เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 762 ศิลาทดสอบทองคำ
คลุม!
พสุธาสั่นคลอน ภูเขาสั่นไหว ประหนึ่งแผ่นดินไหว
คานบ้านซื่อเหอย่วนกระเพื่อมอย่างรุนแรง เศษฝุ่นมากมายจุติลงมา
คนทั้งตระกูลเจียงพากันวิ่งหนีออกไปนอกบ้านด้วยสีหน้าหวาดกลัว หวั่นใจเหลือเกินว่านาทีต่อมาบ้านจะถล่ม
ซื่อเหอย่วนของตระกูลเจียงมีอายุแล้ว โครงสร้างประกอบด้วยอิฐปูนตั้งแต่ศตวรรษก่อน ต่อให้บำรุงรักษาใหม่ฐานรากก็ไม่เปลี่ยน—-แบบนั้นจึงจะให้บรรยากาศคร่ำครึมีประวัติ และถูกบันทึกลงคลังสมบัติวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์
โชคดีที่กำแพงและหลังคาไหวติงไปไม่กี่ทีก็หยุดนิ่ง
ฝุ่นผงกระจายไปทั่ว เละเทะสุดๆ
ผู้คนมากมายถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ยังมองเจียงไป๋เสว่ด้านบนด้วยสายตาเหลือเชื่อ หน้าตาอย่างกับโดนผีหลอก
ไม่ใช่แค่พวกเขา แม้แต่กู่ชิงแห่งสมาคมการต่อสู้ยังตาโตอ้าปากค้าง มองเธอด้วยสีหน้าตะลึง
เหงื่อเม็ดเท่าถั่วไหลลงมาตามหน้าผาก แรงกดดันทวีคูณ
เมื่อกี้….เจียงไป๋เสว่ทำให้บ้านเรือนสะเทือนแบบนั้นได้ยังไง
ทุกคนพยายามนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อกี้
เจียงไป๋เสว่ถอดเสื้อนวมฝ้ายชั้นหนาออก สวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวตัวบางไว้ข้างใน
แขนเสื้อกว้างนั้นร่ายรำ ประหนึ่งเป็นเงาของหญิงสาวนักเต้นที่กำลังเริงระบำด้วยหุ่นเพรียวบาง จากนั้นมีผ้าขาวยาวหลายเมตรพุ่งออกมาจากแขนเสื้อ
ลูบผ่านเบาๆ ก็เกือบทำลายซื่อเหอย่วนของตระกูลเจียงลง?
“นี่มัน…..ฉันไม่ได้ตาฝาดไปใช่มั้ย?”
มีคนส่งเสียงอย่างไม่อยากจะเชื่อ หน้าตาสะเทือนขวัญ
เจียงหนานซาน เจียงหลงเจ๋อ เจียงเทียนโหย่วลูกตาแทบถลนออกมา
เห็นชัดๆว่าเป็นเพียงผ้าขาวบางๆ เหตุใดถึงแข็งดั่งเหล็กกล้าล่ะ?
นี่มัน เรื่องอะไรกันแน่?
เจียงไป๋เสว่ในตอนนี้ ยืนตระหง่านอยู่ด้านบนของศาลา พระจันทร์ลอยอยู่เหนือหัว
แสงจันทร์สาดกระทบ ยืดเงาของเธอออกไปอย่างไม่จำกัด ประหนึ่งไข่มุกที่ถูกละไว้ในโลก แม้จะจมโคลน หากแต่ไม่ปนเปื้อน
ใต้ร่างของเธอ ล้วนเป็นสมาชิกของสมาคมการต่อสู้ที่ลงมือกับเธอ แต่ละคนล้มอยู่ที่พื้นส่งเสียงครวญครางไม่หยุด จนเสียงร้องทุกข์ทรมานดังระงมไปทั่ว
ผ่านไปเนิ่นนาน ถึงฝืนลุกขึ้นยืนได้ และเงยหน้ามองร่างของเจียงไป๋เสว่
มีความตื่นกลัวเพิ่มมาในแววตา
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ผู้แข็งแรงมักเป็นที่ยำเกรง
โดยเฉพาะในสมาคมการต่อสู้ก็ยิ่งเป็นแบบนั้น ใครแข็งแกร่งคนนั้นเป็นใหญ่
และในขณะนี้ พลังที่เจียงไป๋เสว่แสดงให้เห็นเพียงพอที่จะให้ทุกคนยำเกรง
สมาชิกทั้งหมดของสมาคมการต่อสู้ลงมือพร้อมกัน แถมยังพกอาวุธด้วย ทว่าไม่อาจทำร้ายเจียงไป๋เสว่ได้แม้แต่ปลายเล็บ
นอกจากจะทำอะไรเธอไม่ได้แล้ว ยังถูกเจียงไป๋เสว่ล้มได้ในคราเดียวด้วยการสะบัดแขน
กึ้ดกึ้ด!
