เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 815 ไป๋เสว่ถูกจับ
“วิญญาณมังกรแห่งต้าเซี่ยไม่ดับสูญ ธงมังกรไม่มีวันล้ม!”
“วิญญาณมังกรแห่งต้าเซี่ยไม่ดับสูญ ธงมังกรไม่มีวันล้ม!”
“วิญญาณมังกรแห่งต้าเซี่ยไม่ดับสูญ ธงมังกรไม่มีวันล้ม!”
“……..”
สิ้นเสียงหกพยางศ์สุดท้ายของเจียงไป๋เสว่ กองทัพปราณมังกรที่เงียบไปนานปะทุพลังอันน่าสะพรึงออกมา
พลังแข็งแกร่งมากมายพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ทะลวงผ่านชั้นเมฆขึ้นไป
ท้องฟ้าไม่มืดมนอีกต่อไป แสงแห่งรุ่งสางทลายหมู่เมฆเผยดวงตะวัน สาดส่องพื้นดิน
ฟ้า…….
สว่างแล้ว!
ท่ามกลางคลื่นเสียงน่าตื้นตันมากมาย ธงผืนแดงผืนหนึ่งค่อยๆถูกชักขึ้น โบกสะพัดอยู่ในฟ้าดิน
เมื่อธงมังกรขึ้นถือจุดสูงสุด พลังของกองทัพปราณมังกรก็เพิ่มพูนถึงขีดสุด
มังกรมีเกล็ดต้องห้าม แตะปุ๊บตายปั๊บ!
ทันใดนั้น จิตสังหารดุดันราวกับอาชาเกราะทองเกรียงไกรถาโถมออกมา เอ่อล้นไปถึงสวรรค์ชั้นเก้า
ลมพัดมา ปัดเป่าปอยผมที่หน้าผากของทุกคนในกองทัพปราณมังกรขึ้น เผยให้เห็นสายตาพร้อมสละชีพคู่แล้วคู่เล่า
ภายใต้จิตสังหารหนาแน่นขนาดนี้ แม้แต่หุ่นยนต์มากมายของหว่างเหลียงยังถอยหลังหนึ่งก้าวอย่างอดไม่ได้
ต่อให้เป็นคนที่ถูกดัดแปลงจนกลายเป็นหุ่นยนต์แล้ว ก็เป็นคนเหมือนกัน ตราบใดที่เป็นคน ก็ต้องรู้จักกลัว
พวกเขาพลันตระหนักได้ว่า นี่คือกองทัพไร้เทียมทานของต้าเซี่ยที่ไร้เทียมทานที่สุด ทุกที่ที่ผ่านล้วนกลายเป็นอาณานิคม
กองทัพแกร่งกล้านี้เคยรบราจนสิบแปดประเทศต่างหวาดกลัวและศิโรราบในเวลาสั้นๆเพียงครึ่งเดือน
ตอนที่เจ้ามังกรยังมีชีวิตอยู่ ทั้งโลกหวาดหวั่นในตัวพวกเขา
ตอนนี้เจ้ามังกรไม่อยู่แล้ว ยังคงไม่มีใครกล้าดูถูกพวกเขา
เผ่าพันธุ์ที่ได้รับการสืบทอดมากว่าห้าพันปี เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีตัวแทนจิตวิญญาณแห่งเจตจำนง เมื่อใดก็ตามที่อยู่ในภาวะวิกฤต จะต้องมีอยู่สามสี่คนเสมอที่ช่วยพลิกสถานการณ์ เปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ด้วยตัวเองเพียงลำพัง
ตั้งแต่เผ่าผู้ใช้ไฟ ฌ้อปาอ๋องเซี่ยงอวี่ จนถึงเยว่เฟย และถังเฉาในปัจจุบัน พวกเขาอาจจะไม่มีใครเข้าใจ ถูก ผู้คนด่าทอ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขาจะโลดแล่นอยู่ในประวัติศาสตร์ เป็นที่จดจำของผู้คนในยุคหลัง
คลื่นใหญ่พัดพาเอาทรายออกไป ปีแล้วปีเล่าผ่านพ้น วิญญาณมังกรไม่ดับสูญ มันก็จะไม่ตาย!
