เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 753 ปล้นตระกูลหลวง
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ?”
สายตาของถังเฉามองมา พูดด้วยใบหน้าเป็นห่วง
เขาประทับใจเด็กสาวหนึ่งเดียวในตระกูลเจียงที่กล้าพูดความจริงคนนี้มาก
“ฮะ? อ๋อ… ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ!”
ในพริบตาที่สายตาของถังเฉามองมานั้น พอสายตาประสานกัน ใบหน้าของเจียงเค่อเอ๋อร์ก็แดงก่ำทันที กลอกตาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอึดอัดขัดเขิน ขานรับด้วยอาการมือไม้สะเปะสะปะ
เจียงเค่อเอ๋อร์อายุยังน้อย ประมาณยี่สิบปี สวมเสื้อชุดแบบจีนสีขาว มองแล้วสบายตาเป็นอย่างมาก
ถังเฉาพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ให้เธอเข้าไปอยู่ในกลุ่มคน
สำหรับผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงที่อยู่ข้าง ๆ เจียงเค่อเอ๋อร์นั้น ก็ยิ่งทำราวกับเห็นผี พอตั้งสติได้ก็เขยิบห่างจากเจียงเค่อเอ๋อร์ไปหนึ่งก้าว
ถังเฉาเก็บเข็มเงินไป จากนั้นก็ยิ้มเฉยชาให้กับเจียงเทียนโหย่ว
“ตอนนี้ก็รู้แล้วว่าผมเป็นใคร พวกเราควรจะพูดเรื่องสำคัญแล้วใช่ไหม?
เพิ่งจะสิ้นเสียง รอยยิ้มบนใบหน้าของถังเฉาก็ค่อย ๆ หุบลงทีละส่วน เดินก้าวยาว ๆ ไปทางเจียงเทียนโหย่ว
ทันใดนั้นรังสีสังหารที่น่าสะพรึงกลัวก็จู่โจมเข้ามาราวกับกระแสน้ำ
อย่าว่าแต่เจียงเทียนโหย่วที่ถูกถังเฉาจ้องอยู่เลย แม้แต่คนอื่น ๆ ทั้งหลายในตระกูลเจียงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็ล้วนแต่เห็นท่าไม่ดีแล้ว
ร่างกายของถังเฉาดูเหมือนพลังภายนอกจะไม่ได้มีมากมาย แต่พลังที่แข็งแกร่งทำให้พวกเขารู้สึกจิตใจปั่นป่วน
“ระ… เรื่องสำคัญอะไร?”
เจียงเทียนโหย่วพูดทั้งร่างกายสั่น ๆ ถอยหลังไปทีละก้าว ๆ
“คุณถามผมหรือ?”
ถังเฉาหัวเราะออกมา หัวเราะได้เยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง “ดูเหมือนผมจะต้องเตือนสติคุณสักหน่อยนะ”
บึ้ม!
เพิ่งจะสิ้นเสียง ถังเฉาก็ลงมืออย่างรวดเร็วและรุนแรง แขนเป็นเหมือนมังกรที่ออกจากถ้ำ คว้าเข้าไปที่ลำคอของเจียงเทียนโหย่ว
ออกแรงยกเขาขึ้นมาอย่างทื่อ ๆ
“อ๊ากกก!”
ฉากนี้สั่นสะเทือนอยู่ภายในใจของบรรดาผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงเหล่านั้น พอพวกเขาตั้งสติได้ก็ร้องขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก ภายในใจของทุกคนล้วนแต่หวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง
ทว่าถังเฉาไม่ได้รับอิทธิพลที่ส่งมาจากภายนอกเลยแม้แต่น้อย ดวงตาทั้งคู่ของเขามีเพียงเจียงเทียนโหย่วคนเดียวเท่านั้น
“ตอนนี้นึกออกหรือยังล่ะ?”
รอยยิ้มของถังเฉาเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง มือที่คว้าคอของเขาเอาไว้ออกแรงน้อย ๆ ที่ลำคอก็ส่งเสียงสั่นสะเทือนของกระดูกดังกร๊อบ
นาทีนี้เจียงเทียนโหย่วได้กลิ่นความตายที่น่าหวาดผวา ขาทั้งคู่ของเขาเตะสะเปะสะปะอย่างรุนแรง
ถังเฉาโยนเขาลงไปบนพื้นตรง ๆ เจียงเทียนโหย่วหวาดกลัวจนถึงขีดสุด ไม่มีท่าทางวิจารณ์ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว พอคิดจะหนี เท้าใหญ่ ๆ ข้างหนึ่งก็เหยียบลงมาบนหน้าอกของเขา
ถังเฉากดสายตามองเขาจากมุมสูง สายตาเย็นยะเยือกอย่างถึงที่สุด “ทำไมถึงให้คนไปขุดสุสานที่ภูเขาเป่า?”
