เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 943 พูดเรื่องใหญ่ประหนึ่งเป็นเรื่องเล็ก
“นี่เพิ่งจะกลับมาเอง พักผ่อนก่อนแล้วค่อยประลองกันดีกว่านะ”
“ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่ยุติธรรมเลยน่ะสิ”
อยู่ๆถังเชียนเชียนก็เอ่ยขึ้น รอยยิ้มของถังเย่ข้างๆหายไปในบัดดล
“เป็นเด็กผู้หญิง เวลาผู้ชายเขาคุยกันแกไปอยู่ที่อื่น อย่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง”
ถังเย่อยากให้ถังโจ่ฆ่าถังเฉาซะเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ และประโยคนี้ของถังเชียนเชียนทำลายแผนการของตัวเอง เขาย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว
“ตัวเขาเองยังบอกว่าตกลงที่จะประลองเลย แกจะแทรกทำไมกัน?”
“……”
ถังเชียนเชียนมองถังเฉาอย่างเหนื่อยอ่อน ได้แต่เดินไปอยู่ด้านข้างเงียบๆ
ถังโจ่หัวเราะเย็นๆ “ศิษย์น้องเล็ก จงดูให้ดีเถอะ คราวนี้ศิษย์พี่ใหญ่จะตั้งใจสอนเธอ พอเรียนรู้กระบวนท่าพวกนี้ได้แล้ว เธอก็จะไร้เทียมทานเมื่อออกไปข้างนอก!”
ถังเฉาได้ยินคำเหล่านี้แล้วกลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ค่อยได้
มุมปากที่เลิกขึ้นเล็กน้อยเป็นที่สังเกตเห็นจากศิษย์พี่ใหญ่ได้ทันที ศิษย์พี่ใหญ่ยิ่งเดือดมากขึ้นไปอีกระดับ
“ไอ้เวรนี่ยิ้มอะไรวะ?”
แต่ศิษย์พี่ใหญ่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะเขาตั้งใจว่าจะทำให้ถังเฉารู้รสความเสียใจในตอนที่ประลองฝีมือกัน
ลั่วเย่นหัวมองถังเฉาด้วยสีหน้ากลัดกลุ้ม “เอาอย่างนี้ถังเฉา ช่างการประลองฝีมือครั้งนี้เถอะ ถึงยังไงไม่ว่าจะชนะหรือแพ้ก็ไม่ได้เป็นประโยชน์ใดๆ”
แต่ถังกลับเลิกมุมปากขึ้น มองลั่วเย่นหัวด้วยสีหน้าสบายๆ
“จะทำแบบนั้นได้ยังไงเล่า? แม่ยายครับ นี่เป็นการต้อนรับผมจากญาติของตระกูลเราเลยนะครับ น้ำใจนี้ผมจะปฏิเสธมันไปได้ยังไง”
“ถ้าผมไม่ยอมรับการท้ารบนี้คงจะไม่ดี แม้ว่าทักษะของผมไม่ได้ดี แต่ในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ คงไม่ลงมือกันถึงตายหรอกใช่มั้ยครับ?”
