เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 817 หนึ่งต่อหนึ่งหมื่น
แซ่ดแซ่ด…..
ผืนทะเลป่าวูบไหว ป่าไม้เคลื่อนไหวขึ้นลง เสียงลมลอยมา พัดพาใบไม้ให้เกิดเสียงแซ่ดแซ่ดไม่หยุด
ฟึ่บฟึ่บฟึ่บ!
ฝ่ายหว่างเหลียง ผู้แข็งแกร่งหว่างเหลียงทุกคนยกอาวุธในมือขึ้น เล็งไปยังผู้ที่กำลังเดินมาทางนี้
เยี่ยนซื่อเฉิงกลับมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก รีบยกมือและสั่งห้ามด้วยเสียงอันสั่นเทา
“หยุด….หยุดนะ!”
ผู้แข็งแกร่งหว่างเหลียงด้านหลังรีบวางอาวุธในมือ และมองเงาของผู้นี้กำลังเดินมาทางนี้เงียบๆ
เขาคือผู้เฒ่าที่เดินได้อย่างเชื่องช้า บนหัวเริ่มมีผมหงอกขึ้นแล้ว หลังโก่งนิดหน่อย ขึ้นเขามาด้วยความยากลำบาก แทบจะต้องหยุดพักชั่วครู่ทุกสิบก้าว
เยี่ยนซื่อเฉิงมองผู้เฒ่าคนนี้แล้วสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก ตะโกนเรียกอย่างห้ามใจไม่ได้
“พ่อ…..”
ตู้ม!
เมื่อคำนี้ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป ผู้แข็งแกร่งหว่างเหลียงทุกคนต่างมองผู้เฒ่าด้วยสีหน้าตะลึง
ผู้เฒ่าผู้นี้ เป็นคุณพ่อของท่านค้างคาวหรือนี่?!
คุณพ่อของท่านค้างคาวปรากฏตัวบนสนามรบ เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล
ขณะนั้นเยี่ยนกั๋วลี่ก็มาถึงจุดกึ่งกลางของสถานที่ เขาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นลูกชายตัวเองยืนอยู่บนที่สูง มีคนมากมายยืนอยู่ด้านหลัง
ผู้เฒ่าเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ที่ไหน เขาพลันตกใจจนสีหน้าเปลี่ยน โซซัดโซเซล้มลงกับพื้น
เยี่ยนซื่อเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขาจะเข้าไปพยุง แต่ถังเฉาชิงพยุงเยี่ยนกั๋วลี่ขึ้นมาก่อนเขา
“……”
เมื่อเห็นภาพนี้ ใบหน้าของเยี่ยนซื่อเฉิงกระตุกเบาๆ ไม่รู้ทำไม เขาในตอนนี้โมโหจนแทบคุมตัวเองไม่หยุด เส้นเลือดขยายอยู่ในตา
“คุณอา ไม่เป็นไรใช่มั้ยครับ?”
ถังเฉาถามอย่างเป็นห่วง
เยี่ยนกั๋วลี่รีบโบกมือ สายตาเขาจ้องมองเยี่ยนซื่อเฉิงที่อยู่บนที่สูงตลอด เขาถามอย่างเลื่อนลอย “ซื่อเฉิงเอ๋ย แกทำอะไรอยู่? คนด้านหลังพวกนั้นเป็นใครกัน? พวกเขาดูไม่เหมือนคนดีเลยนะ……”
“……”
เมื่อเผชิญกับคำถามคาดคั้นจากพ่อเฒ่าของตัวเอง เยี่ยนซื่อเฉิงพูดอะไรไม่ออก เขาเผยอปากเล็กน้อย แต่พูดอะไรไม่ออกสักคำ
เขาจะพูดอะไรได้?
หากบอกความจริงทั้งหมด เกรงว่าพ่อเฒ่าของตัวเองได้โมโหจนเป็นลมไปตรงนี้
เยี่ยนซื่อเฉิงไม่พูดอะไร เอาแต่จ้องถังเฉาด้วยสายตาอาฆาต สีหน้าของเขาราวกับอยากจะกินถังเฉาเข้าไปในคำเดียวให้สิ้นซาก
“แก….แก เป็นคนพาพ่อฉันมา!”