เจียงไป๋เสว่เดินตัวคนเดียวไปอยู่หน้าสุดของทั้งสองฝ่าย ด้วยสีหน้าเยือกเย็น
ถังเฉาไม่อยู่แล้ว เธอจะออกคำสั่งแทนถังเฉาเอง และนำพาต้าเซี่ยเดินออกจากบ่อโคลนแห่งนี้
“ผู้ใดลบหลู่กองทัพปราณมังกร ผู้นั้นจะต้องถูกกำจัดไม่ว่าอยู่ที่ไหน!”
เจียงไป๋เสว่คำรามลั่น เสียงของเธอสะท้อนก้องไปทั่วป่าเขา เนิ่นนานไม่สลายไป
“ฆ่า!!!”
ด้านหลังเธอ เสียงตะโกนกู่ร้องพร้อมฆ่าสะท้านฟ้า!
ทุกคนตาแดงก่ำ
แผ่นดินนี้มีครอบครัว คนรัก ลูกหลาน ของพวกเขา
เพื่อปกป้องพวกเขา เสียสละชีวิตแล้วจะเป็นอะไรไป?
“รักษาผืนดินของเรา ฆ่า!”
“ปกป้องครอบครัวของเรา ฆ่า!”
“ลุย ฆ่ามัน!”
……
ผู้แข็งแกร่งกองทัพปราณมังกรนับไม่ถ้วนไม่อาจยับยั้งความโกรธเกรี้ยวและแรงอาฆาตในใจได้อีก กลายเป็นเงามากมายและเป็นฝ่ายรุกโจมตี
เจียงไป๋เสว่นำทัพออกไปคนแรก มือถือกระบี่ยาว ตัดหัวหุ่นยนต์คนหนึ่งลงมาเพื่อบูชายัญฟ้า
พรืด!
หัวนั้นพุ่งขึ้นฟ้า เลือดอุ่นๆสาดออกมา และมีชิ้นส่วนเครื่องจักรเปื้อนเลือดนับไม่ถ้วนร่วงออกมาด้วย
ไวโอเล็ตคิดไม่ถึงเลยว่ากองทัพปราณมังกรจะกล้าบุกโจมตีก่อน สายตาเธอดุดันขึ้น ก่อนที่จิตสังหารจะพลุ่งพล่าน “ไม่ต้องกลัว พวกเขาเป็นเพียงจุดสิ้นสุดของความแข็งแกร่ง อวดดีได้แค่ชั่วขณะเท่านั้น”
“ฆ่าพวกเขา แล้วสร้างกองทัพปราณมังกรขึ้นมาใหม่!”
เยี่ยนซื่อเฉิงคำรามลั่นอย่างเกรี้ยวกราด
“หักธงมังกรของพวกเขาก่อน!”
ด้านหว่างเหลียงก็มียอดฝีมือออกโรงเช่นกัน หุ่นยนต์มากมายออกมาไม่หยุดหย่อน
สงครามเปิดฉากแล้ว!
เยี่ยนซื่อเฉิงก็ไปหาเจียงไป๋เสว่ ไม่นานนักทั้งสองก็สู้อยู่ด้วยกัน ความสามารถไม่ต่างชั้นกันนัก
……
บนเนินเขา ไวโอเล็ตสังเกตสถานการณ์ด้านล่าง ไม่กังวลเลยสักนิด
เธอทำการโทรออกและเอ่ยยิ้มๆ “ท่านเจ้านาย ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านคาดไว้ พวกเขาสู้กันแล้วค่ะ”
“เจ้ามังกร ตายแล้วจริงๆ”
“ตอนนี้คนที่เป็นผู้นำของพวกเขาเป็นครูผู้ฝึกของกองทัพปราณมังกร เจียงไป๋เสว่—-ใช่ค่ะ ‘เหยื่อหมายเลขสาม’ ที่เราลงรายการไว้เมื่อสามปีก่อน บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีที่จะจับตัวเธอมา”
“แต่ฉันแค่ไม่เข้าใจว่าการเชื่อฟังพวกเรา ให้เยี่ยนซื่อเฉิงกลับไปอยู่ในกองทัพปราณมังกรอีกครั้ง แบบนี้ก็จะไม่มีใครตาย หากเลือกในสิ่งที่ต่างออกไป เลือดก็จะไหลเป็นลำธาร ชีวิตมากมายต้องสูญสิ้น”
“ต้าเซี่ยก็อาจจะกระทบหนัก ทางเลือกง่ายๆเช่นนี้ ทำไมพวกเขาถึงยังเลือกที่จะเอาชีวิตเข้าสู้ล่ะคะ?”
