เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 932 หม่าเฟยปรากฏตัวอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ในเมื่อท่านพูดมาแบบนี้แล้ว ฉันก็ไม่อยากถามอะไรมากอีก ฉันขอรับประกันว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จ”
หลังจากฟังไวโอเล็ตพูดจบ หว่างเหลี่ยงก็ออกไปทันที
หงเหลียนดูค่อนข้างภาคภูมิใจ เธอหันข้างพูดกับไวโอเล็ตว่า “คุณควรจะเข้าใจความหมายของคำพูดนี้นะ อย่าจริงจังกับตัวเองมากเกินไป หว่างเหลี่ยงไม่เชื่อใจคุณ แถมยังจ้างคนมาจับตามองคุณเพิ่มอีก ฮึ!”
ไวโอเล็ตไม่รู้สึกแปลกใจเลย ดังนั้นเธอจึงไม่โกรธ แทนที่จะยอมรับผิด กลับปัดความผิดไปให้อีกฝ่ายเสียด้วยซ้ำ
“หงเหลียน ระหว่างเราสองคนไม่แน่ใจว่าใครกันแน่ที่มีปัญหา”
“ทำไมไม่เป็นคุณที่ติดตามฉัน จับตามองฉัน ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า ความจริงแล้วคนที่หว่างเหลี่ยงไม่ไว้ใจมากกว่าคือคุณ ไม่ใช่ฉัน คุณควรเตรียมตัวให้ดีดีกว่า ไม่งั้นถ้าเผลอถูกฉันสืบรู้อะไรมา คุณน่ะจบแน่”
หงเหลียนไม่รู้จะพูดอย่างไรดี แม้ว่าตนจะคอยระมัดระวังและทำงานหนักเพื่อหว่างเหลี่ยงมานานหลายปี ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น แต่บางครั้งก็ถูกใส่ร้าย แม้ว่าคุณจะไม่ได้ทำอะไร แต่คนอื่นก็มองว่าคุณทำอยู่ดี
เห็นได้ชัดว่าไวโอเล็ตกำชัยชนะใน ‘การต่อสู้’ ครั้งนี้ จึงย่อมจากไปอยู่แล้ว
“ฮึ คุณรอดูก็แล้วกัน ไวโอเล็ต แองเจล่า เมื่อฉันพบหลักฐานการทรยศของคุณ ฉันจะทำให้คุณรู้ว่าความสามารถคืออะไร”
คนที่หงเหลียนส่งไปทำงานได้รีบรุดไปถึงหมู่บ้านภูเขาหม่าหลันแล้ว ส่วนถังเฉาก็กำลังจะออกไปจากที่นี่
แม้จะคาดเดาได้ว่าพวกหว่างเหลี่ยงอาจจะทำร้ายคนอื่น แต่เมื่อรับปากหลินชิงเสว่ไว้แล้วก็ต้องทำให้ได้ ไม่ว่าตนเองอยากจะยื่นมือเข้าไปยุ่งแค่ไหนก็ตาม
“วันนี้พวกเรากลับก่อนแล้วกัน ผมจะพาคุณไปเที่ยวสวนสนุก”
เมื่อได้ยินคำว่าสวนสนุกสามคำนี้ ใบหน้าของหลินชิงเสว่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ราวกับว่ามีลูกกวาดแสนหวานอยู่ในปาก
“ดีจัง ดีจัง”
หลินชิงเสว่ตามถังเฉาออกไปโดยไม่ลังเล
สวนสนุกนั้นเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับถังเฉาจริงๆ
ตนเองยังไม่เคยตื่นตระหนกเมื่อต้องกระโดดร่มสูงนับหมื่นเมตร ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเครื่องเล่นในสวนสนุกพวกนี้เลย
เพียงแต่ว่าที่ภูเขาหม่าหลันนั้นอันตรายเกินไป จึงต้องออกไปก่อน
เฟิ่งหวงรู้ว่าช่วงนี้ถังเฉาไม่ได้อยู่ที่นี่ จึงคอยดูแลเมือง L อย่างระมัดระวังและขยันขันแข็ง จนกระทั่งวันนี้ที่เฟิ่งหวงได้รับข้อความหนึ่ง
ข้อความนี้ถูกส่งมาจากไวโอเล็ต
