เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 818 ความผิดเดิมไม่ควรเกิดขึ้นเกินสามครั้ง
สิ้นเสียงประโยคนี้ จิตสังหารพลุ่งพล่านออกมารอบตัวเฟิ่งหวง พลังของเธอถาโถมประหนึ่งพายุฝน
เยี่ยนซื่อเฉิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาอึมครึมถึงขีดสุด
ปฏิบัติการในวันนี้ควรจะไม่มีอะไรผิดพลาด ทุกอย่างดำเนินไปอย่างถูกต้องตามแผน คิดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นติดต่อกัน
เรื่องแรก ถังเฉาที่ควรจะตายสนิทแล้วกลับยังไม่ตาย บุกมาถึงสนามรบ พลิกสถานการณ์ เรื่องที่สอง ถังเฉารับพ่อของเขาเยี่ยนกั๋วลี่มาก่อนกำหนด ความตั้งใจและสิ่งที่ปรารถนามาตลอดสามปีทลายลงในพริบตาเดียว เรื่องสุดท้ายก็คือการหักหลังของเฟิ่งหวง
ไม่สิ พูดให้ถูกคือ เฟิ่งหวงไม่เคยมาเข้าพวกกับหว่างเหลียงเลย เธอแทรกซึมเข้าหว่างเหลียงในฐานะสายลับอยู่แล้ว
เรื่องเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นติดต่อกัน ส่งผลให้เยี่ยนซื่อเฉิงที่อยู่ในอารมณ์กริ้วอยู่แล้วยิ่งโมโหขึ้นไปใหญ่ จิตสังหารอันมุ่งร้ายถาโถมสู่ป่าผืนนี้
เขาจ้องเฟิ่งหวงเขม็ง หัวเราะอย่างเหี้ยมเกรียม “ดี เธอใจกล้าดี ลืมกฎที่ว่าหากเข้าร่วม ‘หว่างเหลียง’ แล้วห้ามทรยศเด็ดขาดแล้วรึไง?”
พูดเสร็จ ก็ชี้หัวตัวเอง
ความหมายก็คือ ในหัวของเธอมีชิประเบิดฝังอยู่ หากบังอาจทรยศ รับรองว่าชีวิตหาไม่แน่
นึกว่าพูดประโยคนี้จบแล้วเฟิ่งหวงต้องกลัวแน่ๆ ถึงยังไงก็ไม่มีใครกล้าเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพันหรอก
คิดไม่ถึงว่านอกจากเฟิ่งหวงจะไม่กลัวแล้ว ใบหน้าเย็นชาของเธอยังเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน
เห็นรอยยิ้มมุมปากของเฟิ่งหวงแล้วสีหน้าเยี่ยนซื่อเฉิงเปลี่ยนไป “เธอทำหน้าอะไรของเธอ?”
“ฉันจะตายหรือไม่ตาย นายลองดูก็รู้เอง”
เฟิ่งหวงหัวเราะเย็นๆ
“……”
ทันใดนั้น สีหน้าเยี่ยนซื่อเฉิงอึมครึมลง สายตาฉายแววอาฆาต
“ในเมื่อเธอไม่กลัวตาย ก็อย่ามาโทษฉันแล้วกัน…..”
“องค์กรยังไม่อาจเชื่อใจเธอได้สนิท สิทธิ์ในการคุมรีโมทชิประเบิดของเธออยู่ในมือฉัน”
พูดเสร็จ ในมือของเยี่ยนซื่อเฉิงก็มีรีโมทสีดำเพิ่มมา นิ้วของเขาวางไปที่ปุ่มกดใหญ่สีแดง
“ขอเพียงฉันกดปุ่มนี้ หัวของเธอก็จะ…..ตู้ม ระเบิดเป็นจุณ”
เยี่ยนซื่อเฉิงหัวเราะและทำท่าเลียนแบบ หวังจะเห็นความหวาดกลัวบนใบหน้าของเฟิ่งหวง
ทว่า สิ่งที่เขาเห็นจากหน้าเฟิ่งหวงมีเพียงความรำคาญ
“นายจะกดก็กด พูดมากอยู่ได้”
“……”
เยี่ยนซื่อเฉิงชะงัก หลังจากนั้นเขาที่เดือดดาลถึงขีดสุดก็กดปุ่มนั้นโดยไม่ลังเล
แคร่ก!