เจียงไป๋เสว่เองก็เดินเข้ามามองเขาอย่างเยือกเย็น
เท้าของถังเฉากดจนเขาหายใจไม่ออก เสียงของเจียงเทียนโหย่วเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน
“พวกเราตระกูลเจียงไม่ชอบเธอ เป็นเจียงสือเหนียนที่เสนอจะเอาผู้หญิงคนนี้กลับมาเอง!”
“เรื่องที่พวกเราทำเพียงแค่อยากจะไล่เธอออกไปก็เท่านั้น อีกอย่าง พวกเราก็ไม่ยอมรับว่ามีตรงไหนที่ทำผิดไป”
“ระหว่างคนกับคนมันมีความต่างของฐานะมาโดยตลอด นี่เป็นความทะนงของพวกเราที่เป็นตระกูลหลวง!”
แม้ว่าจะโดนถังเฉาเหยียบอกอยู่ เจียงเทียนโหย่วก็ยังคงพูดคำพูดเช่นนี้
ประโยคสุดท้ายทำให้สายตาของถังเฉากับเจียงไป๋เสว่เข้มครึ้มในทันที ก้นบึ้งของหัวใจถูกเติมเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
โดยเฉพาะเจียงไป๋เสว่ สำหรับเธอแล้วการจะกลับมาตระกูลเจียงหรือไม่ เธอล้วนแต่ไม่สนใจ แต่เพราะเหตุนี้ได้เกี่ยวข้องไปถึงสุสานมารดาของเธอ เธอไม่มีทางที่จะทนรับได้
ถังเฉาเพิ่มแรงขึ้นไปอีกตรง ๆ เหยียบจนเจียงเทียนโหย่วหายใจไม่ออก เขารู้สึกว่ากระดูกหน้าอกของตนเองใกล้จะแตกหักแล้ว
“อย่างนั้นหรือ ถ้าหากว่าพวกคุณอย่างไรก็จะตัดสินคนจากชาติกำเนิด ถ้าอย่างนั้นผมก็จะบอกมาตรฐานการเปรียบเทียบของผมหน่อยแล้วกัน”
ถังเฉายิ้มอย่างโหดเหี้ยม เอ่ยว่า “หมัดอยู่ที่ผม มีเพียงหมัดเท่านั้น ในสายตาของผม คุณมันก็เป็นแค่หมูที่ต่ำต้อย เชื่อหรือไม่ตอนนี้ผมจะเหยียบคุณให้ตายในทีเดียว แล้วก็จะไม่เป็นเรื่องด้วย?”
ว่าแล้วถังเฉาก็เพิ่มแรงต่อไปอีก กระดูกหน้าอกของเจียงเทียนโหย่วถูกเหยียบจนส่งเสียงดังกร๊อบ
“อ๊ากกก…”
ทั้งในบ้านใหญ่ตระกูลเจียงกำลังส่งเสียงสะท้อนเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมานที่น่าหวาดกลัวของเจียงเทียนโหย่ว
ตุ้บ!
ทันใดนั้น คนคนหนึ่งก็คุกเข่าให้กับถังเฉา
เป็นเจียงเค่อเอ๋อร์ เธอเอ่ยขอร้องทั้งน้ำตาว่า “ท่านผู้มีพระคุณ คุณปล่อยพี่เทียนโหย่วไปเถอะนะ ฆ่าเขาไปไม่เพียงแต่ครอบครัวของเขาที่จะต้องโศกเศร้าเสียใจ คุณเองก็จะเจอเรื่องยุ่งยากอีกด้วย”
ถังเฉานิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อน เอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็นชาว่า “เรื่องยุ่งยาก? ผมบอกแล้ว ต่อให้ผมฆ่าเขาไป ก็จะไม่มีเรื่องใด ๆ แม้แต่น้อย”
คำพูดนี้ถังเฉาพูดได้อย่างมั่นใจในตัวเองสุดขีด ทุกคนล้วนแต่ไร้วิญญาณ หรือว่า… ถังเฉาจะเป็นคนใหญ่คนโตที่มีฐานะสูงศักดิ์จริง ๆ?
เจียงเทียนโหย่วตกใจจนโรคหัวใจจะกำเริบ
ฐานะของตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงของพวกเขาก็สูงศักดิ์แล้ว นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะไม่หวาดกลัวตระกูลเจียงแห่งตระกูลหลวงเลยสักนิด
“ถังเฉา! ปล่อยเขาไป!”
