของเจียงเค่อเอ๋อร์เอาไว้ อีกคนหนึ่งคิดจะแก้มันออก ก็จำเป็นจะต้องมีศักยภาพแข็งแกร่งกว่าคนก่อนหน้า
เพียงแต่น่าเสียดาย นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ประกายเย็นเยียบในดวงตาของถังเฉาวาบผ่าน ยิ้มให้กับเจียงเทียนโหย่วอย่างเย็นชา
“ผมขอลองหน่อยนะ”
เขายิ้มอย่างกระดากอายอยู่บ้างเหมือนกับลูกศิษย์ที่เพิ่งจะเรียนเสร็จเพิ่งจะสอบจบการศึกษามาอย่างไรอย่างนั้น
คนที่รู้จักถังเฉามามากกว่าห้าปีย่อมรู้ว่าเดิมทีเจ้ามังกรไม่มีความสามารถด้านวิชาการแพทย์
วิชาแพทย์ของเขานั้น ถูกคนคนหนึ่งสอนมา
คนคนนั้นก็คือเจียงไป๋เสว่
ปีแรกที่เข้าไปเป็นทหาร ถังเฉาที่เข้าสนามรบเป็นครั้งแรกได้เห็นเพื่อนร่วมรบขาดใจอยู่บนกองเลือดมากับตาตัวเอง เรียกสติกลับมาไม่ได้อยู่เป็นนาน
เขากำลังลืมตา กำลังอ้าปาก แต่ดวงตากลับไม่สามารถมองเห็น ปากไม่สามารถพูดออกมา จมูกไม่สามารถสูดลมหายใจ หูไม่สามารถฟัง… กลิ่นคาวเลือดที่รุนแรง รวมถึงความโศกเศร้าอย่างเข้มข้นที่มองเห็นคนตายอยู่ในอ้อมอกกับตาของตัวเองปิดการรับรู้ของเขา ราวกับตัวของเขาได้ตกลงไปในมิติที่ไร้เสียง รอบด้านมีเพียงความมืดมิด ในโลกนี้เหลือเพียงถังเฉาอยู่แค่คนเดียว
พอดีกับที่เจียงไป๋เสว่รักษาคนคนหนึ่งหาย
ดังนั้นเขาเอ่ยกับเจียงไป๋เสว่ว่า “นี่… สอนวิชาแพทย์ให้ผมหน่อยสิ?”
“ข้อแรก ฉันไม่ได้ชื่อนี่ ฉันชื่อเจียงไป๋เสว่”
“ข้อสอง การช่วยชีวิตคนเป็นงานของฉัน คุณจะเรียนไปทำอะไร?”
“ผมไม่อยากเห็นคนตายไปอีกแล้ว”
ดังนั้น… เจียงไป๋เสว่จึงสอนวิชาแพทย์ให้กับถังเฉา
ในตอนแรก เดิมทีเจียงไป๋เสว่ทำตามนิสัยลวก ๆ สอนเรื่อยเปื่อยไปนิด ๆ หน่อย ๆ ฆ่าเวลา
แต่เธอก็ค่อย ๆ ค้นพบว่าถังเฉาเรียนได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างมาก แม้แต่วิธีการใช้เข็มเงินก็เรียนจนใช้เป็นแล้ว
ดังนั้นเจียงไป๋เสว่จึงถ่ายทอดทุกอย่างจนหมดเปลือก ถังเฉาเรียนจบแล้ว แต่ก็ยังมีระยะความต่างจากเจียงไป๋เสว่อยู่
ตอนนี้กลับมาเมืองใหญ่ ถังเฉาไม่ได้แตะต้องวิชาแพทย์มานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าได้เกียจคร้านการฝึกฝนไปบ้างหรือไม่
“คิดจะแก้เข็มเงินของพี่เทียนโหย่ว เป็นความเพ้อฝันของคนโง่จริง ๆ”
“ใช่ จะแก้ไขเข็มเงินของพี่เทียนโหย่วได้ ทักษะทางด้านการแพทย์ก็จะต้องสูงกว่าพี่เทียนโหย่ว นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
“ขอแนะนำว่าแกอย่าทดลองทำตามอำเภอใจดีกว่า เข็มนี้มีเพียงพี่เทียนโหย่วเท่านั้นที่จะแก้ได้ ถ้าหากดึงออกอย่างเลินเล่อ ตำแหน่งฝังเข็มของเธอก็จะพังและตายไป”
ได้ยินคำพูดของถังเฉาแล้ว คนในตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงก็ทยอยส่งเสียงเยาะหยัน บนใบหน้ามีรอยยิ้มเย็นชา
ถังเฉาเช็ดเข็มเงินพลางเดินไปทางเจียงเค่อเอ๋อร์ราวกับไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น