“เพราะความศรัทธา”
เสียงชายจักรกลเสียงหนึ่งดังออกมาจากเครื่องมือสื่อสาร
เสียงนั้นผ่านการดัดแปลงพิเศษมา ไม่เจือความรู้สึกเลยสักนิด เย็นชาถึงปานนั้น
“ไม่ว่าจะเป็นความศรัทธาแบบไหน ต่างต้องรดน้ำด้วยชีวิตและสายเลือด หรือให้พูดอีกอย่างก็คือ ล้างสมอง”
เจ้านายเอ่ยเรียบๆ “ต่อสู้เพื่อต้าเซี่ย ตายเพื่อต้าเซี่ย เพื่อเพียงศีลธรรมวีรบุรุษจอมปลอมอะไรนั่น—-สุดท้ายแล้วกลับก่อให้เกิดความตายเป็นวงกว้าง”
“ฉันไม่เข้าใจเลยค่ะ ในสายตาของฉัน นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาก ขัดขวางเป้าหมายของหว่างเหลียง ฉะนั้น ต้าเซี่ยจะต้องล่มสลายอย่างแน่นอน……”
ไวโอเล็ตผู้เกิดที่ตะวันตกยิ่งไม่อาจเข้าใจ แต่ในสายตาของเธอ เรื่องนี้ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว
“ฉันสนใจในตัวเจียงไป๋เสว่นั่นมากกว่าว่าจะดึงดันได้ถึงเมื่อไหร่กัน แต่เธอไม่ใช่คู่มือของค้างคาวอยู่แล้วค่ะ”
ไวโอเล็ตหยิบกล้องส่องทางไกลออกมา คอยสังเกตการณ์ต่อสู้ของเจียงไป๋เสว่และเยี่ยนซื่อเฉิง
“อย่าฆ่าพวกเขานะ จับเป็น เอาที่ยังมีชีวิตอยู่!”
ไวโอเล็ตตะโกนใส่เครื่องมือสื่อสาร
คนพวกนี้เป็นตัวทดลองชั้นเยี่ยม บางทีอาวุธสงครามสมบูรณ์แบบอาจจะปรากฏในหมู่พวกเขาก็ได้…..
“เจียงไป๋เสว่ก็เอาที่ยังมีชีวิตนะ! เธอจะกลายเป็นผู้บริหารสูงสุดที่ดีเหมือนกับหลี่เห้า!”
ไวโอเล็ตไม่ลืมเตือนเยี่ยนซื่อเฉิง
“ฉันรู้อยู่แล้วน่า”
เยี่ยนซื่อเฉิงป้องกันการจู่โจมดุดันของเจียงไป๋เสว่พลางตอบรับ
เขาคลี่ยิ้ม หัวเราะเสียงเหี้ยม “คนของกองทัพปราณมังกร ฉันไม่ฆ่าสักคน พวกเขาเป็นพสกนิกรที่ต้องรับใช้ฉันในฐานะเจ้านาย เจ้ามังกรคนใหม่จะฆ่าพสกนิกรของตัวเองได้ยังไงล่ะ”
เจียงไป๋เสว่สายตาหม่นลง พูดอย่างกราดเกรี้ยว “นายหุบปากซะ ต่อให้นายฝึกฝนอีกหนึ่งหมื่นปี ตำแหน่งเจ้ามังกรก็ไม่ถึงตานายขึ้นเป็นอยู่ดี”
“อย่างนั้นหรอ?”
เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะเย็นๆ “พวกเธอนอกจากจะยอมเชื่อฟังแล้วยังมีโอกาสอื่นอีกหรอ?”
“แดนเหนือเป็นเขตแดนที่ทะลวงได้ยากมากที่สุด บางทีจำนวนคนที่นี่อาจไม่ถึงหนึ่งในสิบของคนในแดนเหนือ แต่ที่นี่เป็นจุดศูนย์กลาง หากพวกเรายึดที่นี่มาได้ แล้วแดนเหนือจะไปยากอะไร?”
