เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 849 งูยักษ์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
สวบ สวบ สวบ……
เมื่อเสียงนี้ดังขึ้น ถังเฉาก็รู้สึกขนลุกทันที
รูม่านตาของหงโฝหดตัวลง และในฐานะเหมียวเจียงหญิงนักบุญ ในขณะนั้นเธอก็ถึงกับตัวสั่น
แต่หลินจิ่วจิ่วผู้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยได้แต่ยืนงง
“มีอะไรงั้นเหรอ……”
“เงียบ!!”
ในขณะที่หลินจิ่วจิ่วกำลังจะพูดต่อ แต่ถังเฉาก็เตือนเธอด้วยสีหน้าจริงจังมาก
จากนั้นเขาก็อุ้มเธอขึ้นทันที
“คุณทำอะไร……เฮ๊ย……”
ขณะที่ถังเฉาอุ้มหลินจิ่วจิ่วขึ้นมา เธอยังคิดว่าเขาคิดไม่ซื่อกับเธอ
และในขณะที่เธอกำลังคิดจะขัดขืน และจะตะโกนอย่างสุดเสียง
ถังเฉาก็ใช้มือปิดปากเธอไว้ จากนั้นยกเธอขึ้นไปแบกอยู่บนไหล่ และค่อยๆ ขยับเท้าแล้วออกจากที่นี่ไป
หงโฝก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ทันทีเหมือนกับถังเฉา
“อย่าขยับ”
“อย่าเพิ่งหายใจด้วย”
ถังเฉาพูดกับหงโฝและหลินจิ่วจิ่ว จากนั้นเริ่มกลั้นหายใจ
ดวงตาของหงโฝก็ยิ่งตกตะลึงมากขึ้น ดูเหมือนเธอจะมีลางสังหรณ์บางอย่าง และหุ่นเล็กกะทัดรัดของเธอก็เริ่มสั่นขึ้น
“……”
เสียงสวบสาบดังขึ้นสักพัก แล้วก็หายไป
ป่าทั้งผืนกลายเป็นความสงบและไม่มีเสียงใดๆ อีก
ถังเฉาขยับเข้าใกล้หงโฝเล็กน้อย แต่ยังคงระแวดระวังอยู่ จากนั้นเขาพูดกับหงโฝอย่างเคร่งขรึมว่า “สถานการณ์เลวร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“……”
หงโฝพยักหน้าเบาๆ หน้าทั้งใบก็ซีดเซียวลง
“ฉันก็เคยจับงูมาทำกู้งูนะ แต่งูที่ยาวที่สุดที่ฉันเคยจับมันยาวไม่เกินหนึ่งเมตรหรอก แล้วงูตัวนี้ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะยาวแค่ไหน”
ถังเฉาหายใจเข้าลึก ๆ และไม่พูดอะไรต่อ
งูที่ใหญ่ที่สุดในโลกนี้อาศัยอยู่ในป่าอเมซอนในอีกฟากหนึ่งของโลก มันไม่ใช่งูหลาม แต่เป็นอนาคอนด้า
แล้วตัวนี้ในตอนนี้คงไม่น่ากลัวเท่ากับอนาคอนด้าในป่าอเมซอนหรอกนะ……
แม้จะคิดแบบนี้ และตอนนี้ก็ยังไม่มีเสียงอะไรดังขึ้น แต่ถังเฉาก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติมากขึ้น
มันจะเงียบเกินไปแล้ว แม้แต่ลมยังไม่พัดเลย
ป่าทั้งผืนดูเหมือนจะจมดิ่งสู่โลกอันเงียบสงัด ความรู้สึกหดหู่ที่ทำให้หายใจไม่ออกมันปกคลุมเข้ามา
ตอนนี้แม้แต่ถังเฉายังรู้สึกว่ามีบางอย่างมารัดคอไว้
และทันใดนั้น กลิ่นเหม็นจาง ๆ ที่ค่อยๆ เข้มขึ้นก็ลอยมาจากทางอากาศ
กลิ่นคาวนี้ฉุนมาก มันแตกต่างจากกลิ่นคาวทั่วไป ซึ่งมันเหมือนกลิ่นที่ถังเฉาได้รับหลังจากเอาดินขึ้นมาดมในก่อนหน้านี้ และดูเหมือนว่ามันเป็นการแจ้งเตือนบางอย่าง เป็นการแจ้งเตือนให้มนุษย์โลกรู้ว่ามีบางอย่างที่น่ากลัวที่สุดกำลังใกล้เข้ามา
เมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป กลิ่นนี้ก็แรงขึ้นเรื่อย ๆ มันปกคลุมไปทั่วทั้งป่า แม้แต่ถังเฉากับหงโฝที่ซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ยังได้กลิ่นนี้อย่างชัดเจน
พวกเขาพยายามปิดจมูกอย่างเต็มที่แล้ว แต่ยังมีกลิ่นหลุดลอยเข้าไปในโพรงจมูกอยู่ดี ซึ่งมันได้ทำให้สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
“อื้อ……”
หลินจิ่วจิ่วที่ถูกถังเฉาคุมไว้ก็เหมือนจะทนกลิ่นไม่ไหว เธอไม่สามารถกลั้นหายใจได้อีกต่อไป และดูเหมือนเธอกำลังจะร้องเรียกออกมาแล้ว
ถังเฉารีบปิดปากและจมูกของเธอไว้อย่างเร่งรีบ เธอต้องอดทนให้ได้!
