เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 891 ไป๋เสว่ช่วยชีวิต
“อ๊าย……”
หลินจ้าวหยูนตกใจยกใหญ่ สีหน้าเปลี่ยนจนซีดเผือดในทันใด อยากส่งเสียงกรีดร้องโดยสัญชาตญาณ
หลินชิงเสว่รีบอุดปากของหล่อนเอาไว้ ร่างกายตึงแน่นถึงขีดสุดแล้ว
แม้ว่าเธอจะหวาดกลัวมากเช่นกัน คนผู้หนึ่งที่มาอยู่เหนือศีรษะของพวกเธอแบบไม่ให้สุ้มให้เสียง จ้องพวกเธอไม่ขยับตัวสักนิด นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าสยองขวัญมากอยู่แล้ว
แต่พวกเธอยังรักษาความสุขุมเยือกเย็นมาโดยตลอด ปิดปากของหลินจ้าวหยูนเอาไว้ได้ทันเวลาด้วย
พวกเธอถูกคนจ้องไว้แล้ว อธิบายความได้ว่าพรรคพวกของเขาคงอยู่ไม่ไกลนัก ถ้าหลินจ้าวหยูนส่งเสียงร้อง จะต้องดึงคนเข้ามามากกว่านี้แน่ ถึงตอนนั้นสถานการณ์ของพวกเธอจะยิ่งย่ำแย่มากกว่าเดิม
หญิงสาวชุดกิโมโนญี่ปุ่นคนนั้นมองเห็นมองเห็นผู้ชายที่สวมหน้ากากสีดำคนนั้นเข้าก็ตกใจจนลูกตาหดเหมือนกัน ลุกขึ้นโดยจิตใต้สำนึก อยากหลบหนีไปจากตรงนี้
แต่ทว่าหล่อนได้รับบาดเจ็บหนัก ดวงตาทั้งสองพร่ามัว และอ่อนแรงล้มพับลงพื้นไป
หล่อนทำได้เพียงมองมาทางหลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนทั้งสองพี่น้อง ใช้ภาษาต้าเซี่ยที่ถือว่าชัดเจนพูดขึ้นว่า “คุณหนูจิตใจดีทั้งสอง พวกคุณรีบหนีไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉันแล้ว”
หล่อนหลับตาลงด้วยความสิ้นหวังอยู่บ้าง มีความหมายเหมือนยอมรับชะตากรรม
หลินจ้าวหยูนกลับทำสีหน้าตกใจ พยุงหล่อนขึ้นมาแล้วพูดด้วยเสียงทุ้ม “ในเมื่อพวกเราช่วยเธอแล้ว ย่อมจะไม่ทิ้งเธอเอาไว้กลางทางโดยไม่สนใจหรอก ช่วยใครก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุดสิ”
ถึงแม้หลินชิงเสว่จะไม่ได้พูดจาอะไร แต่ว่าความหนักแน่นในสายตาได้อธิบายทุกอย่างแล้ว
ห้าปีก่อน เธอเสียสละความบริสุทธิ์ของตนเอง ช่วยเหลือถังเฉาที่โดนวางยา ตอนนี้เธอก็ช่วยเหลือหญิงสาวผู้น่าสงสารที่โดนคนมากมายตามฆ่าอีก
ผู้ชายบนต้นไม้เหมือนสัมผัสได้ถึงการตัดสินใจของหลินจ้าวหยูนและหลินชิงเสว่เช่นกัน จึงค่อยๆ ลุกขึ้นมาแล้ว
จากนั้นแสยะปากออก ยิ้มไปทางพวกเธอแล้ว
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนถูกมองด้วยรอยยิ้มนี้จนรู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว—-นี่คือสายตาแบบที่แมวมองหนูอย่างหนึ่ง เขาเห็นพวกเธอเป็นเหยื่อ
“นายเป็นใคร? ทำไมต้องตามฆ่าหล่อนด้วย?”
หลินชิงเสว่ลุกขึ้นมา พยายามกดเสียงต่ำเอาไว้ แล้วสอบถามผู้ชายคนนั้น
ผู้ชายคนนั้นไม่ตอบอะไร ยังคงมองหลินชิงเสว่อย่างจ้องตาไม่กะพริบแบบนี้อยู่
หลินจ้าวหยูนก็ทำเป็นกล้าหาญขู่ขวัญว่า “ฉันคือเจ้าหญิงรองของตระกูลหลินแห่งตระกูลหลวง บอดี้การ์ดของฉันก็อยู่แถวนี้ ถ้านายกล้าทำอะไรกับพวกฉันล่ะก็ ระวังหัวจะหลุดจากบ่าไว้เลย!”