“แดนตะวันตก แดนใต้ แดนตะวันออก ก็ต้องทลายโดยไม่จำเป็นต้องบุก—-เป็นไงล่ะ รู้สึกว่าความกดดันบนบ่ามหาศาลเลยใช่มั้ย”
เยี่ยนซื่อเฉิงกระเทือนจนเจียงไป๋เสว่ต้องถอยด้วยแรงเท้า ถากถางด้วยใบหน้าล้อเลียน
“…….”
เจียงไป๋เสว่มีเม็ดเหงื่อเย็นผุดพราวอยู่บนหน้าผาก มือที่กำกระบี่อยู่สั่น
ด้วยความขุ่นเคือง แต่มากกว่านั้น คือแรงกดดันดั่งภูเขาเลากา
อย่างที่เยี่ยนซื่อเฉิงพูด พวกเธอคือจุดศูนย์กลาง ไม่ว่าจะอิทธิพลไหน หากจุดศูนย์กลางพ่ายแพ้ รอบนอกก็ทลายอัตโนมัติ
ต้าเซี่ยก็ถึงคราวจบสิ้น!
“แต่ พวกเธอมีโอกาสจริงๆหรอ?”
เยี่ยนซื่อเฉิงพูดอย่างเย้ยหยัน เขาอ้าแขนออกและเอ่ย “มองไปรอบๆตัวพวกเธอสิ ไม่ว่าจะด้วยจำนวนคนหรือกำลังรบ หว่างเหลียงของเราก็เป็นฝ่ายเหนือกว่า เธอจะชนะยังไง เธอจะเอาอะไรมาชนะ!!!”
เยี่ยนซื่อเฉิงตะคอกอย่างมีอารมณ์ เส้นเอ็นกระตุกบนหน้าผาก
เจียงไป๋เสว่มองไปรอบๆ ตอนแรกคนของเธออาจจะพอต้านทานได้ หรืออาจจะเป็นฝ่ายได้เปรียบด้วยซ้ำ
แต่ถึงยังไงสิ่งที่ต้องเจอก็คืออาวุธสงครามโลหะ ไม่นานนักก็เริ่มฉายแววเสียเปรียบ
แต่หุ่นยนต์ไม่ได้ฆ่าพวกเขา และมัดตัวพวกเขาและนำตัวไป
เมื่อเห็นภาพนี้ สีหน้าเจียงไป๋เสว่เปลี่ยนไปอย่างมาก “พวกนายจะทำอะไร?”
“ทำอะไร? เธอเดาไม่ออกหรอ?”
เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “อนาคตพวกเขาก็จะกลายเป็นแบบนั้น รับใช้องค์กร”
ตู้ม!
เมื่อคำพูดนี้ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป ดวงตาของเจียงไป๋เสว่แดงก่ำ จิตสังหารพลุ่งพล่าน
“พวกนายบังอาจ!”
สิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดไม่ใช่ความตาย แต่เป็นการถูกดัดแปลงเป็นอาวุธสงครามที่ไม่ใช่ทั้งผีทั้งคน
การสูญเสียความทรงจำอย่างสิ้นเชิง หวดมีดเชือดเฉือนผู้คนในชาติเดียวกัน—-นั่นคือสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด
เจียงไป๋เสว่หันกลับไปทันที และพุ่งเข้าไปฆ่าพวกหุ่นยนต์
เธอต้องไปช่วยคนเหล่านั้น
บางทีช่วงเวลาที่หันกลับทำให้เกิดช่องว่าง เยี่ยนซื่อเฉิงกลายเป็นเงาที่ไปโผล่อยู่ด้านหลังของเจียงไป๋เสว่ เอาเข่ากระแทกใส่หลังของเจียงไป๋เสว่อย่างแรง
บูม!
ชั่วขณะที่ปะทะ ร่างของเจียงไป๋เสว่ร่วงลงพื้นเหมือนว่าวที่เอ็นขาด
สองตาของเธอถึงกับสูญเสียการมองเห็นไปชั่วขณะ
แผ่นหลังเชื่อมกับกระดูกสันหลัง การโจมตีของเยี่ยนซื่อเฉิงเกือบจะทำให้กระดูกสันหลังของเธอหัก
เธอนอนอยู่บนพื้นอย่างหมดสภาพ ขยับตัวไม่ได้ แม้แต่กระบี่ยาวในมือของเขาก็ตกที่อื่น
“ครู!”
