เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 922 ทรมานอย่างโหดร้าย
“ผู้บ้าการแพทย์ แกจะดื้อรั้นขนาดนี้จริงๆเหรอ? ช่วยลูกชายของฉันก่อน ฉันจะรีบปล่อยแกไปทันที ถ้าช่วยลูกชายฉันไม่หาย ทั้งชีวิตนี้ของแกก็อย่าหวังว่าจะได้ออกไป นอกซะจากว่าแกจะตาย!”พระอริยมารดรที่สามพูดขึ้นอย่างโหดร้าย
ตัวของเจียงสือเหนียนก็ไม่มีพลังต่อสู้อะไร ถูกทรมานอย่างโหดร้ายรุนแรง ไม่นานก็หมดสติไปเรียบร้อยแล้ว แต่จิตใต้สำนึกบอกกับตัวเองว่า จะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด ถ้าตัวเองยอมแพ้ ชีวิตที่ต้องจากไป จะไม่ใช่ชีวิตของตัวเองแค่คนเดียว
ยิ่งไปกว่านั้นคนที่มาขอให้ตนเองช่วย เป็นถึงเจ้ามังกรถังเฉา
เลือดสดๆไหลออกมาจากมุมปากของเจียงสือเหนียน สายตาของเจียงสือเหนียนเริ่มเบลอมากแล้ว ร่างกายหมดเรี่ยวแรงร่วงตกลงไปที่โซ่เหล็ก
พระอริยมารดรที่สามแล้วก็เย่จงซือดูอยู่ริมๆ
“แกถอดใจซะเถอะ ฉันไม่มีทางช่วยชีวิตลูกชายของแกแน่นอน ถ้าแกอยากที่จะช่วยชีวิตลูกชายของแกจริงๆ ฉันแนะนำให้แกรีบปล่อยฉันไปให้โดยเร็วดีกว่า พอฉันจัดการเรื่องเสร็จแล้ว ฉันจะกลับมาแน่นอน”
พระอริยมารดรที่สามไม่มีทางยอมรับคำพูดของเจียงสือเหนียนอยู่แล้ว หัวเราะเสียงดังออกมาทันที“ฉันบอกไว้แล้ว ว่าตราบใดที่แขนขาของลูกชายฉันยังไม่หายดี แกไม่มีทางออกไปจากที่นี่ได้แน่นอน แล้วก็อย่าคิดว่าจะมีคนอื่นมาช่วยแกด้วย เพราะว่าที่นี่อยู่ที่ล่างตีนเขา”
พระอริยมารดรที่สามนึกว่าคนที่ไม่มีทักษะการต่อสู้อะไรแบบนี้ จะเลิกต่อต้านในทันทีถ้าเกิดได้เจอกับการข่มขู่และใช้ความรุนแรง แต่ที่ทำให้พระอริยมารดรที่สามคิดไม่ถึงก็คือ ต่อให้ทักษะการต่อสู้ของเขาจะแย่ขนาดนี้ แต่ก็ยังจะต่อต้านขัดขืนการทรมานที่รุนแรงของพระอริยมารดรที่สามอยู่อีก
“ดูท่าแกนี่ไม่กลัวตายจริงๆเลยนะ มาเล่นงานมันต่อ!”
บอดี้การ์ดข้างๆง้างแท่งเหล็กขึ้นมา ฟาดลงไปที่ท้องของเจียงสือเหนียนอย่างแรง
เลือดสดๆพุ่งออกจากปากหยดลงบนพื้นอีกครั้ง ร่างกายของเจียงสือเหนียนแทบจะรับไม่ไหวแล้ว แต่สายตายังคงแน่วแน่ เพราะว่าเขารู้ว่าตัวเองยังมีเรื่องสำคัญที่ไม่ได้ทำอยู่อีกหนึ่งเรื่อง
เย่หรูอี้ที่อยู่ข้างๆก็ไม่ได้หนีรอดจากชะตากรรมอันน่าเศร้าสลดเช่นกัน
แม้ว่าเย่หรูอี้ไม่โดนทุบตี แต่เพราะว่าเย่จงซือหื่นและมีตัณหาอยู่แล้ว จึงคิดเลยเถิดไปไกล
พระอริยมารดรที่สามก็รู้เจตนาของลูกชายตัวเองดี จึงวางแผนที่จะให้เย่หรูอี้เป็นผู้ติดตามของเย่จงซือ
พอบอกว่าให้เป็นผู้ติดตาม ให้เป็นเลขาแล้วฟังดูดี แต่จริงๆแล้ว หมายความว่าอะไร คนที่มีสมองต่างก็รู้เจตนาของเขากันทั้งนั้น
แน่นอนว่าใจของเย่หรูอี้อยู่ที่ถังเฉาตั้งนานแล้ว จะหวั่นไหวง่ายๆได้ยังไง
เย่หรูอี้ไม่เพียงแต่จะปฏิเสธ แถมยังสู้ขัดขืนอย่างสุดแรงอีกด้วย ถึงขนาดที่อยากที่จะใช้วิธีการกัดลิ้นฆ่าตัวตายเพื่อที่จะระบายความโกรธของตัวเองออกมาอีกด้วย
แต่ว่าไม่เป็นดั่งใจ เย่จงซือคนนี้ไม่อยากให้ผู้หญิงที่อ่อนโยนละเอียดอ่อนแบบนี้ต้องตายไป ก็เลยคิดหาวิธีต่างๆนานามาควบคุมเย่หรูอี้เอาไว้ ทำให้เย่หรูอี้คิดอยากจะตายก็ยังทำไม่ได้
แต่ว่าพวกเขาก็ทำอะไรเย่หรูอี้ไม่ได้เหมือนกัน ทำได้แค่ล็อคประตูขังให้เย่หรูอี้อยู่ในห้องคนเดียว
“ให้ตายสิ อยู่กับฉันมันไม่ดีตรงไหน หรือว่าอยากจะอยู่กับไอ้เดรัจฉานนั่นอย่างนั้นเหรอ? เดรัจฉานนั่นมันเทียบฉันได้ที่ไหน แม่ของฉันเป็นถึงพระอริยมารดรที่สามเชียวนะ แล้วมันเป็นใคร!”
