เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 858 ราชวงศ์คนหนึ่ง
เมื่อมีความคิดนี้เกิดขึ้นมา สันหลังของเว่ยหมิงจวินก็หนาวยะเยือกขึ้นมาทันที มีแสงเย็นเยียบลำหนึ่งมองมายังเธอราวกับมองทะลุความคิดของเธอได้อย่างไรอย่างนั้น
“…”
ทันใดนั้นเว่ยหมิงจวินก็ราวกับเผชิญกับศึกใหญ่ ถึงขั้นที่ด้านหลังถูกเหงื่อเย็น ๆ หลั่งจนเปียกชื้น ไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย
เธอรู้ว่านี่ก็คือสายตาของหลินรั่วหวี
ดวงตายังคงสงบนิ่ง แต่ในความสงบนิ่งนั้น กลับมีกลับมีลมพายุที่ไม่มีอะไรเทียบได้ ราวกับจะฟันเธอเป็นเศษเล็กเศษน้อย!
เธอเป็นภรรยาที่มาทีหลังของหลินรั่วหวี!
ทั้งสองคนติดต่อกันมาใกล้จะสามสิบปีแล้ว!
ผู้หญิงคนแรกของหลินรั่วหวีก็คือลั่วเย่นหัว หญิงงามอันดับหนึ่ง แต่คนที่อยู่เป็นเพื่อนเขาในบั้นปลายของชีวิตต่อไปกลับเป็นเว่ยหมิงจวิน!
ใกล้จะเป็นเวลาสามสิบปีแล้ว เพียงพอที่จะมองคนคนหนึ่งจนคุ้นเคย จนทะลุปรุโปร่ง!
สายตาเดียว การกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหนึ่งก็เพียงพอที่จะคิดออกได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
ดังนั้นหลินรั่วหวีก็รู้ได้จากสัมผัสตั้งแต่ตอนก่อนที่เว่ยหมิงจวินตัดสินใจที่จะทำลายลูกในท้องของหลินชิงเสว่
ทันใดนั้น เว่ยหมิงจวินก็ปัดความคิดนั้นทิ้ง
สายตาที่สงบนิ่งนั่นของหลินรั่วหวีจึงจางหายไปอย่างช้า ๆ สะกดอยู่ที่แรงกดดันในใจของเว่ยหมิงจวินที่เข้มข้น ตอนนี้ถึงจะได้สลายไป!
รอจนตั้งสติขึ้นมาได้ เว่ยหมิงจวินจึงได้ค้นพบว่าสันหลังของตนเองถูกเหงื่อเย็นหลั่งจนเปียกชุ่ม
ภายใต้สายตาจับจ้องของเธอ ในที่สุดใบหน้าไร้ระลอกคลื่นของหลินรั่วหวีก็ยกรอยยิ้มขึ้นมา พยักหน้าให้กับหลินชิงเสว่น้อย ๆ “ลูกชายก็ดี ลูกชายก็ดี…”
นิ่งไปพักหนึ่งสีหน้าท่าทางของหลินรั่วหวีก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมาอย่างกะทันหัน หยั่งเชิงถามอย่างระมัดระวัง “ฉันขอ… ฟังหน่อยได้ไหม?”
“…”
สีหน้าของหลินชิงเสว่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมากในทันที กำลังจะเอ่ยปฏิเสธ
“อะแฮ่ม ๆ!”
ถังเฉาไอแห้ง ๆ ออกมาสองที หลินชิงเสว่เงยหน้ามองไปที่เขาทันที
ถังเฉามองเธอด้วยสายตาสงบนิ่ง พยักหน้าให้เธอเบา ๆ
ลังเลอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายหลินชิงเสว่ก็ตอบตกลง “ค่ะ”
ด้วยเหตุนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าของหลินรั่วหวีจึงล้ำลึกยิ่งขึ้น
หลินรั่วหวีผู้มีปัญญาแต่ไม่อวดความรู้ที่ออกคำสั่งกลุ่มขุนศึกที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ด้านนอก นึกไม่ถึงว่าจะผุดรอยยิ้มที่บริสุทธิ์ที่สุดออกมา
“ขอบคุณนะ!”