ถังเฉามองถังโจ่ด้วยสีหน้าเย้ยหยัน พลางกล่าว
เมื่อได้ฟัง ศิษย์พี่ใหญ่ได้แต่ยิ้มและตอบกลับไป “ใช่ๆ ฉันจะลงมือถึงตายได้ยังไงล่ะ เราเป็นคนกันเองทั้งนั้น เอาแค่รู้แพ้รู้ชนะก็พอ”
ถึงจะพูดไปอย่างนั้น แต่ในใจของถังโจ่ได้คิดถึงภาพที่ถังเฉาโดนตัวเองเล่นงานจนตายไว้แล้ว
ลูกหลานตระกูลถังทุกคนไปยืนอยู่ใต้เวทีประลอง รอชมภาพที่ถังเฉาถูกฆ่าอย่างทารุณ
สายตาของถังเชียนเชียนเริ่มร้อนใจขึ้น ราวกับมีเปลวเพลิงนับหมื่นกำลังแผดเผาตัวเอง
ลูกพี่ลูกน้องที่ไม่เคยพบกันตรงหน้าเธอนี้ ไม่รู้ทำไมถึงดูเหมือนมีไฟแห่งคุณธรรมลุกโชติอยู่ในตัวตลอด
กลับมามองตัวเองที่อยู่ตระกูลถังมาสิบกว่าปีจะยี่สิบปี แต่กลับไม่เคยเห็นครอบครัวตัวเององอาจได้ถึงเพียงนี้เลย
แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ทำให้เธอกังวลมาก
ด้านถังเย่เปรียบเสมือนหมาป่าหิวโซถึงขีดสุด สายตาเต็มไปด้วยความโลภ จ้องมองถังเฉาที่ยืนอยู่ไม่ไกล
การปะทะใกล้จะเริ่มขึ้นทุกเมื่อ คล้อยตามเสียงกู่ร้องของบรรดาลูกศิษย์ ถังโจ่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและพุ่งไปอยู่ตรงหน้าถังเฉา ความเร็วนั้นไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทำให้ถังเฉารู้สึกแปลกใจเลยสักนิด อย่างไรซะตามที่พระอริยามารดรใหญ่บอกว่าคนตระกูลถังที่ว่าได้รับสืบทอดศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งสุดๆ
ในตอนที่ถังโจ่หายไปจากสายตาของทุกคน ทั้งหมดจึงคิดว่านาทีนี้แหละที่ถังเฉาจะล้มลงในพริบตา ต่างเผยสายตาชื่นอารมณ์ บางคนถึงขั้นวิปริตด้วยซ้ำ
ส่วนถังโจ่ที่อยู่ตรงหน้าถังเฉาก็คิดเช่นกันว่าถังเฉากำลังจะหมดสภาพด้วยตัวเอง แต่ภาพที่พลันปรากฏขึ้นมากลับทำให้เขาตะลึงจนอ้าปากค้าง
“นี่มันเป็นไปได้ยังไง นี่เขาหลบการโจมตีอย่างรวดเร็วขนาดนั้นของฉันได้ยังไง?”
แม้ว่าถังโจ่จะไม่ได้ออกแรงทั้งหมด แต่ความเร็วนี้สำหรับตัวเองก็เกินกว่าขีดจำกัดมาเจ็ดสิบถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว
แต่อัตราความเร็วขนาดนั้น กลับถูกถังเฉาผู้สุดแสนจะธรรมดาหลบได้อย่างง่ายดาย
กลับมามองกำปั้นของถังเฉา พุ่งมาถึงตรงหน้าหัวหน้าพิธีกรรมด้วยความเร็วปานสายฟ้า แต่ถังเฉาไม่ได้ลงมือหนัก เพียงแต่เก็บกำปั้นของตัวเองกลับมา
พอเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทุกคนก็ได้เห็นความไม่ธรรมดาของถังเฉา ตอนนี้ในใจของพวกเขามีเพียงความคิดเดียว
หรือว่าถังเฉาตรงหน้าคนนี้ใช้กลอุบายชั่วร้ายอะไร ถึงทำให้ศิษย์พี่ใหญ่ไม่สามารถล้มเขาได้ด้วยกระบวนท่าเดียว
“ไอ้เด็กนี่! เขาต้องติดตั้งอุปกรณ์อะไรไว้ในร่างกายของตัวเองแน่ๆ ไม่อย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบการโจมตีที่รวดเร็วขนาดนั้น”
“ใช่! ฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ถังเรารู้กันดี ปกติแล้วคนที่ไม่เคยฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ใดๆจะหลบการโจมตีแบบนี้ง่ายๆได้ยังไง”
“…….”
