เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 894 ในที่สุดก็เจอหลี่เห้า!
เธอเข้าใกล้ความจริงเพียงพอแล้ว มากกว่านี้อีก เธอจะรับไม่ไหวเอา
คำพูดน่าประหลาดประโยคนี้ ทำให้เจียงไป๋เสว่ตะลึงครู่หนึ่ง
เธอมองเยี่ยนซื่อเฉิงอย่างสงสัยอยู่บ้าง มองดวงตาของเขา
ดวงตาเป็นหน้าต่างของดวงใจ ดวงตาหลอกลวงได้มากที่สุด มีบางครั้งดวงตาก็หลอกลวงไม่ได้มากที่สุด
ค้างคาวในเวลานี้ เขาสะบัดสถานะของค้างคาวออกแล้ว ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ คือเพื่อนร่วมรบของเธอในกองทัพปราณมังกรในอดีต เยี่ยนซื่อเฉิง
ในดวงตาของเขาเผยความโศกเศร้า นอกจากนี้ยังมีความสงสาร
เขากำลังสงสารผู้หญิงคนนี้
เจียงไป๋เสว่ถลึงดวงตาโต วินาทีนี้ หัวใจเธอเต้นรัวตุบๆ
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเยี่ยนซื่อเฉิงถึงเผยสายตาแบบนี้ออกมาให้เธอ เหมือนกับว่าในสายตาเธอเป็นคนน่าสงสารที่สุดบนโลก
เธอรู้สึกไม่พอใจสายตาแบบนี้เอามากๆ
เธอไม่ต้องการความเวทนา เธอไม่อยากถูกสงสาร ถึงแม้ว่าเดินมาเส้นทางนี้ เธอจะยากลำบากมาก แต่ว่าเธอก็กัดฟันยืนหยัด และไม่เคยขอความช่วยเหลือจากคนอื่นสักนิด แม้จะเป็นถังเฉาก็ตาม
เธอใช้ความวิธีของตนเองแอบพยายามมาโดยตลอด เพื่อต่อต้านกับโลกที่ไม่ยุติธรรมนี้ ถึงแม้สุดท้ายจะพ่ายแพ้แล้ว เธอก็ไม่ยอมจำนน—–ผู้หญิงแบบนี้ จะถูกสงสารได้อย่างไรกันล่ะ?
“นายพูดมาให้กระจ่างหน่อย อะไรเรียกว่าเข้าใจความจริงมากพอแล้ว?”
เจียงไป๋เสว่มองเยี่ยนซื่อเฉิงอยู่ ก่อนจะตะโกนขึ้น
เยี่ยนซื่อเฉิงไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงแค่ถอนใจเบาๆ
“สิ่งที่ฉันทำได้คือไม่ลงมือ นี่เห็นแก่ที่เมื่อก่อนฝึกฝนที่เดียวกันมา เป็นเรื่องสุดท้ายที่ฉันจะทำให้ได้”
เขาพูดพึมพำ “หลังสงครามการเปลี่ยนแปลงสิ้นสุดลง มักจะต้อนรับสันติภาพ สุดท้ายเธอจะต้องมีคู่แท้อยู่ด้วยกันไปตลอดกาลแน่นอน”
“……”
ในใจเจียงไป๋เสว่นับวันยิ่งไม่สงบ เธอเย็นยะเยือกไปทั้งตัวและหัวใจ มือเท้าสั่นเทา แม้แต่มีดที่ถือไว้ในมือยังกุมไม่ไหว
หลินชิงเสว่มองพวกของค้างคาวด้วยสายตาเข้มงวดเช่นกัน มองคนที่แสดงตัวเป็น‘พระเจ้าที่ช่วยชีวิต’กลุ่มนี้อยู่
เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้โดยพลการ เป็นพระเจ้าที่ช่วยชีวิตจริงเหรอ?
ทำไมไม่ใช่ปีศาจร้ายที่ทำลายล้างโลก?
ใครเป็นเทพตัวจริง? ใครเป็นซาตานกัน?
“พาหล่อนไปซะ!”
เจียงไป๋เสว่ตะโกนเสียงดัง รั้งท้ายอยู่คนเดียว
หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนถึงได้สติเข้ามา พาตัวโอดะไอ ออกไปทางทิศตรงข้าม
พรึ่บ!
ร่างกายค้างคาววาร์ปหาย ขวางทางหนีไว้แล้ว
“ทางนี้ไม่สะดวก”
เห็นสภาพนี้ สีหน้าเจียงไป๋เสว่อึมครึมอย่างหนักหน่วง “เยี่ยนซื่อเฉิง นายไม่ใช่บอกว่าจะไม่ลงมือเหรอ?”