“……”
ผู้ชายคนนั้นยังคงไม่พูดจา มองพวกเธออยู่แบบนี้ มองจนในใจหลินจ้าวหยูนสั่นเทาพักหนึ่ง
“พี่ ดูเหมือนว่าเขาจะฟังที่พวกเราพูดไม่เข้าใจนะ”
หลินชิงเสว่ไม่ได้พูดอะไร แต่ว่าสายตากลับอึมครึมกว่าเดิม
ใช้ภาษาไม่เข้าใจกัน นี่คือเรื่องต้องห้ามที่สุดในการเจรจา
ถึงแม้หลินชิงเสว่จะยอดเยี่ยมในหลายๆ ภาษา แต่ล้วนเป็นภาษาที่นานาชาติมักใช้กัน ในบรรดาพวกนี้ไม่รวมภาษาญี่ปุ่นเอาไว้ด้วย
เวลานี้ หญิงสาวญี่ปุ่นที่นอนอยู่บนพื้นเอ่ยปากพูดขึ้นกะทันหัน พูดโฉงเฉงอยู่ตั้งนาน
ผู้ชายบนต้นไม้ก็มีปฏิกิริยากลับมา ตอบกลับมาแบบโฉงเฉงเช่นกัน
หญิงสาวญี่ปุ่นทำหน้าอึมครึม สีหน้าโกรธเคืองไม่น้อย จากนั้นด่าไปคำหนึ่ง
“โง่!”
“……”
คำพูดนี้หลินจ้าวหยูนฟังออก
“เขาพูดว่าอะไร?” หลินชิงเสว่มองทางหญิงสาวญี่ปุ่น ถามไป
หญิงสาวญี่ปุ่นสีหน้าย่ำแย่ ยิ่งมีความรู้สึกเสียใจ บอกว่า “ขอโทษจริงๆ นะคะ คุณหนูทั้งสอง ถ้าไม่ใช่เพราะมาช่วยฉันไว้ พวกเขาคงจะไม่จ้องพวกคุณเอาไว้ด้วย เขาบอกว่าจะเอาตัวคุณหนูทั้งสองไปขายและรับแขกที่ญี่ปุ่นค่ะ”
“อะไรนะ?”
หลินจ้าวหยูนพอได้ยิน ชั่วขณะนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เก็บก้อนหินบนพื้นก้อนหนึ่งขึ้นมา โยนเข้าไปยังผู้ชายบนต้นไม้แล้ว หลุดปากด่าทอ “ใจกล้ามากนะ ที่นี่คือเมืองซื่อจิ่ว ไม่ใช่ญี่ปุ่นของพวกแก คิดว่าพวกฉันกลัวแกจริงๆ งั้นเหรอ ถ้าไม่ใช่ว่าฉันรอบอดี้การ์ดของฉัน……”
หลังจากนั้นหลินจ้าวหยูนก็ด่าต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะผู้ชายบนต้นไม้รับก้อนหินที่เธอโยนเข้าไปไว้ได้อย่างสบาย สายตามีความโหดเหี้ยมด้วย
เกิดเสียงกระทบกันของโลหะ เขาจับดาบที่เอวขึ้น มือทั้งสองกุมไว้ตรงด้าม กระโดดลงมา จากนั้นเชือดเฉือนลงไปทางหลินจ้าวหยูน
“อ๊าย—-”
หลินจ้าวหยูนจะเคยเห็นอาวุธนี้มาก่อนที่ไหน? อยู่ตรงนั้นตกใจจนทนไม่ไว้อีกต่อไป ก่อนจะกรีดร้องออกมา
หลินชิงเสว่กัดฟันไว้แน่น กอดหลินจ้าวหยูนเอาไว้แน่น หลับตาลงแล้วเช่นกัน
สถานการณ์ในเวลานี้ เธอไม่มีหนทางแล้ว
คนมีการศึกษาเจอกับคนไร้เหตุผล มุมมองต่างกัน ย่อมยากจะสื่อสารกันได้
ตอนที่หลับตา เธอนึกถึงถังเฉา นึกถึงถังเสี่ยวลี้ บางทีคืนนี้เธอคงต้องตายแล้ว
เคร้ง!
แต่ตอนที่สามสาวล้วนคิดว่าคืนนี้ต้องจบเห่อยู่ที่นี่ ข้างหูกลับมีเสียงคมมีดปะทะกันเสียดหูดังขึ้นทีหนึ่ง
เสียงโลหะสั่นดังก้องจนหูจะหนวก ดังสะท้อนอยู่ทั่วทั้งสวนสาธารณะเชิงนิเวศ
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนอดลืมตาขึ้นมาดูไม่ได้ ชั่วขณะนั้นตกใจจนเบิกดวงตากลมโตแล้ว
เห็นเพียงตรงหน้าของพวกเธอ มีผู้หญิงผมยาวที่สวมชุดหนังสีดำเพิ่มขึ้นมาคนหนึ่ง
มีดสั้นในมือของหล่อน ฝืนสู้อยู่ด้วยกันอย่างหนักกับดาบซามูไรของผู้ไล่ล่า
“คุณเจียง?”