ทว่า ไร้ซึ่งเสียงระเบิดใดๆ
หัวของเฟิ่งหวงไม่ระเบิด และไม่มีทีท่าว่าจะระเบิดเลยสักนิด
“…….”
เสียงดังฟึ่บ เยี่ยนซื่อเฉิงผงะ หน้าตาไม่อยากจะเชื่อ
ส่วนสีหน้าเฟิ่งหวงเย้ยหยันขึ้นเรื่อยๆ และไม่รีบร้อนโจมตี
“นี่….นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
เยี่ยนซื่อเฉิงตากระตุกอย่างแรง กดรีโมทไม่หยุด
ทว่า ไม่ว่าเขาจะกดยังไง เฟิ่งหวงก็ไม่ระเบิด
เฟิ่งหวงทนรำคาญไม่ไหว เหวี่ยงมีดบินออกไป
เยี่ยนซื่อเฉิงเอียงตัวหลบ แต่รีโมทในมือกลับถูกทะลวงเสียงดังแคร่ก
“เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง…….”
เยี่ยนซื่อเฉิงยืนอยู่บนต้นไม้ต้นใหญ่ มองภาพตรงหน้าอย่างไม่กล้าจะเชื่อ
ทันใดนั้น เขาเหมือนนึกถึงความเป็นไปได้บางอย่าง สายตาเคร่งขรึมขึ้นมาในทันใด
“เธอ—-เธอถอดชิประเบิดออกไปหรอ?!”
เขามองเฟิ่งหวงและพูดอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เคร้ง!
สิ่งที่ตอบเขาคือการจู่โจมเร็วปานสายฟ้าของเฟิ่งหวง
ร่ายดาบออกมาอย่างหล่อเหลา วินาทีเดียวก็ทำการแทงไปได้ตั้งหลายที
เยี่ยนซื่อเฉิงรีบปัดป้อง ทั้งสองสู้กันนัว
สู้กันไปสู้กันมา เยี่ยนซื่อเฉิงค้นพบด้วยความตะลึงว่าเฟิ่งหวงมีฝีมือที่ทัดเทียมกับตัวเอง
บูม!
หลังจากถูกเฟิ่งหวงเตะจนถอยหลังไปสามก้าว สายตาของเยี่ยนซื่อเฉิงพลันตะลึงขึ้นมา
เขารู้สึกเหลือเชื่อ ตอนเจอเฟิ่งหวงครั้งแรก เยี่ยนซื่อเฉิงหยอกเล่นกับเธอเป็นเหยื่อที่ถูกล่าเลยล่ะ เฟิ่งหวงไม่อาจต้านทานได้เลยสักนิด
ตอนเจอกันครั้งที่สองที่เมืองเจียงเฉิง เฟิ่งหวงยังคงไม่ใช่คู่มือของเยี่ยนซื่อเฉิง
แต่ตั้งแต่เข้าร่วมหว่างเหลียง เฟิ่งหวงกลับสู้กับเขาได้อย่างทัดเทียม!
“นายคิดว่ามีแต่นายที่พัฒนาตัวเองหรอ?”
เฟิ่งหวงกระแทกหมัด พูดพลางยิ้มเย็น “คนเดียวกัน ฉันไม่แพ้สามครั้งติดแน่ หว่างเหลียงเป็นสถานที่ที่ยกระดับฝีมือได้เยี่ยมจริงๆ”
“……”
ในที่สุดเยี่ยนซื่อเฉิงก็รู้ตัวแล้วว่าที่เฟิ่งหวงกลับมาเข้าร่วมหว่างเหลียงอีกครั้งไม่ใช่แค่เพื่อรวบรวมข่าวสาร แต่เพื่อยกระดับพลังของตัวเองด้วย
ขณะเดียวกันยังถอนชิประเบิดในหัวออกไป
เฟิ่งหวงเป็นนักฆ่าชั้นยอดที่หว่างเหลียงบ่มเพาะออกมาเอง หากไม่รับใช้พวกเขา ก็จะกลายเป็นว่าบ่มเพาะสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งออกมา
ในเวลานี้ ในที่สุดเยี่ยนซื่อเฉิงก็ไม่อาจใจเย็นได้อย่างก่อนหน้านี้ เหงื่อเย็นผุดพราวอยู่บนหน้าผากเขา
บูมบูมบูม!