เจียงไป๋เสว่ออกเสียงตะโกนใส่ถังเฉาทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงไป๋เสว่เรียกชื่อของถังเฉาออกมา พอได้ยินชื่อนี้ คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็สติหลุดทันที
รูม่านตาของเจียงเทียนโหย่วหดอย่างรวดเร็ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ถังเฉา? ถังเฉาของตระกูลหลินคนนั้น สามีของหลินชิงเสว่? นึกไม่ถึงว่าจะรู้จักกับเจียงไป๋เสว่?”
ในตอนนี้ทุกคนล้วนแต่มีสีหน้าไร้จิตวิญญาณ รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ตอนแรกถังเฉารู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง เพราะในภาพจำของเขา เจียงไป๋เสว่ไม่ใช่คนที่ใจอ่อนประเภทนั้น
แต่พอเห็นความเด็ดเดี่ยวมั่นคงในสายตาของเธอ เขาก็เข้าใจได้ทั้งหมด จึงปล่อยเจียงเทียนโหย่วไป
“แค่ก ๆ ๆ!”
ชั่วพริบตาที่ปล่อยไปนั้น เจียงเทียนโหย่วก็ไอโขลกอย่างรุนแรงทันที
เมื่อกี้เขาคิดว่าตัวเองจะตายแล้วจริง ๆ
ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของเจียงไป๋เสว่ เจียงเทียนโหย่วก็ยิ้มเยือกเย็นขึ้นมา “เจียงไป๋เสว่ นึกไม่ถึงว่าเธอจะไปหาคนของตระกูลหลินมาช่วยเหลือเธอ แต่ว่ามันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอกนะ ยังไงก็ปิดบังความจริงที่เธอเป็นคนต่ำช้าของตระกูลเจียงไปไม่ได้”
“ฉันจะบอกเธอให้นะ ถ้าหากว่าเธอกล้าลงมือกับฉัน เธอก็จะไม่มีวันได้มาเหยียบตระกูลเจียงอีกแม้แต่ครึ่งก้าว!”
เพี๊ยะ!
เพิ่งจะสิ้นเสียงของเจียงเทียนโหย่ว เจียงไป๋เสว่ก็ตบเข้าไปที่ใบหน้าของเขาอย่างโหดร้ายทีหนึ่งทันที
ตบจนเขาล้มลงไปบนพื้นตรง ๆ ครึ่งใบหน้าเต็มไปด้วยรอยเลือดฝาด และยังมีฟันหลายซี่ที่ร่วงออกมา
มองดูฟันที่หักเหล่านี้ สีหน้าของเจียงเทียนโหย่วก็บิดเบี้ยวอย่างถึงที่สุด
“หญิงชั่ว เธอกล้าตบฉัน…”
เจียงเทียนโหย่วกำลังจะลุกขึ้นมา แต่ในชั่วพริบตาที่เขาเพิ่งจะลุกขึ้นมานั้นเขาก็ไม่กล้าขยับอีก
เพราะว่าเพราะปากกระบอกปืนดำมะเมื่อมกำลังแนบชิดอยู่บนหน้าผากของเจียงเทียนโหย่ว
ปืน
เจียงไป๋เสว่ควักปืนออกมา แนบอยู่บนหน้าผากของเจียงเทียนโหย่ว สีหน้าเย็นชา
“ฉันให้ถังเฉาไม่ฆ่าพี่ เพราะว่าการปล่อยพี่เอาไว้ยังมีประโยชน์อยู่ ฉันพูดแล้วว่าให้ทุกคนในตระกูลเจียงไปสารภาพบาปหน้าสุสานแม่ของฉันภายในวันนี้! ไม่ว่าใครก็ไม่เป็นข้อยกเว้น!”
“ใครกล้าหนี ฆ่าไม่เลี้ยง!”
เสียงเย็นชาของเจียงไป๋เสว่ดังกังวาน
เพื่อพิสูจน์ว่าเธอพูดจริงทำจริง เธอถือปืนขึ้นมาเหนี่ยวไกขึ้นไปบนฟ้า
ปัง!
เสียงปืนหนึ่งนัดดังสนั่นหวั่นไหว ด้านบนของซื่อเหอย่วนตระกูลเจียงตลบอบอวลไปด้วยเขม่าควันปืนหนา ๆ!
ตุ้บ!
ตุ้บ!
ตุ้บ!
ได้ยินเสียงปืนจริง ๆ แล้วเหล่าบรรดาผู้อ่อนอาวุโสของตระกูลเจียงที่ขี้ขลาดตาขาวก็ร่วงลงไปอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย
จนกระทั่งนาทีนี้ ในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้าใจว่า ที่จริงแล้วพวกเขาไปยุแหย่ผู้หญิงแบบไหนเอาไว้
“ตอนนี้โทรไปหาผู้ปกครองของพวกนาย ให้พวกเขารีบมาที่นี่”
ถังเฉาหัวเราะหึหึพลางเอ่ยขึ้น