คำว่าขอบคุณคำหนึ่งนี้เป็นคำที่พูดกับหลินชิงเสว่ และก็เป็นคำที่พูดกับถังเฉายิ่งเสียยิ่งกว่า
เขากำลังขอบคุณอย่างสุดซึ้งที่ถังเฉาทำให้หลินชิงเสว่เปลี่ยนความคิด
สำหรับคนที่อายุมากกว่าห้าสิบปีคนหนึ่งและยังเป็นผู้ชายที่ไม่มีบุตรชายแล้ว การสืบสกุลเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด
ภายใต้การจับจ้องมองทุกคนที่อยู่ในสถานที่นั้น หลินรั่วหวีคุกเข่าข้างหนึ่งลงไป เอียงหูแนบกับหน้าท้องที่นูนขึ้นน้อย ๆ ของหลินชิงเสว่ ตั้งสมาธิ นาทีนี้ หัวใจของเขาเต้นระรัว
ความรู้สึกตัวของผู้แข็งแกร่งบูโดว่องไวและเฉียบแหลมกว่าบุคคลทั่วไป คนธรรมดาจำเป็นจะต้องใช้เครื่องมือแพทย์จึงจะได้ยินเสียง หลินรั่วหวีได้ยินได้อย่างง่ายดาย
การเคลื่อนไหวนั่นเบาบางมาก ๆ เหมือนกับแมลงปอขยับปีก เล็กน้อยจนถ้าหากไม่ตั้งใจฟังอย่างละเอียดก็จะไม่ได้ยินแน่ ๆ
แต่ว่าหลินรั่วหวีก็ยังคงตื้นตันจนน้ำตาของผู้สูงวัยไหลออก หลังจากที่ลุกขึ้นยืน ร่างทั้งร่างก็สั่นเทา
“ได้ยินไหม?”
ถังเฉาเดินเข้ามาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“ได้ยินแล้ว เขาแข็งแรงมาก”
หลินรั่วหวีพยักหน้าพลางเอ่ยออกมา
นาทีนี้ไม่มีใครพูดอะไร
หลินจ้าวหยูน หลินเจิ้นสง หลินโป๋หลาย และแม้แต่ไวโอเล็ตก็ล้วนแต่ยืนดูอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
ไม่ว่าจะเป็นใครก็ล้วนแต่มีความรู้สึกเหมือนกับอยู่คนละโลกอย่างไรอย่างนั้น
ชีวิตใหม่ชีวิตหนึ่งกำลังจะเกิดมา ในที่สุดก็เป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนมีความสุขขึ้นมา
ชีวิตไม่สิ้นสุด เติบโตและขยายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เผ่าพันธุ์มนุษย์สามารถแพร่พันธุ์ดำรงอยู่ได้ยาวนาน
สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เฮือกหนึ่ง สายตาของหลินรั่วหวีก็เปลี่ยนเป็นเอาจริงขึ้นมา มองถังเฉาพลางเอ่ยว่า “ถ้าหากได้ละก็ หลังจากเด็กคนนี้คลอดออกมา ฉันอยากให้เขาใช้แซ่หลิน…”
“ไม่ได้!”
“ได้”
ยังไม่ทันสิ้นเสียง เสียงที่ไม่เหมือนกันโดยสิ้นเชิงสองเสียงก็ดังขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
ในโรงพยาบาลกลายเป็นเงียบสงัดในทันที ทุกคนมองถังเฉากับหลินชิงเสว่สองคนด้วยใบหน้าประหลาดใจ
เห็นได้ชัดว่าถังเฉากับหลินชิงเสว่ก็คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะพูดคำตอบที่ไม่เหมือนของตัวเองออกมา ต่างก็มองกันครั้งหนึ่ง
หลังจากที่ตกตะลึงไปแล้ว สายตาของหลินชิงเสว่ก็เยือกเย็นขึ้นมา
“เด็กคนนี้ก็แซ่ถังเหมือนกัน!”
เธอเอ่ยเสียงต่ำ ด้านนี้เธอไม่ยอมถอยให้อย่างเด็ดขาด
สายตาของถังเฉาซับซ้อน ดูเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่หลินรั่วหวีกลับโบกมือขึ้นทันที ยิ้มจาง ๆ “ในเมื่อเธอไม่ยินดี เช่นนั้นฉันก็ตามใจเธอแล้วกัน”
หลินชิงเสว่ใบหน้าเคร่งขรึมไม่พูดไม่จา ใบหน้ามีความเหนื่อยล้าขึ้นมาทันที
“ไปกันเถอะ”
หลินรั่วหวีพูดออกมาเรียบ ๆ ประโยคหนึ่ง สุดท้ายก็มองหลินชิงเสว่อย่างล้ำลึกครั้งหนึ่ง แล้วก็ไปจากโรงพยาบาล
“ผมไปส่ง!”