เขามองถังเฉาอย่างเคียดแค้น และเอ่ยเสียงเข้ม
“ฉันเอง”
ถังเฉามองเขาด้วยสีหน้าสงบ “เมื่อเช้านี้ฉันไปรับคุณอา”
“นายอยากตายใช่มั้ย!”
เยี่ยนซื่อเฉิงโกรธจนตาแทบทะลุออกจากเบ้า กำหมัดแน่น สั่นเทิ้มไปทั้งตัว
จิตสังหารแรงกล้าถาโถมออกมา จิตสังหารเช่นนี้แผ่ซ่านออกไป เล่นเอาผู้แข็งแกร่งหว่างเหลียงจำนวนไม่น้อยตัวสั่นไปหมด
เรื่องมันเลยเถิดเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไว้อย่างสิ้นเชิง
เดิมทีเขาคิดไว้ในใจว่าจะรีบจัดการกองทัพปราณมังกรเสีย หลังจากเข้าไปในกองทัพปราณมังกรแล้วค่อยรับพ่อเฒ่ามา ให้พวกเขาเคารพยำเกรงตัวเอง และให้พ่อเฒ่ารู้สึกปลาบปลื้มใจ
แต่ตอนนี้ นอกจากถังเฉายังไม่ตายและทำลายแผนของเขาแล้ว ยังพาตัวพ่อเฒ่าเขามาก่อนเวลาอันควรอีก—-เช่นนี้ภาพที่เขานำทัพนักฆ่าหว่างเหลียง พ่อเฒ่าก็เห็นหมดเลยสิ
เรื่องมันเกินกว่าที่เขาคาดการณ์ไปหมดเลย เรียกได้ว่านี่คือผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุด!
และคนที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ ก็คือถังเฉา!
จิตสังหารในสายตาเยี่ยนซื่อเฉิงพลุ่งพล่าน เคียดแค้นจนอยากจะฆ่าถังเฉาให้ตายๆไปซะ
“ซื่อเฉิง ที่เสี่ยวถังพูดเป็นเรื่องจริงหมดเลยหรอ?”
ขณะนั้น เยี่ยนกั๋วลี่ที่อยู่ด้านล่างปริปากอีกครั้ง น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อและปวดร้าวหัวใจ
“แกโดนกองทัพปราณมังกรขับไล่ออกไปแล้วหรอ และตอนนี้กำลังนำทัพกลับมาแก้แค้นต่อกองทัพปราณมังกรใช่มั้ย?”
“แบบนั้นใช่มั้ย?”
ประโยคคาดคั้นสองประโยคเล่นเอาเยี่ยนซื่อเฉิงตากระตุกหนักกว่าเดิม
เขาจ้องถังเฉาเขม็ง
เป็นเพราะเขา!
ทั้งหมดนี้ต้องเพราะเขาเป็นคนเล่าแน่
ราวกับดูออกว่าเยี่ยนซื่อเฉิงคิดอะไรในใจ ถังเฉามีสีหน้าเรียบสงบ “ฉันทนดูคุณอาอายุปูนนี้แล้วยังต้องโดนลูกชายอกตัญญูของตัวเองหลอกไม่ได้จริงๆ ดังนั้น ฉันจึงเล่าความจริงทุกอย่างให้เขาฟัง”
ตู้ม!
เมื่อเอ่ยคำนี้ออกไป โทสะในใจของเยี่ยนซื่อเฉิงพุ่งถึงขีดสุด จิตสังหารพลุ่งพล่าน
ส่วนเยี่ยนกั๋วลี่ก็ตัวสั่น หน้าตาไม่อยากจะเชื่อ
“ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่เขาพูดก็เป็นความจริงหมดเลยใช่มั้ย? ทุกอย่างที่แกพูดหลอกฉันทั้งนั้นใช่มั้ย?”