เนื่องจากเย่จงซือทำไม่สำเร็จ จึงเดินจากไปพลางพูดตำหนิด่าทอถังเฉา
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆก็ทำได้แค่ตอบรับไปตามน้ำ
ในตอนนี้ ถังเฉาก็ได้ตำแหน่งมาเรียบร้อยแล้ว กำลังมุ่งหน้าตรงไป
ระหว่างทางไม่มีข่าวคราวข้อความใดๆทั้งสิ้น แล้วก็ไม่กล้าโทรศัพท์ออกไปด้วย
ถึงยังไงถ้าเกิดไปสะกิดพระอริยมารดรที่สามคนนี้เข้า แล้วถ้าพระอริยมารดรที่สามทำอะไรขึ้นมา ก็ไม่อาจมั่นใจได้จริงๆ
“ยัยคนที่แสนน่ารังเกียจนี้ ไม่คิดว่าจะเป็นพระอริยมารดรที่สาม คนที่ตำแหน่งสูงส่งมีอำนาจมากขนาดนี้ จะทำเรื่องที่สกปรกและน่ารังเกียจแบบนี้ได้”
โซเฟียก็สีหน้าโมโหเช่นกัน
“ไม่ได้ จะต้องฆ่าพระอริยมารดรที่สามนี่ให้ได้ ให้เธอเสียใจกับการกระทำในวันนี้ของเธอ”
จริงๆแล้วจะบอกว่าอำนาจของพระอริยมารดรที่สามคนนี้เสื่อมลงก็ถูก แต่ที่โซเฟียพูดออกมาก็เป็นแค่คำพูดเนื่องจากความโกรธแค้นเท่านั้น แต่ถ้ามีพลังล่ะก็ แน่นอนว่าโซเฟียก็ไม่มีทางปล่อยพระอริยมารดรที่สามไปแน่นอน
ไม่นาน ทั้งสองคนก็รีบมุ่งหน้าตรงไปยังเขตคฤหาสน์ของพระอริยมารดรที่สามอย่างรวดเร็ว
เขตคฤหาสน์นี้แอบซ่อนเร้นจริงๆ ถ้าไม่มีตำแหน่งล่ะก็ ไม่มีทางหาเจอแน่นอน
แต่นี่มันก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับแผนการเข้าไปช่วยเหลือเหมือนกัน
เพราะว่าค่อนข้างแอบซ่อนเร้น แถมเรื่องที่ทำก็ค่อนข้างเป็นเรื่องที่จะให้แพร่งพรายออกไปไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้นพระอริยมารดรที่สามจึงไม่ได้พาคนมากมายมาคุ้มกัน ความปลอดภัยจึงค่อนข้างแย่ลงไปเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
เพราะว่าพระอริยมารดรที่สามใจร้อนอยากจะให้สองมือของลูกชายของตัวเองฟื้นฟูกลับมาให้โดยเร็ว ดังนั้นจึงไม่ได้ออกมาจากเรือนจำ แต่ลงโทษทรมานเจียงสือเหนียนอย่างรุนแรงมาโดยตลอด
เจียงสือเหนียนในตอนนี้ตายไปยังดีกว่าอยู่ซะอีก อยากตายก็ไม่ได้ อยากอยู่ก็ไม่ง่าย หลายครั้งที่เป็นลมหมดสติไปเนื่องจากได้รับความเจ็บปวด แต่เพราะว่าถูกพระอริยมารดรที่สามสาดน้ำเกลือใส่ จึงตื่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
“น่ารังเกียจสิ้นดี ฉันไม่มีทางช่วยลูกชายของแกแน่นอน เพราะว่าถ้าช่วยคนแบบพวกแก ก็เท่ากับว่าทำร้ายคนอีกตั้งมากมาย ฉันเคยบอกไว้แล้ว ว่าหมอมีจิตใจเป็นดั่งพ่อแม่ ฉันมีจิตใจที่จะช่วยผู้คนอยู่แล้ว บอกให้พวกแกรอสักหน่อย แต่ไม่คิดว่าพวกแกกลับมาทำกับฉันแบบนี้”