“พี่ไป๋เสว่?”
ทันใดนั้นหลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนร้องตกใจขึ้นทันที
ผู้หญิงที่ลงมือคนนี้ ก็คือเจียงไป๋เสว่
“ยังดีที่มาทัน”
เจียงไป๋เสว่ต้านรับดาบซามูไรของฝ่ายตรงข้ามด้วยมือเดียว หันหน้ามองทางพวกของหลินชิงเสว่ไปด้วย พลางพูดเสียงทุ้ม “รีบพาคนหนีเร็ว!”
“ได้ ได้ค่ะ……”
หลินชิงเสว่กับหลินจ้าวหยูนรีบประคองหญิงสาวญี่ปุ่นขึ้นมา วิ่งไปยังทางตรงกันข้าม
เจียงไป๋เสว่หันหน้า สายตาดุร้ายขึ้นมาแวบหนึ่ง ออกแรงคมมีดอยู่ในมือโดยฉับพลัน
ชิ้ง!
เสียงดังกังวานทีหนึ่ง อีกฝ่ายหนึ่งโดนเจียงไป๋เสว่ดันจนเซถอยหลังไปหลายก้าว
“วอนหาที่ตาย!”
หน้าเจียงไป๋เสว่เผยแววโหดร้าย ยิ่งสู้ก็ยิ่งดุ กระโดดขึ้นกลางอากาศโดยตรง ถือโอกาสระหว่างที่อีกฝ่ายทรงตัวไม่นิ่ง รีบเตะลงบนหน้าอกของฝ่ายชายอย่างรุนแรง จากนั้นเตะติดกันหลายที
ปึงๆๆ!
ชายชุดดำล้มกระเด็นออกไปโดยตรง ในปากกระอักเลือดสดออกมาด้วย
เจียงไป๋เสว่ไม่ได้ให้เวลาเขาหายใจ เข้ามาใกล้ตรงหน้าเขาทันที มีดในมือเล็งไปยังลำคอของเขาตรงๆ
“พวกแกเป็นใครกัน? ทำไมถึงมาโผล่ในดินแดนต้าเซี่ยได้?”
เสียงของเจียงไป๋เสว่หนาวเหน็บ และไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะฟังไม่เข้าใจ ถามไปตามตรง
ขลุกขลัก……
ชายชุดดำไม่ได้ตอบ แต่ว่าควักของบางอย่างออกจากในอ้อมอก ก่อนจะใช้แรงดึง
ฟู่!
สิ่งนั้นพุ่งขึ้นท้องฟ้าในทันที ระเบิดออกกลางอากาศ
ชั่วพริบตาเดียวเจียงไป๋เสว่สีหน้าเปลี่ยนไปมาก “สมควรตาย เป็นระเบิดสัญญาณ!”
สวบ!
เจียงไป๋เสว่แทงทะลุลำคอของคนคนนั้นไปตรงๆ ทีหนึ่งอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อย จากนั้นตามเข้าไปยังทิศทางของหลินชิงเสว่
“คุณหลิน!”
หล่อนตามหลินชิงเสว่ไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ที่นี่ไม่เหมาะให้อยู่นาน คุณกับน้องสาวของคุณรีบออกไปจากที่นี่เถอะ”
จากนั้นก็มองไปยังหญิงสาวญี่ปุ่นที่ถูกประคองไว้แวบหนึ่ง “เอาหญิงสาวคนนั้นมาให้ฉัน พวกคุณรีบหนีไปเถอะ!”
ซู่ๆๆ!
แต่ทว่าหลินชิงเสว่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ทั่วสารทิศก็มีภาพเงาดำที่เหมือนกับก่อนหน้านี้มากๆ ปรากฏตัวขึ้น รีบมุ่งหน้ามาทางนี้กันแล้ว
ศีรษะพวกเขาสวมหน้ากากเหล็กสีดำ ปิดหน้าไว้มิด เผยเพียงดวงตาคู่หนึ่งออกมา ใส่รองเท้าแตะไม้ มือทั้งคู่กุมดาบซามูไรที่ประกายแสงเย็นเฉียบไว้แน่น
จำนวนคนนั้นเรียกได้ว่ามีสิบกว่าคน แวบเดียวล้อมรอบเจียงไป๋เสว่และพวกของหลินชิงเสว่เอาไว้แล้ว
ชั่วขณะนั้น สีหน้าของเจียงไป๋เสว่อึมครึมถึงขีดสุด
มีดที่กุมไว้ในมือเกิดอาการสั่นเทาเล็กน้อยขึ้น