เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 844 เสือในกรง
“……”
ซุปเปอร์สี่จากตงเฉินถึงกับตกตะลึง
พวกเขาจ้องเขม็งไปที่รูปร่างที่แตกต่างกันเหล่านี้ แมลงทั้งอ้วนและผอมต่างล้อมรอบตัวพวกเขาไว้ และยังมีบางตัวที่ปีนขึ้นไปบนกำแพงชื้นที่ล้อมรอบด้วยตะไคร่น้ำ
ตอนนี้ถึงจะตระหนักได้ว่าพวกเขาถูกล้อมรอบไปด้วยแมลงแล้ว
ปฏิกิริยาแรกคือการตะโกนออกมา
แต่ในเวลาต่อมา แมลงเหล่านี้ก็พุ่งกระโดดเข้าหาพวกเขา
ใช่
ใช้การกระโดดเข้ามา
หนอนไหมที่ทั้งขาวทั้งอ้วนมากมายกระโดดเข้าไปเกาะอยู่บนตัวพวกเขา
นอกจากนี้ยังมีแมลงสีดำที่มีปีก เมื่อพวกมันกระพือปีก เสียงหึ่งดังขึ้น และทุกตัวก็บินเข้าไปหาพวกเขา
“โอ๊ย……”
ทั้งสี่คนกรีดร้องอย่างน่าสังเวช
ปี๊น ๆ โครมคราม……
รถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคันที่เต็มไปด้วยสินค้าได้วิ่งผ่านไป ระหว่างนั้นยังมีเสียงแตรดังสนั่นขึ้น เสียงนี้ได้ครอบคลุมเสียงกรีดร้องในตรอกนี้ จึงทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงกรีดร้องของพวกเขา
ถังเฉายืนอยู่ที่หน้าปากซอยเล็กๆ แห่งนี้ และมองดูสถานการณ์ในนี้ได้อย่างชัดเจน
ซุปเปอร์สี่แห่งตงเฉินทั้งสี่คนนี้ถูกแมลงเกาะไปทั่วทั้งร่างกาย แม้แมลงส่วนใหญ่จะไม่มีฟันและกัดไม่ได้ แต่พวกมันดูดเลือดได้
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ซุปเปอร์สี่แห่งตงเฉินทั้งสี่คนนี้ก็ถูกดูดจนแผลคราบเลือดเต็มไปทั้งตัว
โดยเฉพาะคนอ้วนที่ถือกระสอบ ร่างกายของเขามีตุ่มเลือดเต็มไปหมด ซึ่งมองแล้วทำให้คนรู้สึกเสียวไส้มาก
“เหอะๆ ก็พวกแกไม่ยอมให้ของอร่อยๆ กับฉัน ฉันก็คงต้องปล่อยให้พวกแกเป็นของอร่อยของลูกๆ ฉันแล้ว……”
“แม้แต่คุณยายของแก แกยังกล้าลักพาตัว กัดให้ตายไปเลยมั้ย”
“ไหนเรียกพ่อสิ!”
หงโฝตื่นเต้นมากเมื่อเห็นภาพนี้ และเธอยังคงตะโกนอย่างตื่นเต้นในตรอกนั้น
การแก้แค้นของหงโฝนั้นหนักมาก เพราะคนอ้วนคนนี้คิดจะยัดเธอเข้าไปในกระสอบป่านเพื่อจะลักพาตัวไป
ดังนั้นหงโฝจึง ‘ดูแล’ ชายอ้วนคนนี้เป็นพิเศษ และการที่ให้เรียกคำว่า ‘พอ’ ก็สำหรับชายอ้วนคนนี้เท่านั้น
“พ่อ พ่อครับ ช่วยเอาแมลงพวกนี้ออกไปที……”
ซุปเปอร์สี่แห่งตงเฉินกรีดร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้เขาไม่สนศักดิ์ศรีอะไรแล้ว แม้แต่เด็กผู้หญิงสิบสองขวบเขายังเรียกพ่อได้
“ถุย!”
“ฉันไม่มีลูกชายที่น่าเกลียดอย่างพวกแกหรอก!”
