เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 820 ตรงดิ่งถึงโรงแรม
ขณะเดียวกัน ณ ตระกูลเย่แห่งตระกูลหลวง
แสงไฟสว่างเจิดจ้า คนมีชื่อเสียงระดับชั้นนำหลั่งไหลเข้ามาตลอดเวลา
ตระกูลเย่และตระกูลถังต่างเป็นตระกูลหลวงเลื่องชื่อในเมืองซื่อจิ่ว สองตระกูลนี้ดองกัน เห็นได้เลยว่าจะเป็นที่ฮือฮากระหึ่มขนาดไหน
ตามประเพณีท้องถิ่น เจ้าสาวต้องอยู่ในบ้านตลอดทั้งวันเพื่อรอเจ้าบ่าวมารับ
เจ้าบ่าวจะต้องผ่านด่านอุปสรรคอันท้าทายมากมาย เพื่อให้ได้อุ้มตัวเจ้าสาวไป
นี่คือประเพณี ‘ป่วนงานแต่ง’ ที่ว่า
แขกเหรื่อทั้งหลายรอกันอยู่ที่สวนลานรอบนอกของซื่อเหอย่วนตระกูลเย่ ตระกูลเย่จัดงานยิ่งใหญ่เพื่อต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน
หนุ่มสาววัยเยาว์ตระกูลเย่พากันไปรับรองแขกเหรื่อตามหน้าที่เจ้าของงาน
ในส่วนลึกของลานบ้าน ภายในห้องบรรยากาศโบราณ
หญิงสาวท่าทางไร้ความรู้สึกสวมใส่ชุดเจ้าสาวสีแดงสดกำลังเฝ้ามองทุกอย่างด้วยสายตาเย็นเยียบ
สายตานั้นหนาวเหน็บประหนึ่งเหล็กแข็งที่ไม่เคยละลายมาหมื่นปี น่าหวาดหวั่นใจยิ่งนัก
ถัดจากเธอมีหญิงสาวสวมชุดเพื่อนเจ้าสาวสีม่วงอ่อน ท่าทางพริ้มเพรามีเสน่ห์คนหนึ่งนั่งอยู่ ในมือถือพัฟแป้งและแตะบนใบหน้าเบาๆ
เธอมองลานกว้างตระกูลเย่ด้วยหางตา ภาพแสงสีสว่างจ้าเหล่านั้น ทว่าใบหน้าของเธอกำลังยิ้ม
“เธอดูสิว่าทุกคนยิ้มมีความสุขมากขนาดไหน”
เย่เซ่าเตี๋ยแต่งหน้าเสร็จแล้ว เธอชี้ให้ดูภาพข้างนอกและเอ่ยยิ้มๆ
เช่นนั้นแล้ว ใบหน้าของเย่หรูอี้เย็นเยียบมากขึ้นกว่าเดิม “พวกเขายิ้มไม่ใช่เพราะมีคนแต่งงานในวันนี้ แต่เพราะฉันกำลังจะแต่งเข้าตระกูลถัง ไม่อาจแทรกแซงศูนย์กลางอำนาจของตระกูลเย่ได้อีก”
ชะงักไปครู่หนึ่ง เธอเงยหน้าขึ้นและกวาดตามองเย่เซ่าเตี๋ยด้วยสายตาเรียบๆ “เธอเองก็มีความสุขมาก ไม่ใช่หรอ?”
เมื่อได้ฟัง ใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยฉีกยิ้มกว้างขึ้น “ฉันมีความสุขมากสิ เธอแต่งงานออกไปแล้ว ผู้นำในอนาคตของตระกูลเย่เหลือเพียงฉันและเย่จงซือสองคนที่ต้องแย่งชิงกัน—-ตระกูลเย่ยังไม่เคยมีผู้นำหญิงมาก่อนเลย ฉันคิดว่าฉันสามารถทำลายสถิตินี้ได้”
“งั้นหรอ? เธอคิดว่าเย่จงซือเป็นคนที่จัดการได้ง่ายหรือไง?”
เย่หรูอี้ยิ้มเหยียดหยัน “วันนี้ฉันแต่งเข้าตระกูลถัง พรุ่งนี้เธอเองก็อาจจะได้แต่งงานกับตระกูลหลวงอื่นๆ เพียงเพราะเราเป็นสตรี และเขาเป็นบุรุษ เรื่องบางเรื่องผู้คนมีอคติต่อสตรีโดยกำเนิด”
“เธอพูดถูก”
เย่เซ่าเตี๋ยพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะนั่งลงข้างตัวเย่หรูอี้ ช่วยเธอจัดระเบียบรอยย่นบนกระโปรงเจ้าสาวอย่างละเอียด ท่าทางหวังดีนั่นคนไม่รู้อาจคิดว่าพวกเธอสนิทสนมรักใคร่กันมาก
“ผู้คนมีอคติต่อสตรีมาแต่กำเนิด แต่การดำรงอยู่ของเธอก็เพื่อทำลายอคติเหล่านี้ใช่หรือไม่? ดูลั่วเย่นหัวเมื่อยี่สิบปีที่แล้วสิ ใครกล้าหือบ้าง?”
