เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 798 โดดเดี่ยวตัวคนเดียว
สร้างกองทัพปราณมังกรขึ้นมาใหม่
หลังจากที่ได้ยินประโยคนี้ ไม่ว่าจะเป็นหลงไป่ชวนหรือว่าเจียงไป๋เสว่ก็ล้วนแต่เปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อย
เป้าหมายของเยี่ยนซื่อเฉิงเหมือนกับที่ถังเฉาคาดเอาไว้โดยสิ้นเชิง
ใช้ไม่อ่อนไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้แข็ง
ในเมื่อกลับเข้ากองทัพปราณมังกรไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็สร้างกองทัพปราณมังกรขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง
ท่านเจ้ามังกรกับเจียงไป๋เสว่สัมผัสได้ถึงวิกฤตการณ์ที่เข้มข้นได้อย่างฉับพลัน
เดิมทีพวกเขารู้สึกมาตลอดว่าหว่างเหลี่ยงห่างจากพวกเขาอยู่มาก ของเพียงพวกเขากล้ามา ก็ไม่ยอมให้พวกเขาจากไปเป็น ๆ
แต่จนกระทั่งพวกเขาแทรกซึมเข้ามาในต้าเซี่ยจริง ๆ แล้ว ก็สายไปแล้ว
ถ้าหากไม่ใช่ว่าถังเฉาใช้การตายของตัวเองมาเป็นเหยื่อล่อ ดึงให้พวกเขาติดกับ ทั้งสองฝ่ายก็จะยืนกรานไม่ยอมอ่อนข้อต่อกันต่อไป
ตอนนี้พวกเขามีพื้นฐานอยู่ในใจแล้ว ดังนั้นหลังจากที่เยี่ยนซื่อเฉิงพูดจุดประสงค์ของตัวเองออกมาแล้ว ปฏิกิริยาของพวกเขาจึงไม่ได้ยิ่งใหญ่มาก
ถึงแม้ว่าเยี่ยนซื่อเฉิงจะเปลี่ยนหน้าไปแล้ว แต่ว่าอวัยวะบนใบหน้าล้วนแต่อยู่ในสภาพดี ที่เขามองเห็นไม่ว่าจะเป็นเจียงไป๋เสว่หรือท่านเจ้ามังกรก็ล้วนแต่มีใบหน้าราบเรียบ
ในตอนนี้ก็ได้หรี่ตาลงน้อย ๆ เอ่ยอย่างมีนัยว่า “ท่านเจ้ามังกร เจียงไป๋เสว่ พวกคุณดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลยสักนิดเลยนะ?”
ท่านเจ้ามังกรร้องเฮอะเสียงเย็น “เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม พูดจาอวดดี จิตวิญญาณของมังกรต้าเซี่ยไม่ตาย ธงของกองทัพปราณมังกรไม่โค่น แค่นายบอกว่าอยากจะทำลายก็สามารถทำลายได้หรืออย่างไรกัน”
พูดมาถึงตรงนี้แล้ว บนร่างของท่านเจ้ามังกรมีกลิ่นอายของความอาจหาญเย้ยปฐพีอย่างล้ำลึก
ไม่ควรโทษที่ท่านเจ้ามังกรมีความมั่นอกมั่นใจเช่นนี้ถ้าหากจะต้องเรียงลำดับหน่วยรบพิเศษของทุก ๆ ประเทศบนโลกแล้วละก็ กองทัพปราณมังกรจะต้องอยู่หน้าสุดอย่างแน่นอน
มีประเทศตั้งมากมายที่อยากจะขุดรากถอนโคนกองทัพปราณมังกร แต่ก็ทำไม่สำเร็จ
แล้วเยี่ยนซื่อเฉิงมีคุณธรรมและความสามารถอย่างไรถึงจะสามารถทำได้สำเร็จ?
เยี่ยนซื่อเฉิงเองก็ไม่โกรธ ยิ้มจาง ๆ “ท่านเจ้ามังกร ท่านควรจะเข้าใจเรื่องหนึ่ง อำนาจที่แข็งแกร่งมาแต่โบราณ แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ถูกตีแตกจากภายนอก แต่เป็น… แตกละเอียดจากภายใน”
ในคำพูดนี้ยังมีคำพูดแฝงอยู่
ในดวงตาของหลงไป่ชวนมีความเข้มครึ้มวาบผ่าน ตะคอกเสียงต่ำ “หมายความว่าอย่างไร?”
เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะหึหึ “เห็นแก่ที่ทำงานร่วมกันมาเมื่อก่อน ผมจะแนะนำพวกคุณด้วยความจริงใจ กองทัพปราณมังกรปกป้องต้าเซี่ยเอาไว้ได้ แต่ปกป้องจิตใจของคนเอาไว้ไม่ได้”
“เมล็ดพันธุ์ของการทรยศได้ถูกปลูกลงไปแล้ว ออกรากเป็นต้นกล้าขึ้นมาเมื่อไหร่ ใครจะไปรู้”
เยี่ยนซื่อเฉิงหันกลับไปมองเจียงไป๋เสว่แวบหนึ่ง ยิ้มอย่างเย็นชา
สายตาของเจียงไป๋เสว่เข้มงวด ไม่รู้ว่าเพราะอะไร การเผชิญหน้ากับเขาทำให้ในใจของเธอปั่นป่วนอย่างถึงขีดสุด และก็ยุ่งวุ่นวายไปถึงขีดสุดเช่นกัน
เป็นพวกเขาไม่พูดไม่จา เยี่ยนซื่อเฉิงก็ยิ้ม ค่อย ๆ ยืนขึ้นมา
“ส่วนเงื่อนไข ผมบอกพวกคุณแล้ว ให้เวลาพวกคุณพิจารณาหนึ่งสัปดาห์ ความเป็นอยู่ของกองทัพปราณมังกรอยู่ในมือของพวกคุณแล้ว”
พูดจบเยี่ยนซื่อเฉิงก็โบกไม้โบกมือ จากไปจากที่นี่อย่างสุขุมเยือกเย็น
หลินรั่วหวีเห็นดังนั้นก็ไม่ได้อยู่ต่อ ตามออกไปจากที่นี่
ทันใดนั้นแรงกดดันในกองทัพปราณมังกรก็ฃดฃงไปไม่น้อย ทุกคนผ่อนลมหายใจเฮือกหนึ่ง เว้นเสียแต่เจียงไป๋เสว่และหลงไป่ชวนที่แรงกดดันในใจเข้มข้นมากขึ้น
เงื่อนไขของค้างคาวนั้นชัดเจน ให้เขาเข้ากองทัพปราณมังกร ไม่เข้าก็จะทำลายกองทัพปราณมังกร แล้วเขาก็จะสร้างกองทัพปราณมังกรขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
พูดได้ง่ายมาก แต่ทำได้ลำบากมาก
ก่อนอื่น กองทัพปราณมังกรเป็นกองทัพที่ลึกลับที่สุดในต้าเซี่ย การมีอยู่มีเพียงความรู้ในระดับสูง ถ้าหากจะทำลายกองทัพปราณมังกร ก็จำเป็นจะต้องผ่านการยอมรับจากพวกเขา
นี่ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่อาศัยเพียงกำลังการต่อสู้แล้วก็จะสามารถจัดการได้
ในเมื่อเยี่ยนซื่อเฉิงกล้าพูดประโยคนี้ นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าเขามีความมั่นใจอย่างมากพอว่าจะทำให้คนเบื้องบนยอมรับได้
ถัดมา ก็คือสิ่งที่เยี่ยนซื่อเฉิงพูดออกมา อำนาจที่ยิ่งใหญ่ สุดท้ายก็ล้วนแต่ถูกทำลายจากภายใน
ประโยคนี้ทำให้คนใส่ใจมาก ใครกันที่สามารถทรยศกองทัพปราณมังกรได้?
“ท่านเจ้ามังกร ไม่ต้องคิดแล้วค่ะ เขาไม่มีความสามารถมากขนาดนั้นหรอกค่ะ”
ในตอนนี้เอง เจียงไป๋เสว่เดินเข้ามาพูดขึ้น
ท่านเจ้ามังกรเงยหน้ามองเธอแวบหนึ่ง กำลังจะพยักหน้า ทันใดนั้นก็เหมือนกับคิดอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าเกิดความเปลี่ยนแปลง มองเธอด้วยสายตาประหลาดใจ
เห็นดังนั้น สีหน้าของเจียงไป๋เสว่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย “ท่านเจ้ามังกร เป็นอะไรหรือคะ?”
สายตาพิจารณาอย่างลึกซึ้งอยู่หลายครั้ง หลงไป่ชวนเก็บสายตากลับไป ทันใดนั้นก็ทอดถอนใจเสียงเบา “ไป๋เสว่ สิ้นปีนี้เธอก็ใกล้จะสามสิบแล้วใช่ไหม?”
“ยี่สิบเก้าค่ะ”
เจียงไป๋เสว่แก้
ผู้หญิงใส่ใจเรื่องอายุมาก เธอเองก็เช่นเดียวกัน
“ควรจะแต่งงานได้แล้ว อย่าลอยชายเช่นนี้อีกเลย”
หลงไป่ชวนเอ่ยอย่างตั้งใจ “ลำบากเกินไป”
“…”
ดูเหมือนเจียงไป๋เสว่จะแสลงกับประเด็นนี้เป็นอย่างมาก เธอปิดปากไม่เอ่ยวาจา เคลื่อนย้ายสายตา
หลงไป่ชวนเอ่ยต่อไปว่า “ถ้าหากปล่อยวางไปไม่ได้ก็ออกไปผ่อนคลายจิตใจสักหน่อย เดินทางท่องเที่ยว อยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่งนับเป็นเรื่องอะไรได้?”