เมื่อได้ยินที่เยี่ยนกั๋วลี่พูด เยี่ยนซื่อเฉิงลนลานขึ้นมาทันที เขารีบลงเขามาอยู่ตรงหน้าพ่อเฒ่าเพื่ออธิบาย “ไม่ใช่ครับพ่อ ไม่ใช่อย่างนั้น…..”
เพียะ!
เยี่ยนกั๋วลี่ที่บันดาลโทสะตบหน้าเยี่ยนซื่อเฉิงฉาดใหญ่
เขาไม่ได้ออกแรงตบมาก แต่พอเยี่ยนซื่อเฉิงโดนเข้าแล้วมึนงงไปหมด
หน้าตาเขาเลื่อนลอย แม้กระทั่งแรงอาฆาตในใจก็พลันหายไป ได้แต่มองเยี่ยนกั๋วลี่อย่างเหม่อลอย
นาทีต่อมา ผู้เฒ่านั่งลงกับพื้น ร้องไห้โฮ
“ฉันผิดไปแล้ว เป็นความผิดของฉันที่เลี้ยงลูกทรพีเช่นนี้ นอกจากจะไม่ตอบแทนผืนแผ่นดินแล้ว กลับกลายเป็นคนทรยศ—-สู้ให้แกสู้รบจนตัวตายไปยังจะดีซะกว่า”
“เมียเอ๊ย ผมผิดต่อคุณ ผมสอนลูกชายของเราได้ไม่ดี….ผมคือคนบาป คือคนบาป…..”
เยี่ยนกั๋วลี่ร้องไห้อย่างน่าอนาถ เขาเสียใจจนใจแทบขาด
เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดในโลกก็คือพ่อแม่อยากให้ลูกเติบโตมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ทว่าลูกกลับกระทำในสิ่งที่ไร้ซึ่งคุณธรรม
ด้านหนึ่งก็ลูกในไส้ อีกด้านก็คุณธรรม แต่ไหนแต่ไรคุณธรรมและความผูกพันเป็นสิ่งที่ไม่อาจสมปรารถนาทั้งสองอย่าง
ชั่วขณะนั้น ผืนทะเลป่าวูบไหว เสียงร้องไห้ชราดังระงมไปทั่ว
ตอนที่ผู้เฒ่าร้องไห้อยู่ ไม่มีใครปริปากเลยสักคน สายตาทุกคนทอดไปที่เยี่ยนซื่อเฉิง
รวมถึงถังเฉา
ก็มองเยี่ยนซื่อเฉิงด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เหตุผลหลักที่เขาพาเยี่ยนกั๋วลี่มาก็เพราะอยากจะใช้เขาเพื่อเรียกจิตสำนึกที่ยังเหลืออยู่ในใจของเยี่ยนซื่อเฉิง
ในเมื่อเขามาเพื่อพ่อเฒ่าของเขา ก็แสดงว่าหัวใจของเขายังมีความดีอยู่ ถ้าทำให้เขาหยุดการกระทำได้ย่อมเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
ก่อนที่จะเกิดเคราะห์ร้ายขึ้นจริงๆ เขาหวังว่าเยี่ยนซื่อเฉิงจะรามือ
ถังเฉาไม่ยอมปล่อยให้คนที่ควรจะถูกฆ่ารอดไปได้สักคน และไม่ยอมฆ่าคนที่อาจละทิ้งความมืดมิดและกลับสู่แสงสว่าง
ทว่า เยี่ยนซื่อเฉิงเงียบพักหนึ่งกลับไม่ได้สำนึกผิดกับพ่อเฒ่าของเขา แต่ค่อยๆเงยหน้าขึ้นและจ้องเยี่ยนกั๋วลี่เขม็ง
“พ่อครับ ผมทำทุกอย่างนี้ก็เพื่อพ่อ”
เยี่ยนซื่อเฉิงเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้ง “ผมตายไม่ได้ ถ้าตายไปแล้วก็จะไม่เหลืออะไรเลย—-ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมคิดว่าถูกต้อง ผมไม่อยากให้พ่อเป็นพ่อที่ต้องไปส่งวิญญาณลูกชาย แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ผิด ผมก็ต้องทำ”
ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวเล็กน้อย สายตากลับเปี่ยมด้วยความรู้สึก
“หลังจากที่ผมออกจากกองทัพปราณมังกร ก็มีการประกาศข่าวการตายของผม ผมมีบ้านแต่กลับไม่ได้ มีครอบครัวแต่ไปหาไม่ได้—-ผมเหมือนเป็นสัมภเวสีที่เร่ร่อนอยู่ข้างนอก ยังไม่ต้องพูดว่าพ่อรู้แล้วจะรู้สึกยังไง แค่แม่ที่ตายไปแล้วของผมรู้แล้วต้องปวดใจขนาดไหน?”
“ผมยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง จะตายได้ยังไง? ในเวลานั้นมีคนที่ยอมรับผม ผมได้รับชีวิตใหม่”
“ผิดและถูกไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว สิ่งสำคัญคือผมได้พิสูจน์ตัวเองในอิทธิพลที่นอกเหนือจากกองทัพปราณมังกร”
“ดังนั้นผมจึงรอแทบไม่ไหวที่จะกลับมา ในเมื่อพวกเขาไม่อาจยอมรับผมไว้ได้ ผมก็จะสร้างกองทัพปราณมังกรที่ยอมรับผม—-แบบนี้ก็เหมือนกันไม่ใช่หรอครับ?”
เยี่ยนซื่อเฉิงมองเยี่ยนกั๋วลี่พลางเอ่ย “พ่อครับ แม้ว่าตอนนี้พ่อได้เห็นแล้ว ผมก็ไม่รามือหรอกครับ ในเมื่อพูดไปแล้วผมก็จะทำให้ได้”
“แก แก……”
เยี่ยนกั๋วลี่จ้องเยี่ยนซื่อเฉิงอย่างเอาเป็นเอาตาย ชี้นิ้วสั่นเทาไปที่เยี่ยนซื่อเฉิง สุดท้ายก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ลูกทรพี…..”
ร่างของเขาโอนเอนและล้มตึงไปทางด้านหลัง
ถังเฉาเห็นท่ารีบพยุงเขาขึ้นมา ไม่ปล่อยให้เขาล้มลงกับพื้น ถอนใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
ดูเหมือนว่า สุดท้ายแล้วก็ต้องเดินไปถึงขั้นสุดท้าย
ถังเฉาส่งตัวเยี่ยนกั๋วลี่ไปที่ภายในกองทัพปราณมังกร และเดินออกมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ สายตาของเขาเย็นเยียบมากขึ้นกว่าเดิมประหนึ่งใบมีดคม จ้องมองเยี่ยนซื่อเฉิงอย่างเย็นยะเยือก
“นายเกินเยียวยาแล้ว”
เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะอย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ มีความโหดเหี้ยมหลอมรวมอยู่บนใบหน้า
“ถังเฉา ฉันประเมินนายต่ำเกินไป คิดไม่ถึงว่านายจะไปหาพ่อของฉัน นายและไป๋เสว่หาทางเข้าใกล้พ่อของฉันมานานแล้วใช่มั้ย?”