หงโฝปรบมือด้วยความรังเกียจ
“พอ ๆ เลิกเล่นได้แล้ว”
ถังเฉาทนดูไม่ไหวและพูดออกมาเบาๆ
หงโฝถึงจะตอบตกลงอย่างไม่เต็มใจและผิวปากขึ้น
ฟวู้ม ฟวู้ม ฟวู้ม……
แมลงเหล่านี้บินหนีไปอย่างเชื่อฟัง
และทั้งหมดก็เข้าไปในขวดเล็กๆ รูปทรงแปลก ๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังหงโฝ
ในตรอกไม่มีแมลงแบบนี้ แต่เป็นหงโฝที่ปล่อยพวกมันออกมา หงโฝปฏิบัติต่อแมลงตัวเล็ก ๆ เหล่านี้เหมือนกับสุนัขของเธอ ซึ่งทุกวันเธอจะปล่อยพวกมันออกมาละลายพฤติกรรม
ซุปเปอร์สี่แห่งตงเฉินที่ถูกกัดจนแผลเต็มตัวก็จ้องเขม็งไปที่หงโฝที่อยู่ตรงหน้า เมื่อตั้งสติได้ พวกเขาก็ขดตัวอยู่ที่มุมห้องทันทีราวกับว่าเห็นผี และยังมองเธอด้วยความสยดสยอง
“หืม? พวกแกมองฉันยังไงกันแน่? เหมือนฉันเป็นสัตว์ประหลาดไปเลยนะ ฉันถามหน่อย มีสัตว์ประหลาดที่น่ารักขนาดนี้เลยเหรอ?”
หงโฝเลิกคิ้ว มือเท้าสะเอวแล้วพูดด้วยสีหน้าโกรธเคือง
ตั้งแต่เห็นออร่าแห่งการสังหารของเฟิ่งหวง เธอก็อิจฉาและอยากเรียนรู้มันมาโดยตลอด หลังจากเวลาที่ผ่านมานานแสนนานนี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจกลอุบายเล็กๆ น้อยๆ อย่างหนึ่งได้สำเร็จ
อย่างแรกเลยก็คือการที่ต้องขยายกล่องเสียงให้ดังขึ้น เพราะมันจะทำให้เราดูเก่งขึ้น
และแน่นอนว่าหมูทั้งสี่ตัวนี้ถูกเธอข่มจนไม่เป็นท่าแล้ว
ตงเฉินซุปเปอร์สี่งั้นเหรอ?
ซุปเปอร์สี่หมูของตงเฉินมากกว่า!
เมื่อเห็นสถานการณ์ที่น่าสังเวชของทั้งสี่คนนี้ ถังเฉาถอนหายใจและชี้ไปในทิศหนึ่งอีกครั้ง “มีสถานีตำรวจอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ พวกแกไปมอบตัวซะ”
“……”
ในเวลานี้ คำพูดของถังเฉาราวกับเสียงจากสวรรค์ ทำให้พวกเขาซาบซึ้งจนน้ำตาร่วงไหลออกมา
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจแล้วว่าทำไมถังเฉาถึงให้พวกเขาไปมอบตัวตั้งแต่แรก
เพราะถังเฉาตั้งใจจะช่วยพวกเขาจริงๆ
เพราะยัยคนนี้คนเดียวเลย สัตว์ประหลาดชัดๆ!
“ครับ พี่ชาย!”
“พี่ชายครับ ผมผิดไปแล้วครับ ผมควรเชื่อพี่ชายแล้วไปมอบตัวตั้งแต่แรกแล้วครับ”
“พี่ชายเป็นคนดีจริงๆ นะครับ!”
“ฮือ ฮือ ……”
ซุปเปอร์สี่แห่งตงเฉินที่เต็มไปด้วยรอยแผลก็วิ่งไปมอบตัวทั้งน้ำตา
ถังเฉาไม่ได้พูดอะไรอีก จากนั้นพาหงโฝเข้าไปในร้านขนมหวานร้านหนึ่ง
สำหรับบุคคลภายนอก พวกเขามักเข้าใจว่าถังเฉากับหงโฝเป็นเหมือนพ่อลูกกัน
“โยเกิร์ตปั่นแก้วหนึ่ง”
ก่อนที่ถังเฉาจะพูด หงโฝก็สั่งอาหารด้วยตัวเองก่อนเลย
ถังเฉามองเธอด้วยความประหลาดใจ แต่หงโฝกลับยิ้มแล้วไปนั่งลงบนที่นั่งของเธอ
สิบนาทีต่อมา ถังเฉาได้เปิดเผยเหตุผลที่เขามาหาหงโฝ
แม้หงโฝจะมาเมืองซื่อจิ่วนานแล้ว แต่ถังเฉาไม่เคยมาหาเธอเลย
เนื่องจากหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องทำ จึงไม่มีเวลามาหาเธอ แต่ในที่สุดถังเฉาก็ได้เวลาว่างสักที จึงได้มาหาหงโฝและเล่าเรื่องของหลินโป๋หลายให้เธอฟัง
หลังจากที่หลินโป๋หลายกลับมาจาก ‘หว่างเหลี่ยง’ ก็เกิดเหตุการณ์พลิกตาลปัตรกับเขา
จากคุณชายที่แต่งตัวดูดีคนหนึ่ง กลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่ดุร้าย นอกจากนี้ยังไม่สามารถสื่อสารกับมนุษย์ได้อีก
จากการคาดเดาของถังเฉา หลินโป๋หลายน่าจะไม่รู้ความลับที่แท้จริงของ ‘หว่างเหลี่ยง’ ดังนั้นจึงถูกทำการทดลอง
ถังเฉาให้ความสนใจมาเสมอว่าหงโฝนั้นเลี้ยงแมลงอยู่ และเธอยังเคยอยู่ใน ‘หว่างเหลี่ยง’ อีกด้วย ดังนั้นจึงคิดว่าเธอน่าจะมีวิธีจัดการกับมันได้
ฟื๊ด……
หงโฝม้วนลิ้นของเธอและกินโยเกิร์ตทั้งหมดเข้าไป จากนั้นเช็ดปากของเธอแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ต้องเห็นกับตาถึงจะรู้นะ”
สี่สิบนาทีต่อมา ถังเฉาได้พาหงโฝมาถึงบ้านตระกูลหลิน
ในหน้าบ้านตระกูลหลิน มีหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งกำลังเข็นรถเข็นคันหนึ่งที่มีชายวัยกลางคนนั่งอยู่และกำลังตากแดดกัน
“ถังเฉา? แกเองเหรอ?”