ประโยคนี้รวมถึงการสั่งสอนและความหวังของพ่อคนหนึ่งที่มีต่อลูกสาวอยู่ด้วย
รอคนคนหนึ่งที่ไม่สามารถกลับมาได้ตลอดกาล ไม่คุ้มเลย
“ท่านเจ้ามังกรคะ ฉันรู้ดีค่ะ ท่านอย่าได้ทุกข์ใจเพื่อฉันเลยนะคะ”
เจียงไป๋เสว่ปรากฏรอยยิ้มออกมาอย่างหาได้ยาก เอ่ยอย่างทำเป็นผ่อนคลายว่า “สามสิบเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บางครั้งผ่านไปไม่ได้ บางครั้งไม่ผ่านไป เราต้องมีความสุขในทุก ๆ วัน อยู่อย่างโดดเดี่ยวตัวคนเดียว ไม่มีอะไรที่ร้ายแรงนี่คะ”
ท่านเจ้ามังกรไม่ได้ยิ้ม “ในเมื่อตัดสินใจที่จะอยู่คนเดียวแล้ว ทำไมบางครั้งถึงได้อิจฉาที่ถังเฉามีความสุขสมบูรณ์ล่ะ”
“…”
เจียงไป๋เสว่สีหน้าแข็งทื่อ อ้าปากพะงาบ ๆ แต่กลับไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่ประโยคเดียว
สองมือที่เธอซ่อนเอาไว้ด้านหลัง เล็บฝังเข้าไปในเนื้อ กรีดเป็นเลือดสด ๆ ออกมาก็ยังไม่มีความรู้สึกใด ๆ
เห็นอย่างนั้นแล้วท่านเจ้ามังกรก็ถอนหายใจอย่างล้ำลึกพลางเอ่ยว่า “เธอเคยคิดถึงปัญหาหนึ่งไหม เธอรักหลี่เห้าจริง ๆ หรือ?”
“…”
เจียงไป๋เสว่เงียบไปอีกครั้ง
คำถามนี้เหมือนกับกริชเล่มหนึ่งที่แทงเข้าไปที่หัวใจของเจียงไป๋เสว่โดยตรง ผ่าเอาหัวใจที่หลั่งเลือดอยู่ภายในของเธอออก
“ไป๋เสว่เอ๋ย ฉันไม่ได้เป็นเพียงคนที่นำทางให้เธอ ฉันยังมองเธอเป็นลูกสาวคนหนึ่ง… บนโลกนี้มีพ่อคนไหนบ้างที่ไม่หวังให้ลูกสาวของตัวเองไปหาความสุข? บางครั้ง ‘ธรรมเนียมสตรี’ สี่คำนี้อาจจะทำร้ายเธอได้”
ท่านเจ้ามังกรพูดน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้อน “ไม่ใช่ว่าติดตามใครก็จะเป็นผู้หญิงของคนคนนั้นนะ คนที่รอไปก็ไม่มีวันกลับมาก็ไม่ต้องไปรอแล้ว นั่นไม่ใช่คู่ที่ดีของเธอ”
สายตาของเจียงไป๋เสว่เปลี่ยนเป็นสับสนเป็นอย่างมากในทันที “ท่านเจ้ามังกรคะ ฉันยังมีธุระ ฉันขอตัวก่อน”
พูดจบก็ย่ำรองเท้าส้นสูงหนังหนีไปจากที่นี่ราวกับวิ่งไป
ห้าปีจะว่ายาวก็ยาว จะว่าสั้นก็สั้น
บางคนฝืนทำเป็นยิ้มอย่างร่าเริงอวยพรให้เธอมีความสุข
บางคนล้มลุกคลุกคลานได้รับบาดเจ็บ
และบางคน… มีความรักแต่พูดไม่ได้
ชีวิตมนุษย์ผันผวนดุจกระแสน้ำ
เจียงไป๋เสว่หนีกลับเข้าห้องตัวเองราวกับถูกคนตามฆ่ามาตลอดทาง
ล็อกประตูแน่น พุ่งเข้าไปในห้องน้ำ เปิดฝักบัวแรงสุด
น้ำเย็นที่หนาวเสียดกระดูกรดลงมาบนศีรษะของเธอราวกับน้ำตก สาดซัดเอาเรี่ยวแรงทั้งตัวของเธอออกไป
ร่างกายของเธอนอนขดงออยู่ในอ่างอาบน้ำ ร้องไห้โฮ
ในห้องอาบน้ำที่มืดครึ้ม มีเสียงร้องไห้ และมีเสียงน้ำที่พุ่งออกมาจากฝักบัว
สิ่งที่เรียกว่าความรักนี้ซ่อนไว้ได้แค่ช่วงหนึ่ง แต่ซ่อนตลอดไปไม่ได้
เธอยังต้องหลอกตัวเองอีกหรือ?
เธอยกมือขึ้นมาสั่น ๆ ล้วงรูปหมู่ใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อที่เปียกชื้น
ในรูปหมู่ ทุกคนล้วนยิ้มอย่างมีความสุข
ยกเว้นคนเพียงคนเดียวที่ศีรษะหายไป
แควก…
เจียงไป๋เสว่ฉีกรูปถ่ายที่เปียกชื้นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เธอร้องไห้เสียงแหบเสียงแห้ง
“โฮ… โฮ…”