ในเวลาเดียวกัน ดวงตาของเขาลึกซึ้งมากขึ้น และเขายังจ้องเขม็งไปในทิศทางเดียวของป่า
มันเป็นทิศทางของเสียงเสียดสีที่ส่งมา มันเหมือนกับใบไม้ปลิดปลิวไปตามสายลม และยังถูกบางสิ่งบางอย่างทับถม
มันเป็นเสียงที่บอบบางจนไม่สามารถมองเห็นที่มาของเสียงได้ แต่มันกลับทำให้ถังเฉารู้สึกถึงศัตรูตัวฉกาจ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงภัยอันตรายที่รุนแรงเท่านี้
“มันมาแล้ว”
ถังเฉาพูดกับหงโฝด้วยสีหน้า
หงโฝก็พยายามกลั้นหายใจไว้แน่นๆ ร่างกายของเธอเกร็งจนแข็งทือ ดวงตาก็จับจ้องไปข้างหน้า
สวบ สาบ……
เสียงเสียดสีดังขึ้นอีกครั้ง
แต่มันเริ่มเข้าใกล้มากกว่าเมื่อกี้แล้ว
ถ้าหากเสียงก่อนหน้านี้อยู่ห่างจากพวกเขา 100 เมตร แสดงว่าตอนนี้กลายเป็น 20 เมตรแล้ว
สิบห้าเมตร!
สิบเมตร!
และยังเข้าใกล้เรื่อย ๆ!
กลิ่นฉุนก็ยิ่งหนาขึ้น ที่มาพร้อมกับมันคือลมหายใจแห่งความสยดสยองที่พร้อมจะบดขยี้ทุกอย่าง
อากาศในป่าดูเหมือนจะถูกบีบออกเป็นน้ำ
สวบ สาบ!
พุ่มไม้ในใต้ต้นไม้ที่ถังเฉากับหงโฝหลบอยู่มันกระสับกระส่ายอย่างกะทันหัน
ใกล้จะถึงแล้ว!
ถังเฉากลั้นหายใจและเหงื่อเย็นก็ไหลลงจากหน้าผากของเขา
เพราะเขาเห็นได้ชัดว่า หลังจากที่พุ่มไม้ใต้ต้นไม้ขยับ พุ่มไม้รอบ ๆ ก็เคลื่อนตัวไปตามกัน
การเคลื่อนตัวเบา ๆ แต่กลับทำให้ต้นไม้รอบบริเวณสั่นสะท้านได้ แล้วตัวมันต้องใหญ่ขนาดไหนถึงจะทำเช่นนี้ได้?
ถังเฉาดูตึงเครียดไปหมด นี่มันได้เข้าสู่สภาวะที่ต้องต่อสู้กันทุกเมื่อแล้ว
แม้เขาจะเป็นเจ้ามังกร แต่เขาก็คือมนุษย์คนหนึ่ง เมื่อไม่เคยเห็นงูที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อนในชีวิต ถ้าจะบอกว่าไม่กลัวก็คงจะเป็นแค่คำโกหก
“หึ……”
จากนั้น ในที่สุดพุ่มไม้ก็ถูกเปิดออกจนหมด
ในความมืดนั้น เห็นเพียงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เท่ากับฝาชักโครกคลานเข้ามา
“ให้ตายสิ……”
ภาพนี้ทำให้ถังเฉาและหงโฝรู้สึกสะดุดตาอย่างที่สุด และหัวใจของพวกเขาก็เต้นรัว!
