เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 814 วิญญาณมังกรไม่ดับสูญ
“รุกฆาต”
ภายในสวนสาธารณะของชุมชนสวรรค์จิ่นซิ่ว หนึ่งเฒ่าหนึ่งหนุ่มกำลังเล่นหมากรุกกันอยู่
เดิมทีกระดานหมากรุกนี้มีเรืออยู่ทางซ้าย และปืนใหญ่อยู่ด้านหน้า ในเวลานี้ถังเฉาขยับม้าของเขา กระโดดไปอยู่ตรงหน้าประตูของขุนสีดำ
ดังนั้น จึงกลายเป็นสถานการณ์ที่ถูกฆ่าได้สามทาง
ไม่ว่าจะไปทางไหนก็จะถูกฆ่าตายอยู่ดี
เยี่ยนกั๋วลี่มองอยู่นาน สุดท้ายก็ยอมแพ้และส่ายหัว “นี่เป็นเกมที่ต้องตายเท่านั้น ฉันแพ้แล้ว”
ถังเฉายังคงยิ้มแย้ม พูดพร้อมหัวเราะน้อยๆ “เป็นเกมที่ต้องตาย ทว่าเกมนี้มีทางแก้”
“แก้ยังไงครับ?”
เยี่ยนกั๋วลี่พูดอย่างประหลาดใจ สถานการณ์เช่นนี้ยังมีทางแก้อีกหรอ?
ถังเฉายิ้มและคืนตำแหน่งกระดานหมากรุกให้เหมือนก่อน และวิเคราะห์ไปทีละขั้น “แน่นอนว่าเกมเมื่อกี้ไม่มีทางแก้ ที่ผมบอกว่าแก้ได้คือสถานการณ์แบบนี้”
เยี่ยนกั๋วลี่มองกระดานหมากรุกเกมนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน
สถานการณ์ในตอนนี้สถานการณ์ฝ่ายถังเฉายังคงรุกอย่างน่ากลัว ฝ่ายเยี่ยนกั๋วลี่อยู่ในขั้นตอนป้องกัน
แพ้อย่างราบคาบ เริ่มต้นในเวลานี้แหละ
ถังเฉาพูดด้วยรอยยิ้ม “ถ้าครั้งนี้อาสังเกตสถานการณ์ในตอนนี้ได้ เช่นนั้นการที่แพ้อยู่ฝ่ายเดียวในภายหลังก็จะไม่เกิดขึ้นอีก”
เยี่ยนกั๋วลี่ถึงบางอ้อทันที ตอนที่ถังเฉาเดินหมากนั้น เขาได้ทำความเข้าใจกับสถานการณ์บนกระดานไว้หมดแล้ว
คนย่อมชนะฟ้า ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ขนาดไหน ตราบใดที่ย่างแต่ละก้าวด้วยความระมัดระวังก็ยังมีโอกาสพลิกกลับได้
“อยากเล่นอีกเกมมั้ยครับ?”
ถังเฉาถามยิ้มๆ
เยี่ยนกั๋วลี่ส่ายหัว “ไม่เล่นแล้ว เสี่ยวถังเอ๋ย ฉันดูแล้วอายุแกยังไม่มาก ทำไมถึงเล่นหมากรุกได้เก่งขนาดนี้ล่ะ?”
“ง่ายมากครับ คำนวณก้าวต่อไปของอีกฝ่าย ก็จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ปราบได้ทั้งกระดาน”
ถังเฉากล่าวยิ้มๆ “ไม่ว่าจะเป็นเกมหมากรุกหรือสงคราม ก็สามารถทำความเข้าใจและคำนวณได้”
เยี่ยนกั๋วลี่ไม่ได้พูดอะไร เขาแก่แล้ว ไม่เข้าใจคำพูดแบบนี้หรอก
ถังเฉาบิดขี้เกียจและส่งยิ้มให้เยี่ยนกั๋วลี่ “ไปกันเถอะครับอา ผมจะพาอาไปดูละครชั้นดี”
“ละครชั้นดี? ละครชั้นดีอะไรหรอ?”
เยี่ยนกั๋วลี่สงสัย
“ถึงที่นั่นก็รู้เองครับ”
ถังเฉายิ้มอย่างมีเลศนัย และพาเยี่ยนกั๋วลี่ออกจากชุมชน
ฟิ้วฟิ้วฟิ้ว!