เขามองถังเฉาและถามเสียงเย็น
ถังเฉาส่ายหัว “นายไม่เข้าใจว่าคุณอาคาดหวังกับนายมากขนาดไหน เขายอมให้นายตายเสียดีกว่าก็ไม่ต้องการให้นายเข้าร่วมหว่างเหลียง โบกมีดฆ่าเพื่อนร่วมชาติของคุณ”
“เขาไปหานายที่หลุมฝังศพของนายเป็นประจำทุกปี เพื่อให้นายได้มีชีวิตที่สงบบนสวรรค์—-ตายไปแล้วต้องใช้เงินกระดาษ เขากลัวว่านายจะใช้ไม่พอ เลยเผาเงินกระดาษไปให้นายเยอะมาก เขาปฏิบัติหน้าที่ของคนเป็นพ่อได้อย่างดี ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือลูกชายที่เป็นความภาคภูมิใจของตัวเองได้กลายเป็นคนแบบที่เขาเกลียดที่สุด”
คำพูดของถังเฉาสะท้อนในหัวอย่างต่อเนื่อง แต่เยี่ยนซื่อเฉิงฟังแล้วกลับเสียดหูอย่างพูดไม่ถูก
ราวกับปฏิเสธความหมายในการมีชีวิตอยู่ของเขาหลายปีมานี้ไปหมด
เส้นเอ็นปูดอยู่บนหน้าผากของเขา เขากำหมัดแน่นจนข้อนิ้วเป็นสีซีด เกิดเป็นเสียงก๊อกแก๊ก
“ตอนนี้มาพูดเรื่องเหล่านี้ก็ไม่มีความหมายอะไรแล้ว ถังเฉา นายทำลายชีวิตของฉัน เพื่อเป็นการตอบแทน ฉันจะปลิดชีพนายด้วยมือตัวเอง”
เยี่ยนซื่อเฉิงมองถังเฉาและเอ่ยเสียงเย็น
ใครก็ฟังจิตสังหารอันมุ่งร้ายที่แฝงมาของค้างคาวออก
แต่ถังเฉากลับไม่มีท่าทีหวาดกลัว “แม้ศัตรูจะมีเป็นพันหมื่นคน ทว่าฉันมุ่งหน้าด้วยความกล้าหาญ”
พูดจบ เขาก็ฝ่าเข้าไป
“ฆ่าเขาซะ!!!”
เยี่ยนซื่อเฉิงที่โกรธถึงขีดสุดออกคำสั่ง
ส่วนอีกด้าน เฟิ่งหวงที่ดักซุ่มอยู่ในที่มืดก็เริ่มเคลื่อนไหว กลายเป็นเหลือเพียงเงา กระโจนไปหาเยี่ยนซื่อเฉิงที่อยู่ไม่ไกล
มีดสั้นในมือแทงเข้าไปที่คอของเยี่ยนซื่อเฉิงอย่างแรง
เคร้ง!
ทันใดนั้น แสงเย็นวาบแวบผ่าน
เยี่ยนซื่อเฉิงก็รู้สึกถึงอันตราย เอียงตัวด้วยสัญชาตญาณ
เสียงเคร้งดังขึ้น เมื่อเขาเห็นคนที่จู่โจมเขาสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที
“เธอเองรึ?”
หลังจากผงะไปเล็กน้อย ก็มีความอึมครึมปรากฏบนใบหน้าของเยี่ยนซื่อเฉิงอย่างรวดเร็ว
“เธอกล้าลงมือกับฉันรึ?”
เฟิ่งหวงสีหน้าเย็นชา ไม่พูดอะไร ทว่ามีดคมในมือควงจนเกิดเป็นดอกไม้ใบมีดจำนวนมาก
เคร้ง!
หลังจากทั้งสองประมือกันไปได้หนึ่งกระบวนท่า ก็แยกระยะห่างออกจากกันอย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของเยี่ยนซื่อเฉิงอึมครึมจนเหมือนฝนจะตก “เฟิ่งหวง เธอบังอาจทรยศต่อองค์กร อยากตายหรือไง?”
ใบหน้าเฉยชาของเฟิ่งหวงในที่สุดก็ฉายแววเยาะเย้ย
“ประโยคนี้ของนายผิด ฉันไม่เคย…..ทรยศรองหัวหน้าเลยสักครั้ง”
สิ้นเสียงประโยคนี้ เยี่ยนซื่อเฉิงใจสะท้าน นัยน์ตาหรี่ลงฉับพลัน “เธอว่าอะไรนะ?”
เฟิ่งหวงยิ้มเย็นๆ “ความทรยศของ เป็นละครตบตาที่ฉันและรองหัวหน้าร่วมแสดงตั้งแต่แรก”
“ตอนนี้ ได้เวลาที่ฉันจะกลับไปอยู่ข้างกายรองหัวหน้าแล้ว”