เจ้ามังกรพรีเมี่ยม - บทที่ 976 ไวโอเล็ตมาราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว
แต่ในเวลาเดียวกันนี้เอง สองคนของตระกูลไป๋ที่อยู่อีกด้านหนึ่งกลับเห็นได้ชัดว่าไม่เป็นธรรมชาติ
บนใบหน้าของท่านไป๋ไม่ได้มีความกังวลใจเลย กลับกัน ยิ้มออกมาอย่างปล่อยวาง
ในที่สุดสุดท้ายไป๋ตี๋ก็ทนไม่ไหว เอ่ยปากถาม
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? พ่อครับ ไม่ใช่ว่าท่านบอกว่าจะให้ผมแข่งขันต่อสู้ จากนั้นก็ให้ผมเป็นทายาทหรอกหรือ ตอนนี้ก็เปลี่ยนใจอีก ตกลงแล้วท่านอยากจะให้ใครเป็นทายาทกันแน่?”
หลังจากที่ท่านไป๋ฟังประโยคนี้จบแล้วก็หัวเราะขึ้นมา ตบบ่าของลูกชายตนเองพลางเอ่ยว่า
“เจ้าลูกโง่ของฉัน แกเข้าใจผิดแล้ว แน่นอนว่าพ่อจะต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้ ถึงได้พูดแบบนี้ ส่วนทายาท…ก็ยังต้องเป็นแกสิ”
ได้ยินประโยคนี้ของท่านไป๋แล้ว ไป๋ตี๋ก็อึ้งไป
เห็นได้ชัดว่าคนที่เข้มแข็งและยิ่งใหญ่ที่สุดในรุ่นนี้ของตระกูลไป๋นั้นก็คือไป๋ตี๋ ถ้าหากว่าตนไม่ไปแข่งขันต่อสู้ ไม่ได้เป็นทายาทจริง ๆ ละก็ ยังจะมีใครที่สามารถขึ้นต่อสู้แทนตระกูลไป๋ได้อีกล่ะ?
“ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของฉัน แกลืมไปแล้วหรือ? คนเมื่อคราวก่อน คนที่มาขายสินค้าชิ้นหนึ่งให้กับตระกูลของเรา”
ไป๋ตี๋คิดอย่างละเอียดรอบหนึ่ง มีบุคคลที่ลึกลับคนหนึ่งที่เอาของชิ้นใหญ่มาก ๆ ชิ้นหนึ่งมาในบ้านของตนแล้วบอกว่าสามารถขายให้กับตระกูลไป๋ได้จริง ๆ
ถึงแม้ว่าไป๋ตี๋จะไม่รู้ของที่ห่ออยู่ข้างในนั้นคืออะไรกันแน่ แต่เขายังจำความเบิกบานใจของท่านไป๋ในวันนั้นได้อย่างเลือนราง
และพอพูดมาถึงตรงนี้ ก็คิดไปถึงว่าหลังจากที่เกิดเรื่องเช่นนี้ ความประหลาดในใจของไป๋ตี๋ก็พุ่งสูงขึ้นมาไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่าในทันที
“ตกลงแล้ววันนั้นคนคนนั้นขายอะไรให้กับท่านกันแน่?”