“ฉันเพียงแค่สัญญาว่าจะไม่ลงมือกับเธอ ไม่ได้หมายความว่าจะมองดู‘เหยื่อ’หนีไปต่อหน้าต่อตา”
ค้างคาวพูดด้วยสีหน้าอึมครึม
“สมควรตาย!”
เจียงไป๋เสว่ไม่มีอิทธิฤทธิ์แยกตัวได้ ไหนจะต้องรับมือกับผู้ชายเสื้อโค้ตสีดำที่ประหลาดคนนี้ และต้องคุ้มครองความปลอดภัยของหลินชิงเสว่ หลินจ้าวหยูน ยังมีโอดะไอด้วย
หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียสักครู่ เจียงไป๋เสว่ยังตัดสินใจคุ้มครองโอดะไอก่อน
เพียงแต่ไม่รอให้เธอผ่านไป ผู้ชายเสื้อโค้ตก็ขวางทางหนีของเธอไว้แล้ว
“คู่ต่อสู้ของเธอคือฉัน”
“……”
เจียงไป๋เสว่กุมมีดไว้แน่น รู้ว่าถ้าไม่สู้จนผู้ชายตรงหน้าคนนี้แพ้ไป ก็ไม่มีทางผ่านไปได้
“นี่คือนายบังคับฉันเองนะ”
เจียงไป๋เสว่สูดหายใจลึกๆ ทีหนึ่ง จากนั้นกระโดดขึ้นไปกลางอากาศทั้งตัว กุมมีดไว้แน่น แทงลงไปยังกระบาลของผู้ชายคนนั้นอย่างแรง
ผู้ชายคนนั้นไม่ได้หลบเลี่ยง แต่ว่าล้วงปืนขนาดเล็กที่ประณีตงดงามกระบอกหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อโดยตรง ลั่นไกปืนไปยังเจียงไป๋เสว่
เสียงปืนปังๆๆ สามที
ลูกกระสุนทั้งสามยิงทำมุมเป็นรูป‘สามเหลี่ยม’ กราดยิงออกมา เล็งเป้าแยกออกไปยังลำคอ หัวใจ และปอดขวาของเจียงไป๋เสว่
เจียงไป๋เสว่อยู่กลางอากาศอาศัยกำลังเอียงตัวหลบลูกกระสุนทั้งสาม
“หือ?”
เห็นได้ชัดว่าผู้ชายคนนั้นรู้สึกตกใจต่อฝีมือของเจียงไป๋เสว่
แต่จากนั้นเขาก็จมสู่ความเงียบ จ้องเจียงไป๋เสว่ไปตรงๆ มองอยู่ตั้งนาน ถึงพูดขึ้นมาประโยคหนึ่ง
“ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเธอมาก พวกเรา……ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วเคยเจอกันหรือเปล่า?”
“มุกจีบสาวที่ห่วยขนาดนี้มันเชยไปแล้ว”
เจียงไป๋เสว่พูดด้วยเสียงทุ้ม กระโดดขึ้นกลางอากาศเหนือผู้ชายคนนั้น หมุนวนมีดในมือเสียงฟึ่บฟั่บ หมุนจนเกิดเป็นภาพดอกไม้มีดที่เย็นยะเยือกหลายดอก
ความเร็วในการร่วงลงของเธอไวที่สุด สิ่งที่หลงเหลืออยู่รอบทิศทางล้วนเป็นภาพวืดของเจียงไป๋เสว่
ผู้ชายคนนั้นมองด้วยท่าทางตกใจ ความสามารถที่เจียงไป๋เสว่แสดงออกมา ทำให้เขาสั่นสะเทือนแล้ว
เขาต้องระวังผู้หญิงคนนี้ ไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดปัญหาในจุดที่มั่นใจขึ้นได้
“เฮ้อ…..”
เขามองดูฉากนี้อยู่ ถึงแม้เยี่ยนซื่อเฉิงจะไม่ได้ลงมือ แต่ก็ยังถอนหายใจด้วยความจำใจ
ห้าปีผ่านไป ความดื้อดึงของเจียงไป๋เสว่ไม่เพียงไม่หายไป แต่นับวันกลับยิ่งรุนแรงขึ้น
เธอเข้าใกล้ความจริงมากแล้ว เพียงแต่เขาไม่มีทางแน่ใจ เธอมีความกล้าหาญจะมองความจริงตรงๆ หรือไม่
ฟู่วๆๆ!
ลมหนาวคำราม แสงเย็นเฉียบบุกจู่โจม!