ชะงักไปพักหนึ่ง เย่เซ่าเตี๋ยหัวเราะ “อีกอย่าง เย่จงซือคิดว่าแค่นี้ก็จะไม่เหลืออะไรให้ห่วงอีกรึไง สำหรับฉันแล้วกลับมองว่ามันเป็นโอกาสที่ดี”
“เธอต้องการให้ฉันยืมมือของตระกูลถัง ควบคุมตระกูลถังเหมือนที่เคยควบคุมตระกูลซ่งงั้นหรอ?”
เย่หรูอี้ถามด้วยสายตาเย็นยะเยือก
เย่เซ่าเตี๋ยดีดนิ้วดังเป๊าะ “บิงโก เหมือนแบบนั้นเลยล่ะ เริ่มรู้สึกว่างานแต่งงานของวันนี้คุ้นตาอย่างน่าประหลาดเลยใช่มั้ยล่ะ?”
“…….”
เย่หรูอี้เงียบลงทันที
ห้าปีก่อน ตระกูลซ่งตั้งใจจะให้เธอแต่งงานกับลูกเลี้ยงของตระกูลหลินเพื่อหยุดความทะเยอทะยานของเธอ หรือก็คือถังเฉานั่นเอง
ทว่า เวลานั้นเย่หรูอี้ยึดมั่นในจุดยืน ไม่ยอมลดศักดิ์ลงไปแต่งด้วยเด็ดขาด หากจะดองกัน ถังเฉาต้องเป็นคนแต่งเข้า
เมื่อเป็นเช่นนั้น ตระกูลซ่งหมดหนทาง ได้แต่ให้ถังเฉาแต่งเข้าตระกูล
ผลสรุป คืนวันแต่งงานถังเฉาหายตัวไป
เรื่องนี้เป็นความเจ็บปวดในใจของเย่หรูอี้ตลอดกาล นึกขึ้นมาตอนนี้ก็ยังรู้สึกเจ็บใจอยู่
ผ่านไปเนิ่นนาน เธอส่ายหัวพลางเอ่ย “มันไม่เหมือนกัน”
“ไม่เหมือนกัน? ไม่เหมือนกันตรงไหน?”
หน้าตาเย่เซ่าเตี๋ยอึ้งไป
“ข้อแรก ตระกูลเย่หาใช่ตระกูลซ่ง ตระกูลถังก็ไม่ใช่ตระกูลหลิน ถังหลินไม่มีทางแต่งเข้า”
“ข้อที่สอง เจ้าบ่าวไม่ใช่ถังเฉา”
“ข้อที่สาม ฉันไม่ยอมเสียสละเรือนร่างของตัวเองเด็ดขาด”
“……”
ใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยเต็มไปด้วยความอึ้ง เธอเงียบไปครู่หนึ่งและถอนหายใจ “เช่นนั้นเธอก็มีแต่ต้องโดนเย่จงซือข่มไว้ แม้แต่เย่จงซือเธอยังก้าวข้ามไปไม่ได้ แล้วยังคิดจะลงมือกับพ่อของเขาอีก”
เย่เซ่าเตี๋ยไม่พูดอะไร เอาแต่มองสวนลานของตระกูลเย่อย่างเย็นเยียบต่อไป
เย่เซ่าเตี๋ยจ้องมองอยู่นาน ทันใดนั้นสายตาก็เย็นเยียบลงและจ้องเย่หรูอี้เขม็ง “เธอทำแบบนี้ถือว่าขุดหลุมฝังตัวเองหรือเปล่า?”
สีหน้าเย่หรูอี้แข็งทื่อไป เธอหันกลับมามองเย่เซ่าเตี๋ยด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “เธอหมายความว่ายังไง?”
“เธอมองครั้งแรกของเธอ ให้ถังเฉาจริงๆหรอ?”
เย่เซ่าเตี่ยมองเย่หรูอี้ด้วยสายตาคมคาย “ไม่ว่าจะเสียไปหรือไม่ เป้าหมายของเธอก็ไม่ใช่เรื่องรักๆใคร่ๆหรอก แต่เพราะอยากผูกมัดตัวเองไว้บนเรือของถังเฉาไปตลอดล่ะสิ”
“เธอรู้ว่าถังเฉาจะไม่ยอมมองดูเธอแต่งงานกับถังหลินเฉยๆ แต่เธอก็ทำแบบนี้ ถังเฉา ตายไปแล้ว!”