เจียงสือเหนียนใช้แรงทั้งหมดตะโกนออกมา แต่ดูเหมือนว่าพระอริยมารดรที่สามจะไม่กังวลแม้แต่นิดเดียวเลยว่าเจียงสือเหนียนจะไม่ช่วยเหลือตนเอง
“อย่างนั้นเหรอ ในเมื่อพูดแบบนี้แล้ว ฉันก็คงต้องเอาสิ่งนี้ออกมาแล้วสินะ”
พูดพลาง พระอริยมารดรที่สามก็ยิ้มอย่างชั่วร้าย หยิบยาน้ำออกมาจากข้างหลังของตัวเองหนึ่งขวด
ในขณะที่หยิบยาน้ำออกมานั้น พระอริยมารดรที่สามก็พูดแนะนำไปด้วย
พูดให้เฉพาะเจาะจงก็คือยาน้ำนี้สามารถทำให้คนเชื่อฟังได้
เจียงสือเหนียนเรียนด้านการแพทย์ เขารู้ว่ายาน้ำแบบนี้เป็นยาที่ผิดกฎหมาย ถ้ายาน้ำนี้เป็นของจริง ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า พระอริยมารดรที่สามจะต้องมีโรงงานเคมีที่ใหญ่โตและทรงพลังอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางวิจัยของสิ่งนี้ออกมาได้
พูดพลาง พระอริยมารดรที่สามก็เอายาเชื่อฟังนี้ใส่เข้าไปในเข็มฉีดยา
“มานี่ ฉีดเข้าไปเดี๋ยวนี้”
บอดี้การ์ดรีบวางแท่งเล็กในมือลงทันที แล้วรับเข็มมา
ในขณะเดียวกัน ถังเฉาที่อยู่ในโรงพยาบาลก็เพิ่งจะได้ยินเสียงตะคอกด้วยความโมโหของเจียงสือเหนียน ได้ยินทิศทางของเสียง ตามเสียงนั้นไปพร้อมกับโซเฟียอย่างไม่ได้นัดหมายกัน
เฟิ่งหวงก็จัดการกับพวกลูกสมุนที่ตรงประตูไปเรียบร้อยแล้ว
ตอนที่กำลังจะฉีดยาเข้าไปนั้น ถังเฉาก็มาถึงทันเวลาพอดี หยิบหินขึ้นมาหนึ่งก้อน เล็งยิงเข้าไปที่บนหัวของบอดี้การ์ดคนนั้นอย่างแม่นยำ
บอดี้การ์ดล้มลงไปบนพื้นเกิดเสียงดังปึ้ง หมดสติไปเรียบร้อยแล้ว
“ใครกัน!”
บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆรีบเข้ามาล้อมคุ้มกันพระอริยมารดรที่สามทันที พระอริยมารดรที่สามก็ตื่นตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน
ในตอนนี้เอง เย่จงซือที่เพิ่งจะมาจากทางฝั่งของเย่หรูอี้พอเห็นถังเฉา ก็ตะโกนออกมาด้วยความโมโห
“มันนี่แหละ มันนี่แหละที่ทำให้มือของผมต้องกลายเป็นแบบนี้ แม่ ฆ่ามันซะ!”
พระอริยมารดรที่สามพอได้ยินตาก็แดงทันที ให้บอดี้การ์ดทั้งหมดของตัวเองพุ่งกระโจนเข้าไปตรงๆในทันที
ส่วนเจียงสือเหนียน ที่อยู่บนลวดสลิงทั้งดีใจทั้งเป็นห่วง
เพื่อที่จะยืนยันความปลอดภัยของตัวเองตอนที่อยู่ที่เขตคฤหาสน์นี้ พระอริยมารดรที่สามจัดเตรียมคนที่แข็งแกร่งมากๆไว้หนึ่งคนมาปกป้องคุ้มกันตนเองที่นี่โดยเฉพาะ
ส่วนคนนี้ก็คือหวังหรูเมิ่งที่ผู้คนต่างกล่าวขานว่าเป็นตัวแทนของพละกำลังของยุทธภพ
ถ้าเป็นแค่นักเลงรับจ้างก็ไม่เป็นไร แต่สถานภาพของคนคนนี้มันทำให้คนเห็นแล้วรู้สึกยำเกรงหวาดกลัวจริงๆ