ระหว่างทาง บนท้องฟ้ามีเสียงของดอกไม้ไฟและประทัดดังมาไม่หยุด
มาจากทิศทางของตระกูลเย่ นัยน์ตาของถังเฉาลึกล้ำและดุดันขึ้นมา
เขารู้ว่า งานแต่งงานของตระกูลถังและตระกูลเย่เริ่มแล้วแน่ๆ
ตามประเพณีของเมืองซื่อจิ่ว การแต่งงานต้องให้ฝ่ายชายไปรับฝ่ายหญิง งานแต่งงานที่แท้จริงจะเริ่มขึ้นในเวลากลางคืน
เขามีเวลาทั้งวันไปจัดการกับค้างคาว
……
ขณะเดียวกัน ทิศทางตระกูลหลง
หลังจากหลงไป่ชวนล้างหน้าล้างตาแล้วก็ออกจากบ้าน
เขาต้องไปที่กองทัพปราณมังกร แต่เพิ่งออกจากบ้านเขาก็ชะงักฝีเท้า
หน้าประตูใหญ่ตระกูลหลง มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ประหนึ่งเทวดายืนอยู่
แม้จะอายุล่วงเข้าวัยกลางคนแล้ว แต่วันเวลาไม่ได้ทิ้งร่องรอยบนตัวเขาเลยสักนิด กลับยิ่งดูสง่างามและเข้มข้นด้วยประวัติศาสตร์—-นี่คือชายที่ยิ่งอายุมากยิ่งมีเสน่ห์
หลงไป่ชวนสายตาทื่อไป จ้องหลินรั่วหวีอย่างเอาเป็นเอาตาย
“แกรึ….”
“ผมเองครับ”
หลินรั่วหวีเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเรียบสงบ และเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ท่านเจ้ามังกร ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”
“แกมาทำอะไร?”
หลงไป่ชวนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ทำไม การที่หลินรั่วหวีมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาแบบนี้ทำให้เขาสังหรณ์ใจไม่ดี
“ผมเคารพอาจารย์อาวุโส จึงมาดื่มชาและพูดคุยกับท่านเจ้ามังกร”
หลินรั่วหวีตอบด้วยสีหน้าราบเรียบ
หลงไป่ชวนสีหน้าเย็นเยียบลง “โทษที ฉันรีบ”
พูดจบก็คิดจะจากไป
หลินรั่วหวีกลับขยับตัวมาข้างหน้าหนึ่งก้าว ขวางทางไปของเขาอีกครั้ง
“ท่านเจ้ามังกรอยู่ในวัยที่ปล่อยวางและเพลิดเพลินกับชีวิตตัวเองได้แล้ว ยังมีเรื่องอะไรอีกหรอครับที่ต้องให้ท่านเจ้ามังกรต้องเหนื่อย?”
“……”
หลงไป่ชวนสายตาเย็นยะเยือก เขามองหลินรั่วหวีพลางเอ่ย “แกจะขวางฉันรึ?”
“ผมเจอขีดจำกัดในบูโด อยากขอให้ท่านเจ้ามังกรช่วยชี้แนะด้วยครับ”
หลินรั่วหวียิ้มน้อยๆ พูดกับหลงไป่ชวนด้วยสีหน้าเรียบเฉย
หลงไป่ชวนหน้าตาอึมครึมไม่พูดจา สองผู้แข็งแกร่งเริ่มประจันหน้ากัน ณ บัดนี้
ทั้งคู่เข้าใจดีกว่าหากสู้กัน คงยากจะรู้ผลแพ้ชนะ เพราะฉะนั้นหากเลี่ยงการต่อสู้ได้ก็จะเลี่ยง
…..
ณ ป่าฐานลับ ส่วนเหนือของเมืองซื่อจิ่ว
นาทีนี้ กองทัพปราณมังกรถูกกองทัพหุ่นยนต์ของหว่างเหลียงล้อมไว้หมดแล้ว
ทอดสายตามองไป หุ่นยนต์ยืนเรียงรายกันเต็มเขา เทียบกับจำนวนของกองทัพปราณมังกรแล้วมากกว่าเท่าหนึ่ง
เจียงไป๋เสว่สีหน้าอึมครึม ความกดดันถาโถมเข้ามา
เธอจะดูไม่ออกได้ยังไงว่าความสามารถของหุ่นยนต์เหล่านี้เทียบกับพวกที่เธอเคยเจอมาแล้ว แข็งแกร่งกว่ามาก
หว่างเหลียงในช่วงนี้กำลังดำเนินงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์บางอย่าง ดัดแปลงสงคราม ไม่ให้เป็นร่างเลือดเนื้ออีกต่อไป
ดังนั้น อาวุธสงคราม หุ่นยนต์เกิดขึ้นเพราะการนี้
หากปะทะกันจริงๆ พวกเขาคงจะรับมือด้วยความยากลำบาก
“คิกคิก สุดท้ายก็มาถึงขั้นนี้”
เสียงหญิงสาวหัวเราะใสๆดังมาจากยอดเขา
ด้านหน้าสุดของหว่างเหลียง หญิงสาวผมบลอนด์ตาฟ้าคนหนึ่งในชุดกระโปรงยาวโกธิคตะวันตกปรากฏตัวขึ้นช้าๆ เธอหัวเราะคิกคักด้วยท่าทีอ่อนหวาน มองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกว้าง
“เธอเองรึ!”