“ได้สิ ถ้ามีความสามารถก็ไปแก้เข็มเงินของฉัน”
มองดูฉากนี้ เจียงเทียนโหย่วก็ผุดรอยยิ้มเฉยเมยออกมา
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าถังเฉาจะสามารถแก้เข็มของเขาได้ ทดลองดูอย่างลวก ๆ ทำได้เพียงทำลายเจียงเค่อเอ๋อร์เท่านั้น
“ฮือ ๆ ๆ…”
เจียงเค่อเอ๋อร์เองก็ส่ายศีรษะไม่หยุด สายตาหวาดกลัว
ในระหว่างตำแหน่งฝังเข็มถูกเข็มเงินแทง เธอไม่สามารถพูดได้ ทำได้เพียงส่งเสียงครวญครางอย่างต่อเนื่อง
เห็นได้ชัดว่าเธอเองก็รู้ว่ามีเพียงตัวของเจียงเทียนโหย่วเองเท่านั้นที่สามารถแก้ได้ ถ้าถังเฉาบุ่มบ่ามแก้ เธอก็จะถูกทำลาย
“ให้เขาแก้”
เจียงไป๋เสว่เอ่ยขึ้นอย่างฉับพลัน ดวงตาทั้งคู่มองเจียงเค่อเอ๋อร์อย่างราบเรียบ เอ่ยขึ้น
ไม่รู้ว่าทำไม เพิ่งจะสิ้นเสียงของเจียงไป๋เสว่ ความหวาดกลัวที่เดิมอยู่ในใจของเจียงเค่อเอ๋อร์ก็หายไปจนหมด
ตอนนี้ถังเฉามาถึงข้างกายเธอแล้ว เข้ามาดูใกล้ ๆ
เข็มเล่มหนึ่งไม่เอนไปทางทิศใดทิศหนึ่ง แทงอยู่ที่ตำแหน่งติดกับกระดูกซี่โครงของเจียงเค่อเอ๋อร์
ตำแหน่งของเข็มนี้อยู่ตรงกลางระหว่างร่างกายท่อนบนกับท่อนล่างพอดี แทงเข้ามาตรงนี้ ไม่ใช่ทำให้ท่อนบนชา แต่เป็นท่อนล่างชา
ดังนั้นถังเฉาจึงตบเข้าไปที่แผ่นหลังของเจียงเค่อเอ๋อร์ตรง ๆ
ฟึ่บ!
ตบไปเบา ๆ หนึ่งครั้ง เข็มเงินที่อยู่บนสันหลังของเธอกลับปลิวออกไปทันที
ราวกับใส่สปริง เข็มเงินเล่มนั้นที่อยู่บนซี่โครงของเธอปลิวออกไป
ผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงที่ยืนอยู่ที่นั่นก้มศีรษะอย่างตกใจทันที เข็มเงินเฉียดผ่านหนังศีรษะของเขาไป
ชั่วพริบตานี้เขาห่างไกลจากความตายเพียงศูนย์จุดศูนย์หนึ่งวินาที
ในชั่วพริบตาที่เข็มเงินกระเด็นออกมานั้น เจียงเค่อเอ๋อร์ที่เดิมร่างกายแข็งทื่อก็โซซัดโซเซในทันที ถอยไปข้างหลังสองก้าว จากนั้นก็ล้มลงไปนั่งบนพื้นดังตุ้บ
เธอขยับสองขาที่อยู่ท่อนล่าง นอกจากการไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ
“แก้… แก้ได้แล้ว?”
เจียงเค่อเอ๋อร์พูดพึมพำกับตัวเอง ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“นี่… นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
นอกจากที่เจียงเค่อเอ๋อร์ตกตะลึงแล้ว เจียงเทียนโหย่วกับผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงคนอื่น ๆ ก็มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความช็อก
สีหน้านั้นเหมือนกับเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
มีเพียงเจียงไป๋เสว่ที่ยืนอยู่ที่เดิม บนใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเย็นชา
เธอรู้ว่าการทดลองของถังเฉายังไม่จบ
ถังเฉาซาบซึ้งอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ชักเข็มออกมาเล่มหนึ่ง งอนิ้วแล้วดีดออกไป
ฟึ่บ!
เข็มเงินกลายเป็นแสงสีเงินยวงละลานตา เฉียดไปทางเจียงเทียนโหย่วอย่างรุนแรง
“พี่เทียนโหย่ว ระวัง!”