หลังจากที่ท่านไป๋ฟังจบ ก็เอามือทั้งสองข้างไพล่ไว้ด้านหลัง เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางราวกับทุกอย่างอยู่ในกำมือว่า
“นั่นก็คือร่างโคลนที่ผิดกฎหมายคนหนึ่ง ส่วนเจ้าของร่างของร่างโคลนผิดกฎหมายนี้ก็คือหลี่เห้า เจ้ามังกรต้าเซี่ยคนก่อน”
“หลี่เห้าคนคนนี้คือใครแกรู้ไหม? ก็คือคนที่ต่อให้พวกเราเอาผู้อาวุโสทุกคนมารวมเข้าด้วยกันแล้วไปต่อสู้กับเขา ก็ยังไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ ถึงแม้ว่าร่างโคลนของเขาจะอ่อนแอกว่า แต่ก็ยังมีศักยภาพที่แข็งแกร่งมาก ๆ อยู่กับพวกเราที่นี่ การจะเอาแชมป์มาก็เป็นเรื่องที่แน่นอนแล้ว”
หลังจากที่ไป๋ตี๋ได้ยินชื่อของหลี่เห้าแล้ว ก็มีสีหน้าประหลาดใจ
“ร่างโคลนของหลี่เห้าอะไร? หลี่เห้าเป็นไอดอลของผมเลยนะ เขาไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกหรอกหรือ? ทำไมถึงได้โดนคนอื่นจับไปทำเป็นร่างโคลนได้ล่ะ? ถ้าหากพวกเราช่วยชีวิตเขาออกมาทำประโยชน์ให้กับพวกเราได้ละก็ มันจะไม่…”
ไป๋ตี๋เพิ่งจะพูดมาถึงตรงนี้ ท่านไป๋ก็รีบตัดบทไป๋ตี๋
“คำพูดแบบนี้จะมาพูดมั่ว ๆ ไม่ได้นะ เจ้าโง่ แกคิดว่าองค์กรที่มีความสามารถเพียงพอที่จะสามารถมีร่างโคลนของหลี่เห้าได้จะอ่อนแอมากอย่างนั้นหรือ? ถ้าหากถูกพวกเขาได้ยินคำพูดแบบนี้ของแกเข้านั่นก็เท่ากับพวกเราฆ่าตัวตาย เข้าใจไหม? เจ้าเด็กโง่”
หลังจากที่ฟังคำพูดของท่านไป๋จบ ไป๋ตี๋ก็รีบปิดปากของตัวเองทันที เพิ่งจะเข้าใจว่าปัญหามันร้ายแรงขนาดไหน
“ยังดีที่มีพ่ออยู่ ไม่อย่างนั้นก็เป็นเรื่องใหญ่แล้ว ท่านหมายความว่าหลังจากให้ร่างโคลนนี้เข้าแข่งขันแล้ว พวกเราก็จะกุมอำนาจใหญ่ผ่านการควบคุมร่างโคลนนี้ใช่ไหมครับ?”
หลังจากที่ไป๋ตี๋พูดประโยคนี้จบแล้ว ทั้งสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรมากอีก เพียงแค่หัวเราะเสียงดังออกมา
แต่สิ่งที่พวกเขาไม่รู้ก็คือ ถังเฉาก็คือศิษย์น้องของหลี่เห้า
ในตอนเช้าของวันถัดไปนั้นเอง ไวโอเล็ตส่งข้อความหนึ่งข้อความให้กับถังเฉากะทันหัน บอกว่าตนเองก็มาถึงราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้วเช่นกัน ถังเฉาจึงรีบไปรับไวโอเล็ตทันที
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น แองเจล่า คุณเข้ามาในราชวงศ์ต้าเซี่ยได้อย่างไร? ไม่ใช่ว่าคุณไม่มีบัตรผ่านหรอกหรือ?”
หลังจากที่ไวโอเล็ตฟังจบก็มีรอยยิ้มหยอกเย้า
“ทำไมหรือ? นายเองก็นอกจากจะไม่มีบัตรผ่านแล้ว ยังเป็นคนที่ถูกราชวงศ์ต้าเซี่ยประกาศจับอีก ยังจะมีหน้ามาต่อว่าฉันนะ นายคิดว่าหว่างเหลี่ยงจะมีศักยภาพเล็กน้อยแค่นี้เหรอ? การจัดการให้ฉันเข้ามาเป็นแค่เรื่องที่สามารถทำได้ตามแต่ใจ”
“ฉันจะบอกให้นะว่าคนของหว่างเหลี่ยงได้เข้ามาอยู่ในนี้ตั้งนานแล้ว นายคงยังไม่รู้สินะ”
หลังจากที่ถังเฉาได้ยินประโยคนี้เข้า ดวงตาทั้งคู่ก็ตกตะลึงไป หวนกลับไปคิดถึงน้ำยาทดลองหลอดนั้นของหวางหวู่ทันที จึงได้ปะติดปะต่อขึ้นมาได้
“จะบอกว่าไม่รู้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้เลยหรอกนะ ทำไมเหรอ? เธอรู้แล้วเหรอว่าเขาเป็นใคร?”