“เพราะเธอ ทำให้คนคนหนึ่งที่ควรจะช่วยเธอได้กลับต้องมาตาย”
เสียงของเย่เซ่าเตี๋ยเย็นเยียบ ยิ่งพูดอารมณ์ยิ่งขึ้น ถึงขั้นตบหน้าเธอหนึ่งฉาด
เพียะ!
เสียงตบหน้าดังขึ้น เย่หรูอี้ไม่ได้หลบ เธอยอมรับฝ่ามือของเย่เซ่าเตี่ยไว้
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเย่หรูอี้ไม่อนุญาตให้เย่เซ่าเตี๋ยปฏิบัติเช่นนี้กับเธอหรอก แต่ตอนนี้ เธอได้แต่เงียบ
เพราะบนใบหน้าของเย่เซ่าเตี๋ยฉายแววโกรธเกรี้ยวเช่นเดียวกัน
ตั้งแต่ได้คุยเปิดใจกับถังเฉา ท่าทีที่เย่เซ่าเตี๋ยมีต่อถังเฉาก็เปลี่ยนไป เขาตายไปแบบนี้เธอเองก็โมโหมากเหมือนกัน
“บางทีเธออาจพูดถูก นี่เป็นเรื่องที่ฉันทำเกินไปที่สุด”
เย่หรูอี้เย้ยหยันตัวเอง
เย่เซ่าเตี๋ยหัวเราะเย็นๆ “มารู้ตัวเอาป่านนี้แล้วจะมีประโยชน์อะไร? ฉันนึกเสียใจจริงๆที่ยอมเป็นพันธมิตรกับเธอ ถ้าอำนาจของเธอทลาย ฉันเองก็คงไม่ดีไปกว่ากันนักหรอก!”
เย่เซ่าเตี๋ยโมโหมากจริงๆ เดิมทีเธอยังสามารถนั่งบนภูดูเสือกัด เฝ้ามองเย่หรูอี้สู้รบตบมือกับเย่จงซือให้ตายกันไปข้าง แต่ตอนนี้ เธอนั่นแหละคือรายต่อไป
“เจ้าบ่าวมาถึงแล้ว”
ขณะนั้น เสียงประทัดดังเปรี้ยงปร้างอยู่นอกประตู
รถหรูหราขับเคลื่อนมาเป็นแถวยาว รถโรลส์รอยซ์ที่อยู่ด้านหน้าสุดมีชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าแบบซุนยัดเซ็นสีแดงเช่นกันเดินลงมา หน้าตาเปล่งปลั่ง
หากจะให้พูดว่ามีอะไรแปลก คงจะเป็นหน้าผากของเขาที่มีผ้าก๊อซพันไว้อย่าแน่นหนา ดูเหมือนไปโดนใครฟาดหัวเข้าให้อย่างแรง
บัดนี้เย่หยวนซานก็เดินเข้ามาช้าๆ ทักทายกับถังเหนียนหู่
ส่วนถังฮันเจี๋ยทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว ทั้งๆที่เป็นวันมงคลเขากลับมีสีหน้าเคร่งขรึม
ภายในห้อง เย่เซ่าเตี๋ยดึงสายตากลับมา และเอ่ยเรียบๆ “เจ้าบ่าวกำลังมา ฉันต้องลงไปหยุดเขาแล้ว”
เย่หรูอี้ไม่พูดอะไร ยังคงนั่งนิ่งไม่ไหวติง
เธอมองออกไปที่นอกหน้าต่าง ยังคงไม่อาจทำใจเชื่อว่าถังเฉาตายไปแล้วจริงๆ
ทันใดนั้นเธอผุดลุกขึ้น เรียกเย่เซ่าเตี๋ยไว้ “เดี๋ยวก่อน!”
เย่เซ่าเตี๋ยหันกลับไปมองเธอด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ต้องป่วนงานแต่งงานหรอก ไปแต่งงานเลยเถอะ”
เย่หรูอี้ขจัดความหมองหม่นก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น เอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา
“……”
หน้าตาเย่เซ่าเตี๋ยอึ้งไปหมด อึ้งที่เธอเปลี่ยนแปลงไปเร็วขนาดนี้
ยังไม่ทันได้สติ เย่หรูอี้ก็เดินลงบันไดไปและเปิดประตูตระกูลเย่ดังปัง
ทันใดนั้น ทุกคนในงานเงียบกริบ
ทุกคนต่างมองเย่หรูอี้ด้วยความประหลาดใจ แม้กระทั่งถังหลินยังผงะ
“น้องสาว นี่เธอ…..”
แม้แต่เย่จงซือก็ไม่เข้าใจว่าเย่หรูอี้จะทำอะไร
เย่หรูอี้หัวเราะเย็นๆ “ไปที่โรงแรมกันเลยเถอะ”