ทุกคนพูดกันไปต่างๆนานา แต่คำพูดมากมายนั้นเป็นการใส่ร้ายถังเฉาทั้งหมด
ถังจะไม่ได้ยินคำพูดนินทาเหล่านี้ได้ยังไง แต่ถังไม่แยแสเท่าไหร่ ถึงยังกุ้งหอยปูปลาเหม็นๆเหล่านี้ไร้ค่าทั้งหมดเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
ส่วนถังเชียนเชียนที่ดูอยู่ข้างๆถึงกับตาโตอ้าปากค้าง
“พ่อคะ พี่ชายคนนี้ไปฝึกฝนวิชาแปลกๆอะไรมารึเปล่าคะ ทำไมฝีมือดีขนาดนี้”
ถังเย่เพิ่งจะตั้งตัวได้จากความตะลึงที่มีให้ถังเฉา ก็โดนลูกสาวตัวเองถามคำถามที่น่าขายหน้าเช่นนี้ ตอนนี้ใจของเขานั้นเรียกได้ว่าครบทุกรสชาติ ตุ้มๆต่อมๆไปหมด
“พูดเป็นเล่นหรือเปล่า ถังโจ่จะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาได้ยังไง? แค่ไอ้เด็กนั่นเล่นตุกติกเท่านั้นแหละ มิฉะนั้นไม่มีทางหลบการโจมตีของถังโจ่พ้นหรอก”
ส่วนคนที่รู้ทุกอย่างดีอย่างถังโจ่ บัดนี้สัมผัสถึงความแตกต่างของถังเฉาได้อย่างชัดเจน แต่เขาเชื่อมั่นเต็มหัวใจว่าเขาแค่ผิดพลาดไปเท่านั้น เผชิญหน้ากับผู้ชายที่ไร้กำลังแบบนี้ตัวเองจะสู้ไม่ได้ได้ยังไง
ถึงยังไงในการประลองทั้งหมด คนที่อยู่รุ่นราวคราวเดียวกับตัวเองโดนตัวเองจัดการได้ในเสี้ยววินาทีทั้งนั้น และคนตรงหน้าคนนี้อายุน้อยกว่าตัวเองตั้งเยอะ
ถังโจ่รีบถอยออกมา เขาคิดว่าตัวเองหลบการโจมตีของถังเฉาพ้นเอง เผยรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า แต่ในใจนั้นเกิดความรู้สึกสารพัน
“ไม่เลวนี่ โชคยังดีอยู่ คุณถึงกับหลบการโจมตีนี้ได้ แต่การโจมตีครั้งต่อไปคุณคงไม่โชคดีขนาดนั้นแล้ว!”
ถังเฉาเพียงแต่ยิ้มเย็นๆ เขาไม่รู้สึกถึงความตื่นตระหนกเลยสักนิดเมื่อเจอกับคนตรงหน้า กลับรู้สึกสนุกเหมือนได้หยอกล้อกับเด็ก
จากนั้นถังโจ่พุ่งไปอยู่ตรงหน้าถังเฉาด้วยความเร็วปานสายฟ้าหมายจะโจมตี จัดการถังเฉาให้อยู่หมัด ครั้งนี้เขาเร่งความเร็วเต็มร้อย
หากการโจมตีนี้ยังไม่สามารถเอาชนะศัตรูได้ เช่นนั้นศัตรูคนนี้ต้องเป็นอาจารย์ของตัวเองแน่นอน แต่ถังเฉาตรงหน้านี้ไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน
นี่เป็นความคิดในใจของหัวหน้าพิธีกรรมในตอนนี้ และกำปั้นของเขากำลังจะเข้าหน้าของถังเฉาแล้ว
นาทีนั้นเอง ถังเฉาค่อยๆหลับตาลง ก่อนจะหมุนตัวด้วยท่าทีสบายๆ
ทุกคนตกตะลึงจนอ้าปากค้าง มองสองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าอึ้งๆ
ถังโจ่พุ่งผ่านด้านข้างของถังเฉาไป ไม่ทันได้แตะต้องแม้แต่ปลายเส้นขนของถังเฉา
แล้วหันไปมองถังเฉา ถังเฉาเพียงแค่ยิ้มเล็กน้อยก่อนจะพูดด้วยความละเอียดอ่อน
“คิดไม่เลยว่านี่น่ะหรือศิษย์พี่ใหญ่ของตระกูลถัง แค่ระดับนี้เองหรอ? ผมก็นึกว่าจะแข็งแกร่งมากเสียอีก”