ถังเฉาถามไวโอเล็ต ไวโอเล็ตก็ส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้
“ครั้งนี้ฉันมาเพื่อช่วยเหลือคนลึกลับคนนั้น แต่ว่าจนถึงตอนนี้แล้วฉันก็ยังไม่รู้ว่าคนคนนั้นเป็นใคร คาดว่าเขาน่าจะมาหาฉันเอง”
“แต่ว่านายไม่ต้องกลัวนะ เครื่องติดตามบนตัวของฉันถูกฉันวางไว้ที่ห้องแล้ว ไม่ได้เอาออกมาด้วย ตอนนี้เขาตามหาฉันไม่ได้ นายวางใจเถอะ”
ตอนนี้ถังเฉาจึงได้สูดลมหายใจหนึ่งเฮือก ถ้าหากว่าฐานะของตนถูกเปิดเผยต่อราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว นั่นก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ แล้ว
“อย่างนั้นก็ดี ถึงอย่างไรพวกเราสองคนก็ไม่มีธุระอะไร ก็เดินเล่นในราชวงศ์ต้าเซี่ยด้วยกันสักหน่อยเถอะ”
ถังเฉามองไวโอเล็ตที่ไม่ได้เจอกันมานาน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้คุ้นเคยกันมาก แต่ก็เป็นคนที่คุ้นเคยที่สุดในทั้งราชวงศ์ต้าเซี่ยแล้ว ถ้าไม่นับพระอริยมารดร จึงอยากจะไปเดินเล่นด้วยกันสักหน่อย
ในราชวงศ์ต้าเซี่ยนี้ แทบจะทุกคนล้วนแต่สวมเครื่องแต่งกายโบราณ จะมีเพียงไวโอเล็ตเท่านั้นที่สวมเสื้อผ้าสะดุดตา ดังนั้นถังเฉาจึงทำได้เพียงพาไวโอเล็ตไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไม่มีทางเลี่ยง
หลังจากที่เห็นว่าไวโอเล็ตเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ถังเฉากลับรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่คนคนนี้สวมชุดโบราณแล้วจะงดงามถึงเพียงนี้
เนื่องจากถังเฉาจ้องมองตนด้วยสายตาตกตะลึง สีหน้าของไวโอเล็ตจึงแดงปลั่งขึ้นมาทันที
ทันใดนั้นบรรยากาศที่อบอุ่นอ่อนโยนก็ถูกเสียงร้องหนึ่งตัดบททันที
“พี่คะ ทำไมพี่ถึงมาอยู่ตรงนี้ เธอเป็นใครคะ?”
ยังไม่ทันเจอตัวก็ได้ยินเสียงแล้ว ถังเฉายังมองไม่เห็นว่าคนที่เรียกเป็นใคร กลับรู้แล้วว่าคนที่ร้องเรียกตัวเองคือใคร
และคนคนนี้ก็คือถังเชียนเชียนลูกพี่ลูกน้องสาวของเขา
ถังเชียนเชียนมีสีหน้าท่าทางดุร้าย เดินมาอยู่ข้างกายของถังเฉา เห็นได้ชัดว่าต้องมีใครไปแหย่รังแตนเธอเข้า
“เป็นอะไรเหรอ ดูเธอโมโหขนาดนี้ มีใครรังแกเธอหรือเปล่า?”
หลังจากที่ถังเชียนเชียนได้ยินคำพูดของถังเฉาแล้วก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไร ฉันไม่สามารถจะพูดได้ว่าเห็นถังเฉายืนคุยกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็เลยหึงสินะ
ถังเชียนเชียนทำได้เพียงเอ่ยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า
“เถ้าแก่คนนั้นขูดเลือดขูดเนื้อกันเกินไป นึกไม่ถึงว่าจะขายของแพงขนาดนั้น ฉันโมโหจะตายแล้ว!”
“ไปกันเถอะ พี่ พวกเราไปดูกันที่ร้านอื่น ไม่มาซื้อร้านของเขาแล้ว”
ว่าแล้วถังเชียนเชียนก็คว้ามือของถังเฉาเต็มแรง และฉากนี้ก็ถูกไวโอเล็ตมองเห็นเข้า ราวกับว่าหัวใจของไวโอเล็ตจะถูกมีดแทงเข้าอย่างไรอย่างนั้น
“ที่แท้ก็ไม่ได้มีแค่พี่สาวที่ชอบพอถังเฉา แต่ว่าต่อให้ถังเฉาจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่สาวก็คงมาไม่ถึงฉันหรอก”
ไวโอเล็ตตามคนทั้งสองคนอยู่ด้านหลังด้วยใบหน้าผิดหวัง ถังเฉากลับให้ความสนใจไวโอเล็ตที่อยู่ข้างหลังตลอดเวลา
แต่ไม่ใช่เพราะว่าไวโอเล็ตเอาอะไรมา แต่เป็นเพราะเขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าด้านหลังของไวโอเล็ตมีใครบางคนกำลังตามไวโอเล็ตอยู่
ยังดีที่ไวโอเล็ตกำลังเหม่ออยู่ และไม่ได้ขึ้นมาคุยกับถังเฉา ถังเฉาจึงโทรศัพท์ส่งข้อความไปหนึ่งข้อความ นี่จึงเตือนไวโอเล็ตได้