ถังเฉาเองก็มองหลินชิงเสว่อย่างรู้สึกผิดและเสียใจครั้งหนึ่ง แล้วก็ตามออกไป
ด้านล่างของโรงพยาบาล รถหรูจอดกันสลอน
ในบริเวณร้อยเมตรนับจากโรงพยาบาลได้ถูกกั้นเอาไว้
เรื่องที่หลินชิงเสว่ตั้งครรภ์ที่สอง ถึงแม้ว่าจะถูกปิดเอาไว้ แต่ด้วยข่าวสารของตระกูลหลวงก็สามารถรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว
หลินรั่วหวีกำลังจะพาคนของตระกูลหลินออกไป กลับมีรถยนต์ขับมาประจันหน้าหนึ่งขบวน
พวกเขามองกับตระกูลหลินอยู่ไกล ๆ พอมองเห็นคนที่นั่งอยู่ในรถได้อย่างชัดเจน หลินรั่วหวีก็หรี่ตาลง โบกไม้โบกมือ บอกใบ้ให้คนที่อยู่ด้านหลังหยุด
จากนั้นก็เดินเข้าไปทางขบวนรถเพียงลำพัง
ขบวนรถที่อยู่ข้างหน้าก็จอดลง ประตูรถค่อย ๆ เปิดออก ผู้หญิงคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยมาดสูงส่งเดินลงมา
สวมชุดกระโปรงสีขาวทั้งชุด แต่กลับมีบุคลิกที่โดดเด่นสุดยอด
เธอและหลินรั่วหวี คนหนึ่งเป็นตัวแทนตระกูลลั่ว คนหนึ่งเป็นตัวแทนตระกูลหลิน เดินเข้ามาอย่างช้า ๆ
ตอนที่กำลังจะสวนกันนั้นเอง หลินรั่วหวีก็หยุดฝีเท้าเอาไว้อย่างกะทันหัน จากนั้นก็ปล่อยให้ลั่วเย่นหัวเดินเฉียดไหล่เขาไป
ดูเหมือนจะพบกันอีกครั้ง ในความเป็นจริงกลับแค่สวนทางกัน
พวกเขาไม่แม้แต่จะสบตากัน
“คุณเองก็มาเยี่ยมเธอเหมือนกันเหรอ?”
หลินรั่วหวีไม่ได้หันหลัง เอ่ยออกมาอย่างราบเรียบ
ลั่วเย่นหัวที่อยู่ด้านหลังหยุดฝีเท้า เอ่ยว่า “คุณใจร้อนเกินไปแล้ว”
หลินรั่วหวีมึนอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็จุดบุหรี่มวนหนึ่งอย่างเชื่องช้า “ไม่รีบไม่ได้หรอกนะ ถ้าหากวันไหนฉันตายไป แม้แต่ทายาทเพียงคนเดียวก็ไม่มี สายเลือดของตระกูลหลินไม่ขาดไปหรอกเหรอ?”
“สายเลือดของตระกูลหลวงขาดไป ก็ยังมีราชวงศ์!”
ลั่วเย่นหัวเอ่ยเสียงต่ำ
“ตระกูลหลินไม่มีราชวงศ์”
“คุณคนเดียวก็คือราชวงศ์”
“…”
คำพูดของลั่วเย่นหัวทำให้หลินรั่วหวีอึ้งไปพักหนึ่ง
จากนั้นก็สูดลมหายใจลึก ๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยด้วยรอยยิ้มเจ็บปวดว่า “เย่นหัว มีชีวิตอยู่มานานขนาดนี้ สุดท้ายคุณก็เข้าใจผมที่สุด”
“วันไหนที่คุณสารภาพผิดจริง ๆ ฉันถึงจะให้อภัยคุณได้จริง ๆ”
“ผมก็เหมือนกัน”
พูดคำพูดเหล่านี้จบ ลั่วเย่นหัวก็เดินต่อไปทางโรงพยาบาล
เท้าหน้าของลั่วเย่นหัวเพิ่งจะเข้าไปในลิฟต์ ถังเฉาก็เดินออกมาจากลิฟต์ ร้องเรียกเขาเอาไว้ในพริบตาที่หลินรั่วหวีกำลังจะขึ้นรถ
“พ่อตา!”
คำว่าพ่อตาหนึ่งคำ ทำให้ร่างกายของหลินรั่วหวีสั่นสะท้านขึ้นมาทันที จากนั้นก็กลับไปสงบดังเดิม หันกลับไปมองไปยังถังเฉา “นายไม่ไปอยู่เป็นเพื่อนชิงเสว่ดี ๆ ล่ะ ลงมาทำไม?”
“ผมมีคำถามอยากจะถามกับคุณครับ”
ถังเฉามองหลินรั่วหวีแล้วเอ่ยขึ้น
แต่หลินรั่วหวีเหมือนกับจะสำนึกอะไรขึ้นมาได้ สายตาเปลี่ยนเป็นล้ำลึกในทันที
“คราวหน้าเถอะ”
“คราวนี้แหละครับ”
ถังเฉามาอยู่ตรงหน้าของหลินรั่วหวี เอ่ยขึ้น
หลินรั่วหวีเงียบอยู่นาน สุดท้ายก็ละทิ้งมันไป เอ่ยด้วยสีหน้าไร้กังวลว่า “ว่ามาเถอะ อยากจะถามอะไร?”
และถังเฉาก็ดูเหมือนว่าจะตัดสินใจแล้วเหมือนกัน กัดฟันเอ่ยขึ้นว่า “หว่างเหลี่ยงมีความเกี่ยวข้องกับคุณไหม?”