ชายหญิงวัยกลางคนคู่นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ซึ่งก็คือพ่อแม่ของหลินโป๋หลาย หลินอิ่นกับถงเจิน
ทันทีที่เห็นถังเฉา สายตาของหลินอิ่นก็กลายเป็นความเกลียดชัง
ขาของเขาหักเพราะถังเฉา ถ้าจะพูดให้ถูกต้องคือ ถังเฉาทำให้เขาตกใจจนต้องกระโดดลงจากตึกสูงและทำให้ขาทั้งสองข้างของเขาหัก
ดังนั้นเขาจึงเกลียดชังและโกรธเคืองถังเฉามาก
ส่วนถงเจินที่มองถังเฉานั้นสายตาขุ่นเคืองยิ่งกว่า “เรื่องมาจนถึงทุกวันนี้แล้ว แกยังมาบ้านตระกูลหลินทำไม?”
“ที่นี่ไม่ต้อนรับแก รีบไสหัวไปให้พ้นซะ!”
สองสามีภรรยาพูดอย่างเสียงดัง และทำให้ดึงดูดความสนใจของคนอื่น ๆ ในคฤหาสน์ตระกูลหลินทันที
หลังจากเห็นหน้าถังเฉา พวกเขาก็เหมือนกับเห็นเทพเจ้าแห่งโรคระบาดอย่างไรอย่างนั้น
ข่าวที่ถังเฉายังไม่ตายก็ได้อื้ออึงไปทั่วเมืองซื่อจิ่ว ซึ่งแน่นอนว่าตระกูลหลินก็ต้องรู้เรื่องนี้โดยธรรมชาติ
เพียงแต่เรื่องส่วนตัวของตระกูลเย่กับตระกูลถังไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลหลิน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้ยุ่งอะไรด้วย
หงโฝจ้องเขม็งไปข้างหน้าแล้วพูดว่า “คนแก่คู่นี้ทำไมพูดจาแบบนี้กัน?”
“อยู่เงียบๆ”
ถังเฉาติเตียนเธอจากนั้นหันไปพูดกับถงเจินกับหลินอิ่นและคนอื่นๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าพวกคุณไม่ยอมให้ผมเข้าไป ก็อย่าหวังจะได้รักษาหลินโป๋หลายนะ”
หลังจากพูดจบ ถังเฉาก็หันหลังเพื่อจะเดินจากไป
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถงเจินกับหลินอิ่นก็ตื่นตระหนกมาก
“เดี๋ยวก่อนสิ!”
ถงเจินรีบหยุดถังเฉาไว้ จากนั้นรีบเดินเข้ามาด้วยความกังวลและถามว่า “แกบอกว่าไงนะ? แกสามารถรักษาโป๋หลายงั้นเหรอ?”
ถังเฉาพยักหน้าเบาๆ แล้วชี้ไปที่หงโฝ “เด็กผู้หญิงคนนี้อาจมีวิธี”
“เธอ?”
ถงเจินกับหลินอิ่นต่างก็ไม่เชื่อ
หงโฝเริ่มรู้สึกไม่สบอารมณ์และพูดด้วยแววตาที่ไม่พอใจมากนัก “สำหรับมนุษย์แล้วฉันไม่ถนัดหรอกนะ แต่สำหรับสัตว์ร้ายนั้น ฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญเลยล่ะ”
ทันทีที่เธอพูดจบ ในสนามหลังบ้านของตระกูลหลินก็มีผู้หญิงคนหนึ่งที่หน้าคล้ายกับหลินโป๋หลายได้สั่งบอดี้การ์ดสองคนนำกรงเหล็กขนาดใหญ่เข้ามา
และในกรงเหล็กขนาดใหญ่นั้นยังมีเสือที่ดุร้ายอยู่ตัวหนึ่ง!