เจียงไป๋เสว่ถือมีดไว้ในมือ แทงไปยังไหล่ของผู้ชายเสื้อโค้ตอย่างแรง
แต่ไม่ใช่ที่กะโหลกศีรษะ
เธอต้องการไว้ชีวิต
แต่ทว่าผู้ชายเสื้อโค้ตก็ไม่ใช่คนโง่ ในช่วงเวลาชั่วพริบตาหนึ่ง เขายังหลบการโจมตีเอาชีวิตของเจียงไป๋เสว่รอด
ก่อนจะแทงไปยังที่ว่าง เจียงไป๋เสว่ก็ไม่ได้ท้อแท้ แต่หัวเราะเยาะขึ้นมา
“รอนายหลบอยู่เนี่ยแหละ ค่ำมืดยังใส่หน้ากากเอาไว้ ให้ฉันดูหน่อยสิว่าเป็นใครกันแน่!”
พอพูดจบลง เธอก็ยื่นมือออกมา ถอดหน้ากากสีดำบนหน้าของผู้ชายคนนั้นออกแล้ว
พึ่บ!
หน้ากากถูกถอดออก เผยใบหน้าที่ซีดเซียวอย่างกับแช่อยู่ในฟอร์มาลีนมาสามวันสามคืนแล้ว ภายใต้แสงจันทร์อึมครึมสาดส่อง เห็นได้ชัดว่าแสบตาเป็นพิเศษ
แต่ว่าเจียงไป๋เสว่กลับมองหน้าของชายหนุ่มไม่ชัดในวินาทีแรก
เพราะตอนที่ถอดหน้ากากลง เธอถูกกำลังมหาศาลชนจนซวนเซถอยหลังไปหลายก้าวแล้ว
ไม่ง่ายที่เธอจะดึงสติกลับมาได้ เธอเงยหน้ามองใบหน้าของชายหนุ่ม แวบเดียว สีหน้าเปลี่ยนยกใหญ่ เหมือนโดนกระแสไฟฟ้าดูดไปทั้งตัว แข็งอยู่ที่เดิม
เพล้ง!
มีดในมือของเธอตกลงที่พื้น
ตามมาด้วยเริ่มสั่นเทาขึ้นมาทั้งตัว
นั่นคือใบหน้าที่ซีดเซียว แต่ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า หรือว่าเค้าโครงรูปหน้า ล้วนเป็นความคุ้นตามากขนาดนั้น
ก่อนหน้านี้ฝันอยู่ทุกวัน ล้วนฝันถึงหน้าใบนี้
ห้าปีแล้ว
ถึงแม้ว่าหน้าของเขาจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสักนิดเดียว แต่เจียงไป๋เสว่กลับไม่ชอบยิ้มอีกต่อไป—-เธอลืมไปแล้วว่ารอยยิ้มเป็นอย่างไร
“หลี่……หลี่เห้า……”
ริมฝีปากเธอพูดอ้ำๆ อึ้งๆ พูดชื่อหนึ่งออกมาแบบนี้
ใช่แล้ว
ผู้ชายเสื้อโค้ตคนนั้น คือหลี่เห้า
ค้างคาวถอนหายใจเบาๆ คิดในใจ: “สุดท้ายยังถูกหล่อนรู้เข้าจนได้”
“ทำไมถึงเป็นนายได้?”
สีหน้าภายนอกของเจียงไป๋เสว่เห็นชัดว่าดูซีดเผือด ถลึงดวงตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ มองหลี่เห้าอยู่ เบ้าตาแดงก่ำ “ทำไมคนที่ต่อสู้กับฉันถึงเป็นนาย?”
“นี่นายกลายเป็นคนของ‘หว่างเหลี่ยง’จริงเหรอ?”
เจียงไป๋เสว่กำลังสั่นเทาทั่วทั้งตัว วินาทีนี้ เธอรู้สึกแค่หนาวมาก
หนาวทะลุขั้วหัวใจ!
ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจคำเตือนของค้างคาวก่อนหน้านี้แล้วว่าหมายความว่าอะไร
เขากลัวตนเองจะค้นหาความจริงเจอ แล้วจำผู้ชายเสื้อโค้ตคนนี้ได้ว่าคือหลี่เห้า
เวลานี้หลินชิงเสว่และหลินจ้าวหยูนต่างมองเจียงไป๋เสว่แบบตื่นตกใจ ทันใดนั้นไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
แต่หลังจากเผชิญหน้ากับอาการหวั่นไหวตกใจของเจียงไป๋เสว่ สีหน้าของหลี่เห้ากลับงงงวยมากอย่างชัดเจน
เขามองเจียงไป๋เสว่ หน้าตาเผยแววสงสัย “เมื่อก่อนเธอ……รู้จักฉันเหรอ?”
“เธอเป็นใคร?”