ทุกคนล้วนแต่มองเห็นแสงสีเงิน เบิกตาโตมาก
ความเร็วของแสงสีเงินนั้นราวกับสายฟ้าแลบ ยิ่งนำพากลิ่นอายที่โหดร้ายรุนแรงมาด้วย พุ่งไปทางเจียงเทียนโหย่ว
สีหน้าของเจียงเทียนโหย่วเองก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว หลบไปอยู่ด้านหลังเสาด้วยปฏิกิริยาตอบโต้
ตึง!
เข็มเงินจมเข้าไปอยู่ในเสาไม้ครึ่งฟุต ราวกับถูกใครใช้อิฐทุบเข้าไปทีละนิด ๆ
“นี่… นี่…”
ฉากนี้สั่นสะเทือนเข้าไปในหัวใจของทุกคนอย่างลึกล้ำ พวกเขาเบิกตากว้างอ้าปากค้าง พอตั้งสติได้ก็ผงะถอยกันไปหนึ่งก้าว
สะบัดไปส่ง ๆ เข็มเงินก็จมไปครึ่ง
ศักยภาพที่ถังเฉาแสดงออกมาทั้งหมดดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งกว่าเจียงเทียนโหย่ว!
ทั้งตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงในตอนนี้เงียบสงัดราวกับตาย ทุกคนล้วนแต่มองถังเฉาราวกับเห็นผี
“แก… แกเป็นใครกันแน่?”
เจียงเทียนโหย่วออกมาจากหลังเสาอย่างงก ๆ เงิ่น ๆ มองถังเฉาอย่างไม่อยากจะเชื่อ สีหน้าขาวซีด
คนประเภทนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในเยี่ยนจิงได้โดยที่ไม่เป็นที่รู้จัก
ถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวง แต่ก็สามารถเรียกได้ว่าเป็นห้าอันดับแรก
นาทีนี้ ในที่สุดเจียงเทียนโหย่วก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดัน
เจียงไป๋เสว่พาผู้ชายคนนี้มาตระกูลเจียง พูดไม่ได้ว่าไม่ได้เตรียมการอะไรมาเลย
เข็มเล่มนั้นถูกเจียงเทียนโหย่วหลบพ้น ถังเฉาก็ไม่ได้หมดกำลังใจ เพียงแค่หัวเราะเบา ๆ
“ผมหรือ? นับว่าเป็นลูกศิษย์ของเธอได้มั้ง”
เขาชี้ไปที่เจียงไป๋เสว่ที่ยืนอยู่ที่ประตูบ้านตระกูลเจียงพลางเอ่ยขึ้น
บึ้ม!
พอคำพูดนี้ดังออกมา ทั้งตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงก็เงียบสงัด ทุกคนล้วนเอ๋อรับประทาน
รวมถึงเจียงเทียนโหย่วที่ลืมตากว้างอ้าปากค้างมองถังเฉากับเจียงไป๋เสว่
ก่อนหน้านี้ทุกคนล้วนแต่คิดว่าถังเฉาคือผู้ชายป่าเถื่อนที่เจียงไป๋เสว่หามาจากข้างนอก
นึกไม่ถึงว่าจะเป็นลูกศิษย์ของเธอ
ศักยภาพของลูกศิษย์ของเธอแข็งแกร่งขนาดนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอที่เป็นอาจารย์เลย
อึก…
ทันใดนั้นเจียงเทียนโหย่วก็กลืนน้ำลายลงไปหนึ่งอึกอย่างรุนแรง ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นกลัว
ที่จริงแล้วในตอนที่ถังเฉาพูดว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของเจียงไป๋เสว่นั้น เจียงไป๋เสว่ก็ทึ่มทื่อไปทั้งร่าง สมองขาวโพลน
เธอมองออกไปด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ สบสายตาที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มกับถังเฉา
เจียงไป๋เสว่เข้าใจเจตนาถังเฉาจากในดวงตาของเขาทันที จึงส่งสายตาซาบซึ้งกลับไป
นั่นเป็นคำพูดที่ถังเฉาพูดขึ้นเพื่อจะสร้างอิทธิพลให้กับเจียงไป๋เสว่ พูดอย่างจริงจัง ถังเฉาก็เป็นลูกศิษย์ของเธอจริง ๆ
เจียงเค่อเอ๋อร์มองถังเฉาอย่างเหม่อลอย มองอย่างเคลิบเคลิ้ม
นึกไม่ถึงว่าคนที่เก่งกาจขนาดนี้จะเป็นลูกศิษย์ของเจียงไป๋เสว่?