“เฟิ่งหวง รีบแจ้งถังเฉาว่า หว่างเหลี่ยงส่งคนไปที่เมืองซื่อจิ่ว ตำแหน่งน่าจะสูงอยู่ ระวังตัวด้วย”
ด้านบนคือเนื้อหาทั้งหมด แม้ว่าจะไม่มีเงื่อนงำใดๆ แต่อย่างน้อยก็ได้รู้สถานการณ์ของตัวเอง เฟิ่งหวงรีบแจ้งถังเฉาทันที ไม่ว่าถังเฉาจะตอบหรือไม่ก็ตาม เธอเพียงต้องการให้ถังเฉารู้ว่า ต้องระวังตัวเอง
ถังเฉาได้อ่านข้อความนี้แล้ว แต่ในเวลานี้เขากำลังสนุกสนานอยู่ในสวนสนุก
ขณะที่ถังเฉากำลังจะไปซื้อไอศกรีม จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของหลินชิงเสว่
เขาหันกลับมาและพบว่าหลินชิงเสว่ชนเข้ากับคนคนหนึ่ง ตอนนี้คนคนนั้นกำลังพูดพร่ำไม่หยุดเพื่อให้หลินชิงเสว่คุกเข่าลงผูกเชือกรองเท้าให้ตน
ช่างเหิมเกริมเหลือเกิน
ถังเฉาทิ้งไอศกรีมแล้วรีบวิ่งเข้าไป
ผู้หญิงที่คิดว่าตัวเองสวยยืนอยู่ตรงหน้าหลินชิงเสว่ ถ้าไม่ใช่เพราะอายุมากแล้ว เธอจะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่ง แต่ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะดูมีอายุ แต่เมื่อเปรียบเทียบอวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าที่เกือบจะสมบูรณ์แบบก็ยังมองเห็นได้อย่างชัดเจน
“สามีของฉันเป็นประธานบริษัทใหญ่ คุณมาชนฉัน ก็ต้องรีบขอโทษฉัน”
หลินชิงเสว่ไม่ใช่คนก้าวร้าวอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าตัวเองไปชนคนอื่น เธอก็เอาแต่ขอโทษ แต่ดูเหมือนหญิงชราผู้นี้ยังไม่ยอมปล่อยหลินชิงเสว่ไป
“ฉันพูดไปแล้วว่า ฉันต้องการให้คุณคุกเข่าขอโทษ อย่างคุณมันไม่ใช่การขอโทษ รีบลุกขึ้นเดี๋ยวนี้ อย่ามาเสแสร้ง”
หลินชิงเสว่รู้สึกว้าวุ่นใจจนไม่รู้จะทำอย่างไร ในเวลานี้ถังเฉาก็เดินเข้ามาในที่สุด
หากพูดว่าสุภาพบุรุษย่อมไม่ทำร้ายผู้หญิง ถังเฉาก็ต้องเป็นคนที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดในหมู่มวลสุภาพบุรุษอย่างแน่นอน
ถังเฉาบิดมือของผู้หญิงที่ดึงหลินชิงเสว่ไว้โดยไม่ลังเล
หญิงคนนั้นคุกเข่าให้หลินชิงเสว่เพราะความเจ็บปวด
“เป็นอะไร ไม่จำเป็นต้องมากพิธีแบบนี้ก็ได้นี่”
ถังเฉาเอ่ยอย่างเย็นชา หญิงคนนั้นร้องลั่น ดึงให้ผู้คนเข้ามารายล้อมเป็นจำนวนมาก ถังเฉากลัวว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยมากเกินไปและทำให้ตนเองมีปัญหา ดังนั้นจึงปล่อยมือของผู้หญิงคนนั้น
“ที่รัก เราไปกันเถอะ”
ว่าแล้วถังเฉาก็จากไปพร้อมกับหลินชิงเสว่
หญิงคนนั้นดูเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าคนอย่างถังเฉานั้นไม่ควรเข้าไปยั่วยุ จึงต้องนิ่งเงียบเป็นใบ้ไป
แต่เธอก็ไม่ได้โง่ หลังจากที่ถังเฉาจากไป เธอก็เดินตามพวกถังเฉาไปอย่างไม่ลังเล พลางถ่ายรูปป้ายทะเบียนรถของพวกเขาไว้
“ฮึ่ม นี่มันทะเบียนของเมือง L พวกแกตายแน่ พวกแกคงไม่รู้ว่าสามีของฉันเป็นใคร!”