ขณะนั้น เสียงต่อสู้ทุ้มต่ำดังอยู่เบื้องหลังของเขา
คนของเขาไม่อาจกำราบคนเพียงคนเดียวอย่างถังเฉา
ฝ่ายหลังประหนึ่งเสือที่บุกเข้าไปในฝูงแกก็มิปาน เข่นฆ่าอย่างเมามัน ไม่นานนัก ที่นี่ก็กลายเป็นลำธารแห่งสายเลือด ซากศพเกลื่อนกลาดนับไม่ถ้วน
เขาหักลำคอของหุ่นยนต์ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งอย่างง่ายดาย ถังเฉาเดินเข้าไปหาเยี่ยนซื่อเฉิงด้วยสีหน้าเฉยชา
เสียงเท้าทุ้มต่ำราวกับบรรเลงเสียงแห่งความตาย เหยียบลงบนหัวใจของเขา จนรู้สึกหนาวเหน็บแม้ว่าอากาศจะไม่เย็นก็ตาม
สถานการณ์ในตอนนี้ พลิกผันอย่างมาก
คนที่คับขันกลับเป็นเยี่ยนซื่อเฉิง
ถังเฉาและเฟิ่งหวงขนาบหน้าหลัง เขาไม่มีโอกาสชนะเลยสักนิด
ในขณะที่เยี่ยนซื่อเฉิงตั้งใจจะเดิมพันด้วยการโจมตีตัดสินชีวิต ถังเฉากลับโบกมือเบาๆ ให้เฟิ่งหวงถอยไป
สีหน้าเฟิ่งหวงเปลี่ยนแปลงไป เธอลังเลเล็กน้อยแต่ก็เอาตัวหลบและหลีกทางให้
เยี่ยนซื่อเฉิงก็คิดไม่ถึงว่าถังเฉาจะให้เฟิ่งหวงถอยไป เขากัดฟันกรอดและหลบหนีอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อหนีขึ้นต้นไม้ที่อยู่ห่างไปไม่ไกลได้แล้ว เขาหันขวับกลับมามองถังเฉาด้วยสีหน้ามุ่งร้าย
“นายปล่อยฉันไปวันนี้ นายได้เสียใจในภายหลังแน่”
ถังเฉากลับส่ายหัวและมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “ถ้านายยังกล้าพอจะมาอีก”
“……”
เยี่ยนซื่อเฉิงชะงัก สีหน้าเปลี่ยนแปลงอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ทิ้งไปจากที่นี่
เฟิ่งหวงกลับไปอยู่ข้างกายถังเฉา และพูดอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมคุณต้องปล่อยเขาไปด้วย? เขาเป็นตัวปัญหาใหญ่นะคะ?”
“ไม่จำเป็นต้องฆ่าเขา”
ถังเฉาส่ายหัว มองกลับไปที่กองทัพปราณมังกรซึ่งอยู่ด้านหลัง “พ่อเฒ่าของเขาคือความเจ็บปวดในใจเขา”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณอายังไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขา เขาอาจจะกระทำต่อไป แต่ตอนนี้คุณอารู้แล้ว บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสให้คนเสเพลได้กลับตัว”
ถังเฉาถอนหายใจเบาๆ “อีกอย่าง ฉันไม่อยากให้คุณอาต้องสูญเสียลูกชายไปอีกครั้ง”
เมื่อเข้าใจถึงความรู้หวังดีของถังเฉา เฟิ่งหวงไม่พูดอะไรอีก
“ถ้าเขายังไม่สำนึก เจอกันครั้งหน้าต้องฆ่าเขาให้ได้!”
“อื้ม ความผิดเดิมไม่ควรเกิดขึ้นเกินสามครั้ง”
ถังเฉามองซากศพที่เกลื่อนกลาดไปทั่วเนินเขาและกล่าวขึ้น “ต้องมีคนมารวบรวมสิ่งเหล่านี้แน่ๆ ของพวกนี้มีมูลค่าการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เยี่ยมยอด”
หลังจากอยู่ที่กองทัพปราณมังกรสักพัก เจียงไป๋เสว่ไม่ได้ฟื้นในทันที
เธอได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องใช้เวลาฟื้นฟูอีกนาน
หลังจากกำชับหมอให้รักษาเจียงไป๋เสว่ดีๆ ถังเฉาก็ไปจากที่นั่นอย่างรวดเร็ว
“รองหัวหน้าคะ หลังจากนี้พวกเราจะไปไหนกันต่อ?”
เฟิ่งหวงที่ตามอยู่ด้านหลังถามขึ้น
“ไปชิงตัวเจ้าสาว”
“……”