ผู้แข็งแกร่งกองทัพปราณมังกรหลายคนได้เห็นภาพนี้แล้วสีหน้าเปลี่ยนไปมาก หนาวเหน็บไปครึ่งขั้วหัวใจ
เจ้ามังกรไม่อยู่แล้ว เจียงไป๋เสว่ก็คือผู้นำของพวกเขา แต่กลับถูกจับตัว
การต่อสู้ครั้งนี้ ยังต้องสู้กันอยู่หรือ?
พวกเขาแพ้แล้ว
ในหัวของผู้คนมากมายเกิดความคิดนี้ขึ้นมา
ขวัญกำลังใจถูกลดทอนอย่างแรง ความพ่ายแพ้อย่างอนาถอยู่ตรงหน้าแล้ว
“ตายจริง จบเร็วขนาดนี้เลยหรอ? ฉันคิดว่าเธอจะยื้อเวลาได้นานกว่านี้ซะอีก”
ไวโอเล็ตรีบวิ่งลงมา ใช้ขาเตะร่างกายของเจียงไป๋เสว่
ส่วนเจียงไป๋เสว่หน้าซีด อ่อนแอจนถึงขีดสุด กระอักเลือดออกมาจากปากไม่หยุด
ความเจ็บปวดมหาศาลของร่างกายทำให้ร่างกายของเธอเกิดการชัก ตัวกระตุกตลอดเวลา
“หัวหน้าของพวกแกถูกจับแล้ว ยังจะสู้อีกมั้ย”
นาทีต่อมา เยี่ยนซื่อเฉิงคำรามลั่น เสียงของเขาถาโถมออกไปถึงพันลี้ในพริบตาเดียว
ทันใดนั้น ทุกคนหยุดการกระทำลงหมด และมองไปที่ภาพเหตุการณ์ด้านล่าง
ก็เห็นว่าเจียงไป๋เสว่ถูกไวโอเล็ตจับผมและยกขึ้นประหนึ่งถ้วยรางวัล
เจียงไป๋เสว่ไม่มีแรงจะต้านทานแม้แต่น้อย!
ไวโอเล็ตหัวเราะคิกคัก “อย่าต่อต้านไปเลย ท่านเจ้ามังกรของพวกแกก็ถูกสกัดไว้ มาไม่ได้ในเร็วๆนี้หรอก สงครามครั้งนี้รู้ผลแล้ว พวกแกแพ้แล้ว”
คำพูดเหล่านี้เหมือนเข็มที่แทงเข้าไปในหัวใจของทุกคน ผู้แข็งแกร่งกองทัพปราณมังกรทุกคนสั่นไปทั้งตัว
กองทัพปราณมังกรที่ชนะทุกศึก ในที่สุดก็จะแพ้แล้วหรอ?
“ถังเฉา!!!”
เจียงไป๋เสว่ที่ถูกทึ้งผมตะโกนชื่อของถังเฉาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี
“หืม?”
เมื่อได้ยิน ไวโอเล็ตผงะไปชั่วครู่ ก่อนจะหัวเราะอย่างมีความสุขมากกว่าเดิม “ถังเฉาตายไปแล้ว เธอยังจะเรียกชื่อของเขาอีก ทำไม หรือเขาจะสามารถแปลงเป็นผีมาช่วยเธอได้”
ตู้มตู้มตู้ม……
ทว่า เพิ่งจะสิ้นเสียง ก็มีเสียงยิงกราดของปืนกลดังมาจากที่ไม่ไกล
อาวุธสงครามทั้งสองด้านล้มทั้งแถบ
ฟึ่บ!
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนมีสีหน้าเปลี่ยนไป
มองไปตามเสียง พวกเขาเห็นคนคนหนึ่ง มือถือปืนกลหนักหน่วง สายตาเฉยชาราวกับตัดความรู้สึกทั้งหมดออกแล้ว ยิงกราดอย่างไร้เยื่อใย
เมื่อมองเห็นโฉมหน้าของผู้มาเยือนได้อย่างชัดเจนแล้ว ไวโอเล็ตก็ตกใจจนหน้าสวยๆซีดเผือด
“ผี ผีหลอก!!”