หญิงคนนั้นกัดฟันกรอด ถึงอย่างไรตนเองก็เพิ่งหนีพ้นจากห้วงแห่งทุกข์ของชีวิตคนจน กำลังจะได้ดื่มด่ำไปกับชื่อเสียงเงินทอง แต่กลับถูกรังแกตั้งแต่วันแรก
หลังจากกลับมาถึงเมือง L หญิงคนนั้นก็ค้นพบสถานะของหลินชิงเสว่อย่างรวดเร็ว
“ที่รัก นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้คุณมีเงินแล้ว จะยังมีใครกล้าเหยียบหัวคุณอีก”
เธอไม่รู้เลยว่าจะทำอะไรได้บ้าง ถึงได้พูดเสียงดังขนาดนี้
ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนแรงงานได้ยินประโยคนี้ ท่าทางดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“อะไรนะ มีคนกล้ารังแกคุณเหรอ! ใครกัน บอกผมสิ ผมกำลังอยากใช้สถานะใหม่ของผมจัดการใครดูบ้าง”
ผู้หญิงหยิบรูปออกมา ซึ่งเป็นรูปของหลินชิงเสว่
“คุณดูสิ คนคนนี้แหละ ยังมีสามีของเธอด้วย วันนี้มาทำร้ายฉันที่สวนสนุก ฉันกำลังคิดว่า สามีของฉันคู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาหรือเปล่า ฉันเลยไม่กล้าลงมือ”
ฝ่ายชายได้ยินดังนั้นก็ทุบโต๊ะอย่างแรง
“ไร้สาระ! สามีของคุณเป็นใคร พรุ่งนี้ผมจะไปฆ่าเขา!”
ผู้ชายบ้าระห่ำคนนี้ชื่อหม่าเฟย
หม่าเฟยเป็นผู้ช่วยที่หว่างเหลี่ยงหามา แม้จะเงอะงะงุ่มง่าม แต่เมื่อได้ความช่วยเหลือจากหว่างเหลี่ยง เขาได้หุ้นของบริษัทไปเป็นจำนวนมากในชั่วข้ามคืน ตอนนี้เขาเป็นผู้ประกอบการในเมือง L ที่น่าเกรงกลัว
วิธีการที่ผู้ประกอบการคนนี้ใช้ไม่สวยงามเหมือนคนอื่น ๆ แต่เรียบง่ายที่สุด
ไม่มีใครกล้าขัดขวางคนที่เข้าครอบครองบริษัทในนามของหว่างเหลี่ยง
นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนเกรงกลัวหม่าเฟยในตอนนี้
และเขาใช้เวลาเพียงคืนเดียวในการทำทุกอย่างนี้
ในไม่ช้า หม่าเฟยก็ค้นพบฐานะทางสังคมของหลินชิงเสว่ รู้แล้วว่าบริษัทของเธอตั้งอยู่ที่ใด
เช้าตรู่วันถัดมา หม่าเฟยได้ส่งคนไปที่บริษัทของหลินชิงเสว่
ทีแรกหลินชิงเสว่นึกว่าเป็นเรื่องลงทุน จึงให้เข้ามา
แต่หลังจากที่หลินชิงเสว่ให้ลูกน้องของเธอเจรจาอยู่ครู่หนึ่ง ลูกน้องก็ถูกทุบตีจนหน้าตาฟกช้ำดำเขียวและเข้ามาหาหลินชิงเสว่
“บอสคะ ลูกค้าคนนี้ฉันเจรจาต่อไม่ไหว”
เด็กสาวผิวขาวเกลี้ยงเกลาวิ่งร้องไห้ออกไปจากบริษัท ซึ่งทำให้หลินชิงเสว่รู้สึกสับสน