อย่างที่คิดไว้ นี่คืองูขนาดใหญ่ที่แทบจะมองไม่เห็นหางของมัน
ด้วยรูปร่างของมัน มันต้องใหญ่กว่าอนาคอนด้าของอเมซอนอย่างแน่นอน!
ความยาวประมาณยี่สิบเมตร ทั้งตัวเป็นสีดำสนิทราวกับหมึกสีดำ และมันก็กลมกลืนกับความมืดโดยรอบได้อย่างลงตัว
บนตัวมันยังมีเกล็ดที่ละเอียดซึ่งดูเหมือนเกราะแข็งที่ไม่อาจทำลายมันได้!
ไม่เพียงแค่นั้น บนหัวงูสามเหลี่ยมอันน่าเกลียดของมันยังมีจุดนูนอยู่สองจุด
นั่นมันเป็นเขา!
งูตัวนี้มีเขาด้วย!
งูที่มีเขา ก็คือเจียว หรือมังกรที่มีเกล็ด!
โชคดีที่มันเป็นงูหลาม ไม่ใช่งูพิษ
“อูวววว……”
งูตัวนั้นเลื้อยไปมาอยู่ด้านล่าง สามารถเห็นได้ว่ามีส่วนนูนเล็กน้อยอยู่ตรงกลางท้องของมัน ซึ่งดูก็รู้ว่ามันเพิ่งกลืนสัตว์เข้าไปและกำลังย่อยมันอยู่
“โห!”
ในชีวิตนี้หลินจิ่วจิ่วไม่เคยเห็นงูที่ตัวใหญ่ขนาดนี้มาก่อน และเธอก็ตกใจจนหน้าซีด เหงื่อที่เย็นยะเยือกก็ไหลออกมาเต็มตัว เหมือนเธอเพิ่งถูกลากออกมาจากน้ำ
ในเวลานี้ เธออยากกรีดร้องออกมาอย่างเหลือทนแล้ว แต่ถังเฉายังคงปิดปากเธอไว้เพื่อไม่ให้เธอส่งเสียง
งูมีความไวต่อเสียงมาก มันสามารถรับรู้ความเคลื่อนไหวจากลมหรือแม้แต่การขยับเล็กน้อยของหญ้าได้ แต่ข้อเสียคือสายตามันค่อนข้างแย่
ถ้าพวกเขาไม่ส่งเสียง งูยักษ์ตัวนี้ก็จะไม่เห็นพวกเขา
แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อเห็นงูยักษ์คลานไปมาอย่างช้าๆ อยู่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขา หงโฝก็เกิดแขนขาอ่อนขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้
แต่ห้ามขยับ
และห้ามหายใจ
งูเป็นสัตว์เลือดเย็นและมีความสามารถในการรับรู้อุณหภูมิโดยรอบได้ดี อุณหภูมิของอากาศจะลดลงและเพิ่มขึ้นตามอากาศที่หายใจออก ซึ่งงูจะสามารถจับการเคลื่อนไหวจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ และนี่ก็คือสาเหตุที่ทำให้งูไม่เคยพลาดเมื่อมันล่าเหยื่อ
สวบ สาบ ……
งูยักษ์เลื้อยอย่างช้าๆ และดูเหมือนมันกำลังจะเลื้อยออกไป
และหลังจากเห็นมันจากไป ถังเฉาถึงกล้าถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว งูตัวนี้ถือเป็นเจ้าแห่งป่านี้ไปแล้ว
อย่าว่าแต่ป่าดงดิบแห่งนี้เลย มันสามารถเป็นเจ้าแห่งทุกป่าเลยก็ได้!
แต่แล้ว ในขณะที่พวกเขาเพิ่งจะรู้สึกโล่งอก
เงาสีดำที่อยู่ไม่ไกลก็หวนกลับมาอีกครั้ง
และความเร็วของมันเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
วินาทีต่อมา!
มันกลับยืนขึ้นเหมือนมนุษย์ หลังจากนั้นมันก็พุ่งไปข้างหน้า ไปยังต้นไม้ที่ถังเฉาพวกเขาหลบอยู่อย่างรวดเร็ว