เจียงไป๋เสว่สายตาเย็นเยียบ จ้องไวโอเล็ตอย่างเอาเป็นเอาตายพลางเอ่ย
“เจอกันอีกแล้วนะ”
ไวโอเล็ตอารมณ์ดีมาก ถึงขั้นมีอารมณ์ทาเล็บเลยล่ะ “แต่หลังจากเจอกันครั้งนี้ คงได้ลาจากกันตลอดกาล”
“ไป๋เสว่ เธอคิดว่าพวกเธอยังมีโอกาสชนะอีกหรอ?”
เสียงเย็นชาของเยี่ยนซื่อเฉิงดังมาจากด้านหลัง “ทำตามความต้องการของฉัน ยอมรับคำขอทุกข้อของฉัน พวกเธออาจยังมีโอกาสรอด หยามเกียรติของฉัน พวกเธอจะต้องตายอยู่ในป่าแห่งนี้ทั้งหมด”
“นี่!”
“ก็คือของขวัญตอบแทนที่สามปีก่อน ถังเฉาปลิดชีพผู้แข็งแกร่งยอดฝีมือนับพันของพวกเราหว่างเหลียงด้วยตัวคนเดียว”
เสียงของเยี่ยนซื่อเฉิงเร่าร้อนขึ้นมาทันใด เจือความเคืองแค้นอย่างสุดซึ้ง “แน่นอนว่าตอนนี้เขาตายไปแล้ว เสียดายที่ไม่อาจได้เห็นภาพนี้”
เจียงไป๋เสว่เงียบ ไม่พูดอะไร
นักรบกองทัพปราณมังกรมากมายเหล่านี้ก็ไม่พูดอะไร
สถานการณ์ตอนนี้เงียบจนน่ากลัว กลิ่นควันหนักหน่วงถูกส่งผ่านอากาศชนิดที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
สงคราม กำลังจะปะทุ
พอเห็นเจียงไป๋เสว่ไม่พูดจา เยี่ยนซื่อเฉิงยิ้มและพูดต่อ “ไป๋เสว่ ฉันให้โอกาสเธอครั้งสุดท้าย จะยอมรับคำขอของฉันมั้ย?”
เจียงไป๋เสว่กลับคลี่ยิ้มกว้าง รอยยิ้มนั้นสดใสและงดงาม
เยี่ยนซื่อเฉิงขมวดคิ้ว “เธอยิ้มอะไร?”
“ฉันตลกความโง่เขลาของนาย การดูถูกของนาย เสียที——ที่เป็นคนต้าเซี่ย”
เสียงราบเรียบของเจียงไป๋เสว่ดังสะท้อนอยู่ในภูเขา
“นายคิดว่านายชนะแล้วจริงๆหรอ? นายจะดูถูกพวกเราเกินไปแล้ว!”
“คนบางคนกายเนื้อยังไม่สิ้น แต่ตัวเขานั้นตายไปแล้ว แต่คนบางคนสิ้นกายเนื้อไปแล้ว เจตจำนงของเขายังอยู่ วีรกรรมของเขาเพียงพอจะส่งผลกระทบต่อคนรุ่นต่อไป”
บูม!
สิ้นเสียงของเจียงไป๋เสว่ ผู้คนในกองทัพปราณมังกรที่กดดันอยู่ก่อนหน้านี้ต่างเงยหน้าขึ้น สายตามีบางอย่างปรากฏอยู่ลางๆ
“นายคิดว่าถังเฉาตายไปแล้วก็จะลงมือกับกองทัพปราณมังกรได้โดยไม่ต้องกลัวอะไรหรอ? ไร้เดียงสานัก!”
เจียงไป๋เสว่สายตานิ่งงันไป พร้อมคำรามลั่น “เจ้ามังกรรุ่นหนึ่งตายไป ก็จะมีเจ้ามังกรรุ่นต่อไปปรากฏ งอกเงยไม่มีวันจบสิ้น”
“วิญญาณมังกรแห่งต้าเซี่ยไม่ดับสูญ!”