กู่ชิงกัดฟันแน่นจนส่งเสียงดัง สีหน้าเขียวปี๋ เส้นเลือดบนหน้าผากกระตุกไปมาอย่างกับงูตัวเล็กๆ
หลังจากผ่านคืนนี้ไป!
ชื่อเสียงของสมาคมการต่อสู้ของเขาจะต้องเสียหายมากอย่างแน่นอน!
สิบกว่าคนมือถืออาวุธ จัดการผู้หญิงคนเดียวเป็นเรื่องที่ง่ายต่อการโดนวิจารณ์อยู่แล้ว!
สู้ชนะเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว หากแพ้จะกลายเป็นที่อัปยศ!
นี่เป็นการต่อสู้ที่ทำเอาโทสะในใจเขาเดือดดาล กลับกลายเป็นว่าพ่ายแพ้งั้นรึ?
พ่ายแพ้อย่างย่อยยับ!
“พวกขยะ! ไร้ประโยชน์!”
กู่ชิงสูดหายใจเข้าลึก พยายามข่มเพลิงโทสะในใจ
“ไม่ต้องไปด่าคนอื่นว่าเป็นขยะ คนไร้ประโยชน์หรอก ผมว่าต่อให้คุณลุยเอง ก็ใช่ว่าจะได้เปรียบ”
เสียงเรียบๆดังเข้ามา ยิ่งกลายเป็นราดน้ำมันเข้ากองไฟ สะกิดต่อมโมโหของกู่ชิงที่เขาอุตส่าห์ข่มไว้ได้ขึ้นมาอีก
เขาหรี่ตาลงด้วยท่าทางอันตราย หันมองถังเฉาที่นั่งอยู่ในศาลาด้วยท่าทีเกียจคร้าน “แกว่าอะไรนะ?”
ถังเฉาดับบุหรี่ คลี่ยิ้ม “คุณลุยเองก็ใช่ว่าจะทำได้ดีกว่าลูกน้องของคุณ หรือไม่อาจจะเละยิ่งกว่า”
“แกอยากตายรึ!”
ข้อกังขาเช่นนี้ เป็นธรรมดาที่จะไปกระตุ้นต่อมความโกรธของกู่ชิงเข้า
ลูกน้องทุกคนกู่ชิงต่างมีสายตาเย็นชา
เห็นได้เลยว่า กู่ชิงเป็นที่นับถือขนาดไหนในใจของพวกเขา ห้ามิให้ใครมีข้อกังขาต่อเขาทั้งนั้น
ด้านตระกูลเจียง กลับสูญเสียความโอหังและความมั่นใจก่อนหน้านี้ไป
บางคนถึงกับดูเวลา นี่สี่ทุ่มครึ่งแล้ว
อีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็จะถึงเที่ยงคืน
ความแข็งแกร่งที่เจียงไป๋เสว่แสดงให้เห็นสยดสยองเกินไป เกินความคาดหมายของทุกคน
ยังมีถังเฉาอีกคนที่ยังไม่ได้ลงมือ!
เห็นก่อนหน้านี้ถังเฉาลงมือไปชั่วขณะ เกือบปลิดชีวิตของเจียงหนานซาน
แต่นั่นเป็นการบดขยี้ด้วยพลังที่แท้จริง เขายังไม่ได้ลงมือกับผู้แข็งแกร่งจากสมาคมการต่อสู้เลยสักครั้ง
ตอนนี้เขานั่งอยู่ในศาลาด้วยท่าทางสบายๆ และคอยรับชมการต่อสู้ระหว่างเจียงไป๋เสว่และสมาคมการต่อสู้ ไม่มีใครโง่พอที่จะคิดว่าเขาหลบหลังเจียงไป๋เสว่จริงๆหรอก
เขามองกู่ชิงที่เผยจิตสังหารใส่เขา รอยยิ้มบนใบหน้าถังเฉาเรียบขึ้น “คุณจะลงมือกับผมหรอ?”
ในขณะที่คุยกันอยู่ เขาตวัดสายตามองกู่ชิงเรียบๆเช่นกัน
ฟึ่บ!
การตวัดเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้กู่ชิงหนาวเหน็บประหนึ่งอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง สั่นสะท้านไปถึงวิญญาณ
เขาเบิกตากว้าง มองถังเฉาด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ
พอเพ่งมองไปอีกครั้ง สายตาเมินเฉยต่อชีวิตนั้นได้หายไปแล้ว เขายังคงมองเจียงไป๋เสว่ด้านบนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
กู่ชิงตะลึง ถังเฉาคนนี้มีความสามารถมากมายขนาดไหนกันแน่?
ผู้แข็งแกร่งที่ลุกขึ้นยืนได้ใหม่มองเจียงไป๋เสว่และกัดฟันกรอด โมโหจนแทบควบคุมตัวเองไม่ได้
เจียงไป๋เสว่กวาดสายตามองอย่างนิ่งเฉย
พวกเขามองเห็นความเมินเฉยต่อชีวิตจากสายตาของเธอ—–มีเพียงคนที่เคยปลิดชีพผู้อื่นมาแล้วเป็นพันเป็นหมื่นจึงจะมีสายตาเช่นนี้ได้
ตึ้งตึ้งตึ้ง!
ทันใดนั้น ทุกคนถอยหลังกรูดไปสามก้าวโดยไม่มีใครยกเว้น สีหน้าซีดเผือดราวกระดาษ
ภาพนี้ยิ่งทำให้กู่ชิงโมโหหนักขึ้นไปใหญ่
“ขยะ!”
กู่ชิงคำรามลั่น และกระโจนตัวลงไป
ตู้ม!
พื้นหินเขียวถูกย่ำจนร้าวราน รอยแยกขยายไปทั่ว
พลังรุนแรงขนาดนี้ ผู้คนในตระกูลเจียงเห็นแล้วต้องสูดหายใจเข้าลึก พร้อมตาที่เบิกกว้าง
“ถอยไปให้หมด”
กู่ชิงเอ่ยเรียบๆ น้ำเสียงไร้ซึ่งความรู้สึก
“หัวหน้า ท่านจะลงมือเองหรือครับ?”
ลูกน้องทุกคนตะลึงกันหมด พร้อมส่งเสียงถาม
กู่ชิงไม่ตอบ เพียงแต่ก้าวไปหาถังเฉาด้วยสายตาเย็นชา
เขาไม่ชอบพูด และยิ่งไม่ชอบพูดกับคนตาย
ตึง! ตึง! ตึง!
พื้นของซื่อเหอย่วนโดนกู่ชิงย่ำจนผุพังไปหมด
ทุกก้าวที่กู่ชิงย่ำลงไป เขาอัดแรงลงไปเต็มที่ จนกระทั่งพื้นดินสั่นไหวเบาๆ
บรรดาผู้คนตระกูลเจียงที่นำโดยเจียงหนานซานสะท้านอยู่ในทรวงอก
“สมกับเป็นหัวหน้าของสมาคมการต่อสู้ เผยพลังเพียงนิดเดียวก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ไร้ซึ่งศัตรู”
“หัวหน้ากู่ลงมือเอง หญิงโฉดชายชั่วคู่นี้ตายแน่!”
“เทพเซียนก็ช่วยพวกเขาไม่ได้”
“…….”
สายตาของพวกเจียงเทียนโหย่วต่างฉายแววตื่นเต้น
เจียงเค่อเอ๋อร์กลับหน้าตาเป็นกังวล ไม่รู้ว่าเจียงไป๋เสว่และถังเฉาจะเอาชีวิตรอดจากเงื้อมมือของหัวหน้ากู่ได้หรือไม่
ทว่า เดินไปได้ไม่กี่ก้าวกู่ชิงกลับชะงักฝีเท้า สายตาจ้องอีกฝ่ายอย่างอึมครึม
และก็ได้เห็นว่าระหว่างเขาและถังเฉา มีหญิงสาวในชุดขาวเพิ่มมาหนึ่งคน
พระจันทร์ลอยสูง แสงเย็นๆสาดส่อง
เจียงไป๋เสว่เดินออกมาจากมุมหลืบช้าๆ เธอสะบัดแขน สายตาเย็นยะเยือกถึงขีดสุด
“จะฆ่าเขา ฆ่าศพฉันไปก่อน”
ถังเฉากลับค่อยๆลุกขึ้น มองเธอด้วยสีหน้าเรียบนิ่งและกล่าวขึ้น “ไป๋เสว่ ศิลาทดสอบทองคำที่ช่วยให้เธอทะลุขีดจำกัดได้ มาแล้ว”